วิจารณ์หนัง The Last Five Years ความรักไม่ช่วยอะไร
เราควรจะทำความรู้จักของ The Last Five Years กันก่อนว่า จุดเริ่มต้นของหนังมันมาจากละครเพลงที่เปิดแสดงในกลุ่ม ออฟ บรอดเวย์ ซึ่งละครออฟ-บรอดเวย์นั้นเป็นโรงละครพาณิชย์ที่อยู่ในย่านนิวยอร์กซิตี้ แต่ที่เรียกแตกต่างจากบรอดเวย์อยู่ตรงที่ว่า ขนาดของโรงละคร ออฟบรอดเวย์นั้นจะเล็กกว่า มีที่นั่งประมาณ 100-499 ที่นั่งเท่านั้น และโปรดักชั่นของละครนั้นจะครอบคลุมทั้งบทละครพูด-มิวสิคัลและการอ่านบทละครสด เช่นเดียวกัน The Last Five Years เป็นละครเพลงที่เกิดจากการเขียนบทเพลงของเจสัน โรเบิร์ต บราวน์ เปิดแสดงครั้งแรกในโรงละครชิคาโก้ นอร์ทไลท์ เธียเตอร์ในปี 2001 ก่อนที่จะย้ายโปรดักชั่นมาแสดงในออฟบรอดเวย์ในปี 2002 โดยเรื่องราวในละครนั้นบอกเล่าช่วงเวลาความสัมพันธ์ตลอดระยะเวลา 5 ปีของหนุ่มสาวคู่หนึ่งผ่านบทเพลงที่ถูกร้องต่อกัน เช่นเดียวกันกับในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ หนังเลือกใช้วิธีการนำเสนอแบบเดียวกับเวอร์ชั่นละครเพลงด้วยการให้นักแสดงร้องเพลงต่อกันทั้งเรื่อง (แต่อาศัยวิธีการตัดต่อเอา) โดยที่เรื่องราวของเคธี่ (แอนนา เคนดริค) กับเจมี่ (เจเรมี่ จอร์แดน) โดยเรื่องราวของฝ่ายหญิงจะเล่าจากจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ ในขณะที่ในมุมของฝ่ายชายกลับถูกเล่าจากจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ไปสู่จุดสิ้นสุด ชีวิตของเจมี่เขาฝันว่าจะเป็นนักเขียนนิยายชื่อดัง ในขณะที่เคธีก็ฝันว่าสักวันเธอจะได้โลดแล่นในวงการละครเวทีเช่นกัน อย่างไรก็ตามคนดูที่ไม่ได้ทำการบ้านมาก่อน อาจจะงงเป็นไก่ตาแตกว่าหนังเล่าเรื่องอะไรอยู่ แล้วทำไมเหตุการณ์มันถึงไม่มีความสัมพันธ์กัน อย่างแรกที่คนดูต้องจับสังเกตุให้ได้ก็คือการโฟกัสว่าเรื่องที่กำลังถูกเล่าอยู่นั้นเป็นเรื่องของ ใคร และเมื่อเรื่องราวเป็นของใคร ตัวละครนั้นจะเป็นผู้ร้องเพลงออกมา ความสนุก(และความเหนื่อย) อย่างหนึ่งในการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ คือผู้ชมต้องทำหน้าที่คอยเก็บชิ้นส่วนของตัวละคร และเรื่องราวที่พวกเขาเล่าเอามาค่อยๆปะติดปะต่อกันทีละเล็กทีละน้อย แล้วเราจะได้เข้าใจถึงความร้าวฉานในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ อย่างไรก็ตามจุดบอดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือกว่าที่คนดูจะปรับโหมดจูนเรื่องราวให้เข้ากับตัวละครได้ก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งค่อนเรื่อง และแน่นอนว่าคนที่ความอดทนไม่ถึงคงจะเบื่อไปตั้งแต่ฉากแรกๆ (เพราะงง ดูไม่รู้เรื่องทำไมตัวละครเดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิก ปวดหัว) ประกอบกับด้วยความที่ผู้เขียนเข้าใจว่าในเวอร์ชั่นละครเพลงนั้น ผู้เล่นน่าจะสามารถส่ง อารมณ์ ได้จากบทเพลง สดๆ บนเวที น่าจะทำให้ผู้ชม มีอารมณ์ร่วม ไปกับชะตากรรมของตัวละครได้ดีกว่า ในเวอร์ชั่นหนังที่มีการจัดวางทั้งวิธีการร้อง การส่งสารมาถึงคนดู ซึ่งหลายครั้งคลุมเครือและคนดูก็ถูกเบี่ยงเบนความสนใจไปจากตัวละครด้วยพร็อพ-บริบทแวดล้อมมากมาย จนคนดูเริ่มจะหมดความอดทนในการติดตามชีวิตตัวละครไปเลย ข้อดีอย่างมากของหนังเรื่องนี้คือการแสดงที่ เอาอยู่ ของแอนนา เคนดริก ที่เฉียบคมทั้งการร้อง การแสดง การรับส่งอารมณ์ที่คุกกรุ่นอยู่ข้างใน ในขณะที่เจเรมี่ จอร์แดนถึงจะร้องเพลงบัลลาดได้เพราะแค้ไหน แต่การแสดงในหลายครั้งหลายตอนก็ดูออกจะ น่ารำคาญ พอสมควรทีเดียว ถ้าใครอยากจะลองเสพย์งานหนังเพลง ที่ไม่ได้ตามขนบ หนังเพลงทั่วไป The Last Five Years ถือเป็นตัวเลือกที่ท้าทายไม่น้อยเลยทีเดียว @พริตตี้ปลาสลิด 3 คะแนนจาก 5 คะแนน
ที่มา //movie.sanook.com/50353/
Create Date : 14 พฤษภาคม 2558 |
Last Update : 14 พฤษภาคม 2558 8:55:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1718 Pageviews. |
|
|