เรากับแฟนคบกันตั้งแต่อยู่ ปี 2  จนกระทั่งเรียนจบปริญญาเราได้งานทำที่ รพ.แห่งหนึ่งค่ะ ส่วนแฟนทำธุรกิจส่วนตัว เราไปมาหาสู่บ้านแฟนมาตลอด ส่วนแฟนก็ไปพบปะพ่อแม่ของเราสม่ำเสมอค่ะ  ทุกวันนี้เราเช่าหออยู่ใกล้ที่ทำงาน  คนละจังหวัดกับที่บ้าน แต่อยู่จังหวัดเดียวกับมหา’ลัยที่เราเรียนจบมาค่ะ บ้านแฟนก็อยู่จังหวัดนี้ด้วย

    หลังเลิกงานแฟนจะมารับทุกวันค่ะ และแฟนก็จะมานอนด้วยแทบจะทุกคืน วันนึงแฟนก็มาบอกว่าจะบวชนะวันที่ 31 พ.ค. บวช 9 วัน และเค้าซื้อแหวนทองมาให้เราค่ะ ว่าขอจองเราไว้ก่อน หลังจากบวชเสร็จ ช่วงกลางเดือน มิ.ย. จะพาเรากลับบ้านและจะไปสู่ขอแต่งงานกับพ่อแม่เรา แฟนบอกว่ากำหนดการณ์สึก 10 มิ.ย. และวันที่ 11-12  มิ.ย. เค้าก็จะคุยกับแม่ และแม่แฟนไม่น่าจะมีอะไรขัดข้องเพราะบวชเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเงินที่จะไปสู่ขอเราก็เงินของเค้าเอง คืนนั้นเค้าเลยขอไม่ใช้ถุงยาง เราก็ยอมไปเพราะก็เรียนจบมีงานทำแล้ว และคิดว่าหลังจากเค้าบวชเสร็จเค้าก็จะไปขอแต่งงาน ดังนั้นตลอดสองอาทิตย์ก่อนบวชเค้าไม่ได้ใส่ถุงยางเลยค่ะ

    วันที่ 26 พ.ค. เค้าไปอยู่วัดเพื่อเตรียมตัวบวชในวันที่ 31 พ.ค. เราก็งดโทรศัพท์คุยกันค่ะ จะมีบางวันที่เค้าส่ง sms มา เราก็ตอบกลับไปบ้าง จนงานบวชผ่านพ้นไป และปัญหาก็เริ่มเกิดค่ะ คือประจำเดือนเราจะมาสม่ำเสมอทุก 30 -31 วัน และในเดือนนี้ต้องมาในวันที่ 5 แล้วยังไม่มา เราก็เริ่มใจไม่ดีเพราะไม่เคยเป็นแบบนี้ วันที่ 7 เลยไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ปรากฏว่าขึ้นสองขีดค่ะ คือว่า ท้องค่ะแต่ตอนนี้แฟนเรากำลังบวชอยู่ เราเลยเก็บเรื่องนี้ไว้รอถึงวันที่ 10 มิ.ย. ที่เค้าสึกมาแล้วค่อยโทรไปบอก

    10 มิ.ย. ตอนบ่ายเราโทรหาเค้า บอกเค้าไปว่าเราท้อง  ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเองตั้งแต่วันที่ 7 เพราะประจำเดือนเราขาดไป รีบพูดกะจะเซอร์ไพรส์เค้านั่นแหละค่ะ ปรากฎว่าเค้าบอกว่ากำหนดการณ์คือสึกวันนี้ แต่แม่เค้ามาขอให้บวชต่ออีก 3-4 เดือน ให้ครบ 1 พรรษา ค่อยสึกตอนวันออกพรรษา เราค้างเลยค่ะ รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก แต่เสียงของเค้าในตอนนั้นเหมือนเค้าดีใจมาก บอกเราว่าน่าจะโทรมาเร็วกว่านี้เดี๋ยวจะรีบโทรบอกแม่ขอสึก บอกว่าเราท้องแล้วเค้าต้องไปรับผิดชอบ ตอนนั้นเรารู้สึกบาปอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเห็นแก่ตัวค่ะ

