เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
4 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
I Love Bangkok @ Fifty Five by Centara Grand at Central World

ชื่อร้าน : Fifty Five
รายการอาหาร : Gourmet Dining & Grill
เวลาเปิดบริการ : 11:30 - 14:30 น. / 18:30 - 23:30 น.
ที่ตั้งร้าน : Centara Grand at Central World, กรุงเทพมหานคร ปทุมวัน Thailand
พิกัด GPS : 13° 44' 52.85" N 100° 32' 20.94" E





I Love Bangkok @ Fifty Five by Centara Grand at Central World



สวัสดีชาว Blog ทั้งหลายครับ วันนี้ได้เวลา Up Blog อีกครั้ง

แต่ครั้งนี้พิเศษหน่อยเพราะว่าผมได้รับรางวัลจากโครงการ KTC Real Team ครั้งที่ 20 ซึ่งของรางวัลเป็น สิทธิ์ในการรับประทานอาหารเย็นแบบ Dinner Set 2 ที่ ที่ห้องอาหาร Fifty Five @ Centara Grand ครับ

ซึ่งถือได้ว่าเป็นห้องอาหารที่ไฝ่ฝันจะขึ้นไปทานตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสเหมาะๆ ซักครั้ง ดังนั้นครั้งนี้จึงถือว่าเป็นความโชคดีมากๆ สำหรับผมครับ

ดังนั้นผมจึงขอแชร์ประสบการณ์ดีๆ ให้เพื่อนๆ ได้ชมกันใน Blog นี้เลยนะครับ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ ห้องอาหาร Fifty Five @ Centara Grand และ KTC มากๆ ที่มอบโอกาสดีๆ แบบนี้ให้กับผมครับ

เกริ่มมาก็เยอะแล้วไปดูบรรยากาศสวยๆ บนตึก 55 ชั้นของที่นี่กันเลยครับ

ผมเคยรีวิวร้านอาหารที่ Central World บ่อยๆ แต่วันนี้ขอพาไปทานอาหารทางฝั่งโรงแรม Centara Grand กันบ้างนะครับ

ด้านที่จอดรถไม่ต้องห่วง เพราะฝั่งโรงแรมมีอาคารจอดรถ สะดวกสบาย ที่สำคัญไม่ต้องเดินไกลด้วย เพราะจอดรถเสร็จก็ขึ้นไปทางฝั่งโรงแรมได้เลยครับ



จากนั้นก็ขึ้นไปเปลี่ยนลิฟท์ตรง Lobby ของโรงแรมที่ชั้น 23 กันครับ

ชั้นนี้ใช้เป็นจุดเช็คอินเวลามาพักที่โรงแรมด้วยครับ



จากนั้นก็เปลี่ยนลิฟท์ เพื่อไปยังชั้น 55 กันครับ



ที่นี่ช่วงเย็ฯเปิดให้บริการเวลา 18.30 น. ครับ แต่ว่าเรามาถึงก่อนเวลาพอสมควร เพราะอยากมาซึมซับบรรยากาศบนตึกสูงแบบนี้

โดยห้องอาหารที่จะมาทานในวันนั้นชื่อว่า Fifty Five หรือ 55 นั่นเอง

แต่ว่าห้องอาหารนี้จะอยู่ที่ชั้น 54 ครับ



โดยชั้น 55 จะเป็นที่ตั้งของห้องอาหาร Red Sky ครับผม

มาถึงก่อนเวลาแบบนี้ต้องเดินสำรวจห้องอาหาร Red Sky ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นห้องอาหารสุดหรู บนดาดฟ้า ที่หลายๆ คนไฝ่ฝันอยากมาทานให้ได้ซักครั้ง รวมทั้งตัวผมเองด้วยครับ

และมาถึงเร็วแบบนี้ยังไม่มีแขกเท่าไรครับ พนักงานก็ยินดีให้ไปถ่ายรูปเล่นได้ เพราะยังไม่ได้เปิดให้บริการ แอบสังเกตเห็นมีคนมาถ่ายรูปหลายคนเหมือนกันครับ



ห้องอาหาร Red Sky มี 2 โซน คือโซน Outdoor ซึ่งจะเห็นวิวกรุงเทพ 360 องศาทีเดีย ส่วนอีกโซนคือพื้นที่ด้านในห้องแอร์ครับ เพราะว่าช่วงฝนตก เค้าก็จะย้ายแขกมาด้านในแทนครับผม



บรรยากาศดีมากๆ ครับข้างบนนี้ เพราะได้นั่งทานอาหารไป และมองวิวสวยๆ แบบนี้ไป คงมีความสุขมากๆ ครับ





ด้านบนของ Red Sky จะมี Red Sky Bar ขึ้นไปนั่งชมวิวสั่งเครื่องดื่มได้ครับ ที่สำคัญ ช่วง 5 โมง ถึง 1 ทุ่ม จะเป็นช่วง Happy Hour ลดราคาเครื่องดื่ม Cocktail และ Mocktail ครึ่งนึง

แต่ชั้นนี้ห้าม ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีขึ้นนะครับ



ด้านบนเป็นบาร์ครับ ดึกๆ จะมีดนตรีแสดงให้ฟังกันด้วยครับ เรียกได้ว่าโรแมนติกสุดๆ เลยก็ว่าได้



พอมองลงไปข้างล่างดูวุ่นวาย ผิดกับข้างบนนี้ลิบลับเลยครับ



มุมนี้เคยเห็นรูปในหนังสือ หรือ เว็บบ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตอนกลางคืน เพราะมีการเล่นไฟสวยงามเลยครับ

ตอนนี้ดูวิวช่วงเย็นๆ ไปก่อนนะครับ



เดินเล่นจนเหนื่อย และที่สำคัญเค้าบอกว่ามีช่วง Happy Hour ด้วยเลยหาที่นั่งสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาแก้กระหายก่อนครับ



ดูเมนูแล้วราคาเต็ม Mocktail แก้วละ 180++

ช่วงนี้ครึ่งราคาก็ 90++ ครับ ราคาไม่แพงนะถ้าเทียบกับร้านอาหารหรูๆ ด้านล่างนี่แพงกว่าเยอะเลย

แก้วแรกผมสั่ง "55's Silk"

เป็นน้ำกีวี บวกด้วย แอปเปิ้ล และมะนาวปั่นครับ อร่อยสดชื่นดีครับ



อีกแก้วเป็น "Two Rivers"

สีสันสดใส

แก้วนี้เป็น Homemade virgin colada mix กับ ราสเบอร์รี่และมะนาวปั่นครับผม

ที่นี่เค้ามีถั่วมาเป็นของทานเล่นด้วยครับ



ใกล้เวลาช่วงที่ห้องอาหาร fifty five เปิดให้บริการแล้วสิครับ

เราเลยนั่งชมวิวอีกเล็กน้อยแล้วก็เดินไปที่ชั้น 54 กันครับ



ผ่านมุมนี้อีกที ก็ได้แต่หวังว่า ซักวันต้องขึ้นมานั่งทานอาหารบนนี้ให้ได้เลยครับ



ว่าแล้วก็ลงไปบอกเจ้าหน้าที่ที่ร้าน แล้วน้องเค้าก็พาไปที่โต๊ะครับ

ไปถึงตอน 6 โมงนิดๆ สามารถเข้าไปนั่งที่โต๊ะได้ก่อนครับ



ด้านหลังที่เห็นขวดเยอะๆ นั่น เป็นห้องเก็บไวน์ครับ ถามพนักงานเค้าบอกว่า เก็บไว้ประมาณ 2,000 ขวดเลยทีเดียว

ที่นั่งมีหลายมุมให้เลือก เวลานี้แขกยังไม่มีใครมาเลยสามารถเก็บภาพได้เต็มที่ครับ



ถ้ามากันเป็นหมู่คณะ ก็มีโต๊ะใหญ่ให้นั่งกันได้ทั้งกลุ่มครับ



หรือถ้าต้องการ เป็นส่วนตัว นิดๆ หรือนัดเจรจาทางธุรกิจ ก็มีห้องที่สามารถชมวิวได้ส่วนตัวด้วยนะครับ



โต๊ะที่นี่จัดไว้แบบหลวม ทำให้รู้สึกถึงความโล่งโปร่งสบายๆ ครับ



เราไปกันสองคน เลยขอสวีทกันริมหน้าต่างหน่อยนะครับ





อาหารที่นี่มีทั้งเป็น Set แล้วก็แบบ A la carte ครับ

วันนั้นผมได้ทานอาหารแบบ Set คนละ Set ครับ

ซึ่งที่นี่มีโปรโมชั่น ถ้าสั่งอาหารแบบเป็น Set 2 Set จะได้รับ ไวน์ฟรี 1 ขวดครับ แต่ถ้าสั่ง 3 set ก็จะได้แค่ 1 ขวดนะครับ ดังนั้นสั่งเป็นคู่ดีที่สุด



ช่วงที่ไปเป็นช่วงของ Set "Wagyu Prime Rib Roast" ครับ

โดยมี Complementary เป็นขนมปัง ทานคู่กับเนย ซึ่งเนยมีแบบธรรมดาและเนย Herb ด้วยครับ และเกลือสีชมพู ที่นำเข้ามา (จำไม่ได้ว่าจากประเทศไหนครับ T_T)



นอกจากนี้ยังมีปลาดิบ จัดมาเป็น Complementary อีกอย่างครับ ยิ้มบอกว่าอันนั้นอร่อยมาก แต่ผมขอบายครับ เพราะไม่ชอบปลาดิบเท่าไรนัก



เริ่มสั่งอาหารกันเลยดีกว่าครับ เริ่มที่ เมนู Starter กันเลยครับ

มีให้เลือก 2 เมนู คือ Caesar Salad หรือ Cream of Celery Soup ครับ

โดยเมนู Starter เนี่ย ทางร้านจะทำกันข้างๆ โต๊ะ เลยครับ

ซึ่งผมสั่งมาอย่างจะจานครับ จะได้ทานได้ทุกอย่าง



ซุปก็จะปรุงกันสดๆ ตรงนั้นเลย



จานแรกที่เสริฟ เป็น "Cream of Celery Soup"

เป็นซุปครีมที่มีส่วนผสมของขึ้นฉ่ายฝรั่ง ที่ราดบน Foie Gras ครับ

รสชาติกลมกล่อมดีครับ ยิ่งทานตอนร้อนๆ หลังจากเสริฟยิ่งทำให้รสชาติดีขึ้นครับ





ส่วนอีกเมนูคือ Caesar Salad

ซึ่งคลุกกันข้างๆ โต๊ะเลยครับ

ตัวน้ำสลัดถือว่าโอเคครับ รสชาติถือว่าทำได้ดีครับผม





เราสองคน ไม่ดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ครับ เลยไม่ได้ดื่มไวน์ที่แถมให้

เลยสั่ง Mocktail เย็น อย่าง Mojito ของโปรดแทนครับ



นอกจากนี้ยังมีบริการเครื่องดื่ม Sparking Water ด้วยนะครับ



ส่วน main course menu ก็มีให้เลือก 2 อย่างครับ

อย่างแรก เป็นเมนูหลักเลยครับ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อมากๆ



เมนูหลัก เป็น "9oz of Wagyu Prime Rib Roast cut on the Trolley"

เนื้อวากิวชิ้นโต นุ่มไม่เหนียว รวมทั้งไม่มีกลิ่นคาวด้วยครับ

คนชอบทานเนื้อน่าจะชอบนะครับ

จานนี้ผมเลือกแบบ Medium Rare ครับ นุ่มกำลังดีทีเดียว





โดยน้ำสเต็ก มีให้เลือก 2 แบบ คือ Green Pepper Sauce ผมเลือกราดแบบนี้ครับ เพราะชอบพริกไทยอยู่แล้ว ^^

ส่วนอีกแบบคือ Horseradish Sauce เนื้อซอสข้นมากๆ ครับ ซึ่งผมชอบแบบพริกไทยมากกว่าครับ



ส่วนอีกเมนู เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานเนื้อครับ

เมนูนี้คือ "Pan seared Red Snapper"

