Group Blog
 
All blogs
 
ตอบปัญหาจากบล็อค : การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่

จากบล็อคที่ชื่อ การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่
ผมเห็นว่า มีข้อสงสัยและความเห็นของบางท่านน่าจะเอามาบันทึกไว้เป็นบล็อคใหม่

เพราะอาจจะเป็นประโยชน์ กับบางท่านที่สงสัยอย่างเดียวกัน

ท่านแรกคุณน้ำผึ้งมะนาวโซดาบอกว่า..
กำลังสงสัยว่าเวลาอารมณ์ร้าย โกรธแรงนี่
จะมีเวลาได้สติ ขีดปากกาลงบนกระดาษไหม

ขีดแรกๆอาจจะหลังจากที่โมโหอยู่นาน
ขีดหลังๆอาจจะขีดได้เร็วขึ้น
ถ้ารู้ตัวเร็วก็คงดีนะคะ


ตอบ... คุณเข้าใจถูกแล้วครับ
ที่จริงการที่จิตมันมีอาการโกรธ
เพราะโดนอะไรกระทบมาก็ตาม
มันเป็นการหลงไปอย่างหนึ่ง

พระรูปนึงท่านเคยบอกผมว่า
มนุษย์เราส่วนมาก.. หลงกันทั้งชีวิต

ตื่นแต่ตัว แต่ใจหลง หลงแบบเดียวกับที่เราฝันตอนหลับนั่นแหละ

ฉะนั้น ครั้งแรกที่เริ่มทำความรู้สึกตัว
มันอาจจะช้าหน่อย แต่เชื่อเถอะครับว่า
ดีกว่าทั้งชีวิตไม่เคยตื่นเลย

ขีดแรก ที่ขีด อาจจะหลังจากโกรธไปแล้วชั่วโมงนึง
ขีดต่อๆมาจะสั้นลงเรื่อยๆ ตามความรู้สึกตัวที่เพิ่มขึ้น

อีกหน่อยหัดจนชำนิชำนาญ
โกรธแว๊บ ก็ขีดได้ ก็ได้สติหายโกรธแว๊บนึง
แล้วได้ยินเขาพูดต่อ โกรธอีกแว๊บก็ขีดได้อีก

จะเห็นว่าความโกรธก็เป็นแค่สภาวะอันหนึ่ง ที่จิตไปรู้เข้า
สติ หรือความรู้สึกตัว ก็เป็นแค่สภาวะอีกอันนึงที่จิตทำงาน

เหมือนกันตรงที่มันไม่เที่ยง ไม่คงที่ ถาวร เกิดแล้วดับไปเหมือนกัน

ต่างกันตรงที่อันนึงเป็นอกุศล อีกอันเป็นกุศล เท่านั้นเอง

คนที่ทำไประยะหนึ่ง พอสติตัวจริงเริ่มเกิด
จะเห็นว่า จิตตัวที่ไปรู้ความโกรธ
กับจิตที่โกรธอยู่ เป็นคนละดวงกัน
มันแยกกันอยู่คนละส่วน ให้เราเห็นต่อหน้าต่อตานั่นแหละ

แล้วเวลามีจิตตัวที่ไปรู้ความโกรธเกิดขึ้น
ไอ้จิตที่กำลังโกรธอยู่ มันจะดับไปได้เองโดยอัตโนมัติ

แต่เงื่อนไขคือ จิตตัวที่ไปรู้ ต้องไม่มีความอยากดับความโกรธเจืออยู่

เพราะถ้ามีความอยากเจืออยู่ จิตผู้รู้มันก็ไม่เป็นกลาง
เมื่อไม่เป็นกลาง สติตัวจริง ก็ยังไม่เกิด
เมือสติยังไม่เกิด ความหลง(ไปโกรธ) ก็ยังไม่สิ้นไป

เพราะมีกิเลส(ความอยาก) ตัวใหม่แทรกตัวขึ้นมาแทน

สรุปว่า.. ถ้ารู้ตัวเร็วคงดีจริงๆด้วยครับ
แต่ประเด็นคือ "อยากรู้ตัวเร็วๆ" ก็ผิดแล้วนะครับ

