เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
14 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
Umenohana Winter Menu 2015 : ZUWAI (SNOW CRAB) NABE

ชื่อร้าน : Umenohana
รายการอาหาร : อาหารญี่ปุ่น
เวลาเปิดบริการ : 11.00 – 15.00 น. และ 18.00 – 23.00 น.
ที่ตั้งร้าน : ชั้น 2 Nihonmura Mall ซอยทองหล่อ 13 แขวงคลองตันเหนือ, กรุงเทพมหานคร วัฒนา Thailand
พิกัด GPS : 13° 44' 3.09" N 100° 34' 46.97" E








ตอนนี้แม้บ้านเราจะพูดว่าเริ่มต้นหน้าหนาวได้ไม่เต็มปากเต็มคำเท่าไร แต่ช่วงนี้ก็เริ่มรับรู้ถึงลมหนาวในตอนเช้าได้บ้าง แต่สำหรับที่ญี่ปุ่นนั้น เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวเมื่อไร มักจะนิยมทานปูสึวาอิ ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่ต้องไปทานไกลถึงญี่ปุ่นเพราะที่ร้าน Umenohana ร้านอาหารญี่ปุ่นสูตรต้นตำหรับที่มีชื่อเสียงจากประเทศญี่ปุ่นได้นำเข้าวัตถุดิบชั้นดีจากญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นเนื้อปูสึวาอิสด (Snow Crab) ซึ่งชาวญี่ปุ่นมักจะนิยมนำมาทำเป็นเมนูนาเบะ หรือว่าหม้อไฟรับประทานเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นมื้อนี้เลยต้องขอลองเมนูปูสึวาอิดูว่าจะมีรสชาติดีขนาดไหนครับ



สำหรับที่ร้าน Umenohana บรรยากาศอย่างที่เคยรีวิวให้ดูกันบ้างแล้ว ซึ่งที่นี่จะตกแต่งให้บรรยากาศเหมือนนั่งทานที่ญี่ปุ่นจริงๆ โดยมีให้เลือกทั้งห้องที่เป็นส่วนตัว หรือโต๊ะรวมในห้องขนาดไม่ใหญ่เกินไปนัก ทำให้บรรยากาศดูสบายตา ไม่พลุกพล่านจนเกินไป







ไม่ขอพูดถึงบรรยากาศร้านมากนะครับ เอาเป็นว่ามาเริ่มทานอาหารกันเลยดีกว่า ที่นี่เมนูเด่นก็จะเป็นเมนูแบบไคเซกิ (Kaiseki) ซึ่งเป็นวิธีการเสิร์ฟแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยจะเสิร์ฟอาหารทีละจานจนจบคอร์ส เพื่อให้เราได้ลิ้มรสความสดใหม่ของอาหารในทุกๆ จานเสมอ โดยมื้อนี้ขอเลือกคอร์ส “MAI (2,950++)” หรือเซ็ตหม้อไฟปูสึวาอิ



โดยจะเริ่มเสิร์ฟจาก ปลาแซลมอนและอิคุระลนไฟในซอสเปรี้ยว ขนาดเบาๆ ถือว่าเป็นออร์เดิฟ มีทั้งเนื้อปลาแซลมอน, ไข่ปลาแซลมอนและเห็ด รสชาติอร่อยกลมกล่อม



จากนั้นก็ตามมาติดๆ ด้วย โกมะโทฟุ เต้าหู้งาย่างหน้าไข่หอยเม่นสด อร่อยหนึบหนับ เคี้ยวเพลินเลยครับ



ต่อด้วยเมนูปลาดิบ จะเสิร์ฟโทโร่ และ คัมปาจิ อย่างละ 2 ชิ้น ปลาดิบที่นี่สดเนื้อแน่น คุณภาพดี ชิ้นโตเต็มปากเต็มคำดีครับ



ตามมาด้วย ไคเซน โดบินมุชิ เป็นซุปกาปลาไทและกุ้ง น้ำซุปหอมหวานกลมกล่อม ที่มาพร้อมกับปลาไท กุ้งตัวโต และฟองเต้าหู้ อร่อยลื่นคอ



มาถึงเมนูสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อคุณภาพดีจากญี่ปุ่นนั่นก็คือ คุโรเกะวากิว โฮบะยากิ เนื้อคุโรเกะวากิวนุ่มๆ อร่อย เสิร์ฟบนเตาถ่าน มาพร้อมกับซอสมิโซะรสเค็มนิดๆ ช่วยให้เนื้อวากิวอร่อยยิ่งขึ้น



แล้วก็มาถึง Main dish ในคอร์ส MAI นั่นก็คือ หม้อไฟปูสึวาอิ ซึ่งเสิร์ฟในแบบสุกี้ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีปูสึวาอิขนาดใหญ่ พร้อมกับผักต่างๆ และเต้าหู้ โดยพนักงานในร้านจะเป็นคนจัดการในเรื่องของหม้อไฟ ซึ่งจะทยอยเสิร์ฟให้ทีละถ้วย แน่นอนว่าเนื้อปูสึวาอินั้นจะหวาน แน่น อร่อยเต็มคำ สำหรับตัวน้ำซุปนั้นก็หวาน กลมกล่อมจากเนื้อปู โดยไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยครับ ปริมาณที่เสิร์ฟก็ถือว่าจัดเต็ม









หากเราทานเนื้อปูและผักต่างๆ หมดแล้ว พนักงานก็จะเสิร์ฟเป็น โซซึยะ หรือข้าวต้มปูสึวาอิ ต่อทันที ซึ่งก็จะนำข้าวญี่ปุ่นมาต้มในน้ำซุปหม้อไฟปูสึวาอินั่นเอง โดยจะได้ข้าวต้มที่หอมหวานเนื้อปู รับรองว่าอิ่มเต็มที่แน่นอนครับ







แต่ระหว่างที่เราทานหม้อไฟอยู่นั้น ก็จะมีการเสิร์ฟ ปูสึวาอิเทมปุระ โดยจะเป็นขาปูสึวาอิชุปแป้งทอด อร่อยเต็มปากเต็มคำสุดๆ ครับ



จากนั้นก็ปิดท้ายคอร์ส MAI ด้วยของหวาน โมนากะ วาราบิโมจิน้ำเต้าหู้ และไอศกรีมชาเขียว ไอศกรีมชาเขียวกับถั่วแดง พร้อมแป้งโมจิ เสิร์ฟในเวเฟอร์ที่ทำรูปทรงคล้ายแฮมเบอร์เกอร์ อร่อยชื่นใจปิดท้ายคอร์สนี้ได้อย่างอิ่มหนำสำราญสุดๆ ครับ ซึ่งเมนูในคอร์สแต่ละอย่างนั้นจะเสิร์ฟในปริมาณไม่เยอะเกิน ซึ่งจะทำให้สามารถทานได้หลายเมนูตามที่ทยอยเสิร์ฟ โดยแต่ละอย่างรสชาติอร่อย ตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ เลยครับ



ถ้าหากมาทานกับเพื่อนๆ ครอบครัว หรือคนรู้ใจก็สามารถสั่งเมนู A la cart มาทานได้นะครับ ซึ่งแต่ละเมนูก็น่าทานทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Kuruma Ebi Shioyaki (450.-) กุ้งคุรุมะเอบิย่างเกลือ กุ้งตัวโตๆ เนื้อแน่นๆ นำไปย่างคลุกเคล้าด้วยเกลือ ซึ่งก็จะได้รสชาติเค็มนิดๆ เข้ามาตัดกับความหวานของกุ้ง หรือจะเติมความเปรี้ยวนิดๆ ด้วยมะนาวญี่ปุ่น ก็อร่อยเต็มปากเต็มคำเช่นกัน



หรือใครที่ชอบเมนูมากิ ก็สามารถสั่ง Kuruma Ebi Uni Yuba Maki (500.-) เมนูกุ้งทอดที่เพิ่มรสชาติความอร่อยด้วยไข่หอยเม่น ใบโอบะ และพันด้วยฟองเต้าหู้ทอด บีบมะนาวนิดๆ แค่ได้กัดก็ได้ครบทุกรสชาติในหนึ่งคำ รับรองอร่อย กลมกล่อมแน่นอนครับ



นอกจากนี้แล้วยังเอาใจคนที่ชอบเมนูอาหารกลางวัน ด้วยเมนูเซ็ต Special Donburi Lunch ซึ่งเป็นเซ็ตอาหารกลางวันซึ่งเริ่มต้นเพียง 300.- เท่านั้น โดยจะให้บริการเฉพาะวันธรรมดาเท่านั้น อาหารทั้งหมดจะเป็นข้าวหน้าต่างๆ มีให้เลือก 6 หน้าด้วยกัน ซึ่งแต่ละเมนูก็น่าทานทั้งนั้น เช่นเมนูนี้ Buri Sushi (380.-) เป็นข้าวหน้าปลาดิบรวม ที่มาพร้อมกับไข่ปลาแซลมอนและอะโวคาโด โดยในเซ็ตจะเสิร์ฟพร้อมกับ เต้าหู้มิเนโอกะ ที่ท็อปปิ้งด้วยซอสรสหวานอมเปรี้ยวช่วยตัดรสชาติของเต้าหู้ได้ลงตัว ส่วนตัวเต้าหู้เนื้อเนียนนุ่มลิ้นสุดๆ ครับ เป็นเมนู Appetizer เมนูนี้ชอบมากครับ นอกจากนี้ยังมี โซบะเย็น หรือ อินานิวะอุด้ง และของหวานอีก 1 อย่างครับ ใครผ่านไปย่านทองหล่อ หรือชอบเมนูเซ็ตอาหารกลางวันอร่อยๆ ราคาน่าคบ แบบนี้ก็แวะไปลองได้นะครับ รับรองว่าแค่เซ็ตเดียวก็อิ่มเต็มที่แล้วครับ





สำหรับที่ Umenohana นั้นมาทุกครั้ง ก็ประทับใจทุกครั้ง ทั้งการบริการ รสชาติอาหาร และบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกเหมือนทานอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม แนะนำให้แวะมาลองครับ โดยเฉพาะเมนูเต้าหู้ ซึ่งที่นี่มีให้เลือกอร่อยหลายเมนู หลายแบบทีเดียว ส่วนการเดินทางก็ไม่ยากครับ มุ่งหน้ามาที่ซอยทองหล่อ 13 จากนั้นก็ตรงไปยังโครงการ Nihonmura Mall หากเข้ามาจากปากซอยทองหล่อ 13 โครงการนี้จะอยู่ทางขวามือ จากนั้นก็จอดรถใต้ตึกได้เลยครับ




ฝากติดตาม Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง ใน Facebook fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า

ส่วนใครที่เล่น Instagram ก็ เข้าไป Follow ได้ที่ @eatandtraveldiary จ้า


click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary



Create Date : 14 ธันวาคม 2558
Last Update : 14 ธันวาคม 2558 16:52:48 น. 2 comments
Counter : 2426 Pageviews.

 
ชอบด้วยค่าาาา


โดย: Close To Heaven วันที่: 14 ธันวาคม 2558 เวลา:22:48:06 น.  

 
@ Close to heaven : ร้านโปรดเลยครับ คุณบุ้ง


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 16 ธันวาคม 2558 เวลา:15:08:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.