bloggang.com mainmenu search


Broadcast network : KBS2 Year 2004 Episodes: 16
Viewership ratings: 20.3 (Seoul) / 20.1 (Korea)


(สปอล์ยนะคะ)
.................................



"ขอโทษครับ ผมรักคุณ"

นี่คือประโยคไฮไลท์ของเรื่องนี้

แต่ส่วนตัวแล้ว แทงใจที่สุดมันกลับเป็นประโยคสะเทือนใจนี้ต่างหาก

"แม่ครับ อย่าร้องไห้ เก็บน้ำตาเอาไว้
เก็บไว้ร้องให้สาแก่ใจ ..ตอนที่ผมตาย"




เข้าใจแล้ว กิตติศัพท์ความเศร้าอันเล่าลือที่ได้เคยยินชื่อเสียงมานานเกี่ยวกับ I'm sorry I love you

เข้าใจแล้ว ทำไม I'm sorry I love you จึงเป็นชื่อเสียงของนักเขียนบท Lee Kyung Hee ที่ใช้เป็นจุดขายได้อย่างหนึ่งสำหรับซีรีย์เรื่องอื่นๆ ที่เธอเขียนบท

และเข้าใจแล้ว ทำไมเมื่อเอ่ยถึงนักแสดงคนนี้จึงต้องมีคำต่อท้ายชื่อ "โซจีซบ" "จาก I'm sorry I love you"

ตอนนี้ ...เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งดีแล้วเอย



ไม่ว่าจะเคยดูซีรีย์เศร้าโศกเรื่องไหน รันทดสักปานใดมา ไม่ว่าจะเคยยกเรื่องขมขื่นใดขึ้นหิ้งบูชา เมื่อได้เจอกับ I'm sorry I love you เรื่องเหล่านั้นโดนเขี่ยตกหิ้ง...ระเนระนาด

แต่นี่หมายถึงแค่ความรู้สึกเศร้าไปกับตัวละครนะ เพราะหากจะมองในแง่เนื้อหาสาระด้วยแล้วคงไม่ง่ายจะชนะเรื่องอื่นนัก เฉพาะถ้าเทียบกันเองกับผลงานเขียนบทของนักเขียนคนเดียวกัน การหักมุมแบบกระชากใจก็ยังเป็นของ Sangdoo, Let's Go to School ส่วนความประทับใจก็ยังเป็น Thank you เรื่องของเด็กหญิงลีบอมที่ติดเชื้อเอดส์ กับผู้พิทักษ์นางฟ้าหมายเลขหนึ่ง คุณหมอมินกีซอ เพราะโดยสาระของเรื่องนี้ ค่าของคำ "ขอบคุณ" มันรู้สึกให้ความหวังมีกำลังใจ



ในบรรดาความรันทดของซีรีย์เกาหลี I'm sorry ไม่ได้ถือว่าเป็นที่สุดของเรื่องราวความอาภัพอับวาสนา ไม่ได้เป็นสุดยอดของความน่าสงสารที่ต้องพบพานกับชะตากรรมโศกสลด มีซีรีย์เกาหลีมากมายที่สุดแสนโศกาน้ำตาไหลพราก แต่ซีรีย์เรื่องนี้มันมีความลงตัวเป็นอย่างดีของ

นักเขียนบทดี "Lee Kyeong-Hee"
นักกำกับยอด "Hyeong-min Lee, Kim Jong-Sik"
นักแสดงเยี่ยม "โซจีซบ"



ก่อเกิดเรื่องราวเป็นอารมณ์เหล่านี้ที่ทำให้อินกับความเศร้าเป็นพิเศษ

ความเสียใจ : แอนดี้ แอนเดอร์ซั่น หรือ ชามูฮยอก กุ๊ยเร่ร่อนหากินในทางมิจฉาชีพที่เติบโตขึ้นมาตามข้างถนนของประเทศออสเตรเลีย เขามีแฟนสาวชาวเกาหลีที่เคยใช้ชีวิตด้วยกัน เคยสัญญาจะพากันกลับมาแผ่นดินแม่และหาลู่ทางเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ใฝ่ฝันว่ามันจะต้องเป็นชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่แล้วเธอกลับหักหลังมูฮยอก ด้วยการแต่งงานกับมาเฟียฝรั่งเพราะเหตุผลข้อเดียวนั่นคือเพื่อเงิน



