วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6328 ข่าวสดรายวัน
บ้านสมเด็จฯ ในมหา"ลัยมีตำนาน
ราชภัฏวันนี้
คัคนานต์ ดลประสิทธิ์ เรื่อง จุลวัฒน์ ถีติปริวัตร์ ภาพมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เป็นสถานศึกษาที่มีประวัติอันยาวนานมากว่า 100 ปี
เริ่มจากปีพ.ศ.2439 ก่อตั้งเป็นโรงเรียนราชวิทยาลัย หรือโรงเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ต่อมาเป็นโรงเรียนฝึกหัดครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และกลายมาเป็นมหาวิทยาลัยในปัจจุบัน
ทุกระยะทุกยุคของ "บ้านสมเด็จ" ได้ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพออกไปเป็นกำลังสำคัญของราชการและสังคม
ที่ตั้งและบริเวณโดยรอบของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เดิมเคยเป็นจวน และที่ดินของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ หรือ ท่านช่วง บุนนาค ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเมื่อต้นรัชกาลที่ 5
บริเวณนี้มีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ พระยาสีหราชเดโชชัย หลานปู่ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ต่อมาจึงได้พระราชทานให้กระทรวงธรรมการนำมาเป็นที่ตั้งของโรงเรียน
ดังนั้นทุกๆ คนในมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งนี้จึงเคารพเทิดทูนสมเด็จ เจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ โดยขนานนามท่านว่า
"เจ้าพ่อ" และเรียกตนเองว่า
"ลูกสุริยะ"เนื่องจากสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ได้รับพระราชทานตรามหาสุริยมณฑล จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และยึดถือเป็นสัญลักษณ์แทนตัวท่านมาโดยตลอด และตราประจำมหาวิทยาลัย คือ รูปเสมาสุริยมณฑล
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา หากนับรวมอายุแล้วเก่าแก่กว่าร้อยปี ความเข้มข้นทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์ชัด
แต่ด้วยความเก่าแก่ และมีความเป็นมาเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ในแผ่นดินที่สมัยยังมีชีวิตเต็มไปด้วยบุญญาบารมี
จึงไม่แปลกที่จะมีเรื่องเล่าร่ำลือต่างๆ นานา
หลายเรื่องอาจเป็นเรื่องที่ชาวมหาวิทยาลัยเคยได้ยินกันจนคุ้นหู หรือบางเรื่องอาจจะยังเพิ่งเคยได้ยินกันก็มี
ดร.สุดารัตน์ ชาญเลขา รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เล่าเรื่องของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ว่า อาคารวิเศษศุภวัฒน์เป็นอาคารดนตรีไทย มีเศียรบรมครูหลายชนิด มีเครื่องเล่นดนตรีไทยหลายชนิด
ไม่ว่าจะเป็น ระนาดเอก กลอง ปี่ ขลุ่ย ฆ้อง เป็นต้น เมื่อสมัยก่อนเป็นหอพักชาย มีนักศึกษาโดดออกไปเที่ยวด้านนอกหลายครั้ง
"แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งนักศึกษากลุ่มนั้นกำลังจะไปเที่ยวจึงพบว่ามี "เจ้าพ่อ" ยืนถือดาบขวาง ใส่ชุดสีขาวกั้นไม่ให้ออกไปด้านนอก และทำสีหน้าขึงขังโกรธ กลุ่มนักศึกษาก็ได้ไปขอขมากับเจ้าพ่อ จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าโดดออกเที่ยวด้านนอกอีกเลย"
นอกจากนี้ยังมีคนงาน นักการภารโรง ที่พักอยู่บริเวณตึกดังกล่าว บ่อยครั้งในเวลากลางคืนจะมีเสียงระนาด หรือไม่ก็เป็นเสียงดนตรีไทยเต็มวง แทบทุกคืน
บางครั้งอาจารย์ประจำภาควิชายังเคยเห็นชายรูปร่างใหญ่กำยำ เดินผ่านไปมาในห้องปฏิบัติ แต่พอเดินออกมาดู พบว่ากุญแจที่คล้องอยู่หน้าประตูไม่ได้เปิดแต่อย่างใด บางครั้งมีไฟดับ มีเสียงดนตรีไทย และเงา ออกมาเป็นระยะๆ แทบทุกวันเช่นกัน ถัดมาเป็นสำนักงานศิลปวัฒนธรรมและหอประชุมที่มีตำนานเล่าขานกันมาว่า พระภิกษุสงฆ์ หรือผู้มีสัมผัสที่ 6 ที่เข้ามาบริเวณห้องประชุมกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าภายในห้องประชุมมีวิญญาณของเจ้าพ่อสิงสถิตอยู่
"แต่ที่เจอกับตัวเองเลยก็มีอาจารย์สอนพิเศษอยู่ท่านหนึ่ง ท่านมาสอนวิชาขับเสภา ระหว่างที่ท่านเดินไปเข้าห้องน้ำก็ได้ยินเสียงผู้ชายพูดว่า อยากฟังเสภา ขยับกรับให้ด้วย อาจารย์จึงเดินกลับมาที่ห้องประชุม และให้นักศึกษาทุกคนเงียบ จากนั้นอาจารย์ก็ขับเสภาจนจบเพลง"
สําหรับบ้านเอกะนาค ที่ถูกเรียกขานอย่างไม่เป็นทางการว่า "บ้านผีสิง" นั้น สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2462 ตรงสมัยรัชกาลที่ 6
เป็นบ้านเรือนไทย ทรงปั้นหยา ของ พ.ต.อ.พระยาประสงค์สรรพการ (ยวง เอกะนาค) ตำแหน่งรองอธิบดีกรมตำรวจในสมัยนั้น
ต่อมาบ้านหลังนี้ได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของบุตรสาว คือ คุณประยูร เอกะนาค ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
แต่เนื่องจากบุตรสาวของท่านไม่มีทายาทสืบสกุล บ้านหลังนี้จึงตกเป็นของมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ตามพินัยกรรมที่ได้ระบุไว้ว่า หากไม่มีทายาทสืบต่อแล้ว ก็ให้บ้านหลังนี้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโรงเรียนมัธยมบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ณ เวลานั้น)
ในเวลาต่อมามหาวิทยาลัยได้ปรับปรุงซ่อมแซมตัวบ้านให้สมบูรณ์เหมือนเดิมทั้งภายในตัวบ้านและภูมิทัศน์โดยรอบ
และใช้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวฝั่งธนฯ เช่น จัดทำเป็นห้องบ้านช่างฝั่งธนฯ ขลุ่ย-บ้านลาว หัวโขน-บางไส้ไก่ ขันลงหิน-บ้านบุ หล่อพระ-บ้านช่างหล่อ ขนมฝรั่ง-กุฎีจีน ห้องพระเจ้าตากสิน
ห้องประวัติเจ้าของบ้าน (พระยาประสงค์) ห้องชีวิตชาวเรือ ชาวน้ำ ชาวสวนฝั่งธนฯ
แล้วยังจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ศูนย์กรุงธนบุรีศึกษา ภายในพิพิธภัณฑ์ศูนย์กรุงธนบุรีศึกษาประกอบด้วยห้องจัดแสดงทั้งหมด 10 ห้อง
เหตุการณ์ชวนขนหัวลุกที่เล่าต่อกันมา คือ นักศึกษาที่เข้ามาถ่ายรูปบริเวณบันไดด้านหน้า พอถ่ายรูปเสร็จนำรูปไปล้าง และนำมาดูพบว่าในภาพนั้นมีหญิงชรา นุ่งผ้าโจงกระเบน ตัดผมทรงดอกกระทุ่ม กำลังก้าวขึ้นไปบนบ้านหลังนั้น
