bloggang.com mainmenu search



Title: The Princess' Man
Director: Kim Jeong-Min, Park Hyun-Suk
Writer: Jo Jung-Joo, Kim Wook
Network: KBS2 July 20, 2011 - October 6, 2011 Wed. & Thu. 21:55
Episodes: 24 TV Ratings: 23.8% (TNmS Nationwide Weekly Average)





The princess's man เป็นซีรีย์เกาหลีย้อนยุคของสถานีโทรทัศน์ KBS ที่มีเรตติ้งเฉลี่ยสูงถึง ๒๓.๘ % ครองเรตติ้งอันอับหนึ่งของกลุ่มซีรีย์ที่ออกอากาศทุกวันพุธ พฤหัส ในช่วงนั้น แม้ว่าตัวองค์หญิงอิเซรยอง (นางเอก) พระราชธิดาของกษัตริย์เซโจจะมีหลักฐานบันทึกไว้ในพงศาวดารน้อยมากจนไม่เป็นที่แน่ใจว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ (และคนเขียนบทละครก็เขียนได้สอดคล้องดีนะที่กษัตริย์เซโจได้มีราชโองการให้สำนักราชเลขาลบชื่ออิเซรซองออกจากบันทึกประวัติของราชวงศ์) แต่ซีรีย์เรื่องนี้ก็ยังถือเป็นซีรีย์แนวประวัติศาตร์ที่ตัวละครสำคัญหลายๆ คน เคยมีตัวตนอยู่จริง เช่น พระเจ้ามุนจง พระเจ้าทันจง พระเจ้าเซโจ กษัตริย์องค์ที่ ๕-๖-๗ แห่งราชวงศ์โชซอน (ค.ศ. ๑๔๕๕ -๑๔๖๘) อัครมหาเสนาบดี คิมจองโซ องค์หญิงคยองเฮ พระราชธิดาของพระเจ้ามุนจง และเป็นพระพี่นางของพระเจ้าทันจง องค์ชายบางคนที่เป็น "เสด็จอา" และถูกองค์ชายซูยางหรือต่อมาคือพระเจ้าเซโจกำจัดไปทีละคนสองคน เพื่อปัดกวาดหนทางสู่การขึ้นครองราชย์ จนทรงเป็นกษัตริย์ที่ถูกประณามมากที่สุดพระองค์หนึ่งเพราะทรงแย่งชิงราชบัลลังก์มาจากพระนัดดาคือ พระเจ้าทันจง ที่ยังทรงพระเยาว์อย่างไม่เป็นธรรม




เป็นที่เข้าใจกันดีว่าการเอาเกร็ดประวัติศาสตร์มาทำละคร ไม่ได้หมายความว่าละครคือประวัติศาสตร์ แต่หากมันมีต้นตอมากจากประวัติศาสตร์ แม้การเขียนบทอาจจะเกี่ยวพันแค่เล็กน้อย สอดคล้องแค่นิดหน่อย ก็เชื่อว่าซีรีย์เรื่องนั้นๆ จะยังมีความน่าสนใจที่ดึงดูดผู้ชมไว้ได้พอสมควร และหากทำละครออกมาได้ดีชวนติดตามเรตติ้งก็จะดีตามมาด้วย เรื่องนี้ถ้าอ่านประวัติอย่างสั้นในวิกิพีเดีย ถือว่าเขียนเค้าโครงเรื่องส่วนที่เป็นเรื่องราวการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์เซโจได้สอดคล้องกับเหตุการณ์คร่าวๆ ตามประวัติศาสตร์ได้อย่างน่าอิน




ว่ากันว่าเรื่องนี้คือ โรมิโอกับจูเลียต ฉบับโซซอน ณ เมืองเวโรนามี ๒ ตระกูลใหญ่ คือ ตระกูลคาปุเล็ตและมอนตะคิวที่ไม่ถูกกันมาช้านาน ณ เมืองโซซอนก็มี 2 ตระกูลใหญ่ที่ไม่ลงรอยกัน คือ ตระกูลของอัครเสนาบดี-คิมจองโซ กับตระกูลเชื้อพระวงศ์-องค์ชายซูยาง พระราชโอรสของกษัตริย์เซจงและพระมเหสีโซฮอนจากตระกูลชิม



คิมซึงยู (รับบทโดย พัคชิโฮ) เป็นบุตรชายคนเล็กของคิมจองโซ อัครเสนาบดีผู้จงรักภักดีต่อราชวงศ์ แต่ตามประวัติศาสตร์อาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ เพราะคิมจองโซ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ การแผ่ขยายอำนาจในราชสำนักที่ไปชนเข้ากับการขยายอำนาจขององค์ชายซูยาง ใครจะรู้ว่าเป็นการจงรักภักดีเพื่อปกป้องกษัตริย์ หรือเป็นพยายามกุมอำนาจไว้ในมือของตนเอง แต่ตามเรื่องนี้คิมจองโซเป็นขุนนางผู้จงรักภักดีที่คอยค้ำจุนบัลลังก์



