วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม ที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ มีการจัดงานเลี้ยงครบรอบ 20 ปี งานราตรีโพธิทอง...
พวกเราซึ่งเป็นแผนกเภสัชกรรมรุ่นที่สองของคณะ แต่เป็นรุ่นที่สามของมหาวิทยาลัย เกิดมีความคิดที่จะรวมพลกันมา หนึ่งก็เพื่อพบปะสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนๆที่ไม่ได้เจอกันมานานนนน และสองก็เพื่อไปรดน้ำดำหัวอาจารย์ที่เราเคารพด้วย
งานนี้อิชั้นตื่นเต้นมากมาย ก็ไม่ได้เจอกันมานานแล้วนี่นา อยากเจอเพื่อนมากมาย ลองดูกันสิ เพื่อนๆจะมากันกี่คนเน้อ
เราไปมหาวิทยาลัย กับเพื่อนที่เป็นอาจารย์ งานนี้สบายไป ไม่ต้องขับรถไปเอง
เพื่อนของเราขอตัวไปเตรียมงานที่คณะก่อน เราเลยไปหาอาหารเที่ยงเบาๆกินรองท้อง วันนี้ไม่ค่อยหิวเลย สงสัยจะตื่นเต้น...
เหลือบไปเห็นเซเว่นข้างหน้า เอาวะ...เอานี่แหล่ะ รองท้องก่อน
ครัวซองทูน่ากะกาแฟเย็น....อิ่มเบาๆ อร่อยด้วย
กินเสร็จแล้ว เวลายังมีเหลือเยอะ เดินเล่นรอบมหาวิทยาลัยดีกว่า
ตัวอิชั้นเข้าศึกษาที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่ปี 2537 สำเร็จการศึกษาในปี 2542 ใช้เวลาเรียน 5 ปี ตามหลักสูตรเภสัชศาสตร์(รุ่นเก่า) แต่ขณะนี้คณะเภสัชศาสตร์ทั้งประเทศไทย ได้ปรับเป็นหลักสูตร 6 ปี ตั้งแต่ปี 2552
แรกเริ่มเดิมที ที่เดินเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ อิชั้นมีความรู้สึกต่างๆมากมาย ทั้งกังวล ทั้งวิตก กลัวว่าจะเรียนคณะเภสัชไม่ไหว เรียนไม่จบ นอกจากนี้ถ้าจบแล้ว ก็ต้องสอบใบอนุญาติประกอบวิชาชีพ ก็ยังอดกลัวไม่ได้ว่าจะสอบไม่ผ่าน...
และนอกจากความกังวลเรื่องการเรียน ชีวิตในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็มีแง่มุมอื่นๆมากล้น ทั้งทุกข์ สุขและเศร้า...เป็นชีวิตที่เข้มข้น ปนเหนื่อยล้า และโหดมันส์ฮามากมาย
แต่อิชั้นไม่คิดเลย....ว่าชีวิตในมหาวิทยาลัยที่อิชั้นคิดว่า มันสุดๆแล้วในชีวิตคนๆนึง จะกลายเป็นเด็กน้อยจิ๊บๆไปเลย เมื่อเราก้าวเข้าสู่สังคมวัยทำงาน
และทำให้เราได้รู้ว่า เพื่อนที่แท้จริงที่ไม่ทิ้งกัน ก็คือเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยนั่นเอง...
เวิ่นเว้อเสียเยอะ ขออนุญาติอวดมหาวิทยาลัยตัวเองหน่อยนะคะ
ที่นี่เป็นอาคารอิฐสีแดงๆ มองๆไปก็คล้ายยูในเมืองนอกอยู่ไม่ใช่น้อย
ตอนอิชั้นเรียนที่นี่ จนพบว่ามีกองถ่ายมาใช้สถานที่ที่มหาวิทยาลัยของเราเป็นโลเกชั่นมามากมาย ทั้งมิวสิควีดีโอ ละคร ซีรีย์ แม้กระทั่งหนังใหญ่....
จะบอกว่าเรื่อง "จักรยานสีแดง" ที่พี่มอสกะทาทาเล่น ในหนังสือสถานที่เกิดเรื่องคือม.เกษตรศาสตร์
แต่พอเป็นหนังใหญ่เค้าใช้มหาวิทยาลัยอิชั้นเป็นโลเกชั่นนะค้า ขอบอก
เดินเสียจนเพลิน แล้วก็ได้เวลาที่เรานัดหมายกับเพื่อนๆ เพื่อไปรดน้ำท่านอดีตอธิการบดีของเราค่ะ
รุ่นของเราจะผูกพันกับท่านอดีตอธิการบดีท่านนี้มาก เพราะท่านดำรงตำแหน่งในรุ่นของเรา
ในวันนี้ที่ได้มารดน้ำท่าน และได้รับศีลรับพรจากท่าน ถือเป็นพรอันประเสริฐยิ่งของพวกเราในวันนี้ค่ะ ^^
นอกจากนี้ เรายังไปรดน้ำท่านอาจารย์ดร.ประศาสตร์ ซึ่งเป็นครูที่สั่งสอนเราในด้านการทำยาเม็ด....
เรายังจดจำวันแรก ที่เราจะเข้าคลาสเรียนได้อยู่เลย...
