bloggang.com mainmenu search

เวทีวิพากษ์

สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) นอกจากจะเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทยแล้ว สำหรับชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) โดยเฉพาะศิษย์เก่านับแสนคนที่จบการศึกษาจากรั้วสถาบันการศึกษาแห่งนี้ตลอดจนศิษย์ปัจจุบัน ต่างมีความผูกพันต่อสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งผู้ที่ศึกษาเรียนรู้อยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 112 ปี ต่างพากันเรียกขานสมเด็จเจ้าพระยา ว่า "เจ้าพ่อ" และถือว่าตนเป็นลูกสุริยะที่เคารพนับถือเจ้าพ่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

ด้วยสำนึกในพระคุณของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) มบส. ร่วมกับ ทายาทสายสกุลบุนนาค และหน่วยงานต่างๆ จัดงานบำเพ็ญกุศลอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งจัดนิทรรศการ "200 ปี ชาตกาล จากวันวานสู่ปัจจุบัน" ซึ่งน้องๆ นิสิตที่กำลังศึกษาในรั้วบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เตรียมร่วมงานดังกล่าวอย่างพร้อมเพรียง เพื่อบำเพ็ญกุศลแด่เจ้าพ่อที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา วันนี้ลองไปฟังความคิดเห็นของศิษย์มบส.ดูบ้าง

เริ่มจาก นายวัชรา บัวทอง หรือ น้องสอง นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ มบส. ในฐานะนายกองค์การนิสิต มบส. กล่าวถึงสมเด็จเจ้าพระยา ว่า หากกล่าวถึงสมเด็จเจ้าพระยา นิสิต นักศึกษาทุกคนจะต้องนึกถึงการทำงานทดแทนแผ่นดินของท่าน นอกจากนี้ท่านได้บริจาคที่ดินสำหรับการศึกษา ซึ่งนิสิต นักศึกษา มบส.ทุกคนเรียนรู้ประวัติของสมเด็จเจ้าพระยา พร้อมจดจำคติธรรมสัญญา และสัจจะของท่านที่ว่า "สจฺจํ เว อมตา วาจา" ความเป็นจริงเป็นสิ่งที่ไม่ตาย ทุกสิ่งทุกอย่างของสมเด็จเจ้าพระยาได้เป็นแบบอย่างในการทำกิจกรรมต่างๆ

"ทุกครั้งที่นิสิต นักศึกษา เดินผ่านเข้ามาเรียนก็จะมองเห็นอนุสาวรีย์ของเจ้าพ่อ ทำให้พวกเรามีแรงบันดาลใจ และเป็นที่เคารพบูชาของชาว บ้านสมเด็จเจ้าพระยา ทางด้านการศึกษา การกีฬา เจ้าพ่อถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเราจะไม่กราบไหว้เพื่อขอเกรดให้ดีขึ้น แต่ส่วนตัวของผมเวลาที่จะต้องนำคณะนิสิต มบส.ไปแข่งกีฬาต่างจังหวัด หรือไปออกค่ายอาสา ผมจะไหว้เจ้าพ่อและขอให้เดินทางปลอดภัยและปฏิบัติงานได้สำเร็จลุล่วง ซึ่งแต่ละครั้งเราก็ทำงานได้ราบรื่น ไม่มีอุปสรรคหรืออันตรายที่จะเกิดแก่คณะนิสิต ขณะเดียวกัน ในฐานะเด็กทำกิจกรรมเราสัมผัสได้ว่าเจ้าพ่อคอยคุ้มครองลูกสุริยะทุกคน" นายกองค์การนิสิตมบส.กล่าว

ด้าน น้องเม น.ส.สุพินดา ดีโฟ้ย นิสิตชั้นปี 2 โปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มบส. เล่าถึงเจ้าพ่อว่า แม้ว่าจะเข้าเรียนที่นี่ได้เพียง 2 ปีจากการที่ได้สัมผัสหลายๆ อย่างเกี่ยวกับสมเด็จเจ้าพระยา พบว่า เจ้าพ่อมีความสำคัญมากสำหรับคนในบ้านสมเด็จเจ้าพระยา โดยส่วนตัวนับถือเจ้าพ่อมาก ก่อนสอบจะไปไหว้เจ้าพ่อขอให้สมองโลดแล่น มีสมาธิ อย่าได้มีเรื่องติดขัดอะไร ที่สำคัญมีครั้งหนึ่งตอนที่น้องชายหายตัวไปจากบ้าน ก็ไปขอเจ้าพ่อ ให้ช่วยคุ้มครองน้องชายด้วย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความศักดิ์สิทธิ์และคุณงามความดีของเจ้าพ่อในอดีต ทำให้มหาวิทยาลัยรุ่งเรืองได้จนถึงปัจจุบัน

