ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
วิจารณ์ ต้มยำกุ้ง 2-3D

ความสำเร็จทางด้านรายรับทั้งในไทยและตลาดโลกของหนัง ต้มยำกุ้ง ภาคแรก และการห่างหายไปนานของ จา พนม หรือ โทนี่ จา ที่เราไม่ได้เห็นหนังของเขามานาน จึงไม่แปลกที่ ต้มยำกุ้ง 2 จะถูกคาดหวังจากคนดูชาวไทยมากเป็นพิเศษ การเลือกทำเป็นหนังแอ็คชั่น 3 มิติ ก็คือสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการจะสร้างจุดขายใหม่ๆ ให้กับตัวเอง รวมไปถึงการให้นักแสดงระดับโลกที่มีชื่อเสียงมาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า ต้มยำกุ้ง 2-3D ไม่ได้มองเพียงแต่ลูกค้าชาวไทยแต่ยังมองไปถึงตลาดระดับโลกเป็นสำคัญ

Description: //charthree.wordpress.com/wp-includes/js/tinymce/plugins/wordpress/img/trans.gif

สิ่งที่คนดูหนังคาดหวังจาก ต้มยำกุ้ง 2-3D อย่างมาก ก็คือเรื่องของบทภาพยนตร์ ที่ใช้ขับเคลื่อนเรื่องราวและทำให้ผู้ชมติดตามเพราะหลังจาก องค์บาก ภาคแรกเป็นต้นมา ก็ดูเหมือนว่าหนังของ จา พนม หลังจากนั้น ดูจะให้ความสำคัญกับบทภาพยนตร์น้อยลงไป และไปมุ่งเน้นกับการออกแบบฉากแอ็คชั่นที่พยายามให้พ้นกรอบของ องค์บาก มากขึ้นเรื่อยๆ และนำใส่เข้าไปในหนังแบบไร้ที่มาที่ไปจนเหมือนถูกจับยัดมากเกินไป!


จนทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกต่อต้านจนไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับหนังอย่างที่องค์บากเคยทำได้ แน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่เราเห็นฉากแอ็คชั่นแบบฉบับ
จา พนม มาเยอะจนไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรแล้ว แต่หนังก็คือหนัง ที่ควรให้ความสำคัญกับบทภาพยนตร์เหนืออื่นใด และให้ฉากแอ็คชั่นมารับใช้บทภาพยนตร์เท่านั้น!



ใน ต้มยำกุ้ง 2-3D เราได้เห็นความพยายามในส่วนนี้ ที่จะผลักดันให้บทภาพยนตร์มีความน่าสนใจและทำให้ฉากแอ็คชั่นในหนังทรงพลังมากขึ้น ถึงแม้เรื่องราวจะพัวพันเกี่ยวกับประเด็น "ช้างกูหาย" อีก! แต่มันก็ยังมีประเด็นใหม่ๆ ให้จับต้องและใหญ่ขึ้นเช่น เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ! การนำช้างมาใช้ในเชิงสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ! องค์กรลับที่คอยตักตวงผลประโยชน์จากสถานการณ์! เรื่องการต่อสู้แบบใต้ดินเพื่อหายอดฝีมืออันดับหนึ่งของโลก! ซึ่งจะว่าไปแล้วประเด็นใน ต้มยำกุ้ง 2-3D มีความน่าสนใจ มีประเด็นที่ต้องการเล่าที่ดี ดูมีมิติที่เอื้อให้เกิดฉากแอ็คชั่นที่น่าดูอย่างมาก


แต่การนำพาเรื่องราวไปสู่ฉากแอ็คชั่นในเรื่องยังคงเป็นปัญหา เพราะมันยังไม่มีแรงขับภายในเพียงพอ การปูเรื่องราวยังไม่สามารถทำให้ตัวละครซื้อใจจากคนดูได้และทำให้รู้สึกร่วมลุ้นไปกับการตามหาช้างอีกครั้ง! ส่งให้ฉากแอ็คชั่นที่ใส่เข้ามาเป็นเพียงแค่การตอบสนองคนดูที่ต้องการชมเพียงคิวบู๊ในเรื่องนี้เท่านั้น


