| บรรยากาศบริเวณศาลเจ้าพ่อพะวอ | | | แม่สอด นอกจากจะเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตากแล้ว ที่นี่ยังเป็นเมืองชายแดนไทย-พม่า ที่มีเสน่ห์ไม่น้อย โดยไม่เพียงขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองการค้าชายแดนที่คึกคักและเป็นเส้นทางเศรษฐกิจตามแนวตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor) ซึ่งเชื่อมต่อไปยังเมืองดานัง ประเทศเวียดนามแล้ว แหล่งท่องเที่ยวของแม่สอดยังมีความน่าสนใจและไม่ควรพลาดหากได้มาเยือนเมืองตากแห่งนี้ จากตัวเมืองตาก ตะลอนเที่ยว มุ่งหน้ามาตามทางหลวงหมายเลข 105 หรือถนนสายตาก-แม่สอด ซึ่งมุ่งตรงมายังชายแดนไทยพม่า ในเส้นทางสายนี้มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจเต็มไปหมด โดยสถานที่แห่งแรกที่เราได้แวะเยี่ยมชมก็คือการได้มาสักการะ ศาลเจ้าพ่อพะวอ ผู้ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวแม่สอดและชาวเมืองตาก ศาลเจ้าพ่อพะวอประดิษฐานอยู่บริเวณริมถนนสายตาก-แม่สอด บริเวณ กม.ที่ 62-63 รถราที่ผ่านไปผ่านมาในบริเวณนี้มักจะบีบแตรเสียงดังยาวเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อศาลเจ้าพ่อพะวอ |
| สักการะเจ้าพ่อพะวอ | | | เจ้าพ่อพะวอ เดิมเป็นนักรบชาวกะเหรี่ยงในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งทรงแต่งตั้งให้มีศักดิ์ฐานะเป็นนายด่านแม่ละเมา เมืองหน้าด่านของไทยในสมัยนั้น คอยดูแลมิให้ข้าศึกศัตรูข้ามด่านเข้ามารุกรานบ้านเมืองได้ง่ายๆ แต่ในปี 2318 กองทัพของข้าศึกเคลื่อนทัพมายังไทยโดยผ่านทางด่านแม่ละเมา เจ้าพ่อพะวอตัดสินใจนำกำลังไพร่พลที่มีอยู่เข้าปะทะกับกองกำลังของข้าศึกอย่างกล้าหาญ และได้เสียชีวิต ณ ยุทธภูมิด่านแม่ละเมาเชิงเขาแห่งนี้ ต่อมาผู้ที่เคารพศรัทธาได้สร้างศาลเจ้าพ่อพะวอขึ้นในบริเวณยุทธภูมินั้น แต่ต่อมาทางการได้สร้างถนนตัดผ่านจึงได้มาสร้างศาลขึ้นใหม่ในบริเวณปัจจุบัน โดยมีผู้คนมากราบไหว้ท่านไม่ขาดสาย พร้อมทั้งจุดประทัดเป็นการแก้บนถวายเสียงดังสนั่น |
| อุโบสถวัดโพธิคุณงดงามยิ่งนัก | | | ได้กราบสักการะเจ้าพ่อพะวอแล้ว ตะลอนเที่ยว มุ่งหน้าเข้าสู่แม่สอดเพื่อเดินทางต่อมายัง วัดโพธิคุณ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดห้วยเตย วัดป่าซึ่งซ่อนตัวอยู่ริมถนนสายตาก-แม่สอด บริเวณกิโลเมตรที่ 69 อุโบสถของวัดโพธิคุณนี้งดงามน่าประทับใจมากทีเดียว เป็นอุโบสถขนาดใหญ่ ภายในมี 3 ชั้น ภายนอกทาด้วยสีขาว มีลายปูนปั้นงดงามตามซุ้มประตูหน้าต่าง บริเวณฐานอุโบสถมีลักษณะโค้งที่เรียกว่าโค้งท้องสำเภา ซึ่งเป็นลักษณะการสร้างโบสถ์วิหารที่นิยมกันในช่วงปลายอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์ โดยผู้ที่ออกแบบก่อสร้างโบสถ์หลังนี้ก็คือคุณศมประสงค์ ชาวนาไร่ ที่ได้ทุ่มเทชีวิตจิตใจก่อสร้างอุโบสถหลังนี้นานถึง 18 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์โดยไม่ขอรับค่าจ้างแม้แต่บาทเดียว |
