Group Blog
 
All blogs
 
ตอบคำถาม: ทางแยกของชีวิต



มีคำถามจากลูกกตัญญูมา น่าสนใจทีเดียว
แต่ผมเพิ่งอัพบล็อกใหม่ไป จะเอาไปไว้ในหน้ารวมก็กระไรอยู่
เลยขอขึ้นบล็อกใหม่ แต่เก็บไว้ในหมวดคำถามนี้นะครับ

ชีวิตมาถึงทางแยกที่ต้องตัดสินใจค่ะ
เพิ่งเรียนจบและอยากเติบโตในสายงานสื่อสารมวลชน ซึ่งถ้าทำงานในกทม.คิดว่าน่าจะมีโอกาสที่ดีกว่า (ทำงานในกทม.มา 5 ปีแล้ว) แต่เนื่องจากเป็นคนต่างจังหวัดพอเรียนจบ พ่อแม่คาดหวังให้กลับไปทำงานที่บ้านเกิด ไปรับราชการ หรืออาชีพที่มั่นคงยามแก่เฒ่า เพราะที่บ้านรับราชการกันหมด และอยากให้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว แต่ดิฉันไม่อยากรับราชการ แต่ในใจก็อดห่วงบุพการีไม่ได้ เพราะอายุใกล้เกษียณกันแล้ว คุณแอสตันคิดว่าคนเราควรเลือกเดินตามความฝัน หรือว่าควรรับผิดชอบหน้าที่ของการเป็นลูกที่ดีดีค่ะ ถ้าเลือกทำความฝัน ก็รู้สึกอกตัญญูเหมือนไม่ได้อยู่ดูแลท่าน แต่ถ้าตัดสินใจรับราชการ ก็คงไม่มีความสุขเพราะใจมันไม่อยากทำ ชีวิตเป็นเรื่องยากจังนะคะ รู้สึกว่ามันไม่มีความพอดีเลย

โดย: แพม วันที่: 5 มิถุนายน 2552


เป็นโจทย์ชีวิตที่ยากทีเดียวนะครับ

เวลาเจอโจทย์ยากๆ ผมจะแนะนำให้วางปัญหาไว้ แล้วถอยออกมายืนเป็นคนนอก
เหมือนเป็นปัญหาของเพื่อนคุณ แล้วลองดูว่าคุณจะแนะนำเขาว่าอย่างไร

บ่อยครั้งที่คนเราแก้ปัญหาอะไรไม่ตก เพราะเรายึดติดกับปัญหา เราคลุกวงใน
เคยมีคนบอกว่า พวกที่ปรึกษา consultant ที่มักจะแนะนำอะไรได้ดีๆ
ไม่ใช่เพราะเขาฉลาดรอบรู้อะไรมาก แต่เพราะการตัดสินใจเขา
มันไม่ต้องมีเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยว เช่นคนนี้น่าสงสาร คนนั้นเหมือนน้อง

ผมรู้จักผู้จัดการคนหนึ่ง ที่เขามีลูกน้องที่ทำงานต่ำกว่ามาตรฐานตำแหน่งเงินเดือน
ทำงานผิดพลาดบ่อย ไม่เป็นที่เชื่อถือของทีมที่ทำงานด้วย ฯลฯ
แต่เขาไล่ลูกน้องคนนี้ออกไม่ได้ เพราะมีลูกอ่อนสองคน

แต่พอมีที่ปรึกษามา เขาดู performance แล้วฟันธงได้ว่า ต้องเปลี่ยนอย่างนี้ๆๆ
เพราะพวกนี้ เขาไม่ได้เป็น "ตัวเรา" "พวกเรา" ไม่มีเรื่องอารมณ์มาเกี่ยวกับเหตุผลไงครับ

เวลาที่มันมีความเป็นตัวตน หรืออัตตาโผล่ขึ้นมา
การแก้ปัญหามันจะมีอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล
บางทีรู้คำตอบ ว่าควรจะเป็นยังไง แต่ก็ไม่กล้าตัดสินใจ

มีหลายคนที่เคยมาขอคำปรึกษาจากผม ผมอ่านดูก็พอรู้
ว่าเขารู้แหละ ว่าควรจะตัดสินใจอย่างไร แต่ใจไม่ถึง
เพราะพอรู้สึกว่า อันนี้เป็นตัวเรา มันจะมีความกังวลมากกว่าคนนอก

ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะดูปัจจัยหลายอย่างประกอบ
เช่น คุณพ่อคุณแม่ลำบากไหม ถ้าเราไม่ได้อยู่ใกล้
หรือถ้าท่านเจ็บป่วย ไม่มีคนดูแล ก็ต้องมาดูว่า
งานที่เราอยากทำ มันทำที่ต่างจังหวัดได้ไหม

ถ้าพ่อแม่ ท่านอยู่สุขสบายดี มีคนดูแล
ถึงคุณจะไม่ได้อยู่ด้วยทุกวัน ก็เอาใจใส่ดูแล ไถ่ถามทุกข์สุขได้

ผมมีน้องหลายคนที่พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัด แต่ก็โทรคุยกันทุกวัน
ถ้ามีอะไรฉุกเฉิน ก็บึ่งไปหาได้ และเป็นลูกที่ผมรู้สึกได้ว่า เธอกตัญญูมาก

ผมว่าการเป็นลูกที่ดี ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแต่ว่า
ต้องอยู่บ้านเดียวกัน ตำบลเดียวกันกับพ่อแม่

บางทีการทำงานด้วยความซื่อสัตย์ มานะ บากบั่น
มีชีวิตบนหลักธรรม เป็นคนมีศีล มีธรรม ทำทาน ภาวนา
ก็ถือเป็นการทำหน้าที่ลูกที่ดีอย่างหนึ่ง

บางคนอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ แต่ทำตัวเหมือนลูกเวรตะไล
ก็ไม่ได้ใกล้เคียงการเป็นลูกกตัญญูตรงไหน

ชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อนในบางครั้ง แต่จะพอดี หรือไม่พอดี
มันขึ้นกับว่าเรา "พอ" ที่ตรงไหน

ถ้า "พอ" เมื่อไหร่ มันก็ "ดี" ตรงนั้นแหละครับ



Create Date : 09 มิถุนายน 2552
Last Update : 9 มิถุนายน 2552 17:42:09 น. 12 comments
Counter : 1075 Pageviews.

 
ขอบคุณมากๆ เลยค่ะสำหรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ อ่านแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมากเลยค่ะ
หลังจากที่นั่งเป็นทุกข์อยู่นานหลายสัปดาห์
(จริงๆ แล้วเข้ามาดูและลุ้นทุกวันเลยค่ะว่าเมื่อไหร่ คุณแอสตันจะอัพบล็อกเสียที ^-^)
ขอบคุณมากนะคะ


โดย: แพม IP: 118.174.187.235 วันที่: 9 มิถุนายน 2552 เวลา:23:42:45 น.  

 
"ชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อนในบางครั้ง แต่จะพอดี หรือไม่พอดี
มันขึ้นกับว่าเรา "พอ" ที่ตรงไหน"

นั่นสินะคะ ^^


ขอให้คุณแพมเลือกทางที่พอเหมาะกับตัวเองได้นะคะ :)


โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.39.202 วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:22:37:02 น.  

 
กำลังกลุ้มเรื่องคล้ายๆกันเลยค่ะ
ต่างกันที่ตรงตัวเลือกเท่านั้น

หนูจะลองเอาวิธีแก้ปัญหานี้ไปใช้บ้างค่ะ
ขอบคุณสำหรับบล็อคดีๆนะคะ ขอให้คุณแพมเลือกทางที่เหมาะกับตัวเองได้เช่นกันค่ะ

ปล* ประโยค "บางคนอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ แต่ทำตัวเหมือนลูกเวรตะไล
ก็ไม่ได้ใกล้เคียงการเป็นลูกกตัญญูตรงไหน"
^
^
อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ ^^"


โดย: aritsumemoon IP: 124.121.221.151 วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:2:51:51 น.  

 