     นายวัชริศร์ มีบุญสม หรือ น้องตี๋ นิสิตชั้นปี 4 โปรแกรมวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มบส. กล่าวว่า พวกเราได้เรียนรู้ตั้งแต่เข้ามาเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ว่า เจ้าพ่อเป็นผู้มีพระคุณต่อมหาวิทยาลัย ที่ตั้งมหาวิทยาลัยมาจากที่ดินของท่าน ทั้งนี้ เจ้าพ่อมีอิทธิพลต่อสถานที่ ต่อจิตใจของคนในมหาวิทยาลัย รวมถึงคนส่วนใหญ่จะเชื่อไปในทางความลี้ลับด้วย แต่ทุกคนจะไม่ไปขอเรื่องการเกณฑ์ทหาร เรื่องเกรด และเรื่องความรักเด็ดขาด เป็นข้อห้ามที่รุ่นพี่บอกต่อๆ กันมา ส่วนตัวเวลาเข้า-ออกมหาวิทยาลัยผมจะไหว้เจ้าพ่อทุกครั้ง แต่ตนจะไม่ขออะไรท่าน เพราะเวลามีปัญหาจะคิดแก้ปัญหาด้วยตัวเองมากกว่า ซึ่งต่างจากคนอื่นๆ ที่นิยมไปกราบไหว้ขอจากเจ้าพ่อ

น้องก้าว หรือ นายกรภัทร์ งอกจันทึก นิสิตชั้นปี 3 โปรแกรมวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มบส. เล่าว่า นิสิต นักศึกษาของบ้านสมเด็จเจ้าพระยาได้เรียนรู้ประวัติของเจ้าพ่อเป็นอย่างดี ในฐานะที่ลูกหลานของท่านบริจาคที่ดินให้จัดสร้างเป็นโรงเรียนและพัฒนาเป็นมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน ซึ่งเจ้าพ่อเป็นที่เคารพ สักการบูชาของทุกคนและคนแถวนี้ก็รู้จักเจ้าพ่อเป็นอย่างดี ใครผ่านไปผ่านมาก็จะยกมือไหว้ทำความเคารพอนุสาวรีย์ของท่าน ส่วนตัวผมคิดว่าท่านเป็นเอกลักษณ์ของบ้านสมเด็จ ที่สำคัญผมเชื่อว่า "เจ้าพ่อ" มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ส่วนมากผมก็ไม่เคยกราบไหว้เพื่อขอเกรด แต่จะกราบขอพรและขอให้ท่านคุ้มครองคณะนิสิตเวลาต้องเดินทางไกล เช่น ไปแข่งกีฬา ไปออกค่าย หรือไปทำกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัย เป็นต้น ทำให้พวกเรารู้สึกอุ่นใจเหมือนเจ้าพ่อคอยดูแลติดตามไปทุกที่

"ผมคิดว่า เจ้าพ่อเป็นแรงบันดาลใจ เป็นสิ่งที่เตือนสติให้นิสิต นักศึกษาทำความดี เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ส่วนที่คนส่วนใหญ่ชอบกราบไหว้ขอพรเจ้าพ่อนั้น พวกเรารู้ข้อห้ามดีว่าไม่ควรขอเรื่องเกรด ส่วนถ้าไปแข่งกีฬาก็ห้ามขอว่าให้ชนะการแข่งขัน แต่ถ้าขอให้เจ้าพ่อช่วยคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่นิสิตที่ไปออกค่ายทุกคน พวกเราก็จะพบได้สิ่งดีๆ ไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ทำงานสำเร็จลุล่วง" น้องก้าว กล่าว

     สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์หรือเจ้าพ่อของชาว มบส. จึงมีสถานะทั้งเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย

และยังเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และกระตุ้นให้นักศึกษาประพฤติและปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม กระทำความดี มีคุณธรรมไปพร้อมกันด้วย



ขอขอบคุณ
ที่มา :
ข่าวสดรายวัน วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์


H O M E
Create Date :21 มกราคม 2553 Last Update :21 มกราคม 2553 21:08:54 น. Counter : Pageviews. Comments :5