วันที่ 14 เมษายน 2557 นายศรัณย์ โปษยะจินดา ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติหรือ (สดร.) ได้เปิดออกมาเปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 14 เมษายน จนถึงช่วงเช้าของวันที่ 15 เมษายน 2557 ดาวอังคารจะเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้โลกมากที่สุดในรอบ 7 ปี จึงส่งผลให้เราสามารถจะมองเห็นดาวอังคารสุกสว่างมากว่าปกติ โดยจะมองเห็นดาวอังคารมีประกายสีส้มแดงจากบนท้องฟ้ามากกว่าเดิม
โดยระยะห่างของดาวอังคารและโลกจะอยู่ที่ 92.39 ล้านกิโลเมตร ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถมองเห็นดาวอังคารในวันนั้นได้ด้วยตาเปล่า แต่ถ้าหากใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดเล็ก ก็จะสามารถมองเห็นขั้วน้ำแข็งและพื้นผิวบนดาวอังคารได้
สำหรับปกตินั้น เราจะมองเห็นดาวอังคารส่องประกายส้มแดงบนท้องฟ้า เนื่องจากองค์ประกอบของดาวอังคารส่วนใหญ่เป็นเหล็กออกไซด์ เราจึงเรียกฉายาดาวอังคารว่า ดาวเคราะห์สีแดง ซึ่งจะโคจรมาใกล้โลกทุก ๆ 2 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ดาวอังคารจะโคจรเข้ามาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ มีโลกคั่นกลาง แต่จะใกล้โลกที่สุดในวันที่ 14 เมษายนนี้
อย่างไรก็ตามลักษณะของดาวอังคารที่เราจะเห็นในวันนั้น จะโผล่พ้นจากขอบฟ้าในเวลา 18.02 น. ของวันที่ 14 เมษายน ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ในกลุ่มดาวหญิงสาว ดาวอังคารจะสุกสว่างเคียงข้างด้านซ้ายของดวงจันทร์ แต่ถ้าหากสังเกตในช่วงเช้ามืดวันที่ 15 เมษายน ก็จะมองเห็นดาวอังคารปรากฏอยู่สูงจากขอบฟ้าทิศตะวันตก โดยครั้งล่าสุดที่ดาวอังคารโคจรมาใกล้โลก คือเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2555 และจะโคจรใกล้โลกครั้งต่อไป คือวันที่ 31 พฤษภาคม 2559