ขออนุญาติถามความเห็นคุณแอสตันในหน้านี้เลยได้ไหมคะ
ตอนนี้รู้สึกเป็นทุกข์มาก เพราะพ่อที่เคยแข็งแรงสุขภาพดีตลอด กลัีบตรวจเจอเป็นโรคร้าย
มะเร็งปอดขั้นที่3 ทั้งที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลยด้วยวัย 85 รู้สึกสงสารท่านที่ต้องเจ็บปวดทรมาน
แล้วดิฉันเองก็ย้ายมาทำการค้าที่ต่างจังหวัด
ซึ่งไกลจากบ้าน พ่อแม่อยู่ใกล้กับพี่ๆ น้องๆ แต่ทุกคนมีครอบครัวและงานยุ่งกันเป็นส่วนใหญ่ อยากรับท่านมาอยู่ด้วยเพราะดิฉันมีความพร้อม
ที่จะดูท่านมากกว่าพี่น้อง แต่คนแก่ติดบ้าน ติด
สภาพแวดล้อมเพื่อนฝูง เลยไม่อยากมา ช่วยกัน
เกลี้ยกล่อมให้มาก็อดคิดไม่ได้ว่ามาอยู่ทางนี้ท่านคงจะเหงาเพราะลูกหลานอยู่ทางโน้นหมด
หรือดิฉันจะย้ายกลับไปอยู่บ้านไปดูแลพ่อแม่
ก็ติดว่าลงทุนทำร้านโดยให้พี่สาวทำกู้แบงค์ให้
ก็มากมาย กิจการก็เจริญเติบโตไปได้ คิดไปดิฉันก็เหมือนคนบาปในยามนี้ยังห่วงเรื่องเงินทองอีก เป็นทุกข์เมื่อคิดถึงตอนเค้าเจ็บปวด นั่งร้องให้สงสารท่าน แต่ช่วยอะไรให้หายเจ็บไม่ได้ เป็นทุกข์เหลือเกิน




โดย: meang IP: 118.172.96.4 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:38:50 น.  

 
คุณ Meangครับ

ปัญหากับทุกข์ เป็นคนละส่วนกันนะครับ

พ่อไม่สบาย เป็นปัญหา
เราทำงานต่างจังหวัดไปดูแลไม่ได้ เป็นปัญหา

แต่ถ้าเราแก้ปัญหาไม่ได้ แล้วไม่ยอมรับว่ามันแก้ไม่ได้ อันนี้ถึงจะทุกข์

ประโยชน์ของการเข้าใจเรื่องปัญหา กับทุกข์เป็นคนละส่วนกัน คือมันจะทำให้เราเห็นว่า

ปัญหา ไม่ใช่ทุกข์ แต่ทุกข์ อาจจะเป็นปัญหาได้
ฉะนั้น เราจะทุกข์มากเท่าไหร่ ก็ไม่ช่วยให้ปัญหาลดลง

ปัญหาจะลดลง ด้วยสองเหตุ คือหนึ่ง แก้ปัญหาซะ
สอง ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ต้องยอมรับให้ได้ ว่ามีข้อจำกัดอะไร

เพราะถ้าไม่ยอมรับ แล้วทุรนทุราย ถามว่า พ่อจะหายป่วยไหม .. ไม่นะครับ ไม่เกี่ยวกัน

สิ่งที่ควรถามตัวเองคือ เราทำอะไรได้บ้าง กับปัญหานี้
ถ้าเป็นผม ผมจะดูว่า ผมปิดร้านไปดูแลพ่อแล้ว ผมจะเดือดร้อนไหม
ถ้าทำแล้วเป็นหนี้เป็นสิน ก็คงไม่ทำ แต่จะหาวิธีอื่นเช่น ปลีกเวลาไปเยี่ยม ไปดูแลท่านบ้าง
ไปเองไมได้ ก็โทรไปเยี่ยมเอา

หรือถ้าย้ายร้าน ไปเปิดที่จังหวัดที่พ่ออยู่ได้ ก็ทำ ฯลฯ

แต่ที่แน่ๆ ผมจะมีสติ ไม่คร่ำครวญ ไม่ฟูมฟาย เพราะมันไม่ช่วยให้อาการของพ่อดีขึ้น

ขออภัยที่ตอบช้าหน่อยนะครับ



โดย: aston27 วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:11:58 น.  

 
ชีวิตไม่สิ้นก้อดิ้นกันต่อไปนะคะ


โดย: แอ IP: 124.120.98.150 วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:56:00 น.  

 
ชอบคำตอบของคุณแอสตันจัง ^^
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆ ทุกครั้ง
ขอบคุณที่สร้างบล็อกดีๆ มาให้ได้อ่านกัน
เอาใจช่วยคุณ meang นะคะ




โดย: แพม IP: 124.122.169.143 วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:13:39 น.  

 
ถ้า "พอ" เมื่อไหร่ มันก็ "ดี" ตรงนั้นแหละ

ชอบคำนี้ค่ะ ในแง่มุมของเค้านะตัว

ความสุขใจที่แท้จริงนั้นไม่ได้อยู่ที่การมีทุกสิ่ง

แต่อยู่ที่การพอใจทุกสิ่งที่คุณมี

ทัศนคติเดียวกันใช้ได้เสมอเลย


โดย: กบนอกกะลา+coffeemania วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:21:35:37 น.  

