| บ้านบางพลับ เต็มไปด้วยร่องสวนผลไม้ | | | การท่องเที่ยวชุมชน ถือเป็นการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้เข้าไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน ได้เรียนรู้ความเป็นอยู่ วิถีการทำมาหากิน และภูมิปัญญาต่างๆ จากชาวบ้านในพื้นที่ ได้ใช้เวลาซึมซับความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ต่างๆ อย่างที่ ชุมชนบ้านบางพลับ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง เนื่องด้วยพื้นที่ตั้งที่มีลำคลองต่างๆ รายล้อม อีกทั้งยังมีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน ทำให้วิถีชีวิตของคนในชุมชนมีความผูกพันกับสายน้ำ |
| เคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวจากน้ำตาลสด | | | หากเข้ามาที่บ้านบางพลับ จะสังเกตได้เลยว่าเต็มไปด้วยร่องสวนผลไม้ และพืชผักสวนครัวต่างๆ ความเขียวขจีที่อยู่รอบๆ ตัวนั้นทำให้เกิดความร่มรื่น สดชื่น และเย็นสบาย ก่อนจะมาเป็นชุมชนท่องเที่ยวแบบในปัจจุบัน ชาวบ้านที่มีมีอาชีพเป็นเกษตรกร ซึ่งวิถีการเกษตรเดิมนั้นเป็นแบบต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างดูแลสวนของตัวเอง ทำให้ขาดความเข้มแข็งและองค์ความรู้ในการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตร จนกระทั่ง ครูสมทรง แสงตะวัน หนึ่งในชาวบ้านบางพลับ ต้องการอนุรักษ์ภูมิปัญญาและวิถีการเกษตรพื้นบ้านเหล่านี้ไว้ จึงได้รวบรวมคนในชุมชนที่มีความรู้ด้านต่างๆ มาแบ่งปันความรู้ให้กับเพื่อนเกษตรกรด้วยกัน จนในที่สุด ได้มีการจัดตั้งเป็น ศูนย์เรียนรู้มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาท้องถิ่น จังหวัดสมุทรสงคราม ส่งผลให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง และกลายเป็นชุมชนต้นแบบดังในปัจจุบัน |
| หยอดน้ำตาลมะพร้าวลงถ้วย | | | การมาเที่ยวที่ชุมชนบ้านบางพลับ ถือเป็นการท่องเที่ยวพร้อมๆ ไปกับการที่จะได้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของที่นี่ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ สวนผัก และชาวบ้านมีอาชีพเกษตรกร ภูมิความรู้ส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวข้องกับการเกษตร การแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าขึ้นชื่อของที่นี่เช่นเดียวกัน เริ่มแรกกันที่ความรู้เรื่องการทำ น้ำตาลมะพร้าว ซึ่งน้ำตาลมะพร้าวของที่นี่ขึ้นชื่อว่าหอมหวาน เนื่องจากทำจากน้ำตาลสดแท้ๆ จากต้นตาล ที่จะต้องออกไปเก็บน้ำตาลสดวันละสองเวลา เมื่อได้น้ำตาลสดมาแล้วก็จะนำมาเคี่ยวในกระทะจนเหนียวข้นได้ที่ ก่อนจะนำไปหยอดลงในภาชนะ แล้วทิ้งไว้ให้เย็น ก็จะกลายเป็นน้ำตาลมะพร้าวที่สามารถนำไปขายเป็นของฝากได้เลย |
| ผัก-ผลไม้กลับชาติ | | | ภูมิปัญญาอีกอย่างที่น่าสนใจก็คือ ผลไม้กลับชาติ ซึ่งเป็นทั้งการแปรรูปและการถนอมอาหาร ด้วยการนำผัก ผลไม้ที่มีรสชาติขมมาแช่อิ่ม กลายเป็นของหวานแบบไทยๆ ไม่ว่าจะเป็น บอระเพ็ด หรือ มะกรูด เมื่อนำมาแช่อิ่มแล้วก็ยังคงเป็นรูปร่างเดิม แต่รสชาติเปลี่ยนจากขมเป็นหวานจัด สามารถกินเป็นขนมหรือของหวานได้เลยทีเดียว ปัจจุบัน นอกจากผัก ผลไม้ขมๆ ที่นำมาเป็นผลไม้กลับชาติแล้ว ก็ยังประยุกต์มาใช้กับพืชผักสวนครัวต่างๆ ได้ด้วย อาทิ พริก มะนาว มะระขี้นก มะละกอ แตงกวา ผลส้มโออ่อน เป็นต้น |
