|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เดินสลายความอ้วน
เดินสลายความอ้วน หากการออกกำลังกายประเภทอื่นนั้นดูยากเกินไปแนะนำให้ใช้การเดินต่อสู้กับไขมัน เพราะยิ่งเดินมากเท่าไรร่างกายก็ยิ่งฟิตแอนด์เฟิร์มมากเท่านั้น นอกจากช่วยให้รูปร่างดีแล้ว การเดินยังถือเป็นกีฬาที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและความดันโลหิตสูงด้วย เพราะการเดินช่วยเผาผลาญไขมันและพลังงานส่วนเกินได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าการเดินเพียง 30 นาที ต่อหนึ่งวันช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น 40-5-% ช่วยลดน้ำหนักได้ 1% ลดไขมันรอบเอวได้ 1.6% ลดไขมันในร่างกาย 2% และเพิ่มกล้ามเนื้อ 1.4% หากใครที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกลังกายด้วยการเดินอย่างจริงจังเพียงแค่ใช้วิธีการเดินติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นในที่ทำงานและใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เดินออกจากซอยไปขึ้นรถเมล์แทนการนั่งรถมอเตอร์ไซค์เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินไปสั่งอาหารแทนการโทรศัพท์ เดินส่งเอกสารแทนการส่งอีเมล เตรียมพร้อมร่างกายก่อนเดิน 1. รองเท้า ตัวช่วยสำคัญในการเดิน ควรเลือกรองเท้าสำหรับการวิ่งโดยเฉพาะ โดยเลือกขนาดที่พอดีหรือใหญ่กว่าขนาดจริง ½ เบอร์ เพื่อไม่ให้บีบรัดเท้าขณะเดินจนเกินไป ควรทดสอบดูด้วยว่ารองเท้าความยืดหยุ่นมากเพียงใด เพราะจะช่วยให้ไม่เกิดอาการบาดเจ็บได้ 2. เครื่องแต่งกาย ควรระบายอากาศได้ดีและคล่องตัว นอกจากนี้ควรสวมหมวกด้วย หากต้องการเดินในช่วงเช้าเพื่อป้องกันแสงแดด 3. กระเป๋าสัมภาระ ควรพกกระเป๋าขนาดเล็ก เพื่อเก็บของที่จำเป็นบริเวณข้างเอว เช่น โทรศัพท์มือถือ กุญแจบ้าน กุญแจรถ แต่ไม่ควรพกมากเกินไปจนหนัก เพราะทำให้เดินไม่สะดวก วอร์มอัพก่อนเดิน การออกกำลังกายทุกชนิดนั้นต้องมีการเตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อมก่อนเสมอ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและกล้ามเนื้อฉีกขาด โดยอาจใช้เวลาในการวอร์มอัพนาน 5 นาทีด้วยท่าทางดังต่อไปนี้ 1.หมุนคอเป็นวงกลมอย่างช้าๆ 5-10 ครั้ง 2.หมุนแขนเป็นวงกลมข้างละ 5-10 ครั้ง 3.งอเข่าไปด้านหลัง เอื้อมมือไปจับปลายเท้าค้างไว้ข้างละ 5-10 วินาท เดินอย่างไรไม่บาดเจ็บ ท่าทางการเดินที่ถูกต้องนั้นช่วยให้เราเดินได้คล่องแคล่วและนานมากขึ้น แขน งอข้อศอก 90 องศา แนบลำตัว แกว่งแขนเล็กน้อยขณะก้าวเดิน โดยไม่ควรแกว่งแขนให้สูงเกินระดับอก เท้า ขณะก้าวเท้าให้ใช้สันเท้าเดินลงก่อนจึงตามด้วยฝ่าเท้าและปลายเท้า โดยใช้แรงจากปลายเท้าเป็นตัวส่งแรงเวลาเปลี่ยนข้างขณะเดินให้สังเกตว่าเท้าไม่ชี้ออกด้านข้าง หากชี้ออกด้านข้างแสดงว่ารองเท้าอาจคับเกินไป ตา ตามองตรงไปที่ทางข้างหน้า คาง เชิดคางขึ้นตรงโดยไม่ต้องเกร็ง ผ่อนคลายก่อนพัก เมื่อใกล้คบเวลาตามกำหนดประมาณ 5-10 นาที ให้เดินในอิริยาบถตามสบาย สูดลมหายใจเข้า-ออกลึกๆ และยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยท่าทางเช่นเดียวกับการวอร์มอัพ
ที่มา //www.health2shape.com/2011/10/08/%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b9%89%e0%b8%a7%e0%b8%99/
Create Date : 16 ธันวาคม 2555 |
Last Update : 16 ธันวาคม 2555 8:28:06 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1021 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]
|
แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
|
|
|
|
|
|
|
|