รายต่อมา น้องสาวชื่ออริทสุมีมูน เธอบอกว่า

จากบล็อคครั้งที่แล้ว หนูก็พยายามฝึกอยู่เรื่อยๆค่ะ แต่ว่า..แหะๆ
สักพักนึงหายรู้ตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
คงต้องฝึกกันบ่อยๆเนอะ

เรื่องกระดาษขีดความโกรธ ... ใช่เรื่องที่เคยลงในนิตยสารธรรมมะใกล้ตัวรึเปล่าคะ ? รู้สึกคุ้นๆเหมือนกัน

ปล* ถ้ารู้ได้ หนูคิดว่าน่าจะอารมณ์ประมาณ ... รู้แจ้ง อะไรอย่างนั้นใช่รึเปล่าคะ ?
แต่ก็งงๆอ่ะค่ะ แหะๆ


คุณน้องอริทฯ...

ความรู้สึกตัวเอง ก็เป็นสภาวะที่ไม่เที่ยง ไม่ถาวร
เกิดขึ้นมา แล้วก็ดับไปเหมือนกันนะครับ

ฉะนั้น ที่เห็นว่าเรารู้สึกตัวขึ้น แล้วมันหายไปน่ะ
ถูกแล้ว ดีแล้ว

ถ้ารู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว เห็นว่ามันคาอยู่อย่างนั้น ไม่หายไปเลย
อันนั้นน่าเป็นห่วงมาก ให้มาบอกพี่ด่วน แปลว่าทำอะไรผิดสักอย่างชัวร์

เราฝึกวิปัสสนากัน ไม่ได้เพื่อให้เกิดความรู้สึกตัวตลอดเวลานะครับ
พระท่านบอกว่าให้มีสติอยู่"เนืองๆ" คือบ่อยๆ ไม่ใช่ตลอดเวลา..

อาจารย์พี่ สอนหลักไว้ข้อนึงว่า.. (รู้ว่า)หลงบ่อยน่ะดี
แต่ถ้าหลงนาน.. ไม่ดีละ

ฉะนั้น ถ้าวันนึงเห็นว่ามันหลงไป เผลอไปคิดโน่นคิดนี่ บ่อยๆ
อันนั้นแปลว่า วันนั้นปฏิบัติได้ดีแล้ว ก็ทำแบบเดิมต่อไปนั่นแหละ

อย่าไปคิดมาก.. อริทฯ เป็นเด็กช่างคิด คิดมาก
ดูตัวนี้แหละเหมาะ หลงไปคิดเมื่อไหร่ให้ "รู้ลูกเดียว"

รู้แค่ว่าจิตมันวิ่งแว๊บบบบบบ ไปทำงาน ไปคิด ไปนึก ไปปรุงแต่ง
ไม่ต้องสนใจว่า มันจะคิดดี คิดไม่ดี เอาแค่ รู้ว่าคิด

สมัยพี่หัดตามรู้ความคิดตัวเองใหม่ๆ พอรู้ปุ๊บ ความคิดขาดปั๊บ
พอขาดปั๊บ จิตมันคิดต่อเลยว่า "เอ๊ะ.. ตกลงนี่เรารู้ตัวแล้วจริงๆเหรอ"

5555555 ไอ้ตัวหลังนี่ โดนมันหลอกให้เราคิดต่อน่ะ จิตมันฉลาดกว่าเราเยอะ

ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องตกใจ แค่รู้ทันจิตตัวใหม่ที่มันคิดสงสัย
ความสงสัยก็เป็นอีกสภาวะนึงที่เกิดขึ้น แล้วก็จะดับไปเหมือนกัน

- กระดาษขีดความโกรธเขียนโดยหมอท็อป ลงในวารสารธรรมะใกล้ตัวถูกแล้วครับ

- ถ้าเราเชื่อว่าเวลาชั่วกาลปวสาน ประกอบด้วยการสืบเนื่องกันของเวลาคราวละเสี้ยววินาที

