วิจารณ์หนัง Unfriended เมื่อเทคนิคสำคัญกว่าเรื่องเล่า
เราคงไม่อาจจะปฏิเสธว่าสิ่งที่ทำให้หนังสยองขวัญอย่าง Unfriended กลายเป็นหนังที่น่าสนใจขึ้นมา เพราะหนังเลือกใช้ เฟรม ภาพที่เกิดขึ้นในหน้าจอคอมพิวเตอร์แต่เพียงอย่างเดียว ตัวละครทั้งหมดในเรื่องสื่อสารกันผ่านกล้องที่ติดไว้ที่หน้าจอ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะนั่งอยู่ในแค่เพียงห้องของตัวเองเท่านั้น และมันยิ่งทวีความน่าสนใจและ เข้าถึง บรรดาวัยรุ่นในยุคนี้เนื่องจากมันหยิบเอาเรื่องราวของโซเชียลมีเดีย ที่สร้างผลกระทบในแง่ลบให้กับชีวิตมนุษย์มาบอกเล่าในแง่ของความน่ากลัว (แบบเหนือจริง) จึงยิ่งทำให้หนังทวีความน่าสนใจขึ้นไปอีก เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในค่ำคืนที่แสนธรรมดาเมื่อ แบลร์ (เชลลี่ย์ เฮนนิก) และแฟนหนุ่มของเธอ มิทช์ (โมเสส สตอร์ม) เริ่มต้นแชทกันผ่านวิดีโอ ทันใดนั้นพวกเขาก็ถูกขัดจังหวะด้วยเพื่อนๆ อันได้แก่ เจสส์ (เรเน โอลสเตด), อดัม (วิลล์ เพลท์ซ), เคน (เจค็อบ วิสอ็อคกี) และวัล (คอร์ตนี่ย์ อัลเวอร์) ซึ่งพวกเขาพร้อมที่จะแชทกันเป็นกลุ่ม ก่อนหน้านั้นกลุ่มพวกเขาได้รับยูสเซอร์ที่รู้จักแค่ชื่อที่ใช้ในการแชตว่า บิลลี่227 พวกเขาคิดว่าคงเป็นแค่ข้อผิดพลาดทางเทคนิค และพวกเขาก็คุยกันต่อไป จนกระทั่งบิลลี่เริ่มพิมพ์ข้อความ สิ่งที่ติดตามมา กลับกลายเป็นฝันร้ายที่โหดที่สุดของพวกเขา เมื่อแบลร์เริ่มได้รับข้อความทางเฟซบุ้คและได้รับอีเมลจากใครบางคนหรืออะไรสักอย่างที่อ้างตัวว่าเป็น ลอร่า บาร์นส์ (เฮทเธอร์ ซอสซาแมน) เด็กสาวที่ฆ่าตัวตายไปเมื่อหนึ่งปีพอดิบพอดี เธอพยายามหาตัวคนที่บุกเข้ามาในกลุ่มแชตของพวกเธอ ขณะเดียวกัน เกมของบิลลี่บีบให้เพื่อนๆ กลุ่มนี้ต้องเผชิญกับความลับและคำโกหกของพวกเขา ถ้าพวกเขาหาได้ว่าใครโพสต์คลิปภาพน่าอับอายของลอร่า ที่นำไปสู่การตายของเธอ เหตุการณ์ประหลาดเริ่มต้นขึ้นเมื่อ บิลลี่227 ต้องการเล่นเกมสุดสยองที่ทดสอบมิตรภาพของเพื่อนกลุ่มนี้โดยการให้พวกเขาพูดความจริงขึ้นมา และใครก็ตามที่ลองดีหรือแพ้เกมก็มีอันต้องพบกับจุดจบสุดสยอง อันที่จริงจุดศูนย์กลางของภาพทั้งหมด ผู้ชมได้รับรู้ผ่านหน้ากล้องของตัวละครแบลร์ ซึ่งหนังก็ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมตอบสนองต่างๆของตัวละครนี้แทนคำพูด ไม่ว่าจะเป็นทั้งการที่ตัวละครครุ่นคิดอะไรบางอย่างและผู้ชมก็ทำให้เหมือนกับว่าเป็นตัวละครเดียวกับแบลร์ พฤติกรรมที่ว่าได้แก่การที่ตัวละครหยุดพิมพ์ตัวอักษร, พิมพ์ข้อความไปและตัดสินใจลบทิ้ง (ซึ่งทำให้เราได้ทราบความจริงบางอย่างที่ตัวละครอื่นไม่รู้) การเลื่อนเมาส์อย่างรุนแรงหรือการกระหน่ำคลิ๊กที่หน้าจอเพื่อให้มันแสดงผลออกมา เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ใช้ แทน อารมณ์ที่เราไม่อาจจะมีโอกาสได้เห็นใบหน้าของตัวละครในช่วงจังหวะที่เธอปิดกล้องสไกป์ลง ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังใช้จังหวะหลายอย่างของคอมพิวเตอร์ในการ เร้าอารมณ์ผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นการที่อินเตอร์เนตมีปัญหา หรือการที่โปรแกรมโหลดภาพหน้าจอ(การหมุนวนที่แสดงว่าระบบกำลังโหลดภาพอยู่) ทำให้ผู้ชมหวาดกลัวกับภาพที่อาจจะปรากฏขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ หรือแม้กระทั่งหน้าจอของตัวละครบางคนที่ ว่างเปล่า และไม่รู้ว่าจังหวะไหนที่หนังจะจู่โจมคนดูไม่ว่าจะเป็นภาพหรือเสียงที่ชวนตกใจ อันที่จริงตัวหนังเดินเรื่องตามสูตรสำเร็จของหนังฆาตกรโรคจิตทุกประการ บรรดาตัวละครในเรื่องก็ดูเหมือนจะถูกออกแบบและวางตำแหน่งไว้เช่นนั้น และมันทำให้คนดูคาดเดาได้เลยว่าตัวละครรายใดจะกลายเป็นเหยื่อรายแรกและรายสุดท้าย อย่างไรก็ตามทีเด็ดของหนังอยู่ที่วิธีการเล่าเรื่องที่เอาคนดูอยู่หมัด และเป็นการเพิ่ม รสชาติ ในการดูหนังสยองขวัญแบบใหม่ที่เราไม่เคยได้ชมมาก่อน แต่อย่างไรก็ดีดูเหมือนว่าฉากสุดท้ายของหนัง ตัวผู้กำกับอย่าง ลีแวน (ลีโอ) แกเบรียดซี เลือกจะให้บทสรุปกับตัวละครลอร่า บาร์นส์เป็นแบบในหนัง (ขอไม่สปอยล์) ซึ่งจริงๆแล้วถ้าหนังทิ้งความคลุมเครือเอาไว้จะยิ่งเพิ่ม เสน่ห์ ให้กับตัวหนังมากขึ้นไปอีก @พริตตี้ปลาสลิด 4 คะแนนจาก 5 คะแนน
//movie.sanook.com/50885/
Create Date : 02 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 2 มิถุนายน 2558 8:40:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2279 Pageviews. |
|
|