อิเซรยอง (รับบทโดย มุนแชวอน) ธิดาคนโตขององค์ชายซูยางผู้ต้องการเป็นใหญ่ในแผ่นดินแทนกษัตริย์องค์ปัจจุบันที่เป็นพระเชษฐาของพระองค์เองคือพระเจ้ามุนจง ต่อมาเมื่อพระเจ้ามุนจงสวรรคต องค์ชายรัชทายาทโนซานจึงขึ้นครองราชย์สืบต่อบัลลังก์จากพระบิดา โดยมีคิมจองโซเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แวดล้อมด้วยขุนนางภักดีที่คอยสนับสนุนจากสำนักปราชย์จีพยอนจอน





อิเซรยองมีศักดิ์เป็นน้องสาว (ลูกพี่ลูกน้อง) และเป็นเพื่อนขององค์หญิงคยองเฮ พระพี่นางขององค์ชายรัชทายาทโนซาน ส่วนคิมซึงยูเป็นนักปราชญ์หนุ่มคนสำคัญแห่งสำนักจีพยอนจอน ผู้ได้รับมอบหมายให้เป็น "พระอาจารย์" คนล่าสุดขององค์หญิงคยองเฮ หลังจากที่พระอาจารย์คนก่อนๆ มักมีอายุงานแสนสั้น เพราะโดนองค์หญิงคยองเฮกลั่นแกล้งสารพัด กิตติศัพท์ขององค์หญิงผู้เย่อหยิ่งตัวแสบจึงเข้าหูคิมซึงยูเป็นอย่างดี





เมื่อเขามาเป็นพระอาจารย์ขององค์หญิง คิมซึงยูจึงมิได้ปฏิบัติต่อนางอย่างนอบน้อมนัก เพราะคิดจะกำราบลูกศิษย์กันไว้เสียแต่วันแรก แต่องค์หญิงผู้อยู่หลังม่านการศึกษา ไม่ได้เป็นอย่างที่คิมซึงซูเคยได้ยินค่ำร่ำลือ ตั้งแต่แรกรู้จักพระพักตร์ องค์หญิงเป็นผู้ฉะฉานด้วยวาจาคมกริบ เฉลียวฉลาดและกล้าหาญเกินความเป็นหญิง ยิ่งได้พบกันนอกรั้วกำแพงวัง ความสัมพันธ์ของลูกศิษย์กับพระอาจารย์ก็กลายเป็นความรัก โดยที่คิมซึงยูไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า องค์หญิงที่เขาพบแท้จริงคือ อิเซรยอง ธิดาคนโตขององค์ชายใหญ่ซูยางผู้เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของราชวงศ์



องค์ชายซูยางต้องการจะให้โอกาสคิมจองโซเลิกเป็นปฏิปักษ์ต่อตน และหันมาผูกมิตรเพื่อสนับสนุนเส้นทางสู่อำนาจ จึงทาบทามสู่ขอบุตรชายคนเล็กของคิมจองโซมาเป็นบุตรเขย เป็นที่ทราบกันดีว่าการสู่ขอจากเชื้อพระวงศ์นั้นเป็นเรื่องยากจะปฏิเสธได้ อิเซรยองอยากจะเห็นหน้าว่าที่เจ้าบ่าว ประจวบกับองค์หญิงคยองเฮก็เบื่อหน่ายการเรียน สองนางจึงตกลงสับเปลี่ยนตัวกัน องค์หญิงคยองเฮแอบหนีออกนอกวัง ส่วนอิเซรยองปลอมตัวเป็นองค์หญิงไปนั่งเรียนกับพระอาจารย์คิมซึงยูอยู่หลังม่านกั้น ด้วยเหตุหลายประการ อิเซรยองจึงไม่อาจจะบอกคิมซึงยูได้ว่านางเป็นเพียงธิดาขององค์ชายซูยาง ไม่ใช่องค์หญิงคยองเฮผู้สูงศักดิ์แห่งโซซอน



พระเจ้ามุนจง กษัตริย์โซซอนในขณะนั้น รู้ดีว่าพระอนุชาซูยางจ้องจะแย่งชิงบัลลังก์ไปจากตน จึงพยายามขัดขวางไม่ให้องค์ชายซูยางได้เกี่ยงดองกับขุนนางใหญ่อย่างคิมจองโซ โดยมีพระบรมราชโองการให้คิมซึงยูอภิเษกสมรสกับองค์หญิงคยองเฮ เสนาบดีคิมจองโซสบโอกาสรอดพ้นจากการคุกคามขององค์ชายซูยางจึงมิได้ขัดข้อง และคิมซึงซูเองก็หลงรักองค์หญิงคยองเฮ(ตัวปลอม) การจะอภิเษกเป็นราชบุตรเขยจึงเป็นความยินดีที่น่าสุขใจยิ่งนัก





