All Blog
ตามล่าหาฟูจิซังเพื่อโอโต้ซัง, เยือนแดนซากุระ ตามล่าหาฝันกับพ่อของฉัน
ตามล่าหาฟูจิซังเพื่อโอโต้ซัง, เยือนแดนซากุระ ตามล่าหาฝันกับพ่อของฉัน

ความใฝ่ฝันของชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง กับการได้เห็นและถ่ายรูปคู่กับภูเขาไฟฟูจิหรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “ฟูจิซัง” ย้อนไปเมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว ชายผู้หนึ่งได้ไปเยือนแดนปลาดิบ ช่วงหนึ่งของการเดินทางในโตเกียว เขาได้เห็นภูเขาไฟฟูจิในระยะทางที่ไกลมาก เขาตั้งใจว่าถ้ามีโอกาส เขาอยากเห็นให้ได้ใกล้กว่านี้ และได้ถ่ายรูปคู่กับภูเขาไฟที่เป็นเหมือนตัวแทนของประเทศนี้ เวลาผ่านพ้นมาจนถึงปี พ.ศ.2547 การไปเยือนญี่ปุ่นครั้งที่ 3 ในชีวิตเขา พร้อมครอบครัวเพื่อเยี่ยมลูกชายที่พำนักอยู่ในโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

“หาวิวที่ได้เห็นฟูจิแบบชัดๆให้พ่อหน่อยนะ”
“ได้เลยค่ะ”

ฉันรับคำพ่อ แต่จริงๆแล้วไม่แน่ใจหรอก ว่าจะไปหาได้ที่ไหนน่ะ จึงได้ทำการปรึกษาน้องชายว่าให้ลองหาสิว่าที่ไหนไปแล้วได้เห็นฟูจิแบบชัดๆ เอาแบบไปยืนถ่ายรูปคู่ได้พอประมาณน่ะ น้องชายจัดการค้นหาในอินเตอร์เน็ตเพื่อดูข้อมูลวิวต่างๆที่จะมองเห็นฟูจิ ด้วยความที่ไม่อยากเดินทางนานมาก ก็เลยเลือกสถานที่ที่สามารถไปได้สะดวกๆตาม ลิงค์นี้ ที่ได้ข้อมูลมาคือนั่งรถไฟไปลงที่สถานี Fuji แล้วเดินออกมาก็จะเจอตึกที่ชั้นบนสามารถมองไปได้เห็นวิวตามลิงค์

วันที่เรากำหนดไว้ในการเดินทางไปดูฟูจิซังนั้น เป็นวันเสาร์ที่ 10 เมษายน โดยเป็นวันที่น้องชายว่างสามารถไปด้วยได้ เราเดินทางด้วยรถด่วนชินคันเซ็นจากสถานี Shin-Osaka ไปลงที่สถานี Shizuoka เพื่อต่อรถไฟไปยังสถานี Fuji ตามที่เว็บนั้นได้บอกวิธีมา หลังจากที่เราเดินทางมาถึงสถานี Fuji เราก็เดินออกมาเพื่อหาตึกที่สามารถมองออกไปให้เห็นตามวิวนั้น แต่กลายเป็นว่า ไม่ปรากฏสถานที่นั้นเลย เนื่องจากสถานีจะอยู่ตรงบริเวณที่มีตึกสูงบังไว้หมด เราเดินไปตามทางเข้าเมือง โดยมีภูเขาไฟฟูจิ เป็นเป้าหมาย แต่เดินไปก็ยิ่งไม่มีทีท่าว่าจะเจอ อารมณ์ที่คาดหวังของคุณพ่อของฉันก็เริ่มทำให้บรรยากาศการเดินทางไม่ค่อยดี (รวมทั้งการที่ท่านตั้งใจใส่เสื้อสีน้ำเงินสดใส เพื่อมาถ่ายรูปคู่กับฟูจิซังโดยเฉพาะเลยด้วย ท่านย่อมรู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน) เราเลยตัดสินใจเดินกลับมาที่สถานี Fuji อีกครั้ง โดยที่น้องชายฉันก็ใช้ความสามารถในการอ่านภาษาญี่ปุ่นอ่านดูป้ายประกาศเก่าๆ ที่พูดถึงสถานที่ต่างๆ ในการดูวิวฟูจิ แล้วเราก็ตัดสินใจนั่งรถไฟต่อเพื่อไปลงยังสถานี Fujinomiya
เมื่อเดินออกมาเราก็เจอกับวิวภูเขาไฟฟูจิ ที่มองเห็นได้ชัดตั้งแต่ตรงที่ยืนดูอยู่ เรียกกำลังใจกลับมาให้กับเหล่านักเดินทาง เลยต้องเก็บภาพตรงนี้กันสักเล็กน้อย



