ญี่ปุ่นรอบที่ห้า วันที่สี่ | โอววว มายย กอดดด นี่มันเกียวโตหรือเมืองไทยเนี่ย!?!

เกริ่นนำ
วันที่ 5 - 15 เมษายน 2551 เป้าหมายหลักพาคุณย่าเที่ยวญี่ปุ่น

ความก่อนหน้า
ญี่ปุ่นรอบที่ห้า วันที่สอง | อาหารวันนี้คือ หมูราดซอสเต้าเจี้ยวแดง
ญี่ปุ่นรอบที่ห้า วันที่สาม | ถึงจะกางร่ม ก็ไม่ควรเดินตากฝนเที่ยว (ทั้งวัน)

วันที่สี่ | เกียวโต
การค้างคืนที่เกียวโตก็ทำให้เรามีเวลาที่จะตื่นแต่เช้ามาเพื่อกินขนมที่พอจะทานเป็นอาหารเช้าในห้องพักได้ หลังจากนั้นพวกเราก็เช็คเอาท์ออกแล้วก็เดินสถานีรถไฟ JR Kyoto เพื่อซื้อบัตร City Bus All-day Pass ซึ่งเป็นบัตรสำหรับการขึ้นรถเมล์ได้ไม่จำกัดในหนึ่งวัน ราคาสำหรับผู้ใหญ่ 500 เยน สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเกียวโตนั้นเหมาะแก่การนั่งรถเมล์ไปเที่ยวมากกว่ารถไฟใต้ดิน เกียวโตเป็นเมืองที่ฉันชอบจริงจัง ทุกครั้งที่มาเที่ยวญี่ปุ่น ก็อยากจะมาเยือนเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะผังเมืองที่ง่ายต่อการเดิน แล้วก็มีที่เที่ยวน่าสนใจหลายที่ ยิ่งตอนที่มาเที่ยวแบบประหยัดกับเพื่อนหญิง อาศัยนั่งรถไฟ hankyu เข้ามาเกียวโตแล้วเดินเอา อย่างไรก็ตามการเที่ยวครั้งที่พาย่าเที่ยว เพื่อความสะดวกและไปได้หลายที่ก็น่าจะเป็นการใช้รถเมล์นี่แหละ



ถึงจะบอกว่าไปหลายที่ แต่เพื่อความเหมาะสมกับการเดินทางของคุณย่า จึงเลือกพาไปชมวัดทอง Kinkaku-ji (金閣寺) ปราสาททองภาคบังคับสำหรับคุณย่าที่มาเยือนเกียวโตเป็นครั้งแรก และอีกสถานที่หนึ่งที่พาไปคือทางเดินไปวัดเงิน Ginkakuji ซึ่งเป้าหมายคือพาไปชมซากุระที่จะบานอยู่ระหว่างทางเดินซึ่งขึ้นอยู่ข้างลำธารไหลเป็นสายไปตลอด ถ้าไปช่วงที่ซากุระกำลังร่วงก็จะงาม เพราะได้เห็นกลีบซากุระปลิวไปตามสายลมลงสู่ลำน้ำ ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นเช่นนั้น

อาหารวันนี้ : อาหารอิตาเลียนบนแผ่นดินญี่ปุ่น
อันที่จริงวันนี้ครอบครัวเราออกจะบ้ากินกันไปหรือเปล่านะ เพราะหลังจากเรากลับมาที่สถานีรถไฟ JR Kyoto เพื่อนั่งชิงคันเซ็นกลับนาโกย่า พวกเราก็เลือกทานราเมน ณ ร้านใต้สถานีรถไฟ ซึ่งหน้าร้านก็ดูน่าทาน แต่ปรากฏว่าพอเข้าไปกิน ตัวแก้วก็มีกลิ่นคาวๆ ตัวราเมนน้ำซุปก็เหม็นคาวแบบแปลกๆ ฉันกับแม่ก็เลยทานไม่ได้เยอะ แต่คนอื่นก็ทานกันได้

พอออกมาจากร้าน แม่ก็เลยอยากทานอะไรอีก น้องชายเลยชี้ไปที่ร้านตรงข้ามที่ขายพิซซ่า-สปาเก็ตตี้ ชื่อ capricciosa カプリチョーザ ซึ่งน้องบอกว่าทานบ่อยๆตอนอยู่โอซาก้า รสชาติใช้ได้ พวกเราเลยเข้าร้านนี้เพื่อทานต่อทันที



เราสั่งพิซซ่ามาหนึ่งถาด เป็นแบบแป้งบาง แล้วน้องชายก็สั่งสปาเก็ตตี้หมึกดำที่เขาชอบทานมาแบ่งกันอีก นอกจากนี้ยังสั่งชีสเค้กราดซอสราสเบอรี่ แล้วก็เค้กอีกชิ้นที่จำไม่ได้ว่าเป็นอะไร หลังจากทานเสร็จ เขาจะเสิร์ฟชาหรือกาแฟ ซึ่งกาแฟก็รสชาติดีมากๆ ประมาณว่าเป็น expresso กันเลยทีเดียวนะ พวกเราก็ประทับใจทั้งรสชาติของคาว-หวานและเครื่องดื่มกันจริงๆ

เนื่องจากเราพักกันที่นาโกย่า ซึ่งไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก เราเลยไม่ค่อยเจอคนไทยเท่าไร แต่พอมาเยือนเกียวโตเมืองท่องเที่ยว ในหน้าซากุระแถมยังตรงกับหยุดยาวเมืองไทย ก็เรียกว่าเจอคนไทยยังกับเดินอยู่ในเมืองไทย ขนาดโลกกลมจนพ่อเจอกับกลุ่มเพื่อนพ่อที่มาเที่ยววัดทองเหมือนกัน รอบตัวที่เราไปตามที่ต่างๆ หรือรอรถเมล์ ขึ้นรถบัสก็เจอนักท่องเที่ยวคนไทย จนแทบจะไม่ต้องมาทักว่า "อ้าว คนไทยเหรอครับ/คะ" กันแล้วววว ข้อนี้พิสูจน์ว่าคนไทยชอบเที่ยวญี่ปุ่นจนแม้แต่เว็บการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเองยังมีเว็บภาษาไทยให้โดยเฉพาะเลย เห็นได้จากหน้าเว็บ //www.jnto.go.jp/ ซึ่งมีเมนูให้เลือกภาษาไทยด้วย

Create Date : 18 พฤษภาคม 2551 Last Update : 18 พฤษภาคม 2551 17:43:14 น. Counter : 1032 Pageviews.		26 comments
Share Tweet