แต่องค์หญิงที่คิมซึงยูรักไม่ใช่คนเดียวกันกับองค์หญิงที่จะต้องอภิเษกด้วย

แล้วจากนั้นทุกอย่างก็พลิกตาลปัตรไปหมด จากผู้ที่กำลังจะเป็น "ราชบุตรเขย" โดยไม่เต็มใจ คิมซึงซูกลับต้องกลายเป็นนักโทษ คิมจองโซผู้เป็นบิดาต้องออกจากตำแหน่งอัครเสนาบดี องค์หญิงคยองเฮต้องอภิเษกกับ "จอง" เพื่อนรักของคิมซึงยูแทน กษัตริย์ทันจงสวรรคต องค์ชายโนซานต้องขึ้นครองราชย์ทั้งที่ยังทรงพระเยาว์





หลังจากนั้นองค์ชายซูยางก็วางแผนทำเรื่องต่างๆ นา เพื่อแย่งชิงบัลลังก์จากพระนัดดาของตัวเอง และท้ายที่สุดได้กำจัดขวากหนามสำคัญอข่างคิมจองโซรวมถึงครอบครัวทั้งหมดเพื่อก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แห่งอำนาจ

พ่อของเขาถูกสังหารตายไปต่อหน้า คิมซึงยูหนีรอดไปได้พร้อมกับไฟแค้นแสนสาหัสที่สุมอก เขาจึงต้องกลับมาเพื่อแก้แค้นองค์ชายซูยางและครอบครัว สุดท้ายแล้วความรักของทั้งคู่จะจบลงด้วยความศร้าเช่นเดียวกับโรมิโอกับจูเลียตหรือไม่ (ประโยคท้ายนี้ตั้งใจลอกมาจากเรื่องย่อของของ series8-fc.com โดยเฉพาะ)

เนื้อหาของซีรีย์ที่ผู้เขียนมองเห็นมีหลักๆ อยู่ ๔ ประการ

๑. ความรักของพระเอกนางเอก ประเด็นหนึ่งเดียวที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เขียนมีอารมณ์อยากเขียนถึงซีรีย์เรื่องนี้

๒. การแย่งชิงบัลลังก์ขององค์ชายซูยาง ......ด้าน ไร้ยางอายจริงๆ เลยนะพ่อของนางเอกเนี่ย สามารถเข่นฆ่าผู้คน ทำวิธีสกปรกได้ทุกวิถีทางเพื่อจะริดรอนอำนาจบรรดาขุนนางราชบัณทิตที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชบัลลังก์ องค์ชายโนซานก็น่าสงสาร เพราะว่ายังเป็นเด็กไร้อำนาจ ขาดที่พึ่ง บรรดา "เสด็จอา" ที่เป็นพระญาติพระวงศ์ก็ถูกสังหารหรือประทานยาพิษตายสิ้น แม้แต่คิมจองโซเสนาบดีที่เป็นขาใหญ่ในราชสำนักผู้แข็งแกร่งที่สุดก็หนีเล่ห์เหลี่ยมการคุกคามจากองค์ชายซูยางไปไม่พ้น







๓. ความสัมพันธ์ของเพื่อนรักทั้งสาม ราชบุตรเขยจอง ผู้ตกหลุมรักองค์หญิงคยองเฮตัวจริง ตั้งแต่แรกพบเมื่อครั้งนางสลับตัวกับอิเซรยองแล้วเสด็จออกจากวัง ลูกชายจากตระกูลขุนนางเก่าที่จงรักภักดี เพียงแต่เมื่อสิ้นบิดาของเขาฐานะของตระกูลก็ตกต่ำลง จองเป็นบัณฑิตยากไร้ทั้งเงินและอำนาจ ที่ศึกษาอยู่ในสำนักปราชญ์จีพยอนจอนเช่นเดียวกับเพื่อนสนิททั้งสอง ชินมยอน และ คิมซึงยู



ชินมยอน ลูกชายของท่านมหาบัณทิตแห่งราชสำนัก ขุนนางที่อยู่ในตำแหน่งราชบัณทิตนอกจากจะเป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดินแล้วก็ไม่มีอำนาจใดและไม่มีโอกาสจะเป็นใหญ่เป็นโตไปกว่านั้นได้ บิดาของชินมยอนจึงเข้าร่วมกับองค์ชายซูยางในการวางแผนแย่งชิงบัลลังก์ โดยมีตำแหน่ง "ราชบุตรเขย" ที่องค์ชายซูยางจะยกให้กับชินมยอนเป็นเครื่องล่อใจ มยอนที่เป็นนายตรวจการ (หรือตำรวจในสมัยนั้น) จึงได้กลายเป็น "ว่าที่ราชบุตรเขย" คอยรับใช้ใกล้ชิดขององค์ชายซูยางและรับผิดชอบการตามล่า-ฆ่าเพื่อนรัก คิมซึงยู