เป็นสเต็กปลากระพงแดง เนื้อสด นุ่ม อร่อยมากๆ ครับ เบาๆ กำลังดี ไม่หนักเหมือนสเต็กเนื้อวากิว ครับ

ซึ่ง Main course นั้นหลักก็จะเน้น เนื้อ กับ ปลา ครับเพราะจะได้ทานคู่กับ ไวน์แดง หรือ ไวน์ขาวได้ ครับ





ด้านของหวานมีให้เลือกอย่างเดียวครับ

ของหวานเป็น "Mascarpone Feuillete"

เป็น เค้กกาแฟเอสเปรสโซ่ กับ ไอศครีม Cherry sorbet

ตัวไอศครีมเปรี้ยวสะใจสมกับเป็น Sorbet มากๆ ครับ ส่วนตัว Feuillete นั้นเบาๆ ไม่หนักเกินไป โดยรวมแล้วใช้ได้ครับ





ใน Set ยังมีเครื่องดื่มร้อนให้เลือกปิดท้ายเป็น กาแฟ หรือ ชา ก็ได้ครับ

ตอนนั้นประมาณ 2 ทุ่ม แต่ก็อยากลองสั่งกาแฟมาลองชิมดูครับ

เลยสั่ง ลาเต้ร้อน พร้อมลายสวยๆ มาดื่มเล่นตอนดึกๆ ครับ



นอกจากนั้นยังไม่หมดครับ ถ้าสั่งชา หรือ กาแฟ ที่นี่ก็จะเสริฟ ช็อกโกแลต เคลือบไอศครีมเย็นๆ มาทานคู่กับกาแฟด้วยครับ

ยิ้มทานช็อกโกแลตไม่ได้เลย เสร็จผมคนเดียวครับ ตัวเนื้อช็อกโกแลตเคลือบไอศครีบบางๆ กัดเข้าไปก็จะเจอกับเนื้อเย็นๆ ของไอศรีม ได้กินแล้วชื่นใจดีครับ



แป๊ปเดียวเวลาผ่านไปเร็วมากๆ ครับ

อย่างที่เคยได้ยินมาว่าเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ

วันนั้นรู้สึกได้เลยครับ ได้ทานอาหารอร่อยๆ นั่งชมวิวสวยๆ พร้อมคนรู้ใจเนี่ย มีความสุขสุดๆ ครับผม



สำหรับคนที่มีคนรู้ใจอยู่แล้วหาเวลาไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนเพิ่มความหวานกันบ่อยๆ นะครับ

ส่วนคนที่ยังไม่มี หรือที่มีแล้วก็เหอะ วันที่ 12 อย่าลืมพาคุณแม่ไปดินเนอร์บ้างนะครับ รับรองผมว่ามีความสุขยิ่งกว่าอีก



วันนั้น (30/07/54) ทานเสร็จประมาณ 2 ทุ่ม คนในร้านก็ยังไม่ค่อยเยอะเท่าไร ถามพนักงานเค้าบอกว่าแล้วแต่วัน บางวันก็มากันทั้งออฟฟิศก็ยังมี

แต่ส่วนใหญ่จะมาหลัง 2 ทุ่ม เป็นต้นไปครับ

ส่วนผมนั้นชอบไปตอนร้านเพิ่งเปิดเพราะคนไม่เยอะ แล้วก็ถ่ายรูปได้สบายๆ ครับ พอคนเยอะ ก็ต้องเกรงใจคนอื่น ถ่ายเฉพาะบนโต๊ะตัวเองครับ





โดยรวมแล้ว อาหารที่นี่คุณภาพใช้ได้ครับ เจอ Set แบบนี้ อิ่มเต็มที่เหมือนกันครับ

อาหารดีๆ บวกกับบรรยากาศดีๆ แบบนี้ ถือว่าคุ้มค่าที่ได้มีโอกาสมาสัมผัสครับ ถ้ามีโอกาสคงได้มาใช้บริการที่นี่อีกแน่นอนครับ



