 | | ภาพประกอบจาก siamfishing dot com | |  | เที่ยวให้สนุกสุดใจมันต้องได้ป่ายปีน ได้เหยียบหมอกฟ้ากลางผืนดินจะกี่หยาดเหงื่อไหลรินก็ยอม...
ประโยคข้างต้นบ่งบอกถึงความพยายามให้ได้มาซึ่งประสบการณ์ความสุขจากการท่องเที่ยวแม้แลกมาด้วยความเหนื่อยล้าแต่ผลลัพธ์ล้ำค่าจะตราตรึงใจไปแสนนาน และ ภูกระดึง คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักเดินทางอันจะพิสูจน์ตนเองว่า เราแน่วแน่พอหรือไม่
|
 | | ภาพปรพกอบจาก tripchiangmai กนะ แนท | | | ชื่อเสียงของ ภูกระดึง โด่งดังมาจากความงดงามในภูมิประเทศเป็นที่ราบกินอาณาบริเวณประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร บนความสูง1,316 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยยังคงไว้ซึ่งความงดงามทางธรรมชาติมีทั้งหน้าผาสูงมองเห็นทิวทัศน์ไกลสุดลูกหูลูกตา ได้ยลโฉมเสน่ห์พระอาทิตย์ขึ้น ณ ผานกแอ่น ลอยคล้อยต่ำไปตกยังผาหล่มสัก รับแสงแรกและแสงสุดท้ายของวันในจุดต่างกันออกไป มีน้ำตกขึ้นชื่ออาทิ น้ำตกวังกวาง, ถ้ำสอเหนือ, เพ็ญพบใหม่ และ สระอโนดาด พร้อมด้วยพืชหลากสายพันธุ์ให้ได้ศึกษากัน
สิ่งหนึ่งทำให้ที่ราบสูงในตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลยเย้ายวนหัวใจนักท่องเที่ยวคือการเดินทางแบบ Adventure ต้องพึ่งพาแรงสองเท้าสองมือเพื่อปีน และจะยิ่งพบอุปสรรคหากเลือกไปเยือนในช่วงปลายฝนต้นหนาวราวเดือน ต.ค. - พ.ย. ที่เส้นทางลาดชันมีความลื่นต้องอาศัยความระมัดระวังสูง (ภูกระดึงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม 1 ตุลาคม ถึง วันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี) ดังนั้นการพิชิตยอดภูกระดึงจึงต้องมีความพร้อมในหลายด้านส่วนจะมีอะไรลองมาดูกัน
|
 | | ภาพประกอบจาก konnonghin wordpress dot com | | | กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้ (สโลแกนคุ้นๆ ) ด้วยความสูงจากพื้นดินพันกว่าเมตรหากเป็นทางราบคงใช้เวลาไม่กี่นาที แต่กับที่นี่ไม่ใช่การเดินทางเป็นเส้นตรงเพราะต้องตัดแนวระนาบลัดเลาะตามเนินเขาทำให้ระยะทางจริงอยู่ในราว 5.5 กม. บวกทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร โดยระดับความชันบางช่วงเอียงถึง 70 องศา ดูจะท้าทายกล้ามเนื้อไม่หยอก แต่อย่ากังวลไปเพราะมีจุดพักหรือ ซำ ในภาษาอีสานอยู่เป็นระยะ
ช่วงท้าทายที่สุดคือก่อนถึง ซำแฮก มีความลดเลี้ยวสูงชันมากกว่าส่วนอื่น หากคุณผ่านจุดนี้มาได้ ซำ ที่เหลือไม่ว่าจะเป็น ซำบอน, ซำกกกอก, พร่านพรานแป, ซำกาหว้า, ซำกกไผ่, ซำกกโดน หรือซำแคร่ก็ง่ายแล้ว ดังนั้นการปีนภูกระดึงให้สนุกก่อนอื่นต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์ หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ลองใช้บริการ ลูกหาบ ดูก็ได้อรรถรสไปอีกแบบ