จองอภิเษกกับองค์หญิงคยองเฮ อยู่ฝ่ายจงรักภักดีต่อราชบัลลังก์ แต่พ่อของมยอนเลือกอยู่ฝ่ายคนทรยศอย่างองค์ชายซูยาง ทำให้มยอนไม่มีทางเลือก เพื่อปกป้องพ่อของเขา และการที่เขาหลงรักอิเซรยองพร้อมกับถูกจับจองให้รับตำแหน่ง "ราชบุตรเขย" หลังองค์ชายซูยางขึ้นครองราชย์ ทำให้มยอนที่แม้ส่วนลึกในใจจะขมขื่นเพียงใด ทั้งเรื่องของเพื่อนรักทั้งสอง เรื่องของท่านอาจารย์หัวหน้าสำนักจีพยอนจอนที่เป็นแกนนำคนสำคัญในการต่อต้านองค์ชายซูยาง แต่ความทะเยอทะยานเล็กๆ ที่สุมซ่อนอยู่ในใจ ที่เคยเป็นรองเพื่อนรักคิมซึงซูซึ่งเป็นบุตรชายของอัครมหาเสนาบดีใหญ่ ทำให้มยอนเลือกที่จะอยู่ฝ่ายองค์ชายซูยางอย่างเต็มตัว

ความสัมพันธ์ของเพื่อนรักทั้งสามที่อาจารย์แห่งสำนักปราชญ์จีพยอนจอนเคยชื่นชมและสอนสั่งให้เป็นเพื่อนคอยช่วยเหลือดูแลกันตลอดไป จึงถึงคราวแตกหัก เมื่อมยอนเป็นผู้นำกองกำลังทหารบุกเข้าจวนคิมจองโซและสังหารคนในตระกูล มีเพียงคิมซึงยู พี่สะใภ้และหลานสาวที่รอดชีวิตจากการกวาดล้างครั้งนี้



๔. การแก้แค้นของคิมซึงยู หรืออีกนัยหนึ่งก็เป็นการพยายามทวงคืนบัลลังก์ให้กังองค์ชายโนซานที่ถูกปลดจากการเป็นกษัตริย์ การแย่งชิงบัลลังก์ การถูกเนรเทศ การถูกตามฆ่า และการแก้แค้น และการก่อกบฏ ทำให้ตัวละครเหล่านี้มีบทบาทเกี่ยวข้องอยู่ในเรื่อง

ขุนนางกังฉิน ทรยศ ฝักใฝ่อำนาจและสอพลอ ลุงคนแรกนี่เค้าเป็นตัวเบ้งที่เห็นหน้าอยู่ในละครพีเรียดบ่อยครั้งเลย





หากมีองค์หญิงต้องมีนางกำนัลคนสนิทผู้เกิดมามีชีวิตแค่เพียงเพื่อเป็นบ่าวถวายการรับใช้ เพราะก็ไม่เคยเห็นนางกำนัลในละครพีเรียดทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากรับใช้เจ้านายอย่างเดียวไม่ว่าจะเรื่องดีเรื่องชั่ว ไม่ว่าต้องเป็นหรือตาย เรื่องนี้จึงมี อึนกึม นางกำนัลขององค์หญิงคยองเฮ และโยรี นางกำนัลขององค์หญิงอิเซรยอง (โยรีน่ารักดี)





โจซกจู (Jo Suk Joo) และ..จำชื่อไม่ได้ สองนักโทษเนรเทศที่หลบหนีความตายมาด้วยกันกับคิมซึงยู หลังจากนั้นจึงมีความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ ดีขึ้น และคอยให้ความช่วยเหลือคิมซึงยูดุจดังเป็นพี่น้อง





เมฮาง หัวหน้าหอนางคณิกา และนางคณิกาสองสาวคนสนิท เมฮางเป็นคนรักของโจซกจู และได้ยอมให้ที่พักพิงกับคิมซึงยู ชอบคาแรคเตอร์ของเมฮางค่ะ วาจาเชือดเฉือนเย็นชา หน้าตาใจร้าย สายตาดุ ยิ้มยากมากกกก แต่ที่จริงเป็นคนใจดีที่ปากปฏิเสธการช่วยเหลือตลอดแต่ใจและการกระทำกลับตรงกันข้าม





นักเลงประจำถิ่นย่านท่าเรือมาโป



ครอบครัวที่เหลืออยู่ของคิมซึงยู พี่สะใภ้และหลานสาว "อาคัง" (เด็กน้อยน่ารักมาก)





แนะนำตัวละครสำคัญๆ หมดละ อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นพวกมาแล้วจากไป (ตาย) แม้บรรดา "เสด็จอา" ที่พยายามจะช่วยรักษาบัลลังก์ หรือพวกแกนนำของกลุ่มกบฏจะหน้าตาสง่าราศีในฐานะนักแสดงอาวุโสมีฝีมือกันอยู่หลายคน ก็ปล่อยๆ พวกเขาไป (บล็อกเราจะได้ไม่ยาวไปกว่านี้ไง)



"ขอเตือน จากนี้ มี.. สปอยล์ "