วันนั้น ก่อนการสอน อาจารย์ให้พวกเราทุกคนสาบานตน ต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย...
ว่าเราจะไม่นำความรู้ที่ได้ในวันนี้ ไปกระทำในสิ่งที่ผิดทั้งกฎหมายและจรรยาบรรณ หากเราผิดคำสาบานขอให้เรามีอันเป็นไป..
ตอนนั้นเราก็ยังขำๆ ว่าอาจารย์จริงจังจังเลยค่า...หนูไม่เอาความรู้นี้ไปทำยาบ้าหรอกค่ะ แต่เราก็สาบานด้วยควาที่มั่นใจว่าเราจะไม่ทำความชั่วอย่างนั้นเด็ดขาด ซึ่งเพื่อนเราทุกคนก็คิดเช่นกัน....
แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สิ่งที่อาจารย์ให้เราลั่นคำสาบานมันจะมีน้ำหนักมากมาย ในวันนี้ที่พบว่ามีเภสัชกรลักลอบนำยาซูโอพริดินออกจากระบบรพ.
อาจารย์มาเล่าให้ฟังทีหลังว่าแกล่ะลุ้นเหลือเกิน ว่าจะมีลูกศิษย์ของแกอยู่ในขบวนการนี้ด้วยไหม เมื่อพบว่าไม่มี อาจารย์ก็แสนจะโล่งใจ...ดีใจที่พวกเราซื่อสัตย์ต่อคำสาบาน...
มาเข้าโหมดเฮฮาปาร์ตี้กันดีกว่า งานนี้เพื่อนๆที่ไม่ได้พบกันมาสิบกว่าปีมาพบปะกัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือเสียงเซ็งแซ่ค่ะ ต่างคนต่างก็เม้าท์กันอย่างเมามันส์... กว่าจะรวมตัวถ่ายรูปหมู่ได้ไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ
ถ่ายคู่กับพี่บุณทัน เจ้าหน้าที่ห้องแล็ปของเรา เค้ามีหน้าที่ช่วยอาจารย์เตรียมแลปให้พวกเราก่อนเรียน...ถึงแม้ว่าพี่แกจะไม่ใช่อาจารย์เราโดยตรง แต่ก็เป็นผู้ช่วยเหลือให้เราร่ำเรียนได้โดยราบรื่น...
ถือเป็นคนสำคัญคนนึงที่พวกเราระลึกถึงอยู่เสมอ ^^
จะบอกว่า อิชั้นมานั่งคิดๆก่อนมางานแล้ว ว่าต้องถ่ายรูปเยอะแน่นอน ! ก็เลยจัดมาเป็นกระโปรงแซคสีแดง เสื้อคลุมข้างนอกก็สีแดง (แต่รองเท้าไม่แดงนะ)
งานนี้ได้ผลมากมาย ถ่ายรูปได้ขึ้นมาก เพราะสีเด่นกระแทกตากว่าชาวบ้าน จนเค้าเริ่มออกอาการรังเกียจ หลังๆชักไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้แล้ว...
เป็นเทคนิคที่ไม่หวงห้าม สำหรับใครที่อยากเด่นกว่าใครเวลาถ่ายรูป หยิบสีแดงมาใช้เลยค่ะ ยิ่งสดยิ่งดี (ถ้าไม่กลัวเค้าเรียกอีสมทรงนะ)
กว่าจะรวมพลถ่ายรูปหมู่ได้...เล่นเอาช่างภาพเรียกจนเหนื่อยเลยค่ะ
ถ่ายกับอาจารย์หน้าห้องแลปผลิตยา
บันไดตรงนี้ พวกอิชั้นใช้มันเป็นที่อ่านหนังสือ เตรียมเข้าห้องสอบ.....(ตรงไหนว่างก็มุดมันทุกที่แหล่ะ)
ถ่ายกับสัญลักษณ์ของคณะหน่อยค่ะ....งูพันถ้วยยา ^^
ตกเย็น เราก็ทานโต๊ะจีนกันค่ะ งานนี้ขอถ่ายรูปกับก๊วนเพื่อนสาวหน่อย..
ปิดท้ายความประทับใจในวันนี้ ด้วยรูปหมู่หน้าโรงอาหาร
ในอดีต พวกเราวิ่งขึ้นวิ่งลงโรงอาหารนี้มาตลอด ไปหาข้าวเช้ากินบ้าง ข้าวเที่ยงบ้าง (บางวันก็พ่วงไปถึงมื้อเย็น!) นัดเจอกันที่นี่ หาที่อ่านหนังสือที่นี่ ปรับทุกข์เรื่องเรียน หรือแม้กระทั่งบางคู่ ก็มีปะฉะดะกันที่นี่ (อย่าให้บอกเลยว่าคู่ไหน มันผ่านมานานแล้วว)
พวกเราล่ะโคตรจะผูกพันกับที่นี่เลย ช่างเป็นแหล่งหากินที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของพวกเราจริงๆ.....
และที่นี่แหล่ะ ! ใครจะคิดเลยว่า ในอีก 13 ปีให้หลัง เราจะได้กลับมารวมตัวอีกครั้ง....โดยที่มีบางคนกระเตงลูกมาด้วย
วันเวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆนะ...