YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
ลมหายใจ...ที่ยังคงเข้าและออก

1.

ยังเหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึงเวลานัด ไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินเล่นฆ่าเวลาบนถนนที่คุ้นเคยมานานนับสิบปี แม้ว่าระยะเวลาที่ได้จากไป เทียบกับเวลาที่เคยหายใจอยู่บนถนนนี้ มันก็แค่ราวๆหนึ่งต่อสาม แต่กลับรู้สึกเหมือนความเป็น “หนึ่ง” นั้น มันยาวนานจนความเป็น “สาม” มันหดสั้นเหลือเพียงกระจิ๊ดเดียวในเส้นเวลาของชีวิต อัตราเร็วของการเปลี่ยนแปลงนั้น ยิ่งวันยิ่งเร่งร้อน สิ่งต่างๆที่แปลกตาไปในวันนี้ เกิดขึ้นภายในไม่กี่ปีที่จากไป มันยังมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดสิบสามปีที่เคยหายใจอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ

แมคโดนัลด์ร้านเดิมที่เคยมานั่งฆ่าเวลากับเพื่อน ขยายพื้นที่ออกเสียใหญ่โต อพาร์ตเม้นท์ที่เคยวางตัวเงียบๆบนถนนสายเล็กๆ วันนี้ก็ปรับปรุงเปิดพื้นที่ด้านหน้าโล่งกว้าง ทาสีสว่างตา เหลือเพียงสิ่งเดียวที่ยังยึดโยงโลกตรงหน้ากับภาพความในทรงจำไว้ได้ก็คือเจ้าหมูหมาตัวใหญ่ที่ยังคงนอนแลบลิ้นแผ่พุงอยู่ตรงที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง มีเซเว่นอีเลฟเว่นเปิดใหม่หนึ่งร้าน มันดูผิดที่ผิดทางเพราะความไม่คุ้นตา พอพยายามนึก ก็นึกไม่ออกว่าก่อนหน้านี้ที่ตรงนี้เคยเป็นที่ตั้งของอะไรมาก่อน ฉันเดินผ่านประตูโรงเรียนหญิงล้วนที่แสนจะผูกพัน มองเข้าไปด้านในเห็นต้นจามจุรีต้นใหญ่ที่เคยถูกทำโทษให้ไปเก็บใบไม้ร่วงตอนมาสายยังยืนตระหง่านอยู่ที่เดิม ฉันหัวเราะให้ตัวเองเล็กน้อย เมื่อเห็นเด็กผู้หญิงในชุดคอซองและสองเปียกำลังเก็บใบไม้ร่วงอยู่ เลยลึกเข้าไปด้านในคือตึกใหม่ที่ได้รู้มาว่ามันสร้างเสร็จเมื่อราวๆสามปีก่อน

ไม่ใช่ด้วยตา, ฉันเห็นระเบียงห้องม.6 ของตึกที่ไม่ได้ติดแอร์ เห็นตัวเองกับเพื่อนๆกำลังนั่งแอบกินกล้วยปิ้งที่ซื้อจากรถเข็นเจ้าเก่าที่เดินผ่านมาเมื่อกี้ ไม่ใช่ด้วยตาอีกเช่นกัน ฉันเห็นพื้นลื่นมันเป็นเงากับเพดานสูง พัดลมติดเพดานตัวเก่าที่ไม่เคยเกเร ประตูบานใหญ่ที่ทำจากไม้สักแผ่นเดียว เรื่อยเลยไปจนถึงช่องบนเพดานตรงหน้าห้องน้ำที่เป็นทางเข้าสู่ห้องใต้หลังคาซึ่งฉันได้ไปพบโดยบังเอิญ ฉันโชคดีพอที่โตทันได้อาศัยตึกเก่าคร่ำคร่าอายุเกือบร้อยปีนี้เล่าเรียนวิชา วิ่งเล่น และนินทาครู เป็นรุ่นสุดท้าย... ก่อนที่ตึกนี้จะถูกทุบทิ้งไป

เมื่อละสายตาจากภาพในความทรงจำ ก็ได้เห็นว่าฉันเดินมาเรื่อยจนสิ่งที่อยู่หลังรั้วนั้นเปลี่ยนจากตึกใหม่ตึกนั้นมาเป็นหน้าต่างห้องดนตรีแล้ว ฉันก้มตัวลงต่ำหลบแผ่นบังตาของประตูรั้วเพื่อมองให้เห็นหน้าต่าง เผื่อว่าจะเห็นคุณครูสุดรักคนเดิมนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะข้างหน้าต่างตัวเดิม แต่น่าเสียดายที่ในเวลานี้ ฉันได้เห็นแต่ยามหน้าเหี้ยมจ้องมองมาด้วยความสงสัย ฉันจึงผละไปจากบานประตูแล้วข้ามถนนไปยังอีกฝั่ง แค่ไม่กี่ก้าว...ก็ถึง

ถนนแคบลง หรือขาที่ก้าว...
ยาวกว่าเดิม

ฉันถามตัวเอง ทั้งๆที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
________________________________________

2.

ไม่บ่อยนักที่จะได้สังสรรค์กับเพื่อนเก่าๆ

และก็ไม่บ่อยเท่าไหร่อีกเช่นกัน ที่เราจะได้เห็นตัวเองแบบที่เคยเป็น เห็นแบบ.. เห็นจริงๆ ก็น่าจะจริงที่เขาว่ากันว่าเพื่อนสนิทเก่าๆคือบทบันทึกที่ดีที่สุดของเพื่อน ยิ่งเคยสนิทกันมากเท่าไหร่ และยิ่งไม่ได้เจอกันนานเท่าไหร่ บันทึกเหล่านั้นก็ยิ่งสมบูรณ์มากเท่านั้น เพราะไม่ได้ถูกทับถมด้วยบันทึกบทใหม่ๆที่กาลเวลาเป็นผู้เพิ่มจำนวนให้หนาขึ้นๆ จนความทรงจำเก่าๆลบเลือนไป

และในบางครั้ง พวกเขาจำสิ่งที่เพื่อนเคยเป็นได้ดีกว่าเจ้าตัวด้วยซ้ำไป

ก็จริง, กาลเวลาทำหน้าที่ของมันไป สิ่งเก่าตายจาก สิ่งใหม่เข้าแทนที่ แต่ความสัมพันธ์เก่าๆนั้น มักจะถูกห่อหุ้มไว้อย่างอบอุ่นด้วยภาพความทรงจำและความคาดหวังแบบเดิมๆ ทั้งที่ก็รู้กันอยู่ว่า กาลเวลาได้ฝากรอยใหม่ๆให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดระยะเวลาที่ห่างหายกันไป ..ทั้งร่องรอยบนใบหน้า และริ้วรอยในชีวิต.. แต่หลายต่อหลายครั้ง สิ่งเหล่านั้นก็กลับถูกภาพเก่าๆกลบบังไว้จนมิด เพื่อนเก่าๆจึงไม่ได้สังสรรค์เสวนากับตัวเราในวันนี้ แต่กลับขุดเอาความเป็นตัวเราที่ถูกถอดเก็บไว้นานจนลืมให้กลับขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง

สิ่งต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปในวันนี้ มันคงไม่สำคัญเท่ากับ “ตัวเรา” ที่เพื่อนเราอุตส่าห์จำหรอก

________________________________________

3.