หลังจากนั้น เราก็ยังพยายามหาทางไปเพื่อให้ใกล้ฟูจิซังมากกว่านี้ สายตาก็เหลือบไปเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 คนที่ไม่ใช่ชาวเอเชียอย่างเรา ซึ่งเราก็เล็งๆ ท่าทางพวกเขาคงมาเที่ยวจุดประสงค์น่าจะคล้ายๆเรา เขาสองคนเดินไปถามเจ้าหน้าที่ที่ประจำสถานีรถบัส ซึ่งอยู่ข้างใต้สถานีรถไฟ น้องชายกับฉันเลยเดินไปสังเกตการณ์ เจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่นเป็นหญิงอายุประมาณ 40 ปี ซึ่งสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจนะ เพราะว่าโดยประสบการณ์ที่เจอ ส่วนมากจะไม่ค่อยเจอเจ้าหน้าที่ตามสถานีที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ หลังจากรอให้เขาอธิบายฝรั่งสองคนนั้นจบ น้องชายก็ใช้ภาษาญี่ปุ่นเข้าไปถาม โดยถามว่ามีที่ไหนที่จะเห็น ฟูจิซัง ได้ชัดๆสวยๆไหม เจ้าหน้าที่ใจดีมาก กระตือรือร้น บอกว่าให้ขึ้นรถบัสที่มาจอดรออยู่ (ซึ่งฝรั่ง 2 คนนั้นได้ขึ้นไปนั่งแล้ว) เราทั้งหมดเลยรีบขึ้นไป โดยยังไม่แน่ใจหรอกว่าจะไปลงที่ไหนน่ะ

เรานั่งในรถบัสกันไป โดยที่รถก็วิ่งไปเรื่อยๆ ผ่านไปประมาณ 30 นาทีกว่าๆ ฝรั่ง 2 คน ที่ตอนนี้คล้ายๆเป็นผู้นำทางเราไปในตัว ก็ขยับตัวเพื่อลง ฉันถามน้องชายว่าลงตามเขาไหม น้องชายบอกว่า เออ ตามเขาไปดีกว่า เราก็เลยลงตาม พอเราลงจากรถบัส หันไปมองด้านหลัง เราก็พบกับ ฟูจิซัง แบบว่าชัดๆเลยน่ะ เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกว่า สวยงามมาก เลยไม่ได้มองต่อว่า ฝรั่ง 2 คนนั้นหายไปไหนแล้ว (ต้องขอบคุณทั้งคู่มากจริงๆ) จากนั้นเราก็เริ่มเก็บภาพ ฟูจิซัง ไปเรื่อยๆ



เราเดินมาเจอป้ายหนึ่งถึงรู้ว่า เราลงก่อนถึงป้ายนี้ไป นั่นคือถ้าตั้งใจจะมาให้มาลงที่ป้าย Shiraito Fall ซึ่งรถบัสจะเลี้ยวเข้ามาจอดให้ แล้วก็เดินไปยังร้านอาหารที่ติดป้ายคล้ายๆจะเขียนหลอกไว้ว่าราคาอาหารทุกจาน 650 เยน แต่จริงๆแล้วอ่านไม่ละเอียด เขาหมายถึงราคาเริ่มต้นที่ 650 เยน ซึ่งอาหารส่วนมากในเมนูที่น่ากินก็มากกว่า 1000 เยน เราก็สั่งอาหารกันไป มาทานกัน รสชาติพอใช้

หลังจากนั้นเดินออกมาจากร้าน เราก็มองเห็นคล้ายๆเป็นสวนที่มีต้นซากุระขึ้นเต็มไปหมด และมีคนไปนั่งอยู่ตามใต้ต้น เราเลยเดินข้ามถนนไป และเดินไปจนถึงส่วนที่คล้ายๆกับเป็นที่จอดรถ และภาพที่เราเห็น ก็แทบจะทำให้ลืมหายใจ นั่นคือ มุมภาพที่เห็น ฟูจิซังได้อย่างชัดเจน โดยมีต้นซากุระเป็นภาพ Foreground อยู่ข้างหน้า และคงไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่รู้สึกเช่นนี้ เพราะว่ามีชาวญี่ปุ่นอีกหลายคนมานั่งชมพร้อมติดตั้งกล้องในการถ่ายภาพ สำหรับพวกเราก็เก็บภาพกันไม่ยั้ง ทั้งที่จริงๆแล้วภาพที่ได้มาคงไม่สวยเท่ากับที่เราได้เห็นด้วยตาของเราทั้งหมดอย่างแน่นอน