เย็นวันนั้นแม่แฟนโทรมาด่าเรา ว่าเราเป็นมารศาสนาจะจับลูกชายเค้า เพราะลูกเค้าบวชอยู่แท้ๆ ไม่รู้จักกาลเทศะ เราช็อกมาก เราก็พยายามอธิบายว่าตลอดเวลาที่พระบวชมาไม่ได้โทรคุยกัน เราไม่เคยโทรไปหา มารู้ว่าตัวเองท้องเมื่อวันที่ 7 แต่รอให้เค้าสึกมาก่อน ตามกำหนดการก็คือสึกวันที่ 10 มิ.ย.

    วันนั้นเราก็เลยโทรไปหา บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เราก็ร้องไห้  แม่แฟนยิ่งขึ้นเสียงใหญ่ ด่าไปถึงพ่อแม่เราว่าสั่งสอนลูกสาวยังไงให้มาจับผู้ชายแบบนี้ หน้าไม่อาย ด่าว่าแม่เราก็คงจับพ่อแบบนี้เหมือนกันละสิ ไม่เจริญบ้านนี้ เป็นกันทั้งบ้าน คือเราเงิบเลย  เค้าโมโหแต่ด่ากราดไปทั่ว ลามไปด่าถึงพ่อแม่เรา  เราทั้งร้องไห้ทั้งโมโห เลยพูดตอบโต้ไปว่าพ่อแม่หนูแต่งงานถูกต้องตามกฎหมายค่ะ แต่งงานกันสองปีแม่ถึงคลอดพี่สาวหนู หนูยอมรับว่าหนูผิด แต่คุณน้าอย่าด่าพ่อแม่หนูแบบนี้ค่ะ  จากนั้นแม่แฟนก็วางสายใส่เรา

    เรารู้ว่าเราผิด เราไม่รู้ว่าแฟนยังไม่สึก แต่ที่น้อยใจคือทำไมแม่แฟนต้องว่าบ้านเราเสียๆ หายๆ ขนาดนี้ด้วย เรากับบ้านแฟนก็รู้จักกันมานาน ตลอดเวลาที่คบกันเราก็ไปมาหาสู่ตลอด อย่าว่าลำเลิกบุญคุณอะไรกันเลยนะคะ ก่อนหน้านี้ ตอนที่แม่แฟนเข้า รพ. ประสบอุบัติเหตุรถชน ทุกคืนเราจะไปนอนเฝ้าแม่แฟนที่ รพ. ค่ะ ตอนนั้นแฟนไปฝึกงานต่างจังหวัด พ่อแฟนหย่ากับแม่แฟนตั้งแต่แฟนอยู่ในท้องแม่ พี่ชายแฟนก็แต่งงานมีครอบครัวแล้วอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง จะมาเยี่ยมแต่เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ก็มีแต่เราที่อยู่ใกล้ที่สุดเราเรียนเสร็จตอนเย็น ก็จะอาบน้ำ ซื้อกับข้าวไปกินกับแม่แฟน หอบผ้า หอบหนังสือ เอางานไปทำด้วย ปูเสื่อนอนใต้เตียงคนไข้ทุกคืน ตอนนั้นเค้าก็เหมือนจะดีกับเรามากค่ะ เรียกลูกทุกคำ