อาจารย์นำรูปของคุณประยูรมาเทียบกับรูปที่ถ่ายไว้ พบว่าลักษณะรูปร่างและใบหน้าคล้ายคลึงกับท่านมาก หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่ประมาณ 2-3 ครั้ง นายสุชาครีย์ ก่อเกียรติตระกูล หัวหน้างานอาคารและสถานที่ เล่าว่า ตอนที่เข้ามาทำงานในช่วงแรกๆ บริเวณด้านหลังอาคาร 100 ปี ศรีสุริยะวงศ์ มีกอกล้วยตานีรกมาก ทางอธิการบดีจึงมีคำสั่งให้ตัดกอกล้วยนั้นทิ้ง โดยมีคนงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างมาตัด
หลังจากตัดต้นกล้วยตานีได้ 1 ต้น คนงานคนดังกล่าวก็กลับบ้าน เมื่อถึงบ้านแล้ว คนงานดังกล่าวแสดงกิริยาอาละวาด โวยวาย เหมือนถูกผีเข้า
ญาตินำไปหาร่างทรง คนงานบอกว่ามาตัดเขาทำไม เขากำลังตั้งท้องอยู่ ต่อไปนี้ห้ามคนงานคนนี้เข้ามาที่มหาวิทยาลัยเด็ดขาด
"ผมและคนงานก็ได้ไปขอขมา หลังจากขอขมาเสร็จก็ไปดูที่ลำต้นกล้วยก็พบว่ามียางคล้ายๆ เลือดซึมออกมาอยู่ตลอดเวลา จึงได้ทำเป็นศาลเพียงตา และใช้ผ้า 3 สี ผูกบริเวณกอกล้วย" นายสุชาครีย์กล่าว
"หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทราบว่าต้นกล้วยดังกล่าวเป็นต้นกล้วยที่นำมาจากพิธีไหว้ครู แล้วนำมาลงไว้ที่บริเวณนี้ ซึ่งโดยปกติเป็นคนไม่เชื่อเรื่องลี้ลับอยู่แล้ว แต่พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ จากที่ไม่เชื่อเลย เหลือเพียงแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายเพราะถือว่าทำงาน อีกอย่างก็ไม่รู้ประวัติของมหาวิทยาลัยนี้ เพราะไม่มีใครเล่าเรื่องอะไรให้ฟังเลย แต่ตอนนี้ก็ไม่คิดที่จะตัดต้นกล้วยทิ้งแล้ว อยู่ยังไงก็ให้อยู่อย่างนั้น" นายสุชาครีย์ กล่าว
นายธนาศาล ประกายสันติสุข หรือ "เซียะ" อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โปรแกรมวิชาดนตรีไทย เล่าถึงประสบการณ์ว่า ขณะที่ศึกษาอยู่ปี 2 วันที่เกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งต้องออกไปแสดงงานด้านนอก อาจารย์นัดตอน 08.00 น. จึงได้เข้ามาที่อาคารวิเศษศุภวัฒน์ เพื่อซ้อมดนตรีไทยกับเพื่อนก่อนขึ้นแสดงจริง
ระหว่างนั้นมีเพื่อนไปเข้าห้องน้ำ หลังจากทำธุระเสร็จต้องเดินผ่านห้องโถงที่มีเครื่องดนตรีไทย เรียกว่า เครื่องมอญ ประกอบด้วย ฆ้องมอญ 4 วง ระนาดเอก ระนาดทุ้ม เปิงมางคอก ตะโพน ซึ่งมีอายุตั้งแต่รัชกาลที่ 5
"จังหวะที่เดินกลับนั้น พอดีประตูห้องโถงเปิดอยู่ สายตาที่มองเข้าไปในห้องโถง พบชายผิวเข้ม ใส่เสื้อขาว นุ่งโจงกระเบนขาว นั่งมองหน้าอยู่ จึงรีบวิ่งออกมา หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์อย่างเดียวกันอีกหลายครั้ง จนกระทั่งอาจารย์ที่ซื้อเครื่องมอญชุดนั้นมา เล่าที่มาของเครื่องมอญให้ฟังว่า เครื่องดนตรีชุดนี้เจ้าของเขาตายแล้ว แต่ลูกนำเครื่องดนตรีมาขาย เจ้าของหวงเครื่องดนตรีชุดนี้มาก"