น่าแปลกที่ผู้หญิงคนนี้ "จิยอง" กับการกระทำเช่นนั้น กลับไม่ทำให้รู้สึกเกลียดเธอเลย เธอเลือกปากท้องให้อยู่เหนือความรักและมันดูเหมือนกับว่าที่เธอเลือกทำเช่นนั้นได้ เพราะเธอรู้ว่าในที่สุดแล้วมูฮยอกจะเข้าใจเธอดี

ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้น เพื่อปกป้องจิยอง มูฮยอกจึงถูกยิงเข้าที่หัวสองนัด กระสุนปืนหนึ่งลูกถูกผ่าออก แต่อีกลูกฝังอยู่ในส่วนที่อันตรายที่สุด หากแตะต้องก็คือตาย แพทย์จึงไม่สามารถเอากระสุนปืนออกไปได้ เหตุผลเดียวที่มูฮยอกยังรอดชีวิตนั่นก็คือ ปาฏิหารย์



น่าแปลกจริงๆ ที่ซีรีย์เรื่องนี้ยืนยันแต่แรกว่าพระเอกตายแน่นอน แต่มันกลับเป็นตอนแรกที่ตอกติดใจ คิดจะปลงตกกับความเศร้าของมันแล้วเลิกดูกลางคันก็ไม่เกิดขึ้นอย่างที่คาดไว้ สำหรับคนที่ไม่เคยทราบตอนจบของเรื่องนี้มาก่อน อาจจะแอบมีความหวัง หากกระสุนลูกนั้นจะมีวิธีนำมันออกไปได้ในภายหลัง แต่คนเขียนบทก็ไม่ยอมปล่อยให้ใครแอบหวังอยู่นาน เพราะตอนกลางๆ เรื่อง แพทย์ก็ยังย้ำหนักแน่น ปาฏิหารย์อีกครั้งจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องขออภัยด้วยที่ไม่อาจจะฝืนเขียนบล็อกนี้โดยหลีกเลี่ยงคำว่า "ตาย" แม้จะทบทวนอยู่สักสิบรอบแล้วก็ตาม (ในที่สุดจิตวิญญาณของมารสปอยล์ก็ชนะจิตสำนึกนางฟ้า..เช่นเคย)



ความเศร้าโศก จิยอง ช่วยเหลือจิฮยอกให้ได้กลับมาประเทศเกาหลีเพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่สั้นๆ อย่างสุขสบายในแผ่นดินเกิด การที่มูฮยอกเป็นเด็กถูกทิ้งในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ถูกชาวออสเตรเลียรับไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม และกลายเป็นที่รังเกียจของครอบครัวเมื่อเขาเริ่มโตขึ้น มูฮยอกจึงหนีออกจากบ้านของพ่อแม่อุปถัมถ์มาเป็นเด็กเร่ร่อนเติบโตเป็นกุ๊ยข้างถนนตั้งแต่ตอนอายุ ๑๐ ขวบ การถูกทิ้งเป็นเรื่องเดียวที่เขาจดจำฝังใจ เป็นบาดแผลลึกที่ยากกจะเยียวยา ซึ่งมูฮยอกได้พยายามปลอบใจตัวเองเสมอว่า ที่เขาถูกทอดทิ้งเพราะครอบครัวคงมีฐานะยากจน



แต่เมื่อกลับมาเกาหลีและมีโอกาสได้รู้ว่าใครคือแม่ ที่เคยวาดฝันไว้สักวันหนึ่งเขาจะกลับมาประเทศนี้เพื่อตามหาเธอ แม่ที่ลำบากยากจน กระทั่งจำเป็นต้องทิ้งลูกตัวเอง เขาจะตามหาเธอให้พบ จะหาเงินเลี้ยงดูให้อิ่มท้อง จะซื้อบ้านหลังโตๆ ให้อยู่อาศัย จะเลี้ยงดูให้สุขสบายในบั้นปลายของชีวิต

แต่ทุกอย่างที่เขาเห็น ทุกอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นเป็น "โอดอลฮี"
ไม่มีอะไรเลยจะใกล้เคียงในสิ่งที่มูฮยอกเคยคิดฝันเอาไว้