ถ้าเราสามารถรู้สึกตัวขึ้นมาได้คราวนึง เราก็ตื่นขึ้นมาหนึ่งในเศษเสี้ยว ของวินาที

จะเรียกว่ารู้แจ้งไหม ก็รู้สึกตัวไว้บ่อยๆ ก็แล้วกัน
แล้วอริทฯ จะเห็นได้เอง ว่าคำตอบที่อริทฯ เคยค้นหามานาน
มันอยู่ต่อหน้าต่อตาเรานี่เอง

วันไหนทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็อย่าคิดมาก พยายามฝึกไป
มันจะเหมือนหัดขี่จักรยาน หัดว่ายน้ำ ถ้ามัวแต่คิดมาก ก็ไม่เป็นสักที

หัดไปเถอะ เซบ้าง ล้มบ้าง ก็ลุกใหม่ เดี๋ยวก็ขี่เป็นขี่คล่อง
อาจจะกินน้ำไปหลายอึก กว่าจะเริ่มต๋อมแต๋มได้ แต่เดี๋ยวก็เป็น

ส่วนมากที่ว่ายน้ำไม่เป็น เพราะกลัวจม นั่นแหละ มันถึงจม

คุณยาเขียว สงสัยที่ผมเขียนว่า สิ่งที่เราคิดว่ามันคือ ตัวเรา
ที่จริงแล้วมันไม่มี

อธิบายไปแล้วคุณอาจจะไม่หมดความสงสัยได้ จนกว่าคุณจะเห็นเองจริงๆ

หรือยิ่งอธิบายเป็นทฤษฎี คุณอาจจะยิ่งงงมากขึ้น

เอาเป็นว่า พระพุทธเจ้าท่านเฉลยไว้บอกว่า

"ตัวเรา" ไม่เคยมีในอดีต ไม่มีในปัจจุบัน
มีแต่ความหลงผิดว่ามี "ตัวเรา" อยู่

เราหัดเจริญวิปัสสนา ก็ไม่ได้เพื่อละ "ตัวเรา" นะ
แต่เพื่อละ "ความหลงผิดว่า ตัวเรามีอยู่"

ยกตัวอย่าง พวกติดยาบ้าจนประสาทหลอน
คิดว่ามีคนๆนึง คอยตามฆ่าเขาตลอดเวลา

จะรักษาคนๆนี้ ไม่ใช่ไปช่วยให้เขาหนีคนที่มาตามฆ่าพ้น

แต่ต้องรักษาเหตุที่ทำให้เขาเข้าใจผิด ว่าไอ้หมอนั่นมันมีอยู่

อันนี้เข้าใจไหมครับ

เอาเท่านี้ก่อนนะครับ



Create Date : 07 กรกฎาคม 2550
Last Update : 7 กรกฎาคม 2550 10:03:17 น. 10 comments
Counter : 536 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะพี่เอ๊ด @^_^@





คนเรายังมาขึ้นบล๊อคใหม่อีก
10 โมงกว่าแล้ว ไปทำงานได้แล้วค่ะ
เดี๊ยวจะไปสายนะ

เถลไถลๆๆๆๆๆ


emo


โดย: Kimi o ai X eru วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:31:40 น.  

 
วันนี้ขอให้คุณพบสิ่งดีๆในวันดีๆ

วันเสาร์ที่ 07/07/2007นะคะemoemo


โดย: เพียงแค่เหงา วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:10:09 น.  

 
งั้นเดี๋ยวต้องหาปากกาหัวใหญ่ๆ
กับกระดาษหนาๆมาขีดๆระบายอารมณ์ซะแล้ว
ช่วงนี้ยิ่งอารมณ์กระเจิงบ่อยๆด้วยสิ

มีความสุขในวันเสาร์ครับ


โดย: Dr.Manta วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:12:14 น.  