ฉากแอ็คชั่นอันเป็นจุดขายของ
ต้มยำกุ้ง 2-3D ยังสานต่อความรุนแรงมาจากต้มยำกุ้งภาคแรกได้อย่างครบถ้วน ความหวาดเสียว ลูกเล่นใหม่ๆ มีให้เห็นเป็นระยะ และมีความเป็นแบบฉบับหนังแอ็คชั่นของ จา พนม อย่างแท้จริง ฉากแอ็คชั่นใหญ่ๆ ในหนังมีมากมาย


ที่หากมองในส่วนของแอ็คชั่นเพียงอย่างเดียว
ต้มยำกุ้ง 2-3D ถือเป็นความน่าพอใจในระดับหนึ่งเท่านั้น ศิลปะการต่อสู้ในภาคนี้มีลักษณะของการผสมผสานจนหาความเป็นแบบฉบับไม่ออก ซึ่งคงไม่อาจมองว่าเป็นข้อดีได้! เพราะเราดูหนังแอ็คชั่นฮ่องกงเราจะรู้ถึงความเป็นหนังหมัดมวยแบบจีน ดูหนังแอ็คชั่นฝรั่งก็มีลักษณะการต่อยตีแบบฝรั่ง ง่ายๆ คือมันมีเอกลักษณ์ให้จดจำแต่ในต้มยำกุ้ง 2-3D นี้ ดูไม่มีความชัดเจนในจุดนี้นัก ยิ่งเมื่อบวกกับฉาก สถานที่ องค์ประกอบศิลป์ ที่ไม่อาจบอกว่าเป็นศิลปะไทยได้เต็มปาก ก็ทำให้หนังภาคนี้ดูหลุดออกเอกลักษณ์ความเป็นไทยในที่สุด! (จุดนี้จะเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นหากเปรียบเทียบกับองค์บากภาคแรก)


ต้มยำกุ้ง
2-3D ทำให้รู้ว่างานภาพ 3 มิติ ตามสมัยนิยม เป็นอะไรที่ไม่เข้ากันอย่างยิ่งกับหนังแอ็คชั่นเชิงหมัดมวย ที่มีการเคลื่อนไหวในการต่อสู้อย่างรวดเร็ว การตัดต่ออันฉับไวเพื่อเสริมความรุนแรงและความดุดัน เป็นผลเสียในทันทีเมื่อต้องมองผ่านแว่น 3 มิติ มันส่งผลให้บางฉากดูมั่วๆ และทำให้ผู้ชมรู้สึกปวดตาในขณะชมได้ไม่ยาก ยิ่งหนังจัดฉากแอ็คชั่นมาแบบยืดยาวยิ่งทำให้การดูต้มยำกุ้ง 2-3D ในแบบ 3 มิติ ถือเป็นการทรมานตัวเองในรูปแบบหนึ่ง มากกว่าจะสนุกดูเพลินไปกับฉากแอ็คชั่น




