ผลบอลพรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูฯ 0-3 ลิเวอร์พูล

ผลบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013-14
ศึกแดงเดือด ประวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2557
แมนฯ ยูฯ 0-3 ลิเวอร์พูล
ผู้ทำประตู : 0-1 เจอร์ราร์ด น.34 (จุดโทษ), 0-2 เจอร์ราร์ด น.46 (จุดโทษ), 0-3 ซัวเรซ น.84
สนามโอลด์ : แทร็ฟฟอร์ด
แข่งขันเวลา 20.30 น. ช่อง 9 ถ่ายทอดสด

เิริ่มเกม แมนฯ ยูฯ เขี่ยบอลบุกจากซ้ายไปขวา แต่้มาถึงนาทีที่ 2 แมนฯ ยูฯ เสียบอลบริเวณกลางสนาม ฟลานาแกนแทงบอลเข้ากลางให้ เฮนเดอร์สัน ก่อนที่กองกลางทีมชาติอังกฤษจะจ่ายบอลทะลุช่องให้ สเตอร์ริดจ์ วิ่งตัดแนวรับ แมนฯ ยูฯ เข้าไปซัดด้วยขวาเต็มเท้าแต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่านั้น

10 นาทีผ่านรูปเกมของ ลิเวอร์พูล ผู้มาเยือนดูดีกว่า แมนฯ ยูฯ โดยเฉพาะการต่อเกมในจังหวะสุดท้าย ลิเวอร์พูล ทำได้ดีและัมีลุ้นประตูมากกว่า

20 นาทีผ่านมา ลิเวอร์พูล ครองบอลได้ดีกว่าและคุมจังหวะเกมไว้ได้ทั้งหมดแล้วขาดแค่เพียงจังหวะจบสกอร์ที่ยังไม่เฉียบขาดเท่านั้น ส่วน แมนฯ ยูฯ ก็วิ่งไล่บอลหากันไม่เจอ

30 นาทีผ่าน เกมเริ่มกลับมาสู่สีกันเมื่อ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเจาะแนวรับ แมนฯ ยูฯ เข้าสักที ส่วน แมนฯ ยูฯ ก็เริ่มครองบอลในแดนกลางได้มากขึ้น

และอีก 4 นาทีถัดมา แฟนบอล ลิเวอร์พูล ได้เฮกันลั่นเมื่อ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ได้จังหวะลากเลี้ยงขึ้นทางฝั่งขวาก่อนโยนข้ามฝากเข้าเขตโทษให้ ซัวเรซ เอาบอลลงกระดอนไปโดนมือ ราฟาเอล เต็มๆ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที และก็เป็นกัปตันเจิด ซัดจุดโทษลูกนี้ไม่พลาด ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ แมนฯ ยูฯ 1-0 น.34

นาที 41 ราฟาเอล ดา ซิลวา ไหลบอลเข้าเขตโทษให้  โรบิน ฟาน เพอร์ซี  ได้พลิกตัวก่อนกดด้วยขวาบอลติด มาร์ติน สเคอร์เทล ออกหลังไป แมนฯ ยูฯ หวิดได้ประตูตีเสมอ

 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ราฟาเอล ได้เปิดจากทางด้านขวา บอลมาถึงเวย์น รูนี่ย์ แปแบบไม่จับ ซิมง มิงโญเล่ต์ ซุปเปอร์เซฟออกมา เข้าทาง รูนี่ย์อีกครั้ง คราวนี้ซัดไปติดบล็อกกองหลัง ลิเวอร์พูล และเวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้นจบเกมครึ่งแรก  ลิเวอร์พูล เล่นได้เหนือกว่านำ แมนฯ ยูฯ  อยู่ 1-0 จากลูกจุดโทษ