 
บลอคที่แล้วผมก็เข้าไปอ่านมา
แต่ลืมกลับมาคอมเม้นท์ครับ
แต่ในบลอคนั้นจริงๆก็ไม่รู้จคอมเม้นท์อะไรเหมือนกัน ^ ^'
นอกจากบอกว่าอ่านแล้วได้แง่คิดดี
เหมือนบลอคนี้เช่นเดียวกันครับ

แต่เพราะไม่ค่อยได้อ่านหนังสือธรรมะ
เลยอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจในแบบที่ตัวเองคุ้นเคยเท่าไหร่
ที่ผ่านมาคิดว่าตัวเองก็เป็นคนอารมณ์เย็น ไม่ค่อยโกรธง่ายนะครับ
ที่เป็นแบบนี้คิดแค่ว่า การอารมณ์เย็นเนี่ยะมันเป็นสิ่งที่เราควรเลือกนี่นา
อารมณ์เย็นดีกว่าอารมณ์ร้อนเราก็รู้
ไม่เห็นจะยากเลยที่จะเลือกว่าควรเป็นแบบไหน
เมื่อมันมีเหตุผลดีๆแล้ว เราก็เลือกสิ่งที่ดีให้ตัวเองก็เท่านั้นเอง
เล่าให้คุณแอสตันฟังครับ ว่าผมมักใช้วิธีนี้ในการสอนตัวเอง ^ ^
ตบท้ายด้วยคำคมที่ชอบละกันครับ


"งานหลายชิ้นสำเร็จได้ด้วยใจเย็น ฉันใด
งานหลายชิ้นก็ล้มเหลวลงได้ด้วยใจร้อน ฉันนั้น"


โดย: อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:26:43 น.  

 
กำลังพยายามรู้ตัว รู้ใจตัวเองอยู่ครับ
ตอนนี้กำลังผิดหวัง เลยมีแต่ความผิดหวังให้รู้เสียเป็นส่วนใหญ่
ขอให้เจริญในทางธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ ..


โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:50:15 น.  

 
พอจะเข้าใจขึ้นนิดหน่อยแล้วค่ะ
ขอบคุณนะคะ
ทำบล็อคให้อ่าน ยังช่วยอธิบายข้อสงสัยต่างๆด้วย อนุโมธนานะคะ


โดย: ยาเขียว IP: 222.123.158.2 วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:52:36 น.  

 
แต่ละวัน พี่ขีดไปหลายหน้าอยู่เด๊


โดย: ฟ้าคงสั่งมา วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:40:14 น.  

 
ตามมาอ่านเพิ่มตรงนี้อีกที
อ่านแล้วก็เข้าใจมากขึ้น...
...เข้าใจแล้วต้องค่อยๆทำไปเรื่อยๆด้วย

ตรงนี้แหละที่ไม่ง่ายเท่าไหร่ค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:45:39 น.  

 
คุณฮันนี่เลมอน..

เวลาปฏิบัติ.. โยนความเข้าใจด้วยความคิดของคุณทิ้งไปก่อน

ทำหัวว่างๆ อย่าไปทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว
ชนิดที่เดินดูสวนสัตว์แล้วกางคู่มือประกอบไปด้วย

ไม่ต้องสนใจว่า ไอ้ตัวนี้ เขาจะเรียกอะไร
ไม่ต้องสนใจว่า เราจะเห็นถูกไหม

อย่าไปคิดว่า มันจะต้องเป็นยังไง
มากไปกว่าที่มันเป็นจริงๆ ตามธรรมชาติ

เราต้องการเห็นความจริงว่า
จิตมันไม่เที่ยง มันไม่คงที่ มันบังคับไม่ได้ ไม่ใช่ตัวเรา

จะรู้ จะเห็นได้อย่างนั้น ก็ต้องดูอย่างนั้นซ้ำๆกันไปเรื่อยๆ

ดูนะ.. ไม่ใช่คิดเอา

คิดเมื่อไหร่ ก็ไม่รู้
เวลารู้ เราจะไม่คิด เพราะคิดไม่ได้

แต่ถ้ารู้ว่าคิด .. อันนั้นคือจุดเริ่มของการปฏิบัติครับ



โดย: aston27 วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:54:54 น.  

 
เพิ่งจะมาเห็นข้างบนนี้ค่ะ


อ่านแล้วเห็นภาพตัวเองเดินท่อมๆ กางคู่มือดูสิงห์สาราสัตว์

ขอบคุณนะคะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:13:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.