มาพูดถึงประเด็นที่ผู้เขียนบังอาจใช้คำว่า "ไร้สติ" กับซีรีย์เรื่องนี้ จนทำให้ซีรีย์ที่ทำท่าจะได้เป็นระดับ "ประทับใจ" ในครึ่งเรื่องแรก ต้องหลุดโผไป และกลายเป็นเพียงซีรีย์ที่ดูจบไป "เรื่องหนึ่ง" เพราะก็หลวมตัวดูมาเกินครึ่งค่อนแล้ว เชื่อว่าซีรีย์เรื่องนี้คงเป็นที่ซาบซึ้งประทับใจของใครหลายๆ คน ที่จะบ่นต่อไปนี้จึงขอออกตัวไว้ก่อนว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่บางครั้งเราก็มีจุด "แตกหัก" หรือ " ประทับใจ" กับซีรีย์เรื่องหนึ่งๆ แตกต่างกันไป เพื่อนทางเมลผู้เขียนท่านหนึ่งดู Shut up flower boy band ซีรีย์ที่ผู้เขียนชอบนักหนา แต่เพื่อนคนนี้เธอเล่าว่าทันทีที่พระเอกคุกเข่าลง ณ จุดนั้น เธอเกิดอาการรับไม่ได้ขึ้นมาทันทีและเธอจึงเลิกดูซีรีย์เรื่องนี้ไปเลย ผู้เขียนเองก็มีอาการเช่นเดียวกันนี้กับหนึ่งการกระทำของตัวละครใน The princess's man ที่ทำให้ร่ำๆ จะเลิกดูซีรีย์เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็อีกนั่นแหละ ดูมาเยอะแล้ว บังเกิดอาการเสียดายจึงต้องดูต่อให้จบ



ก่อนอื่น อยากจะย้ำอีกครั้งว่า The princess's man เป็นซีรีย์ "เรตติ้งสูง" เป็นเนื้อหา "ความรัก" ระหว่างองค์หญิงอิเซรยอง และคิมซึงซู ที่น่า "ซาบซึ้ง" และหลายคนคง "ถูกใจ" แต่จะถึงขั้นเป็นที่ประทับใจของคนส่วนใหญ่หรือเปล่านั้น ผู้เขียนเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะตอนจบของซีรีย์ไม่ใช่ทั้งอย่างที่คิด (เอวัง..มรณะเยี่ยงวีรบุรุษ) และก็ไม่ใช่ทั้งอย่างที่หวังอยากจะให้เป็น ซึ่งถ้าจะจบอย่างที่มันจบ ขอเปลี่ยนเป็นแบบที่คิดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย คงจะโดนใจผู้เขียนมากกว่า แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่ลดทอนคะแนนความชอบพอของซีรีย์เรื่องนี้หรอกนะคะ เหตุผลจริงๆ มันอยู่ที่ ๓ ประการต่อไปนี้ต่างหากล่ะ



๑. คือ ๓ การกระทำของนางเอก หลังจากที่องค์ชายซูยางขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์เซโจ และอิเซรยองได้รับการแต่งตั้งเป็น "องค์หญิง" คิมซึงยูกลับมาเพื่อหาทางแก้แค้น

การกระทำที่ ๑ "ฉากแห่งความกังขา" เมื่อคิมซึงยูยิงธนูปักอกกษัตริย์เซโจ องค์หญิงอิเซรยองอึ้ง ตกใจ แต่หันไปเห็นที่ชายป่าฝั่งลำธารอีกด้านจึงพุ่งเอาตัวไปบังธนูของเหล่าทหารที่ยิงใส่คิมซึงยู ฉากนี้มัน เอ่อ .. ก็เข้าใจนะที่นางเอกรักและเป็นห่วงพระเอกมาก แต่ว่าฉากนี้มีพ่ออยู่ด้วย พ่อที่ยอมเอาตัวเองมาเสี่ยงตายถึงที่ แค่กังขาว่า ตอนที่คิมซึงยูยืนเล็งธนูใส่กษัตริย์เซโจอยู่ตรงนั้น คนเป็นลูกทำไมถึงไม่เอาตัวไปขวางบังพ่อของตนไว้? โอเค้! อิเซรยองอาจคิดว่าคิมซึงยูไม่กล้ายิงพ่อของตนจริงๆ ไม่เป็นไร แต่ทันทีที่ธนูปักอก เธอได้แต่ตกใจตาโต ณ จุดนั้น ธรรมชาติของคนจะไม่กรีดร้องเรียกพ่อ ไม่พุ่งไปหาผู้เป็นพ่อที่ล้มลงไปด้วยความตกใจและเป็นห่วงสักนิดเลยเหรอ? แต่กลับมีหางตาไปแลเห็นทหารที่ซุ่มตัวอยู่อีกด้านที่ชายป่า ทันใดนั้น ก็พุ่งไปเอาตัวเข้าบังให้คิมซึงยูโดยอัตโนมัติ เอ่อ .. แล้วพ่อล่ะ ? จริงๆ ฉากนี้ไม่ต้องให้กษัตริย์เซโจโดนยิงก็ได้นะ ถ้าแค่จะให้อิเซรยองแสดงความรักที่สามารถพลีชีพให้คิมซึงซูได้ อิเซรยองจะได้โกรธแค้นพ่อของตนที่วางแผนฆ่าคนรักให้สาสมไปเลย