| ส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ | | | สินค้าอีกหนึ่งอย่างที่ขึ้นชื่อมากๆ ของบ้านบางพลับก็คือ ส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ ซึ่งส้มโอพันธุ์นี้ถือเป็นพันธุ์พื้นบ้านของที่นี่ ลักษณะโดดเด่นก็คือเป็นส้มโอที่มีรสชาติหวาน เก็บไว้ได้นาน ไม่โอ่ เพราะเนื้อแห้งกำลังดี สมัยก่อนนั้นส้มโอพันธุ์นี้จะออกผลปีละครั้ง และยังติดผลน้อย แต่ด้วยภูมิปัญญาของชาวบ้าน สามารถพัฒนาส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ให้สามารถออกผลปีละ 4 ครั้ง สร้างผลผลิตและสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้มากขึ้น ที่สำคัญ การปลูกส้มโอ และวิถีการเกษตรของบ้านบางพลับ ยังเป็นการเกษตรที่ปลอดสารเคมี ที่นี่จะใช้ธรรมชาติดูแลธรรมชาติ ช่วยกันทำปุ๋ยจุลินทรีย์เพื่อใช้กับการปรับสภาพดิน บำบัดน้ำเสีย และใช้เป็นยาฆ่าแมลงจากธรรมชาติ |
| ปั่นจักรยานชมสวน | | | ใครที่สนใจจะเข้ามาเยี่ยมชมบ้านบางพลับ วิธีที่เหมาะที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานชมสวน ลัดเลาะไปตามเส้นทางต่างๆ อาจจะปั่นเข้าสวน ไปชวนคุณลุงพูดคุยเรื่องการปลูกผัก ผลไม้ต่างๆ แวะไปที่บ้านผลไม้กลับชาติ ลองชิมผลผลิตจากการแช่อิ่ม หรือจะปั่นจักรยานไปเรื่อย สำรวจเส้นทางสีเขียวที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้จากความอุดมสมบูรณ์ที่เห็นอยู่ตรงหน้า ลมเย็นๆ ที่พัดมาปะทะกับตัวก็ทำให้คลายเหนื่อยได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งนอกจากจะมาเยี่ยมเยือนบ้านบางพลับแล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ให้ไปเยี่ยมชมกันอีก อาทิ วัดบางกุ้ง ที่มีความน่าสนใจอยู่ที่โบสถ์ปรกโพธิ์ ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่ มีรากของต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่โดยรอบ ภายในประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมเข้ามากราบสักการะ |
| โบสถ์ปรกโพธิ์ วัดบางกุ้ง | | | หรืออาจจะไปเที่ยวที่ ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำยามเย็นริมคลองอัมพวา ไปดูความคึกคักและสีสันของผู้คนที่แวะเวียนมาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย แต่หากอยากสัมผัสอีกด้านของอัมพวา แนะนำให้มาถึงตลาดในยามเช้าตรู่ ที่นี่ก็ยังคงมีความเงียบสงบกับวิถีชีวิตริมสายน้ำหลงเหลืออยู่ การท่องเที่ยวชุมชนแบบนี้ นอกจากจะได้ออกมาใช้วันหยุด ได้ผ่อนคลาย ได้ซึมซับบรรยากาศธรรมชาติที่หาได้ยากในเมืองกรุงแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นผลพลอยได้ก็คือ การได้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้ด้วย |
| บรรยากาศยามเช้าที่อัมพวา | | | * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม โทร.0-3475-2847 |
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * |