หมายเหตุ....อิชั้นอาจจะถ่ายรูปมาได้ไม่เยอะ เพราะต้องคอยประคองอาม่าเวลาเดิน (กลัวแกจะล้ม) แต่ก็ถ่ายบรรยากาศมาเท่าที่ถ่ายได้
และก่อนถ่ายรูปผู้พิการทุกครั้ง อิชั้นได้ขออนุญาติจากผู้ดูแลแล้วค่ะ
V
V
V
ตรงส่วนนี้จะเป็นผู้พิการที่ป่วย บางคนก็ช่วยเหลือตัวเองได้ บางคนก็ไม่ได้
ลักษณะของห้องเลยคล้ายๆ ICU ที่รพ.เลยค่ะ
V
V
V
ส่วนตึกนี้เป็นผู้พิการที่มีปัญหาทางจิตประสาท แว่วว่าเป็นตึกที่ดูแลยาก...ที่สุดในบรรดาทั้งหมด
ในนี้มีผู้พิการ 50 คน แต่มีผู้ดูแล 2 คนค่ะ ซึ่งเราว่ามันน้อยมากกก เมื่อเทียบกับปริมาณคนไข้นะ
จริงๆการดูแลคนที่มีอาการทางจิตประสาทเนี่ยเป็นอะไรที่เหนื่อยมากเลย เท่าที่เห็นจากวอร์ดเวลามีคนไข้ โอ๊ย...เหนื่อยแทนค่ะ ต้องดูแลกันอย่างดีเลย เพราะเค้าสามารถทำอะไรที่เรานึกไม่ถึงได้
สำหรับรพ.เรา ถ้าคนไข้มีอาการทางจิตเวช พยาบาลต้องล๊อคประตูระเบียงเลย กันคนไข้ปีนตกลงไป (อะไรก็เกิดขึ้นได้) แต่นั่นมันก็โรงพยาบาล แถมเป็นเอกชนด้วย ต้องมีคนดูแลเยอะอยู่แล้ว
ถ้าเทียบกันแล้วที่นี่หนักกว่าเยอะเลยค่ะ เทียบไม่ติดเลย
แต่เท่าที่เราดู สุขอนามัยของผู้พิการที่ีนี่ถือว่าอยู่ในขั้นดีนะคะ ไม่มีกลิ่นสกปรกเลย
เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่าต้องปรับพฤติกรรมกันนานเลย บางคนก็มีอาการก้าวร้าวมาก เห็นว่าเคยมีกัดนิ้วกันเกือบขาดแน่ะ....เหวอ แต่ตอนนี้ก็ถือว่าอาการดีกว่าเดิมแล้ว
อ้อ ผู้ดูแลเล่าผู้พิการที่นี่ได้รับยาทุกวันนะคะ แต่แอบ amazing จริงๆ ว่าเค้าแจกไหวได้ไง คนไข้เยอะขนาดนี้ สุดยอดอ่า....
เกือบลืมเล่า....ตอนที่ยืนคุยกับพี่เลี้ยง สักพักมีกลิ่นตุๆโชยมาจากปู้ชายคนนึงซึ่งนับพับเพียบนิ่งๆ ร่างกายไม่ไหวติง (เนียนมาก) พี่เลี้ยงจึงหันไปพูด " ตี๋ ขี้หรือเปล่า ไม่บอกอีกแล้ว" และก็ให้ผู้พิการอีกคนที่รู้เรื่องมากกว่า พาคุณตี๋ไปชำระร่างกาย
มองในแง่ดีก็คือผู้พิการที่นี่ดูแลกันเองได้ ซึ่งก็ดีอย่างไม่งั้นผู้ดูแลจะเหนื่อยมากจนเกินไป (แต่พี่เลี้ยงมันน้อยเกินไปจริงๆนะ)
เข้าโหมดดราม่า.....
เรารู้สึกว่า เวลาดูแววตาของพวกเค้า เหมือนเรามองเด็กอ่ะ เด็กที่ไม่รู้เดียงสา เด็กที่ไม่รู้จักโลก
ถ้าเป็นตอนเด็ก อิช้ันอาจจะสงสารพวกเค้าจับใจ แต่พอโต (แก่) จนใกล้เลข 4 แบบนี้ ผ่านเรื่องราวที่เหนื่อยล้าใจมากมาย...ก็อดรู้สึกแวบในใจไม่ได้ว่าการที่คนๆนึง ไม่จำเป็นรับรู้ความเป็นไป ไม่จำเป็นต้องหมุนตามกระแสของโลก
เค้ามีความสุขน้อยกว่าเราจริงๆเหรอ แล้วทำไมแววตาเรายังอมทุกข์ได้มากกว่าเค้าอีกล่ะ....
แน่ใจได้ยังไงนะ ว่าเรามีความสุขมากกว่าพวกเค้าจริงๆ ???
น่าเสียดายที่เรามีเวลาไม่มาก ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ และได้เยี่ยมผู้พิการเพียงสองตึก เราก็ถูกเรียกตัวกลับ ให้ไปเลี้ยงอาหารกลางวันได้แล้ว
เราเลยกลับมาที่โรงอาหารอีกครั้งหนึ่งค่ะ
V
V
อาหารเตรียมรอ
วันนี้เมนูแสนอร่อยของเรามี ข้าวสวย ต้มยำซี่โครงอ่อนหมู ไก่ทอด และที่สำคัญมีฮ่อยจ๊อด้วยค่า...
ฮ่อยจ๊อเป็นอะไรที่คุณนายแม่อยากทำมากก แม้ว่าต้นทุนฮ่อยจ๊อจะสูงลิ่ว แต่คุณนายแม่ก็บ่ ยั่น
บอกว่าอยากเอามาให้พวกเค้ากินมานานแล้ว วันนี้ดีใจสุดๆ
มีส้มตำจากแม่ค้าคนเก่งด้วย แซ่บเว่อร์ถึงทรวงมาก อร่อยสุดๆ
อิชั้นกินแล้วยังติดใจเลย ตำแล้วหมดในเวลาอันรวดเร็ว
ของหวาน (หรือเปล่า) มีซาลาเปาไส้หมูแดงกับผลไม้
และโค๊กเย็นๆ
คุณนายแเม่เจ้าของโปรเจคปลื้มปริ่ม...มีความสุขผุดๆ
ตักเสริฟๆๆ
ทานกันเอร็ดอร่อยเลย ตรงนี้จะมีคนไม่เยอะนะคะ
เพราะส่วนของผู้พิการที่อยู่ตามตึก เจ้าหน้าที่เอาไปให้ถึงที่พักแล้วค่ะ
อร่อยๆๆ
คุยกะผู้พิการ บางครั้งก็มีอะไรขำๆนะคะ
อย่างพี่เสื้อชมพูเนี่ย เดินไปเดินมา แล้วชี้ทางกับข้าวว่าอยากกิน อิชั้นก็กวักมือ...เดินมาสิ ฮีก็ไม่มา
ถามผู้ดูแล เค้าบอกว่าโอ๊ยย คนนี้เค้ากินตั้งแต่บนตึกแร่ะ แต่จำไม่ได้เองว่ากินแล้ว (อ้าว มีงี้ด้วย)
หรืออย่างที่คุณพี่คนนี้ ลักษณะเหมือนเป็นดาวน์ ซินโดรม แต่พอสื่อสารได้เล็กน้อย
เค้าโชว์รูปที่ใส่เสื้อรปภ.ให้ดู อย่างเท่ห์เลย อิชั้นกะน้องๆเห็นแล้วถึงขั้นต๊กกะใจ คิอว่าเป็นอาชีพเก่าเค้า แล้วเกิด accident ทำให้เค้าพิการ // วิ่งไปถามผู้ดูแลด้วยความอยากรู้
ผู้ดูแลขำนิดๆ อธิบายว่า เค้าไม่ได้เป็นรปภ.มาก่อนหรอก แต่ชอบโบกรถเวลามีแขกมา แถมชอบเป่านกหวีดด้วย
พอคนที่มาเยี่ยมรู้ เลยเอาชุดรปภ.มาฝาก สรุปว่างานนี้อิชั้นและน้องๆโดนเด็กดาวน์หลอกค่า เหอๆ
สรุปว่าวันนี้ อาหารเกลี้ยงค่า ทานกันอร่อยเลย หลังจากทานเสร็จผู้พิการก็กลับตึก บางคนก็เข็นรถมาหาพวกเราและยกมือไหว้ขอบคุณที่มาเลี้ยงอาหารเค้าในวันนี้เป็นความรู้สึกที่อิ่มใจมาก
นี่สินะที่เค้าเรียกว่าความสุข...
หมายเหตุ ครั้งก่อนที่แม่มา แม่เล่าว่ามีลุงแก่ๆคนหนึ่ง เข็นรถเข้ามาไหว้แม่ และบอกว่าว่าคุณใจดีเหลือเกิน เอาอาหารดีๆมาให้เค้ากิน ขนาดลูกเต้ายังไม่สนใจเค้าเลย ทำไมคุณถึงได้เป็นคนดีอย่างนี้ พูดแล้วลุงคนนั้นก็ร้องไห้โฮ.....
ฟังแม่เล่าแล้ว เล่นเอาทุกคนในวงสนทนาซึมกันไปเลยค่ะ แต่ละคนจะจินตนาการอะไรกันอยู่ก็ไม่สามารถคาดเดาได้
อิชั้นจึงอยากขอเชิญชวนเพื่อนๆ หากมีโอกาสก็สามารถมาเลี้ยงอาหารพวกเค้าได้นะคะ
ขอแนบแผนที่หน่อยนะคะ เผื่อใครสนใจ
สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพบางปะกง
70 ม.3 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา 24130
โทร. 0-3852-8290-1 โทรสาร. 0-3852-8291
แต่ถ้าไม่มีเวลา หรือไม่สามารถจัดหาอาหารมาเลี้ยงได้ บริจาคเงินเล็กๆน้อยๆช่วยพวกเค้าก็ได้ค่ะ ง่ายๆเลยค่ะ แค่โอนเงินผ่านทางธนาคารก็ได้แล้ว
ชื่อบัญชีมูลนิธิสงเคราะห์คนพิการบ้านบางปะกง ธนาคารกรุงไทย สาขาบางปะกงประเภทออมทรัพย์
บัญชีเลขที่ 202-1-37311-8
เบอร์โทร : 038-528 290 038-528 291
การเป็นผู้ให้สุขใจกว่าเป็นผู้รับจริงๆนะคะ
เคยไปเลี้ยงอาหารกลางวัน ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในสระบุรี ไปรถเมล์กันเลยค่ะ ลงรถปุ๊ปน้องๆตัวเล็กๆหิ้วน้ำมาต้อนรับเลย น่ารักกันมากๆ มีทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน ผู้ชายก็ไปทาสีของเด็กเล่น พวกชิงช้า สาวๆไปเล่านิทานให้เด็กฟัง โอ๊ยน้องๆตั้งใจฟังกันมาก คนเล่าปลื้มเลย น้องๆมีความสุขกันมากค่ะ ปิดท้ายด้วยเลี้ยงข้าวและไอติม
อิ่มใจค่ะ ผ่านไปหลายปีนึกถึงทีไรก็ยิ้มได้ทุกครั้ง