มันคือทางม้าลายอันเดิม อันเดียวกับที่ฉันเคยข้าอยู่ทุกวันตอนเลิกเรียน ร้านที่พุ่งตรงไปหาในคราวนั้นไม่มีชื่อร้านให้จดจำ แต่พี่น้องเจ้าของร้านนี่สิที่ฉันจำได้แม่น วันนี้ ไม่มีร้านเล็กๆที่ฉันเคยซื้อชาลิปตันใส่ถุงนั้นอีกแล้ว เพราะแฟมิลี่มาร์ทผุดขึ้นมาแทนที่ แล้วพวกเขาย้ายกันไปอยู่ที่ไหนนะ หรือว่าเป็นเจ้าของร้านแฟมิลี่มาร์ทนี้เสียเอง

ไม่ต้องใช้เวลาคิดมากมายนัก เพราะฉันเหลือบไปเห็นใบหน้าที่คุ้นตานั้นอยู่ที่หน้าร้านแฟมิลี่มาร์ทพอดี สายตาบนใบหน้านั้นจ้องมองมาเหมือนจะถาม แล้วสายตาอีกคู่บนใบหน้าของฉันก็ประสานตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล ฉันไม่ได้ยินเสียงพูดคุยของดวงตาทั้งสองคู่นั้น แต่ผิวกายและลมหายใจนั้นรับรู้ได้ถึงการสวมกอดด้วยความยินดี น่าแปลกที่สายสัมพันธ์ฉันแม่ค้าลูกขายยังคงสดใหม่ ทั้งๆที่ต่างก็ไม่รู้จักชื่อซึ่งกันและกันเลย ชั่ววินาทีที่ฉันนึกถึงนามบัตรที่อัดแน่นอยู่ในกระเป๋า มากกว่าครึ่ง ฉันจำหน้าคนให้ไม่ได้ด้วยซ้ำ

บางที สายสัมพันธ์และความจริงใจ โอบกอดเราไว้แนบแน่นกว่าชื่อเสียงเรียงนาม

ใกล้ถึงเวลานัด ฉันเดินย้อนกลับมาตามถนนสายเล็กๆอันเป็นที่ตั้งของโรงเรียนคอนแวนต์ที่ฉันเคยศึกษาเล่าเรียนอยู่เป็นเวลา 13 ปี ความคุ้นเคยที่ดูแปลกตาดูจะค่อยๆหลั่งไหลกลับคืนสู่สำนึก สัมผัสบางอย่างบอกฉันว่ามันคือกลิ่นอายเก่าๆในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ

ร้านดอกไม้ร้านเดิมดูจะมีของในร้านมากขึ้นหลายเท่า แต่ฉันก็ยังเห็นภาพตัวเองยืนอยู่ในร้านเล็กๆแห่งนั้นและกำลังเลือกการ์ดสวยๆที่แพงเหลือเกินในความรู้สึกของวัยนั้น เพื่อหุ้นกับเพื่อนซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้รุ่นพี่คนหนึ่ง เดินต่อมาอีกหน่อย ฉันก็ได้เห็นตัวเองที่กำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดอยู่ในซอกเล็กๆข้างร้านดอกไม้นั้นด้วย ฉันเดินผ่านร้านส้มตำ ที่วันนี้คนแน่นกว่าเดิมมาก ก็ได้เห็นตัวเองที่กำลังนั่งเฮฮากับเพื่อนฝูงอยู่ในร้านนั้นอีกครั้ง มองไปฝั่งตรงข้าม แผงร้านการ์ตูนยังอยู่ที่เดิม ถึงแม้ว่าเขาจะขายนิตยสารด้วย แต่ฉันก็ยังสมัครใจเรียกมันว่าร้านการ์ตูนเพราะหลังเลิกเรียน พวกเรามักจะซื้อการ์ตูนมากกว่าซื้อนิตยสาร ตรงนั้นแหละ ฉันก็เหมือนจะเห็นเพื่อนๆกำลังเลือกซื้อการ์ตูนเล่มโปรดกลับไปอ่านกัน ฉันเห็นแม้กระทั่งว่า การ์ตูนเล่มนั้นคือเรื่องอะไร ฉันเห็นตัวเองตรงนั้น ตรงนี้ ฉันเห็นเพื่อน ฉันเห็นครู ฉันเห็นรุ่นพี่ที่สนิทกัน และเห็นรุ่นน้องที่รู้จักมักคุ้น
________________________________________

4.

เพราะขาที่ก้าวข้ามถนนอาจยาวขึ้นได้ แต่ถนนไม่เคยแคบลง ทุกสิ่งทุกอย่างจึงยังคงกระจายอยู่ในทุกอณูของอากาศโดยไม่เคยจางหายไปไหนทั้งสิ้น แน่นอนว่าสิ่งต่างๆย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ภาพอดีตย่อมไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นได้อีกแล้ว เพราะมันปลอดภัยอยู่ในซอกลึกของหัวใจตราบเท่าที่เรายังมีเวลาพอจะไปเตร็ดเตร่เพื่อขุดคุ้ยตะกอนนอนก้นทั้งที่สวยงามและไม่สวยงามนั้นให้ขึ้นมาลอยว่อนอยู่ในบรรยากาศ

ไม่น่าจะมากเกินไปถ้าฉันจะบอกว่า ภาพวันวานของถนนสายนี้ยังมีชีวิตอยู่ในตัวฉันเสมอ

เท่าๆกับที่ตัวฉันในวันวาน ก็ยังคงหายใจเข้าออกอยู่ในความทรงจำของเพื่อนสนิทเก่าๆของฉัน

...

เช่นกัน



Create Date : 13 สิงหาคม 2551
Last Update : 13 สิงหาคม 2551 11:42:09 น. 5 comments
Counter : 669 Pageviews.

 
สวัสดีเช้าวันใหม่จ้า

รู้แล้วว่าเวลาอัพบล็อกของน้องเสี้ยว

หลังเที่ยงคืนแน่เลย

พักผ่อนมากๆนะคะ

เป็นห่วง


โดย: karnya(ลืมล็อกอิน) IP: 222.123.217.45 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:2:44:22 น.  

 
ความทรงจำในอดีต เป็นกำลังใจให้อนาคต

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:7:30:07 น.  

 
ดีใจจ้า...นึกว่าไปเรียนต่อต่างประเทศซะแล้ว


เงียบผิดปกติ...สบายดีเปล่าเอ่ย

เวลาของพี่ก็ไม่ได้เป็นปกติเหมือนคนอื่นเค้านี่คะ


นั่นหล่ะยังทำนู่นนี่ไปเรื่อย

Take care na.


โดย: t_karnya วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เวลา:9:26:07 น.  

 
อ่านแล้วอิน...
คิดถึงเพื่อนเก่า
คิดถึงช่วงชีวิตที่ดีที่สุด ช่วงมัธยม
และ
คิดถึงกิ๊กเก่าที่พาไปกินก๋วยเตี๋ยวเป็ดข้างเซนต์โยฯ(เกี่ยวไหมเนี่ย)


โดย: เพราะผมไม่มี Time Machine วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:2:58:32 น.  

 
ถนนสายเก่าในวัยเด็ก
นึก ๆ ดูก็มีถนนสุทธิสารที่อยู่ในห้วงคำนึง
และอาจจะมีถนนพญาไทอยู่ช่วงหนึ่ง
ในวัยเด็กที่ถือกระเป๋าหนักอึ้งไปโรงเรียน
ในวันที่ฝนตกบางวันก็มีคนใจดีเรียกให้ขึ้นรถ
เป็นความประทับใจที่ยังไม่รู้ลืม

ห้วงความคิดคำนึงในอดีต
ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เวลาที่เหลือในชีวิต
ดูมันหนักอึ้ง
และทางเลือกที่น้อยลง
กับกำลังใจที่แผ่วลง
บอกกับตัวเองตลอดว่าต้องฮึดสู้นะ
อย่ายอมแพ้ง่าย ๆ


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:5:07:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.