เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
Crave Wine Bar & Restaurant @ Aloft Bangkok ซอยสุขุมวิท 11

ชื่อร้าน : Crave Wine Bar & Restaurant
รายการอาหาร : อาหารนานาชาติ
เวลาเปิดบริการ : Breakfast: 6.30 am - 10.30 am, Lunch: 12.00pm – 3.00pm, Dinner: 6.00 pm – 11.00 pm
ที่ตั้งร้าน : ชั้น 8 โรงแรม Aloft Bangkok ซอยสุขุมวิท 11 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ, กรุงเทพมหานคร วัฒนา Thailand
พิกัด GPS : 13° 44' 39.91" N 100° 33' 23.59" E







Crave Wine Bar & Restaurant @ Aloft Bangkok ซอยสุขุมวิท 11

วันนี้ขอพาเข้าโรงแรมกันซักหน่อยนะครับ ซึ่งโรงแรมนี้ก็ถือว่าอยู่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท นั่นก็คือ Aloft Bangkok สุขุมวิท 11 นั่นเอง แต่ไม่ได้พามาค้างคืนที่นี่นะ แค่อยากพามา enjoy กับอาหารในสไตล์ Taste 'n' Share Plates ที่ห้องอาหาร Crave Wine Bar & Restaurant ซึ่งอยู่บนชั้น 8 ของโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งเคยรีวิวไว้ที่ blog ก่อนหน้านี้แล้ว

และที่มาแนะนำในครั้งนี้เพราะที่นี่เค้ามีการต้อนรับเชฟหนุ่มสุดหล่อคนใหม่ ที่ชื่อเสียงเรียงนามว่า “เชฟ มาร์ค แฮนนอน" อิมพอร์ตมาจาก New York เชียวนะครับ และขอบอกว่าเชฟหนุ่มคนนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังมีฝีมือในการทำอาหารให้หน้าตาและรสชาติออกมาดีด้วยครับ







แต่ก่อนที่จะพาไปชิมอาหารอร่อยๆ ขอพาไปเติมความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มที่มีสีสันสดใส เซ็กซี่นิดๆ อย่าง Sexy Girls และ Melon Lemon, Lemon Melon เครื่องดื่ม Cocktail ราคาแก้วละ 240 บาท ++ แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ก็สามารถเลือกสั่งเป็น Mocktail ก็ได้นะ







หลังจากเติมความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ แล้ว ก็ขอเสิร์ฟเมนูเบาๆ รองท้องอย่าง "Fun-Guy (flatbreads) (245.-)" เมนูนี้มีชื่อเรียกเก๋ไก๋ทีเดียว ซึ่งเป็นขนมปังแบบแฟลตเบรด ที่มีส่วนผสมของ เห็ดหอม, หอมแดง, mozzarella, ชีส และ น้ำมัน truffle ทานเล่นได้อย่างกรุบกรอบทีเดียว







จากนั้นก็ขอเสิร์ฟของทานเล่นอีกอย่างที่หน้าตาดี ดูน่ารัก อย่าง "Twice Baked (80.-)" เจ้าลูกกลมๆ ที่เห็นอยู่นั่นก็คือ Baby Potatoes มันฝรั่งลูกเล็ก ที่ทานได้ทั้งลูก นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ เบคอน, บร๊อคคอรี่กรอบ และ ซอสวิแอช อีกด้วยครับ เมนูนี้ถือว่ามีการตกแต่งจานได้อย่างน่ารัก น่าหม่ำมากทีเดียว





จากนั้นก็ต่อด้วย "Asparagus And Parma Ham" เติมความอร่อยด้วย โพชท์ เอ้ก, หน่อไม้ฝรั่งเสิร์มพร้อมพาร์ม่า แฮม, ซอสซอลซ่า และ ซอสเห็ดทรัฟเฟิล ซึ่งไฮไลท์ของการหม่ำเมนูนี้ก็คือการแหวกไข่แดงให้ไหลเยิ้มออกมา ทำให้ได้รสชาติไข่แดงซึ่งช่วยเพิ่มเติมความอร่อยได้ดี