หลังจากอิ่มกับดินเนอร์หรูแล้ว

ขอขึ้นไปเดินเล่นห้องอาหาร Red Sky ในยามค่ำคืนกันบ้างครับ

ระหว่างทางขึ้นจะสังเกตเห็นห้องเก็บไวน์ซึ่งมีไวน์ถูกเก็บไว้เยอะจริงๆ ครับ



ตอนบ่ายๆ ไม่ทันสังเกตเห็น Logo นี้เลยครับ แต่ตอนกลางคืนชัดเจนมากๆ



ตอนกลางคืน ห้องอาหาร Red Sky คนเยอะมากๆ ครับ แต่เค้าก็ให้ขึ้นไปเดินชมบรรยากาศนะครับ

บรรยากาศด้านบนดีมากๆ เลย ท่าทางจะสนุกและมีความสุขกันมากเลย

แต่เสียอย่างเดียวลมแรงมากๆๆๆๆๆๆ



สรุปโดยรวมแล้ว บรรยากาศที่นี่บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดมากๆ ครับ ทั้งวิว 360 องศา ของกรุงเทพฯ อาหารรสเลิศ และการบริการที่ดีของพนักงาน ทำให้ผมและคนรู้ใจมีความสุขตลอดเวลาที่อยู่บนห้องอาหาร Fifty Five

สุดท้ายต้องขอขอบคุณ

ห้องอาหาร Fifty Five และ Centara Grand at Central World

//www.centarahotelsresorts.com

และ KTC มากๆ ครับ

//www.ktc.co.th/ktcworld/index.php







ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^
Click ข้างล่างได้เลยจ้า


click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary




Create Date : 04 สิงหาคม 2554
Last Update : 5 สิงหาคม 2554 0:46:06 น. 9 comments
Counter : 9481 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าค่ะ คุณปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง

ขอตามมาหม่ำ อาหารอร่อยๆด้วยคนค่ะ

บรรยากาศ ร้านสวยสุดยอดเลยค่ะ

ขอให้มีความสุขนะคะ......emo


โดย: iamorange วันที่: 5 สิงหาคม 2554 เวลา:6:53:42 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าครับ คุณส้ม

ร้านนี้บรรยากาศดีมากๆ ครับ อิ่มทั้งพุง อิ่มทั้งตา เลยครับ

ขอบคุณที่แวะมาทักทายด้วยนะครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 5 สิงหาคม 2554 เวลา:7:51:23 น.  

 
wow !!!!!!!!! ภาพสวยมกกก บรรยากาศดี๊.ดี

อาหารก็น่าอร่อยมากๆค่ะ คุณโอ

แต่ว่าเสิร์ฟมาจานเล็กจานน้อยแบบนี้

ถ้ายุ้ยไปมีหวังคงไม่อิ่มอาหาร แต่อิ่มบรรยากาศแทนอ่ะเน๊าะคะ อิอิ


โดย: nLatte วันที่: 5 สิงหาคม 2554 เวลา:10:12:17 น.  

 
เข้ามาอ่านแล้วกรี๊ดดดดด

อ้าว เผลอกดโหวตให้ซะแล้วล่ะค่าาา ฮา


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 5 สิงหาคม 2554 เวลา:16:06:09 น.  

 
@ คุณ nLatte : สเต็กจานใหญ่เหมือนกันนะครับ Set นั้นถือว่าอิ่ม เลยครับผม บวกกับบรรยากาศสวยๆ ทำให้มื้อนั้นมีความสุขมากๆ เลยครับ

@ คุณ สาวไกด์ใจซื่อ : ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆ ครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 5 สิงหาคม 2554 เวลา:21:50:06 น.  

 
โรแมนติคจังค่ะ


โดย: ปรัซซี่ วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:20:57:48 น.  

 
@ คุณ ปรัซซี่ : บรรยากาศมันพาไปครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:22:11:41 น.  

 
Helpful information. Fortunate me I found your web site by accident, and I am stunned why this twist of fate did not came about earlier! I bookmarked it.
Michael Kors handbags //www.mini-systemsinc.com/customer8.asp


โดย: Michael Kors handbags IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:17:24:26 น.  

 
น่าไปลองค่า


โดย: สมาชิกหมายเลข 3445422 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2563 เวลา:13:42:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.