ในส่วนของนักแสดงแทบไม่มีอะไรให้ต้องกล่าวถึง เพราะสงวนคำพูดคำจากันทุกคน ทุกตัวละครล้วนแต่ขับเคลื่อนด้วยฉากแอ็คชั่นด้วยกันทั้งนั้น แม้บทจะวางให้ตัวละคร ทเวนตี้ ของ
หญิง รฐา และแอล ซี ของ RZA ให้ดูมีปมอะไรบางอย่างที่น่าสนใจแต่บทสรุปปมของสองตัวละครนี้ก็แห้งแล้งและจบง่ายๆ อย่างน่าเสียดาย เป็นการใส่ปมเพื่อเสริมมิติของตัวละครที่ใช้ไม่คุ้มเอาเสียเลย ยิ่งบท ปิงปิง ของ จีจ้า ญาณิน ยิ่งแล้วใหญ่ บทพูดของเธอน่าจะมีแค่เพียง 1 บรรทัดถ้วนตลอดทั้งเรื่อง! การกลับอีกครั้งของเธอไม่มีอะไรให้พูดถึงนอกจากการได้เห็นผู้หญิงหน้าตาน่ารักมาออกแอ็คชั่นงามๆ ถือเป็นความน่าเสียดายอีกอย่างหนึ่งเพราะลำพังความสามารถและหน้าตาของเธอควรจะได้รับการผลักดันให้ก้าวหน้ามากกว่านี้ ในขณะที่บทขามและจ่ามาร์ค ที่รับบทโดย จา พนม และ หม่ำ จ๊กม๊ก ตามลำดับ ดูไม่สนับสนุนกันเท่าที่ควร จนทำให้ตัวละครจ่ามาร์คเป็นตัวขัดแข้งขัดขาของขามมากกว่าจะเป็นการช่วยเหลือ! อาจจะดูเป็นการประชด แต่ตัวละครที่ไม่ต้องพูดเลยแต่ทำหน้าที่ได้ดี ก็คือ นัมเบอร์ทู ที่รับบทโดย มารีส ที่แม้จะมีรูปร่างใหญ่โตที่ฉากต่อสู้ทำหน้าที่ได้ดีมาก สมเป็นนักสู้ที่ยากจะต่อกร อีกคนก็เป็น(อีกตัว) ช้าง ตัวต้นเรื่อง ที่ต้องมีคิวบู๊กับเขาด้วย!


หลายสิ่งหลายอย่างที่ดูเข้าทีของ
ต้มยำกุ้ง 2-3D กลับถูกนำเสนอออกมาอย่างเสียดายของ ทำให้ความเป็นภาค 2 ที่ควรจะดูดีกว่าภาคแรก ได้รับผลในตรงกันข้าม นอกจากจะมีภาพ 3 มิติ ที่ถูกนำมาใช้อย่างไร้ค่าแล้ว เทคนิคพิเศษที่ควรจะงามเนียนตาให้สมราคาของหนังที่หมายจะตีตลาดโลก ก็ดูจะรวบรัดเอาง่ายเข้าว่าจนทำให้รู้สึกขัดใจบ่อยครั้งในขณะที่ชม บางทีถ้ายอมใช้เวลาอีกนิดในการทำเทคนิคพิเศษให้ดีกว่านี้ รวมถึงตัดต่อในส่วนฉากแอ็คชั่นแต่ละซีนให้กระชับไม่ยืดยาวอย่างที่เป็น ต้มยำกุ้ง2-3D อาจเป็นความลงตัวของหนังแอ็คชั่น ที่สมการรอคอยมากกว่าที่เป็นอยู่ และเป็นผลงานของผู้กำกับ ปรัชญา ปิ่นแก้ว และผู้ออกแบบคิวบู๊ พันนา ฤทธิไกร ที่ยังไม่สามารถข้ามพ้น องค์บาก ที่ตัวเองเคยทำไว้ได้!


อย่างไรก็ตามด้วยชื่อชั้นของ
โทนี่ จา (จา พนม) แบรนด์ต้มยำกุ้ง กับความบันเทิงที่เน้นขายฉากแอ็คชั่นและความสามารถของนักแสดงบู๊ที่ไม่ค่อยมีให้เห็นกันแล้วในยุคนี้ ก็ทำให้เชื่อได้ว่าภาพรวมรายรับทั้งไทยและตลาดโลกน่าจะเป็นที่น่าพอใจ ในส่วนของผู้ชมก็ได้แต่หวังว่า อาจจะมีการมาของ ต้มยำกุ้ง 3 ก็เป็นได้ เพราะแม้หนังเรื่องนี้จะไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำมากนักแต่มันก็ยังมีความน่าลิ้มลองอยู่หากจะมีภาคใหม่ของหนังที่ชื่อ ต้มยำกุ้ง ออกมาอีกในอนาคต!


ต้มยำกุ้ง
2-3D ผมให้ 2 / 5 คะแนน

  • สนับสนุนเนื้อหา S! Movie




Create Date : 30 ตุลาคม 2556
Last Update : 30 ตุลาคม 2556 8:26:38 น. 0 comments
Counter : 2614 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.