    พูดแล้วก็น้อยใจค่ะเราไปนอนเฝ้าเค้าอยู่ร่วมเดือน เช็คอึล้างก้นให้เค้า เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เค้าทุกเช้า เค้าไม่เคยพูดถึงเราในทางที่ดีเลย แม้แต่เรื่องแต่งงาน แฟนเราเคยเกริ่นก่อนหน้านี้ไปแล้วว่าเรียนจบจะแต่งงานกับเรา แม่แฟนก็บอกว่าอยากแต่งก็หาตังค์แต่งเอง แม่ไม่ช่วยหรอกนะ ธุรกิจที่บ้านแม่ก็จะยกให้พี่ชายของแฟนคนเดียว แม่ไม่ชอบพวกลูกเจ๊ก รวยอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องได้เงินอีก อยากแต่งก็ให้เรากับแฟนหาเงินเอง แฟนเล่าให้เราฟังขำๆค่ะ แต่เราขำไม่ออก ไม่รู้ว่าแม่แฟนมีปมอะไรกับคนจีนหรือเปล่า

    คืนนั้นแฟนก็โทรกลับมาหาเราค่ะ บอกว่าถ้าแม่เค้าโทรไปหาไม่ต้องรับ เราก็บอกว่าไม่ทันแล้ว แม่พระโทรมาแล้วตั้งแต่เย็นค่ะ แฟนเราบอกว่าแม่เค้าไม่ยอมให้เค้าสึกเด็ดขาด ต้องสึกตอนออกพรรษาเท่านั้น และถ้าไม่ทำตามจะตัดแม่ตัดลูก ไปอยู่กันเองไม่ต้องติดต่อมา และบอกพระว่าบาปมากที่ขัดใจแม่ ไม่บวชให้แม่ตามวันที่แม่ต้องการ จะตกนรก แม่ก็จะไม่ได้ขึ้นสวรรค์ แฟนเราก็เครียดมากเหมือนกัน เพราะถ้าให้รอถึง 4 เดือน ท้องเราคงโต อายุครรภ์คงจะ 5 เดือนแล้ว เราจะบอกที่บ้านยังไง แฟนจะไปขอขมายังไงทำลูกสาวเค้าท้องโตขนาดนี้แล้วเพิ่งจะมาขอแต่งงาน พ่อเราก็มีหน้ามีตาในสังคม ดูไปแล้วแฟนเราเครียดมากกว่าเรามากค่ะ แฟนเราเลยตัดสินใจว่าสิ้นเดือนนี้จะสึกเอง บวชทดแทนพระคุณแม่หนึ่งเดือนเต็ม และตั้งใจศึกษาธรรมมะ ถึงวันนั้นแม่คงไม่โกรธแล้วมั้ง

    จนถึงวันนี้ ใจลึกๆ เราไม่อยากรอจนท้องโต 4-5 เดือนเลยค่ะ เรายังไม่ได้บอกเรื่องท้องกับที่บ้าน กลัวพ่อกับแม่จะรับไม่ได้ อีกทั้งถ้าบอกไปกลัวพ่อจะเร่งแฟนให้มาแต่งงาน กลัวพ่อกับแม่จะเสียใจที่เราทำแบบนี้ พ่อมีหน้ามีตาในสังคมค่ะ พ่อแม่เรามีลูกสาวสามคนเราเป็นคนสุดท้อง พี่สาวเราได้แต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้ว

เราไม่อยากให้พ่อแม่เราโดนนินทาว่าลูกสาวคนเล็กท้องโตแล้วไม่มีใครรับผิดชอบ เราผิดเองที่ตัดสินใจปล่อยแบบนั้น เครียดค่ะ เราควรจะทำยังไงดีค่ะ ไหนจะที่ทำงานเราด้วย เราเพิ่งเป็นเด็กใหม่เข้ามา ไม่ได้แต่งงานแต่ท้องโต 4-5 เดือนก็ไม่ไหว

    ทางออกคงมีอยู่ทางเดียวคือรอจนกว่าแฟนจะสึกออกมาค่ะ แต่ก็กลัวแม่แฟนจะตัดลูกตัดแม่กับเค้าจริงๆ แบบนั้นคงไม่ดีแน่ เราก็สงสารแฟนเราค่ะ เพราะเค้ารักแม่มาก

Create Date : 16 มิถุนายน 2557
Last Update : 16 มิถุนายน 2557 23:57:28 น.		0 comments
Counter : 1108 Pageviews.
Share Tweet