การกระทำที่ ๒ "ฉากที่รับไม่ได้" เมื่อองค์หญิงอิเซรยองหั่นผมของตัวเองทิ้งต่อหน้ากษัตริย์เซโจเพื่อเป็นเครื่องหมายของการ "ตัดขาด" จากการเป็นพ่อลูกกัน พ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิด หากพ่อแม่จะตัดขาดลูกเพราะความเกลียดชังมันก็เป็นสิทธิ์ของพ่อแม่ (แต่ก็หายากนะพ่อแม่ที่เกลียดชังลูกน่ะ) แต่ลูกที่ตัดขาดพ่อแม่นั้น เป็นสิ่งที่ผู้เขียนไม่คิดว่าจะได้เห็นจากพฤติกรรมของตัวละครที่ได้ชื่อว่าเป็น "นางเอก" ผู้เขียนไม่เข้าใจว่าผู้เขียนบทต้องการอะไรจากการกระทำนั้น หากอิเซรยองจะไม่ยุ่งเกี่ยวหรือรับรู้การกระทำของพ่ออีกต่อไป จะไม่เป็นองค์หญิง จะไปอยู่นอกวัง ก็แค่ออกจากวังไป ทำไมลูกต้องทำร้ายหัวใจคนเป็นพ่ออย่างนั้น จริงอยู่กษัตริย์เซโจไม่ใช่คนดี ขึ้นครองราชย์ด้วยวิธีการสกปรก แต่นั่นคือสิ่งที่เขาทำกับคนอื่นๆ ทว่าในความสัมพันธ์ระหว่างเราสอง อิเซรยองคือลูกรักที่รักเสียยิ่งกว่าโอรสที่เป็นรัชทายาทซะอีก ลูกที่พ่อคนนี้เคยได้รักษาชีวิตเอาไว้เมื่อได้กระทำผิดพลาดครั้งใหญ่ต่อราชวงศ์ ในตอนที่เขายังเป็นเพียงองค์ชายซูยาง

" ถ้าลูกของกระหม่อมต้องตาย คนที่เอาชีวิตลูกของกระหม่อมไป
ลูกที่เป็นแก้วตาดวงใจของกระหม่อม
กระหม่อมจะทำให้เจ็บจนทุกข์ทรมานอย่างเท่าเทียมกัน"


ฉากตัดขาดความเป็นพ่อลูกด้วยการหั่นผมทิ้งนี้ ต้องยอมร้องไห้ให้กษัตริย์เซโจเลย มันดูรุนแรงเกินกว่าเหตุในความคิดของผู้เขียน เพราะต่อให้อะไรมันเลวร้ายกว่านั้น ต่อให้ทั้งชีวิตเกิดมาพ่อแม่มีแต่รังแกฉัน ลูกก็ยังต้องเป็นลูกที่ต้องกตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดอยู่ดีนั่นแหละ ฉากนี้ทำให้ผู้เขียนเครียดเว่อร์ และลังเลอย่างมาก ว่าสมควรจะติดตามเรื่องนี้ต่อไปหรือไม่







การกระทำที่ ๓ "ฉากแห่งความผิดหวัง" หลังจากดูมาค่อนเรื่องใกล้จะจบอยู่อีกไม่กี่ตอน ก็เลยต้องยอมข่มใจทำไม่รู้ไม่ชี้กับสองการกระทำแรก และดูต่อมา (ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ววะ) เป็นตอนที่ "ซอง" องค์ชายรัชทายาท (น้องชายของอิเซรยอง) กำลังป่วยหนักและคาดว่าอาจจะสิ้นลมในไม่ช้า การที่อิเซรยองดึงดันที่จะจากไปเพื่ออยู่เคียงข้างคิมซึงยูอีกครั้ง โดยที่ไม่แม้แต่จะคิดไปเยี่ยมน้องชายสักหน เป็นอะไรที่ผู้เขียนสุดจะผิดหวังในตัวนางเอก



ผู้ชายนั้นสำคัญก็จริง (ผู้เขียนเห็นด้วย 555) แต่ครอบครัวและพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ไม่มีความหมายให้ห่วงหาอาทรสักนิดเลยเหรอ แม้อิเซรยองจะกลับมาอยู่กับซองในวาระสุดท้ายของชีวิต แต่ว่ามันต่างกันนะ ถ้าจะปล่อยผู้ชายไปสักพักแล้วหันไปดูแลน้องชายก่อน กับการที่ไม่อาจจะติดตามคิมซึงยูไปได้เพราะอยากจะเสียสละเพื่อเขา แล้วจึงค่อยหันกลับมาดูแลน้องชาย ถ้าหากองค์ชายซองเป็นคนเลวร้ายเหมือนพ่อ เป็นพี่น้องไม่ถูกกันมาก่อน ผู้เขียนก็จะไม่ว่าอะไรอิเซรยองสักคำนิด แต่องค์ชายซองนั้นเป็นคนที่รักและเป็นห่วงพี่สาวมาก ทั้งยังเคยช่วยเหลืออิเซรยองเกี่ยวกับเรื่องของคิมซึงยูมาก่อนด้วย การกระทำของนางเอกแบบนั้น ผู้เขียนรู้สึกอัดอั้นและนึกออกอยู่เพียงประโยคเดียวว่าแม่คุณเอ๋ยช่าง "ใจดำแท้" ทีผู้ชายยังห่วงได้ห่วงดี