| ภายในอุโบสถวัดโพธิคุณสวยงามอลังการ | | | |
| ภายในดูสว่างไสวไปทั่ว | | | ยิ่งเข้าไปด้านในยิ่งต้องทึ่งกับความงาม โดยเฉพาะที่บริเวณชั้น 3 ซึ่งใช้เป็นโบสถ์ประกอบพิธีทางศาสนา พระประธานปางมารวิชัยองค์ใหญ่สีทองประดิษฐานอยู่กลางห้องที่ตกแต่งอย่างประณีต โดยทั้งผนัง เสา และเพดานตกแต่งด้วยลวดลายไทยประเพณีในลักษณะของประติมากรรมนูนต่ำผสมผสานกับการระบายสี ประดับกระจกและปิดทอง ส่วนชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระพุทธรูปแบบคันธาราฐปางสมาธิ ส่วนชั้นล่างสุดเป็นห้องโล่งๆ แต่เงียบสงบ ใช้สำหรับนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม |
| หงส์คู่ สัญลักษณ์ของชาวมอญแสดงถึงความรุ่งเรือง | | | จากวัดโพธิคุณ นั่งรถมาอีกไม่นานก็เข้าสู่เขตตัวเมืองแม่สอดแล้ว และอีกหนึ่งวัดที่แม่สอด ตะลอนเที่ยว ขอบอกว่าไม่ควรพลาดหากมาที่แม่สอดก็คือ วัดไทยวัฒนาราม วัดนี้อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่สอดเพียงแค่ 5 กม. บนเส้นทางสายตาก-แม่สอดบริเวณ กม.ที่ 84 แต่เดิมชื่อว่า วัดแม่ตาวเงี้ยว หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดไทยใหญ่ เพราะเป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายมหายานของชาวไทยใหญ่ สถาปัตยกรรมต่างๆ ได้รับอิทธิพลมาจากพม่าและมอญอย่างเห็นได้ชัด แค่เข้ามาบริเวณวัดก็ต้องสะดุดกับเจดีย์สีทองอร่ามและหงส์คู่สีทองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาวมอญที่แสดงถึงความรุ่งเรือง ตะลอนเที่ยว ได้กราบไหว้และชมสิ่งสำคัญต่างๆ ภายในวัด ไม่ว่าจะเป็น พระมหามุนี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่จำลองมาจากพระพุทธมหามัยมุนี พระพุทธรูปสำคัญของพม่าที่ประดิษฐานอยู่ในเมืองมัณฑเลย์ ประเทศพม่า เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดตากศรัทธาเลื่อมใสกันมาก องค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในวิหารแบบพม่า มีหลังคาเรียงซ้อนลดหลั่นกันลงมา 7 ชั้น ชั้นบนสุดประดับด้วยฉัตรสีทองงดงามมาก |
| พระมหามุนี จำลองมาจากพระมหามัยมุนีที่มัณฑะเลย์ | | | |