ซ้ำร้าย บาดแผลของมูฮยอกยิ่งลุกลามสาหัส เพราะเพิ่งรู้ว่าตัวว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่ถูกทิ้ง แต่ยังมีน้องสาวฝาแฝดอีกคน เพราะร่ำร้องหาแม่เธอจึงประสบอุบัติเหตุตอน ๕ ขวบส่งผลให้สมองหยุดการเจริญเติบโต กลายเป็นคนปัญญาอ่อน ร่างโตเป็นสาวหน้าตาดีแต่มีสมองเป็นเพียงเด็กเล็กๆ เธอจึงเป็นเหยื่อของการถูกรังแก และไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของลูกชายวัย ๙ ขวบ สองแม่ลูกอาศัยอยู่กับชายชราผู้หนึ่งที่ไม่มีใครรู้ความเป็นมา แต่เรียกเขากันว่า "คุณปู่"



เธอเป็นเพียงหญิงสาวปัญญาอ่อนที่ต้องคอยพึ่งพาลูกชายของตัวเอง "คัลชิ" ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าโรงเรียนเพราะต้องคอยดูแลแม่และขายคิมบับหาเลี้ยงชีพ ความเจ็บปวด ความแค้นใดที่ "ยุนซอคยอง" น้องสาวฝาแฝดของเขาไม่มีสมองจะจดจำรับรู้ กลายเป็นอีกบาดแผลที่ถูกกรีดลงกลางใจของมูฮยอก ให้แบกรับความเจ็บแค้นเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว



โอดอลฮี (Lee Hye-Young) เป็นนักแสดงอาวุโสที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต เธอมีลูกชายสุดรักสุดโอ๋ เป็นนักร้องดังชื่อ "ชอยยุน" (จองคยองโฮ) แม้ชอยยุนนั้นจะโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่โอดอลฮีก็ยังปฏิบัติต่อเขาดั่งแก้วตาดวงใจ เป็นลูกแหง่ติดแม่ที่เธอคอยรักคอยเอาใจใส่ไม่ห่าง ภาพความรัก ความสนิทสนมของสองแม่ลูก เป็นที่รู้เห็นกันจนชินตาตามสื่อต่างๆ ของวงการบันเทิง จึงย่อมหนีไม่พ้นการรับรู้ของมูฮยอกด้วย



ความแค้น สองแม่ลูกผูกพันคู่นั้น จะสุขสมอารมณ์อบอุ่นกันเกินไปมั้ย ? แม่เป็นนักแสดง ลูกเป็นศิลปิน มีชื่อเสียง ร่ำรวยเงินทอง ใครไม่โง่ก็ดูออกว่าชีวิตไม่เคยต้องทุกข์ยาก และคงไม่เคยต้องเสียใจกับอะไร ดังนั้น มูฮยอกจึงมุ่งมั่นจะสั่งสอนประสบการณ์การชีวิตในด้านใหม่ให้แม่ของเขาเอง และเครื่องมือที่ดีที่สุดที่จะแก้แค้นแม่ของเขา จะเป็นใครอื่นไปได้ถ้าไม่ใช่ดวงใจของแม่อย่างชอยยุน

เขาจึงหาทางตีซี้กับน้องชายคนดังจนสบโอกาสไปเป็นผู้จัดการส่วนตัว



ความรัก "ซองอึนแช" (อิมซูจอง Lim Soo-Jung) ยัยโง่ สติบ๊องส์ ที่มูฮยอกเคยช่วยเหลือไว้เมื่อครั้งเธอเป็นนกน้อยปีกหัก เดินเซซังอยู่ตามถนนในออสเตรเลีย เพราะถูกมิจฉาชีพหลอกชิงทรัพย์ไปหมด ไม่มีเงิน ไม่มีเอกสารอะไรติดตัว แถมยังมาเจอมูฮยอกที่หลอกยัยเด็กหน้าอ่อนไปขายบาร์ แต่มูฮยอกก็เปลี่ยนใจที่จะช่วยอึนแชเอาไว้ จนเธอสามารถเดินทางกลับมายังเกาหลีได้




ซองอึนแช เป็นเด็กในบ้านของชอยยุน เธอเกิดและเติบโตมาพร้อมกับเขาในบ้านหลังเดียวกัน เพราะแม่ของเธอเป็นแม่บ้าน พ่อเป็นผู้จัดการส่วนตัวของโอดอลฮีมาตั้งแต่เมื่อครั้งเธอยังเป็นดาวรุ่ง และอึนแชก็เป็นผู้จัดการส่วนตัวของชอยยุนด้วย อึนแชหลงรักชอยยุนมาตั้งแต่เด็ก จนอายุปาเข้าไป ๒๕ ปี เธอก็มีแต่ชอยยุนเท่านั้น แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่เคยรับรู้ แม้อึนแชเป็นคนใกล้ตัวที่สนิทที่สุดในชีวิต เป็นสิ่งเสพติดที่ชอยยุนจะขาดไปไม่ได้ เพราะเธอเป็นของรักของหวงที่ต้องมีไว้ใกล้ชิดคอยดูแลเอาใจใส่ต่อตัวเขา แต่ถึงเป็นอย่างนั้น อึนแชก็ไม่ใช่คนรักของชอยยุน