๒. คาแรคเตอร์ไร้ชีวิตชีวาของพระเอก ช่วงแรกๆ นั้น คิมซึงยูเป็นคนที่สุดจะสดชื่นแจ่มใส มีหน้าตาและรอยยิ้มพิมพ์ใจหล่อลากดิน ผู้เขียนเข้าใจที่ลักษณะเหล่านี้ต้องหายไปเพราะโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัว จากประสบการณ์การดูซีรีย์พีเรียดผ่านมา มันก็หายากนะ ที่พระเอกนางเอกจะไม่มีชีวิตรันทด ยิ่งถ้าเป็นองค์ชายเชื้อสายกษัตริย์ด้วยแล้ว ความรันทดจะเพิ่มดีกรีความสาหัสไปอีกสักสองสามเท่า แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้ดูไร้ชีวิตชีวา ซังกะตายเหมือนพระเอกเรื่องนี้ที่ดูแล้วคอนข้างจะเนิบนาบไร้พลัง คงไม่ใช่ที่การแสดงแต่เป็นการเขียนบทมากกว่าที่ให้ภาพลักษณ์การเป็นคนเก่ง เป็นผู้นำฝ่ายกบฏที่พยายามต่อสู้ทวงคืนบัลลังก์ (ให้กษัตริย์องค์เดิม) แก่คิมซึงยูน้อยไป ดูสิ้นไร้ไม้ตอก หัวเดียวกระเทียมลีบ จะทำอะไรก็ต้องอาศัยบารมีคนอื่นๆ ซึ่งพอพระเอกเข้าก๊กไหน ก๊กนั้นก็ตายเรียบ ถ้าเปลี่ยนเป็นว่าให้ตระกูลของพระเอกยังพอมีอำนาจ พระเอกกลายเป็นผู้นำตระกูลที่ดึงดูดเหล่าผู้คนที่ยังจงรักภักดีเข้ามาหา มารวมตัวกันเป็น "กบฏ" ที่แข็งแกร่งกว่านี้ มี "บารมี" ที่จะพอฟัดพอเหวี่ยงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกษัตริย์เซโจมากกว่านี้ พระเอกคงจะได้เท่อีกมาก





๓. รักนี้มากเกินไป สำหรับผู้เขียน ไม่ว่าจะการกระทำของนางเอก หรือคาแรคเตอร์ของพระเอก ผู้เขียนคิดว่ามันเป็นเพราะการเขียนบทที่เน้น "ความรัก" เพราะรักมาก การกระทำของนางเอกจึงเป็นแบบ "อยู่เพื่อรักเธอ" ส่วนพระเอก เป้าหมายคือการแก้แค้นและต่อสู้เพื่อความถูกต้อง แต่ก็ต้องเกลียดตัวกินไข่เพราะ "ยังรักเธอ" ตลอดเวลาด้วย เรื่องมันจึงผิดไปจากความคาดหวังที่ผู้เขียนคาดไว้ตอนอ่านพลอตเรื่องไปไกลโข คิดว่าจะได้อารมณ์แนวเดียวกับ Princess Jamong Go รักส่วนรัก หน้าที่คือหน้าที่ สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องทำ ตอนอ่านพลอตจึงคิดว่า The princess's man จะเป็นแบบ พระเอกมุ่งมั่นจะแก้แค้น แต่ขณะเดียวกันก็ขมขื่นเพราะไม่อาจจะร่วมทางเดินกับลูกสาวของศัตรูที่ฆ่าพ่อฆ่าพี่ชายของตัวเอง และเป็นศัตรูที่ต้องแก้แค้นกำจัดให้สิ้น ส่วนนางเอกคือผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางระหว่างชายสองคน คนหนึ่งคือบิดาบังเกิดเกล้า และอีกคนหนึ่งคือคนรักที่รักสุดหัวใจ ต้องคอยชั่งน้ำหนักในการตัดสินใจกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดตลอดเวลาเพื่อปกป้องทั้งสองฝ่าย และมันคงปวดใจน่าดู



ดังนั้นการที่เรื่องเป็นไปในแนวนี้ คือพระเอกตั้งหน้าตั้งตาจะฆ่าพ่อของนางเอก คนรักที่คอยช่วยเหลือปกป้องชีวิตของตนมาตลอด หรือนางเอกที่ตั้งหน้าตั้งตาจะอยู่เคียงข้างพระเอกที่วางแผนจะลากพ่อของตนลงมาจากบัลลังก์และฆ่าทิ้งเสีย จึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าประหลาดสำหรับผู้เขียน ดูรวมๆ แล้วมันเป็นการเทใจให้พระเอกอยู่ข้างเดียว โดยที่ให้น้ำหนักของเนื้อหาด้านความรักของพ่อกับลูกน้อยกว่ามาก ความรักในฐานะลูก และความรักในฐานะหญิงสาว ควรจะเป็นความลำบากใจสาหัสของนางเอกให้เรื่องมันสุดเข้มข้น ให้นางเอกได้แสดงความเข้มแข็งที่ต้องอดทนกับรักต้องห้าม และต้องปกป้องทั้งพ่อและผู้ชาย กลายเป็นว่าดูเธอไม่ค่อยจะลำบากใจเรื่องนี้สักเท่าไร เพราะที่องค์หญิงอิเซรยองเลือกอยู่ตลอดทั้งเรื่องคือ คิมซึงยู (ที่บ่นขนาดนี้ หากจะมีคนว่า บ่นนักไปเขียนบทเองเลยไป ผู้เขียนก็จะขอน้อมรับความหมั่นไส้นั้นไว้อย่างจำยอม ^^)





แต่ที่จริงมันก็เป็นแค่การมองต่างมุมนะคะ เพราะอีกมุมนึง ความรักที่อิเซรยองมีให้กับคิมซึงอยูก็เป็นเรื่องน่าซาบซึ้งที่บางคนอาจจะบอกว่ารู้สึกอิ่มเอมใจกับความรักที่นางเอกมีให้พระเอก แถมยังปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่ามุนแชวอนผู้รับบทอิเซรยอง เธอแสดงได้ดีจริงๆ สมแล้วที่เธอมัดใจผู้เขียนได้ตั้งแต่เล่นเป็นนางร้ายประชันบทบาทกับนางเอกแสนสวยมากฝีมืออย่างฮันฮโยจู ใน Brilliant Legacy และบทนางเอกนิสัยเสียเอาแต่ใจกับเรื่อง It's ok dady's girl



ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา The princess's man สำหรับผู้เขียนจึงไม่อาจเป็นละครรักประทับใจ แต่เป็นละครรักเรื่องหนึ่งในคอนเซ็ปต์ที่ว่า

"ความรักคือสิ่งที่เราไม่ลังเลเพื่อยอมพลีชีพและตายให้แก่กัน"

ประโยคนี้แหละที่ทำให้ผู้เขียนคิดหัวข้อบล็อกออกได้โดยพลันกับคำว่า "ไร้สติ" เพราะผู้เขียนเป็นผู้นิยมมากกว่ากับความรักแบบมีสติ "รักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต" หากมันมีบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญกว่า "เราสองคน" ที่จะรักและอยู่ด้วยกัน เรื่องนี้ ความจริงก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เพราะมันก็มีเหตุที่ว่าพ่อของนางเอกเป็นคนไม่ดี แค่รู้สึกว่าในบางฉาก มันน่าน้อยใจแทนพ่อแม่อย่างน่าใจหายตามที่กล่าวมานั่นแหละ



ฉากที่ทำผู้เขียนร้องไห้จึงไม่ใช่ฉากของพระเอกนางเอกเลย แต่กลับเป็นฉากที่กษัตริย์เซโจคนเลวร้ายคนนั้นร้องไห้ และแม้แต่ตอนจบสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนร้องไห้ก็หนีไม่พ้นความรักของบุพการี ทั้งกับการกระทำของพระมเหสียุน "การปกป้องของแม่ผู้ให้กำเนิด" และ "น้ำตาของพ่อ"



แต่ถึงจะไม่ถูกใจตนมากนัก ผู้เขียนก็ยังคิดว่าซีรีย์เรื่องนี้เหมาะกับคนชอบดู "ความรักโรแมนติก" ไม่งั้นโรมิโอกับจูเลียตดื่มยาพิษจะกลายเป็นวรรณกรรมรักสุดคลาสสิคระดับโลกได้อย่างไร ทั้งยังมีความรักที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นจากความทุกข์ความเห็นอกเห็นใจระหว่าง ราชบุตรเขยจองกับองค์หญิงคยองเฮอีกคู่หนึ่งด้วย คุณอาจจะอยู่ในกลุ่ม "คนส่วนใหญ่" ที่รักและประทับใจซีรีย์เรื่องนี้นะ แต่ถ้าใครอยากจะดูเอามันส์แบบซีรีย์แย่งชิงบัลลังก์ ขอเตือนว่ามันไม่มันส์อย่างที่คิด









ตัวละครที่ชอบมากสุดในเรื่องจึงกลายเป็น กษัตริย์เซโจและองค์หญิงคยองเฮ





มันมีความจริงอย่างหนึ่งว่า ถึงไม่ชอบบทบาทขององค์หญิงอิเซรยองในเรื่องนี้มากอย่างที่คิด แต่ความชอบที่มีต่อมุนแชวอนไม่ได้ลดลงซักกะนิ๊ดนึง เราจึงจะพบกันอีกใน Innocent Man ^^









และมุนแชวอนก็สวยที่สุดในฉากนี้เลย



ขอบคุณ Dramawiki , Asianwiki, Series8-fc
Create Date :05 ธันวาคม 2555 Last Update :14 ธันวาคม 2555 22:10:47 น. Counter : 21823 Pageviews. Comments :10