และในที่สุด โอโต้ซัง หรือ คุณพ่อของพวกเรา ก็ได้มานั่งดูฟูจิซังอย่างที่ใจหวังแล้ว



สรุปคือ หากตั้งใจไปเยือนวิวฟูจิซังพร้อมกับมีสวนต้นซากุระ บานเป็นฉากหน้า ในอากาศแสนสบาย ก็สามารถเดินทางโดยขึ้นชินคันเซ็นไปลงที่สถานี Shizuoka (จากโอซาก้า 2 ชั่วโมง จากโตเกียว 1 ชั่วโมง) แล้วนั่งรถไฟไปยังสถานี Fujinomiya เดินลงไปด้านล่างของสถานีรถไฟจะมีสถานีรถบัส ขึ้นรถบัสที่ไปยัง Shiraito Fall ค่ารถ 600 เยน ระยะเวลา 30-40 นาที รถออกทุกครึ่งชั่วโมง ให้ลงตรงป้าย Shiraito Fall แล้วถ้าเราหันหลังให้ฟูจิซัง ทางด้านขวาของเราจะเป็นสวนที่มีต้นซากุระขึ้นบานเต็มไปหมด แล้วถ้าคุณเดินข้ามถนนเพื่อไปยังสวนนั้น แล้วได้พบกับภาพที่มารรวมกันของตัวแทนญี่ปุ่น ภาพภูเขาไฟฟูจิกับต้นซากุระ ความสวยงามที่น้องชายของฉันกล่าวว่า ตั้งแต่อยู่ญี่ปุ่นมา (เจ็ดปีได้) เขายังไม่เคยเห็นสวยแบบนี้ ซากุระก็สวยแบบหนึ่ง ฟูจิซังก็สวยแบบหนึ่ง แต่เมื่อมารวมกันแล้ว เหมือนมันไม่ใช่แค่ 1+1 = 2 คือ ได้ผลลัพธ์ที่มากกว่านั้น



หมายเหตุ 1 ถือว่าเป็นความผิดพลาดจากที่วางแผนไว้ แต่เป็นการผิดพลาดที่ส่งผลดีอย่างแท้จริง ที่ทำให้เราได้ไปเยือนและสัมผัสกับวิวที่งามได้อย่างนี้ ขอขอบคุณนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสองท่านไว้ ณ ที่นี้เช่นกัน แล้วภาพวิวที่เราได้ไปสัมผัสมา ไม่ได้กล่าวว่าสวยงามกว่าของคนอื่นๆ ที่เคยไปมาค่ะ เพียงแต่สำหรับพวกเราก็สวยงามมากจริงๆ

หมายเหตุ 2 การที่เราต้องการไปสถานที่ที่สามารถดูฟูจิได้ในที่ที่พอเหมาะ แต่พวกเราทั้งหมดพำนักในโอซาก้า ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเดินทางไปเมืองใกล้ๆ ในการดูฟูจิ เนื่องจากฟูจิซังตั้งอยู่ค่อนไปทางโตเกียวมากกว่า ระยะทางจากโอซาก้าถึงโตเกียวต้องใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟธรรมดาก็ประมาณ 8-9 ชั่วโมง แต่ถ้าเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) รถไฟความเร็วสูงที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ก็จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง การเดินทางในญี่ปุ่นสำหรับคนต่างชาติที่ต้องการไปท่องเที่ยว สามารถหาซื้อตั๋ว Japan Rail Pass ซึ่งเป็นการออกบัตรเพื่อช่วยนักท่องเที่ยวให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยรายละเอียดคร่าวๆคือ ตั๋วนี้จะออกให้เฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น หาซื้อได้ในประเทศต่างๆ อย่างในประเทศไทยก็สามารถซื้อได้ตามบริษัททัวร์ที่เขามีสิทธิ์ขาย หรือจะเป็นเคาน์เตอร์ขายตั๋วเครื่องบินของสายการบิน All Nippon Airway (ANA) เป็นต้น ราคาของตั๋วจะคิดแบ่งตามจำนวนวันและระดับที่นั่งว่าจะนั่งชั้นธรรมดาหรือชั้นพิเศษ (ทางญี่ปุ่นจะเรียกว่า green car) การจ่ายเงินซื้อตั๋วจ่ายเป็นหน่วยเงินเยน โดยตอนที่เราจ่ายทางผู้ขายจะคำนวณเทียบเป็นเงินไทยให้เราด้วยอัตราแลกเปลี่ยนขณะเรายื่นซื้อ บัตร Japan Rail Pass นี้ครอบคลุมการขึ้นรถไฟของ JR (การรถไฟของญี่ปุ่น) และรวมถึงชินคันเซ็นทุกประเภทยกเว้น Nozomi (ซึ่งเป็นชินคันเซ็นที่มีความเร็วที่สุด) กี่รอบก็ได้ภายในช่วงวันที่กำหนดไว้ รายละเอียดเพิ่มเติมหาอ่านได้ //www.japanrailpass.net/ ค่ะ