| พระพุทธไสยาสน์ ได้ชื่อว่าเป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ | | | ที่พลาดไม่ได้คือต้องไปสักการะพระไสยาสน์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปนอนปูนปั้นศิลปะแบบพม่าที่มีขนาดยาวที่สุดของภาคเหนือ โดยมีความยาว 93 ศอก สร้างจำลองมาจากพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในประเทศพม่า ชาวบ้านนิยมเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่าพระตาหวาน และนอกจากนั้นภายในวัดก็ยังมีพระพุทธรูปหินอ่อน ที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวทั้งก้อน วิหารพระอุปคุต อุโบสถงดงามแบบพม่า รวมไปถึงศาลาการเปรียญประดับด้วยปูนปั้นลายจำหลักไม้สวยงามเช่นกัน |
| เลือกช้อปสินค้าจากพม่าและจีนได้ที่ตลาดริมเมย | | | ได้เที่ยวกันไปหลายที่แล้ว คราวนี้ถึงเวลาชอปปิ้งกันบ้าง แน่นอนว่าหากมาที่แม่สอดแล้ว ก็ต้องมาเดินหาซื้อของฝากกันที่ ตลาดริมเมย ตลาดซื้อขายสินค้าชายแดนที่ตั้งอยู่สุดทางหลวงสายตาก-แม่สอด ริมฝั่งแม่น้ำเมย หรือที่ชาวพม่าเรียกแม่น้ำตองยิน อันเป็นเส้นแบ่งพรมแดนของไทยและพม่า อยู่ตรงข้ามกับอำเภอเมียวดีของพม่า และอยู่ติดกับสะพานมิตรภาพไทย-พม่าอีกด้วย ตลาดแห่งนี้มีสินค้าทั้งของกินของใช้ที่นำเข้ามาจากพม่าและจีน หากใครอยากได้เครื่องประทินผิวแบบพม่าเช่นทานาคา ที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งแบบมาเป็นท่อนเอาไปฝนเอง แบบผง แบบครีมก็เลือกได้ตามใจ ชานมพม่าที่หลายๆ คนติดใจก็หาซื้อได้แทบทุกร้าน นอกจากนั้นก็มีพวกอัญมณีต่างๆ เช่น หยก ทับทิม พลอยสีจากพม่า ซึ่งหากใครอยากได้ของแท้ของดีก็ต้องอาศัยความเก๋าในการเลือกซื้อ และยังมีพวกเฟอร์นิเจอร์ไม้ งานหัตถกรรมต่างๆ ที่เห็นมีคนขนซื้อใส่รถไปหลายชิ้นด้วยกัน รวมไปถึงพวกอาหารสด พวกกุ้ง ปูที่มาจากฝั่งพม่าก็มีให้เลือกเยอะราคาไม่แพงอีกด้วย |
| แหล่งช้อปจักรยานมือสองขนาดใหญ่ที่คลัง 9 | | | มาถึงแม่สอด จะแวะแค่ตลาดริมเมยก็กระไรอยู่ เพราะตอนนี้แม่สอดมีแหล่งชอปชื่อดังที่หลายคนใฝ่ฝันจะมาเยือน นั่นก็คือโกดังจักรยานมือสองขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า คลัง 9 ที่ตำบลท่าสายลวด ไม่ไกลจากตัวเมืองแม่สอด ซึ่งเป็นคลังสินค้าชายแดนริมแม่น้ำเมย หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมจึงมามีคลังจักรยานมือสองอยู่ที่เมืองชายแดนเช่นนี้ได้ ต้องบอกก่อนว่าที่คลัง 9 นี้เป็นแหล่งพักจักรยานที่รับซื้อมือสองต่อมาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งต่อไปขายที่ประเทศพม่า โดยจะมีรถบรรทุกขนส่งกันมาในตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่จากท่าเรือแหลมฉบัง อัดจักรยานกันมาแบบเต็มตู้จนมาถึงที่คลัง 9 ที่แม่สอด ที่นี่จะเป็นจุดคัดแยก ซ่อมแซม ประกอบ ขัดล้างทำความสะอาด ก่อนจะส่งต่อไปขายกันที่พม่า ซึ่งประชาชนที่นั่นนิยมใช้จักรยานกันมาก แต่สำหรับคนไทยคนไหนที่อยากจะได้จักรยานมือสองญี่ปุ่นมาใช้ก็สามารถมาเดินเลือกซื้อเลือกชมกันได้ ส่วนมากที่เห็นก็จะเป็นจักรยานแม่บ้านญี่ปุ่น และจักรยานพับหลากสีสัน