เพราะคนที่ชอยยุนรักคือ นักแสดงสาวคนดัง "คังมินโจ"

เธอเป็นเพื่อนสนิทที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันมากับอึนแช มินโจมีพื้นฐานมาจากครอบครัวแตกแยก เธอจึงไม่เชื่อในความรัก และมีนิสัยเป็นคนเจ้าชู้

สิ่งที่มูฮยอกมองเห็น จากสองหญิงหนึ่งชายเหล่านี้คือ

ความเจ็บปวดของยัยโง่อึนแช ที่หลงรักชอยยุนอยู่เพียงข้างเดียว
ความรักใคร่หลงใหลที่ชอยยุนมีต่อ คังมินโจ อย่างบ้าคลั่ง
และคังมินโจผู้หญิงเจ้าชู้ที่ง่ายจะรักและโลเลเปลี่ยนใจ

และเมื่อไหร่ที่เธอเปลี่ยน ลูกแหง่อ่อนแออย่างชอยยุน มีหรือจะทนเจ็บกับอาการหัวใจสลายได้ มูฮยอกจึงวางแผนแย่งชิงคังมินโจมาจากน้องชาย



แต่ขณะเดียวกัน ซองอึนแชที่แม้จะเจ็บปวดแค่ไหน เธอก็ยังอดทน และไม่เคยคิดร้ายต่อใคร ยัยโง่คนนั้น เป็นคนจิตใจดีมีเมตตา และอ่อนโยนต่อผู้คนรอบข้าง ความรักที่เธอมีต่อชอยยุน และความปรารถนาดีที่เธอมีเผื่อแผ่มายังคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอย่างเขา แม้ในระยะแรกเธอจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับเขาที่มีนิสัยก้าวร้าวหยาบคายเท่าไรนัก แต่ทุกสิ่งที่เป็นเธอก็มากพอจะทำให้มูฮยอกได้รู้จักกับคำว่ารักอีกครั้ง



การให้อภัย ความรัก เป็นของคู่กันกับการให้อภัย แต่ถ้ารักคนหนึ่ง และแค้นอีกคนหนึ่ง มันก็ยากจะไปด้วยกันได้ ทว่ารักของอึนแช ก็ทำให้มูฮยอกอยากโยนอดีตทิ้งไป ลืมการแก้แค้น ลืมให้สิ้นทุกอย่าง ขอแค่มีเธออยู่กับเขาในช่วงเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่ เขาจะต้องการเพียงเท่านั้น แต่ชอยยุนก็เพิ่งรู้ตัวแล้วว่า เหตุใดเขาจึงขาดอึนแชไม่ได้ ไม่ว่าจะก่อนหน้านั้นจนถึงตอนนี้ ทั้งหมดทั้งใจที่เขามีอึนแช มันคือ ความรัก



แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังช้าเกินไป เพราะอึนแชได้เปลี่ยนใจไปแล้วจากรักครั้งเก่าที่มีแต่ทำให้เธอต้องเจ็บปวดและอ้างว้าง เธอได้พบแล้วกับความอบอุ่นจากรักครั้งใหม่ที่มูฮยอกมีให้กับเธอ ทั้งที่เขาเป็นผู้ชายโดดเดี่ยวและเธอสัมผัสถึงความเหงาที่กัดกร่อนอยู่ในจิตใจของเขา เธอเชื่อว่ามูฮยอกจำเป็นต้องมีเธอ เขากลายเป็นคนที่เธออยากจะจับมือเอาไว้และอยู่เคียงข้าง แต่เธอจะทำอย่างไร เมื่อชอยชุน คนที่เธอเคยรักมาตลอด ๒๕ ปี กำลังต้องการเธอในช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของชีวิต ช่วงเวลาของความเป็นความตายที่เธอรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนต้องรับผิดชอบ โดยที่อึนแชไม่เคยมีโอกาสรู้เลยว่าผู้ชายอีกคนที่เธอรัก ทุกลมหายใจของเขาแขวนอยู่กับความตายที่รอแค่วันขาดห้วง อีกทั้งความโกรธ ความเข้าใจผิด ก็ทำให้เธอกลายเป็นอีกคนที่ทำร้ายมูฮยอกให้เจ็บปวด