ต่อด้วย "Tuna Rare (295.-)" ทูน่าเสิร์ฟกับสลัดเห็ดสไตล์ไทยๆ ซึ่งมีรสชาติจัดจ้านเล็กน้อยจากพริก, ข้าวคั่ว, ใบมะกรูด, ตะไคร้ และ น้ำสลัด วินะเกรท เมนูนี้ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่จัดจานได้อย่างสวยงาม สีเนื้อของปลาทูน่าก็สวยน่าหม่ำเช่นกัน





จากนั้นก็มาถึงของหนักอย่าง "Churrasco Tenderloin (295.-)" เนื้อย่างชูรัสโค สไตล์สเปน ที่ย่างมาได้อย่างนุ่มลิ้น ซึ่งเสิร์ฟกับ น้ำจิ้มแจ่ว อร่อยได้รสชาติจัดจ้านของน้ำจิ้มแจ่วแบบไทยๆ ดีครับ





จากนั้นก็ปิดท้ายของคาวด้วย "NYC Kao Soi (195.-)" ข้าวซอยแบบไทย แต่เพิ่มเติมความเป็นลูกครึ่งด้วย หอยแมลงภู่ และเฟรนซ์ฟรายที่นำมาแทนเส้นก๋วยเตี๋ยวแบบไทยๆ ครับ ขอบอกว่าแม้จะเป็นฝรั่งทำแต่รสชาติก็เผ็ดร้อนจัดจ้านแบบไทย ยิ่งบีบมะนาวลงไปหน่อยนะครับ จัดจ้านแซ่บสุดๆ





แล้วก็มาถึงคิวของหวานครับ เมนูแรกขอเสิร์ฟ "Chessert (165.-)" ชื่อเมนูเก๋ไก๋ ที่มีที่มาจาก บูลชีส และมีส่วนผสมของ แอปเปิ้ลเขียว, มะกอกดำ, crispy แฮม และ เสิร์ฟพร้อมไอศครีม เชอร์เบทส้ม และปิดท้ายด้วย "Coffee Cake (165.-)" เมนูนี้เป็นเค้กกล้วยหอมรสกาแฟ ที่มาพร้อมครีมคาราเมลแบบเค็ม, กล้วยหอม และถั่ว Hazelnut นอกจากนี้ยังเติมความสนุกด้วย pop corn ด้วยครับ





สำหรับมื้อเย็นนั้นที่ห้องอาหาร Crave นั้นมีการเสิร์ฟอาหารแบบเป็น Set ซึ่งสามารถสั่งอาหาร Taste 'n' Share Plates ได้ 5 จานที่มีอยู่ในเมนูทั้งหมด พร้อมทั้งไวน์ 1 ขวด ซึ่งเลือกได้ตั้งแต่ไวน์ขาว ไวน์แดง หรือสปาร์คกลิ้งไวน์ ในราคาเพียง 990++ ครับ

โดยรวมแล้วรสชาติและหน้าตาของอาหารทำมาได้ดี ไม่แพ้หน้าตาของเชฟเลยครับ ที่สำคัญราคาก็ไม่ถือว่าแรงด้วยนะ ใครสนใจที่จะแวะเข้าไปลิ้มลองก็เชิญได้ที่ห้องอาหาร Crave Wine Bar & Restaurant ได้นะครับ




ย้อนกลับไปดูภาพและข้อมูลร้านอาหารอื่นๆ




ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า


click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary


Create Date : 18 สิงหาคม 2556
Last Update : 18 สิงหาคม 2556 22:58:00 น. 2 comments
Counter : 7133 Pageviews.

 
มาชมรอบ 2 เลยคับ ^^


โดย: benz47 วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:14:28:33 น.  

 
ขอบคุณครับ น้องเบ๊นซ์


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:22:43:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.