กระจกพันธุ์อึดบางเฉียบน้ำหนักเบาที่ได้รับความนิยมบนสมาร์ทโฟนหลากรุ่นอย่าง กอริลลา กลาส (Gorilla Glass) กำลังเตรียมพร้อมแจ้งเกิดบนรถยนต์ โดยฟอร์ด (Ford) จะเป็นค่ายรถแรก ที่เริ่มวางจำหน่ายรถที่ใช้กระจกหน้า และหลังเป็นกอริลลา กลาสช่วงปีหน้า ตามหลังบีเอ็มดับบลิว (BMW) ที่ใช้กอริลลา กลาสตกแต่งภายใน แล้ววางจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปีก่อน กอริลลา กลาสนั้นเป็นแบรนด์กระจกหน้าจอของบริษัทคอร์นิ่ง (Corning Inc.) ที่สมาร์ทโฟนระดับโลกของแอปเปิลอย่างไอโฟน (iPhone) และสินค้ากลุ่มแกแล็กซี่ (Galaxy) ของซัมซุงเลือกใช้ โดยที่ผ่านมา แบรนด์กอริลลา กลาส ถูกใช้การันตีกับผู้บริโภคในระดับหนึ่งว่า หน้าจอของสมาร์ทโฟนจะไม่ปรากฏรอยขีดข่วนได้ง่ายเหมือนกระจกทั่วไป ขณะเดียวกัน ก็ทนทานต่อการกระแทกในกรณีที่ผู้ใช้ทำสมาร์ทโฟนตกหล่น หลังจากถูกใช้ในโทรศัพท์มือถือหลายพันล้านเครื่อง กอริลลา กลาสกำลังจะถูกผู้ผลิตรถยนต์นำมาประยุกต์ใช้เพื่อลดน้ำหนักรถ ซึ่งจะทำให้ช่วยประหยัดน้ำมัน และเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนตัว โดยปีที่แล้ว BMW คือรายแรกที่วางจำหน่ายรถสปอร์ต ไฮบริด ซึ่งใช้กระจกกอริลลา กลาสตกแต่งภายในรถ i8 ขณะที่ปีหน้า ฟอร์ด จะเป็นรายแรกที่ใช้กอริลลา กลาสเป็นกระจกหน้า และหลังในรถรุ่น Ford GT ไม่เพียงกระจกหน้า และหลังรถสปอร์ตใหม่ Ford GT ยังใช้กอริลลา กลาสเป็นวัสดุคลุมเครื่องยนต์ คาดว่าจะสามารถสร้างจุดขายให้รถรุ่นนี้ทันทีที่วางจำหน่ายในปีหน้า ฟอร์ด ระบุว่า พัฒนาการขั้นนี้ถือนวัตกรรมล่าสุดที่เกิดบนกระจกของรถฟอร์ดนับตั้งแต่ปี 1923 โดยปีดังกล่าว เฮนรี่ ฟอร์ด (Henry Ford) เริ่มนำกระจกป้องกันการแตกเป็นเสี่ยง หรือ shatter-resistant glass มาใช้กับรถรุ่น Model T โดยปัจจุบัน กระจกหน้ารถมักถูกสร้างจากกระจก และพลาสติกเชื่อมกัน 2 ชั้น ทำให้กระจกเกิดรอยร้าวในรูปใยแมงมุมเมื่อแตก และเกล็ดของกระจกจะไม่มีคมจนทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สำหรับการนำจอกอริลลา กลาสมาใช้ในรถยนต์ รายงานระบุว่า จะมีการพัฒนาทางเคมีให้กอริลลา กลาสยกระดับความแข็งแกร่งจนสามารถนำมาใช้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ ความบาง และเบากว่ากระจกทั่วไป จะช่วยให้กระจกหน้ารถที่ทำจากกอริลลา กลาสมีน้ำหนักเบากว่าเดิม 32% ซึ่งจะช่วยให้รถสามารถวิ่งได้เร็ว และประหยัดพลังงาน รายงาน ระบุว่า กอริลลา กลาสเกรดรถยนต์นี้ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของสหรัฐอเมริกาแล้ว และเริ่มอยู่ในช่วงการทดสอบของเหล่าผู้ผลิตรถยนต์ เพื่อวัดระดับแรงต้านลม รวมถึงการนำไปใช้งานจริงบนถนน จุดนี้ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่โลกจะได้เห็นรถยนต์ที่ใช้กระจกกอริลลา กลาสมากขึ้นในช่วงปี 2016
|