เริ่มเกมครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเขี่ยบอลบุกจากซ้ายไปขวา โดยทั้งสองทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวแต่อย่างใด และผ่านไปแค่นาทีเดียว ลิเวอร์พูล ลำเรียงเกมบุกขึ้นมาครั้งแรก โจ อัลเลน โดน ฟิล โจนส์ กระแทกล้มลงในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกจุดโทษทันที และก็เป็นกัปตันเจิดเจ้าเดิมแปเลียดเสียบโคนเสา ลิเวอร์พูล หนี แมนฯ ยูฯ เป็น 2-0 น.46

จังหวะซัดจุดโทษของ เจอร์ราร์ด

หลังจากโดนอริตลอดกาลหนีห่างเป็น 2-0 แมนฯ ยูฯ ก็เริ่มได้สติครองเกมบุกเปิดเกมรุกเข้าใส่ ลิเวอร์พูล ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ เวย์น รูนี่ย์ ที่ดูโดดเด่นขึ้นมากกว่าครึ่งแรกแต่จังหวะสุดท้ายก็ยังขาดๆเกินๆ ยิงทิ้งยิงขวางไปซะหมด

มาถึงนาทีที่ 70 ลิเวอร์พูล ปรับเปลี่ยนแทคติก ร็อดเจอร์ส ส่งเอา คูตินโญ่ จอมทัพชาวบราฺซิลลงมาเพิ่มมิติในเกมรุกแทน สเตอร์ลิ่ง

นาทีที่ 75 เดวิด มอยส์ แก้เกมบ้างถอดเอา เฟลไลนี่ ออกแล้วส่ง เคลฟเวอร์ลี่ย์ ไปเล่นแทนในตำแหน่งกองกลาง

และในจังหวะถัดมา ลิเวอร์พูล ต่อบอลกันสวยแทงบอลทะลุช่องให้ สเตอร์ริดจ์ วิ่งสปีดหนี วิดิช เข้าเขตโทษก่อนที่ปราการหลังเซอร์เบีย จะเสียบ สเตอร์ริดจ์ ล้มลง พร้อมกับเป็นจุดโทษและใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่จุดโทษลูกนี้ เจอร์ราร์ด ยิงไปชนเสาอย่างจัง พลาดโอกาสทำแฮททริคอย่างน่าเสียดาย

มาถึงนาทีที่ 84 ลิเวอร์พูล ที่เป็นต่อตัวผู้เล่นเดินหน้าเปิดเกมบุกเข้าใส่แบบไม่ยั้ง และก็มาประสบความสำเร็จ เมื่อ สเตอร์ริดจ์ แทงบอลทะลุช่องให้ ซัวเรซ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงแบบเลือดเย็น ลิเวอร์พูล 3 แมนฯ ยูฯ 0

และช่วงเวลาที่เหลือ ลิเวอร์พูล ยังเดินหน้าต่อแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ และก็จบเกม ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มสุดยอดบุกมาถล่มเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ 3-0 พร้อมกับเก็บเพิ่มอีก 3 แต้มเป็น 62 คะแนนทำแต้ใมจีจ่าฝูง เชลซี เหลือ 4 แต้ม แต่ลงแข้งน้อยกว่า 1 นัด ส่วน แมนฯ ยูฯ หมดหวังลุยศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้าแน่นอนแล้ว

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม

แมนฯ ยูฯ : เด เคอา, ราฟาเอล, วิดิช, ฟิล โจนส์, เอฟร่า, เฟลไลนี่, คาร์ริค, มาต้า, รูนี่ย์, ยานาไซจ์, ฟาน เพอร์ซี่

ลิเวอร์พูล : มิงโญเล่ต์, เกล็น จอห์นสัน, แอ็กเกอร์, สเคอร์เทล, อัลเลน, เจอร์ราร์ด, เฮนเดอร์สัน, สเตอร์ลิ่ง, ซัวเรซ, สเตอร์ริดจ์

Create Date : 17 มีนาคม 2557
Last Update : 17 มีนาคม 2557 16:40:15 น.		0 comments
Counter : 1398 Pageviews.
Share Tweet