|
 | | ภาพประกอบจาก holidaythai dot com | | | อุปกรณ์ยังชีพพร้อมช่วยให้เดินทางสนุกขึ้น ในส่วนของอาหาร ยารักษาโรค บนภูกระดึงมีไว้บริการยกเว้นยาเฉพาะทางสำหรับใครที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวคงต้องเตรียมให้พร้อม
การออกไปซึมซับบรรยากาศของที่นี่จะเริ่มตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น การเดินทางไปชมแสงแรกยัง ผานกแอ่น ต้องเดินเท้าตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ไฟฉายหรืออุปกรณ์ส่องสว่างจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับภารกิจนี้ รวมไปถึงการชมพระอาทิตย์ตก ณ 'ผาหล่มสัก' ก็เช่นกัน เนื่องจากความมืดหลังแสงสุดท้ายมาเยือนเร็วมาก ขอเสริมอีกนิดหากคุณไม่อยากเสียเลือดให้กับปรสิตจอมเกาะ - เจาะ - ดูด ต้องสวมถุงกันทาก หรือใช้ยาเส้นยัดถุงเท้าตามความเชื่อที่บอกต่อกันมาก็จะช่วยให้ไม่ตกเป็นบุฟเฟต์อันโอชะของพวกมัน
|
 | | ภาพประกอบจาก travelthai photo blogspot dot com | | | เสบียงพร้อมไม่แขวนท้องง้อโชคชะตา ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง นมกล่อง น้ำเปล่า พกไปเถอะ อย่าคิดว่าหนักหรือหวังไปหาเอาข้างหน้า เพราะในช่วงไฮซีซั่นมีนักท่องเที่ยวมาแย่งกินแย่งซื้อ ท่านอาจเผชิญภาวะเสี่ยงร้านริมทางครัวปิดของหมด คราวนี้หล่ะหนังชีวิตคงต้องขอปันจากเพื่อนร่วมทางประทังหิวไป
ชาร์จพลังพร้อมเต็มที่ นอกจากพลังคน พลังแบตเตอรี่ในกล้องถ่ายรูปต้องให้มีประจุเต็มไว้ก่อน หากเป็นในอดีตคงต้องมีฟิล์มติดไปหลายม้วนจะถ่ายภาพทีคำนวณแล้วคำนวณอีกว่าจะเพียงพอตลอดทริปส์หรือไม่ แต่กับในยุคดิจิตอล พะวงแค่แบตเตอรี่ก็พอ ส่วนเรื่องเม็มโมรี่การ์ดเชื่อเถอะว่าหากถ่ายเพลินจนเต็มจะยังมีบางรูปที่คุณตัดใจลบได้แล้วแทนด้วยภาพที่ประทับใจมากกว่า และอย่าลืมพกแบตฯสำรองไว้กันเหนียวด้วย
|
บริหารเวลาให้พร้อม ก่อนอื่นต้องถามตัวเองว่าจะใช้ชีวิตบนภูกระดึงกี่วัน (โดยปกติต้องแจ้งวันขึ้น - ลงกับทางทางอุทยาน) จากนั้นวางแผนว่าเช้าวันนี้จะเดินทางไปที่ไหน และจบวันเวลาใด เนื่องจากแต่ละจุดอยู่ห่างกันมาก ลองเปิดแผนที่ลากเส้นจากจุด A ไปจุด B คำนวณการเดินทางบวกด้วยระยะเวลาพัก และเวลาที่หมดไปกับการบันทึกภาพ สำคัญคืออย่าลืมเผื่อเวลาหากมีเหตุให้เดินออกนอกเส้นทาง และการกลับที่พักด้วย
ข้างต้นคือ 5 วิธีง่ายๆ ในการพิชิต และใช้ชีวิตบนภูกระดึง หากหน้าหนาวนี้ใครสนใจไปเยือนลองสอบถามกับทางอุทยานเพื่อสำรองที่ และบริหารเวลากันให้ดีเพราะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ตั้งแต่เวลา 07.00 - 14.00 น. ของทุกวันเท่านั้น เนื่องจากต้องใช้เวลาปีนภูประมาณ 4-5 ชั่วโมง หากเลยเวลาดังกล่าวจะมืดเสียก่อนและเป็นอันตราย |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [
