bloggang.com mainmenu search


     กระแสเปลี่ยนชื่อประเทศจาก "ไทย" มาเป็น "สยาม" ยังไม่ชัดเจนว่าจะทำได้ในรัฐบาลนี้จริงหรือไม่ แม้ ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะเรียกร้องเรื่องนี้มานมนานก็ตาม เนื่องจากฝ่ายปกครองทุกยุคทุกสมัย อาจยังไม่เห็นเหตุผลที่เหมาะสมและหนักแน่นเพียงพอที่จะเปลี่ยนชื่อก็เป็นได้

     อาจารย์ชาญวิทย์ ยกเหตุผลเรื่องชาติพันธุ์ ภาษา และอัตลักษณ์วัฒนธรรม ที่มีอยู่หลากหลายในผืนแผ่นดินแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นไทย ลาว อีสาน มอญ เขมร แต้จิ๋ว ไหหลำ กวางตุ้ง จาม ชวา มลายู มอร์แกน ฮ่อ ไทยทำ ผู้ไท เวียด ลัวะ ม้ง กะเหรี่ยง มูเซอ อาข่า แขก ฯลฯ จึงเห็นว่าไม่เป็นธรรมที่จะเรียกนามแผ่นดินนี้ว่า "ไทย" อันเป็นเพียงชื่อชาติพันธุ์เดียวในอีกหลายสิบชาติพันธุ์

     เพราะฉะนั้น เพื่อการยอมรับในความหลากหลายทางเชื้อชาติ ภาษา และอัตลักษณ์วัฒนธรรม ภายใต้หลักการสมานฉันท์ จึงเห็นว่าควรจะเปลี่ยนชื่อประเทศกลับไปเป็น "สยาม" สืบไป

     หากดูกันตามประวัติศาสตร์แล้ว ชื่อ "สยาม" ถูกเปลี่ยนเป็น "ไทย" เมื่อปี พ.ศ. 2482 ในสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม จากนั้นในปี พ.ศ. 2488 เมื่อมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี ชื่อประเทศก็ถูกเปลี่ยนกลับไปเป็น "สยาม" อีกครั้ง แต่ในปี พ.ศ. 2491 จอมพล ป. ได้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีก ชื่อประเทศจึงถูกเปลี่ยนกลับมาเป็น "ไทย" ในที่สุด

     สาเหตุที่เปลี่ยชื่อประเทศในขณะนั้น ก็มาจากอำนาจเผด็จการและการปลุกระดมแนวคิดชาตินิยม เพื่อแสดงถึงความเข้มแข็งของประเทศ แต่ก็ทำให้คนเชื้อชาติอื่น เช่น จีน มลายู เกิดความไม่พอใจ เนื่องจากรู้สึกไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับแผ่นดินแห่งนี้

     ส่วนชื่อ "สยาม" นั้น ยังไม่มีใครรู้ที่มาแน่ชัดว่ามาจากไหน ยังเป็นที่ถกเถียงในแวดวงวิชาการกันอยู่ แต่ที่แน่ๆ คือ ต่างประเทศรู้จักชื่อแผ่นดินขวานทองแห่งนี้ ในนาม "สยาม" มากกว่า "ไทย" อย่างชาวมอญ เรียก "เซม" และชาวมลายู เรียก "สยาม" มาจนกระทั่งปัจจุบัน ชาวเขมร เรียก "เสียมกุก" จีนแต้จิ๋ว เรียก "เสี่ยมล้อก๊ก" เป็นต้น

     จากประสบการณ์ส่วนตัวผมเอง สมัยอยู่สหรัฐอเมริกา ชาวต่างชาติมักจะสับสนชื่อประเทศไทย กับประเทศอื่นๆ ที่ชื่อคล้ายกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไต้หวัน

     หลายครั้งเมื่อผมบอกว่า "I'm Thai" ก็มักจะถูกถามย้ำอีกครั้งว่า "Taiwan?" ที่สำคัญบางครั้งยังถูกถามด้วยคำถามแสลงหูว่า "Where is Thailand?"

     โดยส่วนตัวผมแล้ว จึงชอบชื่อประเทศ "สยาม" มากกว่า "ไทย" ด้วยเหตุผลว่าชื่อ "สยาม" นั้น ฟังดูอบอุ่น เป็นกันเอง และที่สำคัญ...สำหรับผม "สยาม" ฟังดูโรแมนติคกว่า "ไทย" อย่างเทียบไม่ติด

     แต่นอกเหนือจากเหตุผลทางด้านอารมณ์ส่วนตัว การยอมรับความแตกต่างทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรม และการจดจำชื่อของชาวต่างชาติแล้ว ยังมีอีกหลายเหตุผลที่ต้องตระหนักให้จงหนักก็คือ ต้นทุนในการเปลี่ยนชื่อย่อมมีอยู่สูงไม่แพ้กัน ซึ่งนั่นย่อมไม่ได้หมายถึงตัวเงินเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงต้นทุนทางสังคม ค่าความนิยม นโยบายรัฐ และเรื่องยิบย่อยอีกมากมายที่จะตามมา

     และหากมีการเปลี่ยนชื่อในรัฐบาลนี้จริง โดยกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ. 2550 จะมีความยั่งยืนเพียงใด ถ้ากรณีที่เลวร้ายที่สุด เกิดการฉีกรัฐธรรมนูญอีกครั้ง ผู้มีอำนาจในยุคต่อไปจะเปลี่ยนชื่อประเทศกลับไปกลับมาอีกไม่รู้จักจบจักสิ้นหรือไม่

     หลายคนจึงมองว่า เรื่องชื่อประเทศเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ การเปลี่ยนชื่ออาจไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น ทั้งในแง่เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แต่นั่นอาจเป็นเพียงมุมมองของคนที่ถูกเรียกตามชาติพันธุ์ว่าเป็น "คนไทย" โดยกำเนิดก็เป็นได้

     เพราะถ้ามองในมุมคนชาติพันธุ์อื่นๆ ที่กล่าวมาข้างบนแล้ว พวกเขาอาจไม่ได้คิดเช่นนั้น และนี่อาจเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตของพวกเขาก็เป็นได้

ขอขอบคุณ
ที่มา :
Blog คุณ Suki

H O M E
Create Date :21 มิถุนายน 2551 Last Update :22 กรกฎาคม 2551 21:12:25 น. Counter : Pageviews. Comments :2