เซียะเล่าต่ออีกว่า เมื่อครั้งงาน 117 ปี บ้านสมเด็จเจ้าพระยา มีการแสดงเยอะมาก ซึ่งคนที่ต้องแสดงส่วนใหญ่ต้องขึ้นมาแต่งตัวที่ห้องโถงดังกล่าว มีผู้หญิงเรียนอยู่ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ เข้าไปเล่นเครื่องดนตรีชุดนี้แล้วเล่นอย่างแรงมาก หลังจากเสร็จงาน ผู้หญิงคนนั้นก็กลับบ้าน ระหว่างที่นอนอยู่ก็รู้สึกอึดอัดตัวเอง จึงลืมตาขึ้น พบว่ามีชายผิวเข้ม ใส่เสื้อขาว นุ่งโจงกระเบนสีแดง ขึ้นไปเหยียบอกและชี้หน้า พอวันรุ่งขึ้นผู้หญิงคนนั้นมาปรึกษาอาจารย์ ก็เลยให้ผู้หญิงคนนั้นไปจุดธูปขอขมากลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีนักการภารโรงบางคนเห็นเจ้าพ่อที่บริเวณศาลด้านหน้าอาคารดังกล่าว บางคนก็ได้ยินเสียง บางคนก็เห็นเป็นเงา
"ส่วนตัวแล้วเชื่อเรื่องนี้มาก เพราะเคยบนกับเจ้าพ่อไว้ว่าขอให้เรียนจบตามเกณฑ์ ซึ่งในช่วงแรกๆ ก็มีปัญหาเรื่องการเรียนหลายอย่าง หลังจากบนไปแล้วเกรดก็เริ่มทยอยออกเรื่อยๆ ผมก็ซื้อดอกดาวเรืองกับ เป๊ปซี่ไปถวายเจ้าพ่อ" เซียะกล่าว
นอกจากนั้นยังมีศาลพระภูมิประจำสถาบัน หรือที่เรียกกันว่า ศาลพ่อปู่ ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังอาคารเฉลิมพระเกียรติที่นักศึกษาใหม่ทุกรุ่นจะต้องไปเคารพสักการะ เชื่อกันว่า หากนักศึกษาคนใดต้องการที่พึ่งพิงทางใจในเรื่องต่างๆ สามารถมาขอพรกับพ่อปู่ได้
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ทำการบูรณะมหาวิทยาลัยใหม่เกือบทั้งหมด ซึ่งตอนนี้เหลือตึกเก่าแก่อยู่ 3 ตึก ได้แก่ สำนักศิลปวัฒนธรรมและหอประชุม บ้านเอกะนาค และอาคารวิเศษศุภวัฒน์
พร้อมกับเรื่องเล่าและตำนานที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นหน้า 21
H O M E
กำลังขึ้น ปี1 มนุษย์ ศาสตร์
โดย: เพนกวิน IP: 125.25.251.66 19 เมษายน 2551 23:37:30 น.
โดย: โอ๊ต ระนาดเอก IP: 119.42.70.246 30 เมษายน 2551 23:35:45 น.
โดย: พีชซ่า IP: 119.42.65.117 15 พฤษภาคม 2551 13:57:55 น.
โดย: mongkol sirihong IP: 125.24.54.0 28 กันยายน 2551 18:49:48 น.
โดย: CKO.- IP: 58.9.83.140 28 กุมภาพันธ์ 2552 8:15:05 น.
KobNokKalaClub.hi5.com แวะไปทักทายได้นะคร้าบชาวลูกสุริยะ
โดย: kobnokclub IP: 61.90.83.36 13 พฤษภาคม 2552 0:28:46 น.
โดย: ying IP: 222.123.183.107 27 มิถุนายน 2552 17:19:10 น.
โดย: เด็กโรงเรียนบ้านสมเด็จ IP: 58.9.44.166 21 มกราคม 2553 19:57:01 น.
โดย: สุขศึกษา IP: 203.144.144.164 10 กุมภาพันธ์ 2553 19:39:21 น.
โดย: สุขศึกษา IP: 203.144.144.164 10 กุมภาพันธ์ 2553 19:39:21 น.
โดย: ราชภัฎธนบุรี IP: 172.16.221.52, 202.28.54.221 1 ธันวาคม 2553 12:36:58 น.
aittisak_lordbaron@hotmail.com
โดย: Aitz Econ IP: 183.89.246.139 28 กุมภาพันธ์ 2554 2:28:17 น.
โดย: หนูนา IP: 49.230.151.188 22 พฤศจิกายน 2556 20:44:06 น.
โดย: หนูนา IP: 49.230.151.188 22 พฤศจิกายน 2556 20:45:00 น.