ราคาส่วนใหญ่ก็แค่พันต้นๆ หากสนใจซื้อก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่มอีกราว 200 บาท จักรยานยี่ห้อดังๆ ก็มีให้เห็นบ้างเหมือนกัน แต่ที่สำคัญคือหากใครอยากได้ของดีคุ้มค่าเงินก็ต้องดูให้เป็น และต้องลองขี่ดูให้รู้ว่าไม่เอียงซ้ายเอียงขวา ดูตะเกียบดูเฟรมว่าตรงหรือโค้งงอตรงไหนบ้างหรือไม่ วันที่ ตะลอนเที่ยว ไปที่คลัง 9 ก็มีนักท่องเที่ยวมาเลือกซื้อจักรยานกันเยอะพอสมควร มีคนทดลองขี่กันขวักไขว่ รวมไปถึงมีพ่อค้าแม่ค้าจากจังหวัดใกล้เคียงมาซื้อจักรยานไปขายต่อด้วยเช่นกัน บางคนเอารถกระบะมาขนจักรยานไป 20-30 คัน คัดจักรยานสภาพดีไปขายต่อให้ลูกค้า |
| ผลไม้มากมายให้เลือกซื้อที่ตลาดมูเซอ | | | ตะลอนเที่ยว มาคราวนี้ไม่ได้เตรียมตัวมาขนจักรยานกลับบ้าน เลยได้แต่ลองจับลองขี่อย่างเดียวไม่ได้ควักเงินซื้อ แต่สุดท้ายก็ต้องเสียเงินซื้อของจนได้ที่ ตลาดสินค้าเกษตรมูเซอ กันก่อนกลับจากแม่สอด ตลาดสินค้าเกษตรมูเซอ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ตลาดมูเซอ นี้ ตั้งอยู่ริมทางหลวงสายตาก-แม่สอด จริงๆ แล้วในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวที่กล่าวมานี้เราขับรถผ่านตลาดมูเซอเป็นแห่งแรกเลย แต่ ตะลอนเที่ยว ขอพาแวะเป็นแห่งสุดท้ายตอนขากลับจะดีกว่าเพราะจะได้ชอปกันเต็มที่ ที่นี่เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรของชาวเขาเผ่ามูเซอ ผลผลิตที่ว่าก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งยอดมะระหวาน ฟักแม้ว หน่อไม้ ลูกเนียง และผักตามฤดูกาล ส่วนผลไม้ที่หลายๆ คนเตรียมกำเงินมาซื้อเลยก็คืออะโวคาโดที่แม้จะลูกเล็กกะทัดรัด แต่ก็หอมมันไม่แพ้อะโวคาโดจากต่างประเทศ นอกจากนั้นก็มีผลไม้อื่นๆ อย่างแอปเปิ้ล สาลี่ เมลอน ส้มจีน ทับทิม องุ่น หลายๆ อย่างก็เป็นผลไม้นำเข้าจากประเทศจีนบ้างมาขายรวมๆ กัน แต่ก็มีราคาคุ้มค่าน่าหิ้วกลับไปกิน นอกจากนั้นก็ยังมีพวกกล้วยไม้ป่าหลากหลายสายพันธุ์ สมุนไพรชื่อไม่คุ้นเคยอีกหลายอย่าง นอกจากนั้นก็ยังมีพวกงานหัตถกรรม เช่น กระเป๋าหรือเสื้อผ้า กระโปรง หมวกที่ตัดเย็บจากผ้าทอของชาวเขา เป็นของฝากติดไม้ติดมือได้ดีทีเดียว นับเป็นการปิดท้ายเส้นทางการท่องเที่ยวแม่สอด เมืองชายแดนที่มีเสน่ห์ได้อย่างสมบูรณ์ดีทีเดียว |
| อะโวคาโดมีให้เลือกซื้อในราคาไม่แพง | | | * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * สนใจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในอำเภอแม่สอด และในจังหวัดตาก ทั้งที่เที่ยว ที่กิน และที่พักได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตาก โทร.0 5551 4341-3, 0 5551 4344 * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * |