ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 
วิจารณ์หนัง Jupiter Ascending หายนะในระดับกาแล็กซี่

ปัญหาประการสำคัญของหนังอภิมหากาพย์เว่อร์วังอลังการระดับกาแล็กซี่ต้องสั่นสะเทือนนั่นคือการใช้ทรัพยากรเชิงภาพรวมได้อย่างไม่คุ้มค่า ใช้ประโยชน์จากการแสดงของนักแสดงได้ค่อนข้างน้อยเนื่องจากมิติจากบทภาพยนตร์นั้นบางเบาและทุกอย่างเป็นไปตามสูตรสำเร็จที่ค่อนข้างจืดชืด 

จริงๆอาจจะกล่าวแบบเจ็บๆว่านี่เป็นการ “ตำน้ำพริกละลายจักรวาล” ของผู้กำกับสองศรีพี่น้องวาชอว์สกี้ที่ยังหากินกับเครดิตบุญเก่าตั้งแต่ทำ The Matrix ไตรภาค จากทุนสร้างหนังที่ล้างผลาญไปทั้งสิ้น 176 ล้านเหรียญฯ แต่หนังกลับเปิดตัวในอเมริกาเหนือไปแค่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ส่วนในตลาดประเทศก็ทำรายได้เพิ่มไปอีก 33 ล้านเหรียญ รวมรายรับ ณ เวลานี้แล้วอยู่ที่ 55 ล้านเหรียญ เรียกได้ว่าหนังเจ๊งอย่างแน่นอน และสตูดิโออย่างฟอกซ์ก็ต้องกุมขมับกันเลยทีเดียว

อันที่จริงเค้าลางของความหายนะมันส่งสัญญาณเตือนมาตั้งแต่สตูดิโอหนังหาข้ออ้างเลื่อนการเข้าฉายจากปีก่อนมาเป็นต้นปี 2015 ก่อนช่วงเวลาประกาศผลรางวัลออสการ์ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันของคนอเมริกาว่าช่วงนี้หากหนังฟอร์มใหญ่ยักษ์เข้าฉาย ก็มักจะเป็นของ “เน่าเสีย” ที่เอาไว้ทิ้งขยะมากกว่าจะหวังอย่างอื่น

อันที่จริงตัวหนังมาพร้อมกับฉากซีจีที่อลังการสมราคาคุย แต่มันจะมีประโยชน์อันใดเล่าถ้าหากตัวละครนำของเรื่องไม่สามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้ชมที่กระทั่งทำให้เราหลงรักยังทำไม่ได้ ภาพสวยๆของหนังก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใดต่อการเล่าเรื่อง มันเป็นแค่เพียงความตื่นตาตื่นใจ แต่สุดท้ายฉากเหล่านั้นก็ทำหน้าที่ได้แค่เพียง “สวย” และ “แข็งทื่อ” เท่านั้นเอง

ความไม่สมเหตุสมผลของหนังมีอยู่เต็มไปหมด แม้หนังจะ “พยายาม” พูดถึงแก่นของการเวียนว่ายตายเกิดในจักรวาลก็ตาม แต่มันก็ทำตัวแค่ “เกริ่น” ทิ้งไว้แถมไม่ได้ให้คนดูอยากรู้สึกคิดต่อด้วยซ้ำไป เพราะเหมือนพูดลอยๆทำให้หนังเหมือนดูฉลาด แต่จริงๆแล้วไม่ได้มีอะไรเลยเนื่องจากหนังไม่ได้สร้างบริบทอื่นๆที่จะทำให้เราเชื่อว่าหนังกำลังจะพยายามสื่อสารสิ่งที่หนังจะพูดต่อ (สองผู้กำกับเคยพูดถึงเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดในหนังอย่าง Cloud Atlas มาแล้ว)สุดท้ายหนังก็วกกลับมาพูดถึงเรื่องการโค่นบัลลังก์ของผู้สืบทอดอย่างจูปิเตอร์(มิล่า คูนิช) เท่านั้นเอง

ความน่ารำคาญของหนังยิ่งทะลุเพดานบินสูงสุดเมื่อเอ็ดดี้ เรดเมยน์ปรากฏตัวมาในมาดตัวร้ายของเรื่อง ที่นอกจากชุดของตัวละครนี้จะเหมือนเอาถุงดำมาทำชุดแล้ว เสียงอันแหบแห้งจนเราอยากจะวิ่งออกไปซื้อน้ำมะนาวในเซเว่น(ที่เต็มไปด้วยน้ำตาล) เอามาให้พี่แกดื่มแก้แสบคอแล้ว เราก็อยากจะไปบอกพี่แกว่าไม่ต้องตะโกนเหมือนเด็กงอแงไม่ได้ของเล่นก็ได้เพราะว่ามัน .........หนวกหู ส่วนพี่แชนนิ่ง ทาทั่มในบทของมนุษย์สังเคราะห์พันธุ์ผสมที่มียีนส์หมาป่า! อยากจะบอกว่าเรื่องนี้พี่หุ่นย้วยมากๆครับ ฉากถอดเสื้อเหาะนี่ผมนึกว่าพี่เป็นบูริน หมูอวกาศ! 

กล่าวโดยภาพรวมแล้ว อาจจะเป็นหนังที่บกพร่องในหลายๆด้าน แต่ในขณะเดียวกันถ้าปล่อยสมองให้ว่างๆและลืมๆหนังแอ็คชั่นไซไฟในอดีตที่เคยดูมาแล้วมันอาจจะดูสนุก....... แต่พอดีว่าผู้เขียนลืมหนังเก่าๆที่มีวิธีการเล่าเรื่องที่สนุกกว่าไม่ได้ผลสุดท้ายเลยออกมาตามคะแนนด้านล่างนี่แหละครับ

0.5 คะแนนจาก 5 คะแนน

@พริตตี้ปลาสลิด




Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2558 8:34:04 น. 0 comments
Counter : 2504 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.