 
ฝากคำถามค่ะพี่

เคยอีเมลล์ไปโดยตรง เพราะหาที่ add คำถามไม่เจอ เจอแล้ว ลุยเลยแล้วกัน

ติดตาม blog ของพี่มาตลอดค่ะ รวมทั้งผลงานทั้งสองเล่มด้วย
มีคำถามเกี่ยวกับการภาวนาแล้วก็คำถามเกี่ยวกับชีวิตค่ะ ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจาก คนอื่นๆที่เข้ามาถามมากนัก

อันแรกก็คือ ฝึกภาวนา ทั้งตามรูปแบบ และทั้งดูจิตมาเรื่อยๆค่ะ เรียกว่า เรื่อยๆซะจน หาหลักไมล์ไม่เจอว่า นี่เรามีความเจริญทางธรรมบ้างมั๊ย

เลยอยากถามว่า พี่วางแผนการภาวนาและมีการประเมินผลให้ตัวเองยังไงคะ ถามว่าทุกข์น้อยลงมั๊ย ก็บ้างค่ะ แต่บางครั้งมันก็ถาโถมขึ้นมาอีกค่ะ

สรุปว่า เราจะประเมินผลยังไงดีคะ

อันที่สองคำถามยอดฮิตของหนุ่มสาว ชายไม่จริงหญิงแท้ค่ะ คือว่า สนิทกับเพื่อนเกย์รุ่นพี่คนนึงค่ะ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนกลายเป็นความเคยชิน แล้วก็ยึดติดค่ะ แล้วเค้าก็มีรูปแบบชีวิตที่เราชื่นชมค่ะ อยากมีบ้าง เค้าก็ปฏิบัติธรรม ดึงเราให้สนใจทางนี้ด้วย เหมือนเรายึดเค้าเป็น role model ในเรื่องนี้ค่ะ แล้วเค้าก็มักจะพูดเสมอว่า รักแล้วทุกข์ อย่างงั้นอย่างงี้ ทำให้เราคิดว่าเค้าคงจะไม่มีใคร เราก็เป็นเพื่อนช่วยเหลือกันไป ไปไหน ไปกันอย่างนี้ค่ะ สักพัก อ่าว มาบอกว่า ชั้นมีเด็กมาจีบ ตอนนี้ ก็ไปกันได้ดี เด็กก็ติดเค้ามาก เราก็รู้สึก hurt ค่ะ โอยยย ไม่ต้องละเอียดมากดีกว่าค่ะ พอดีกำลังเจ็บนิ้ว พิมพ์ไม่ค่อยสะดวก

สรุปก็คือว่า เห็นกิเลสตัวเองเยอะมากค่ะ เสียใจ น้อยใจ หงุดหงิด อิจฉา ก็ดูกันไปค่ะ แต่ตอนนี้ที่แย่ไปกว่า ก็คือ จิตค่ะ จิตมันอกุศลอย่างแรงค่ะ มันแอบคิดให้เค้าเลิกกันค่ะ คิดเฉยๆค่ะ ไม่มี acting ยุยงอะไรทั้งสิ้น แหมแต่รับตัวเองไม่ได้เลยค่ะที่ไปคิดแบบนี้ เอาไงดีค่ะพี่

ตอบทางไหนก็ได้ค่ะ ติดตามพี่ทุกช่องทางเลยค่ะ

aristoPLE


โดย: aristoPLE IP: 192.168.100.119, 192.168.100.119, 127.0.0.1, 203.121.135.141 วันที่: 20 ตุลาคม 2552 เวลา:9:34:47 น.  

 
สวัสดดีค่ะ


โดย: อยากปล่อยวางได้บ้าง IP: 111.84.12.78 วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:10:26:46 น.  

 
ชอบจังค่ะ

...ถ้า "พอ" เมื่อไหร่ มันก็ "ดี" เมื่อนั้น


โดย: jinny IP: 10.2.6.106, 58.137.199.121 วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:27:42 น.  

 
ชอบมากเลยค่ะ


โดย: เนิส IP: 223.205.172.55 วันที่: 23 ตุลาคม 2553 เวลา:14:48:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aston27
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]




คนรู้ไม่คิด คนคิดไม่รู้
New Comments
Friends' blogs
[Add aston27's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.