ได้ไปเยือนมา มีความประทับใจ เลยขอนำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ



Create Date : 07 มกราคม 2548
Last Update : 5 ธันวาคม 2548 18:14:25 น.
Counter : 6644 Pageviews.

9 comments
  
^^ อ่านแล้วรู้สึกดีจัง
อยากไปเที่ยวที่นั่นบ้าง(แต่คงไม่มีโอกาศ)
ผมเคยออกนอกไทยครั้งเดียวในชีวิต(เมื่อเดือนที่แล้วเอง)
คือไปเที่ยวนครวัด สนุกดี รอรูปจากพี่ที่ไปด้วยก่อน ว่าจะเอามาเล่าให้ฟังบ้าง ^^
โดย: วัช IP: 61.90.5.119 วันที่: 8 มกราคม 2548 เวลา:1:46:13 น.
  
ไม่มาเล่าต่อแล้วอาา หายไปเลย
โดย: ;y= IP: 61.90.71.249 วันที่: 20 มกราคม 2548 เวลา:1:31:39 น.
  
ขอบคุณพี่ฝ้ายมากๆเลยเป็นข้อมูลที่ดีมากๆๆๆๆๆเลย พรุ่งนี้จะไปแล้วหล่ะ ยังจัดกระเป๋าไม่เสร็จเลย {^_^"} ตื่นเต้นจัง แล้วจะเที่ยวเผื่อนะ {^ o^}
โดย: วัน IP: 203.209.121.226 วันที่: 11 เมษายน 2548 เวลา:22:29:53 น.
  
ขอบคุณป้าฝ้ายมากเลยนะค่ะ อยากเห็นของจริงจังเยย ฟูจิซังรอก่อนนะ
โดย: baipai2001 IP: 203.188.41.12 วันที่: 5 ธันวาคม 2548 เวลา:21:13:23 น.
  
อ่านแล้วรู้สึกดีจัง


ว่าแล้วก็ต้องทำลิงค์ไว้จริงๆ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:18:15:43 น.
  
ดีจังนะคะ
โดย: mind IP: 203.156.24.169 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:42:50 น.
  
กำลังหาข้อมูลคะ จะไปช่วงเมษา ต้องขอบคุณมากที่มาเล่าเรื่อง และให้ข้อมูลดีๆๆ แบบนี้
โดย: mymelody IP: 203.107.202.209 วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:21:20:09 น.
  
ภาพสวยมากคะเห็นแล้วอยากไปบ้าง
และอยากจะไปกับคนนั้นจังแต่เค้าคงไม่รู้หรอก
โดย: ดอกซากุระ IP: 202.149.24.129 วันที่: 16 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:27:29 น.
  
สวยจริงๆเลยค่ะ
เคยได้ชมฟูจิชัดๆที่คาวาคูจิโกะ
แต่ที่ทะเลสาบอาชิมองไม่เห็นเลยค่ะ
ฟูจิซังเค้าขี้อาย จริงๆ
คุณ cottonbook โชคดีจริงๆที่ได้พาคุณพ่อไปชมฟูจิได้สวยงามแบบนี้
ซักวันต้องตามรอยไปให้ได้
ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องดีดี แบบนี้
โดย: แม่เจ้าสองตัวเล็ก IP: 125.25.59.18 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:50:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cottonbook
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Credit for blog decoration as of 05 Feb 2012
* Header adapted = ShaunTheSheep


Creative Commons License

This work is licensed under a
Creative Commons Attribution-Noncommercial-Share Alike 3.0 License.