มันมีเรื่องหักมุมที่ก็เฉลยไม่ยาก ความจริงก็พอจะเดาได้ง่ายโดยไม่ต้องลุ้นมาก แต่ว่ามันก็ยังรู้จึกเจ็บ มีเรื่องไม่คาดคิด มีจุดสะเทือนใจ เทียบกับละครเศร้าน่าจดจำเรื่องอื่นๆ ก็ไม่ถึงขั้นจะนับว่าเหนือกว่าได้เต็มปาก จะว่าไปพลอตมันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ความรักกับอึนแช และความแค้นที่มีต่อแม่ของตัวเองเท่านั้น แต่ม้นมีความพิเศษที่เรียกว่า "ความอิน" คงไม่อาจจะอธิบายได้ชัดเจนนักว่าทำไมต้องอินไปกับตัวละครขนาดนั้น มันเหมือนมีใจไปรู้สึกร่วมกันกับเขาตลอดเวลา ก็ขอวิเคราะห์ดังนี้ว่า

เขาไม่ทำตัวเป็นคนน่าสงสาร แต่กลับดูน่าสงสารขนาดหนัก
เขาตัวสูงใหญ่และไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่ไม่รู้ทำไมถึงดูเปราะบางนัก
เขายิ่งแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเท่าใด ก็ยิ่งดูว่ากำลังปวดร้าวแสนสาหัส
เขาเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด แต่กลับทำให้รู้สึกเข้าใจไปถึงไหนๆ
และเขาเป็นคนใกล้ตายที่สุด แต่กลับไม่เคยเรียกร้องความเห็นใจจากใคร




ไหงมันเป็นเช่นนั้นก็ไม่รู้ รู้สึกปวดใจกับความเป็นชามูฮยอก จนยากที่จะถอนอารมณ์ออกมาด้วยการดูแค่ทีละตอนสองตอนได้ ขอเปรียบเทียบอย่างนี้ว่า มันเหมือนเราหลงอยู่ในอุโมงที่อับทึบหายใจอึดอัด พยายามดิ้นรนหาทางออกอย่างมีความหวัง ได้เห็นแสงรำไรที่จะระเบิดเปิดทางออกไป ใครจะบาดเจ็บล้มตายได้กี่แผลก็ช่างมัน ขอแค่เราได้ออกไปสูดอากาศเต็มๆ สักเฮือกใหญ่ให้เต็มปอด แต่แล้ว ซีรีย์เรื่องนี้มันก็จบเหมือนว่า พอเราไปถึงทางออก แทนที่จะได้ทะลุพรวดออกไป กลับมีใครยกภูเขามาปิดปากอุโมงค์ ทำเราหายใจไม่ออกตายดื้อๆ ซะงั้น

จริงๆ แล้วถ้าโซจีซบไม่เล่นเป็นมูฮยอกได้ดีขนาดนั้น โดยเนื้อเรื่องเศร้าอย่างเดียว อาจจะไม่ทำให้อินจัดกับความเศร้าแต่ต้นจนจบขนาดนี้ แถมยังเป็นความเศร้าที่เสพแล้วติดหนึบอีกต่างหาก T-T



การลืมทุกอย่างมักเป็นการเปิดโอกาสสำหรับการเริ่มต้นใหม่ แต่สำหรับตัวละครมูฮยอก เขาไม่มีโอกาสนั้น เขาเพียงแค่ต้องการจะตายไปอย่างสงบเท่านั้น แต่ก็อีกนั่นแหละ สถานการณ์มันช่างไม่เกื้อกูลต่อการปล่อยวาง แล้วให้อภัย ตรงกันข้าม มันกลับกรีดซ้ำๆ ลงกลางใจ ที่สุดจะย้ำรอยแผลลึก ความเจ็บแค้นขมขื่นที่ต้องขอยกประโยคนี้ขึ้นมาอีกครั้ง (55 ยังคงติดใจอยู่)

"แม่ครับ อย่าร้องไห้ เก็บน้ำตาเอาไว้
เก็บไว้ร้องให้สาแก่ใจ ..ตอนที่ผมตาย"




แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรกัน กับความรัก การปกป้อง ความแค้น และการให้อภัยที่ยากจะหาทางออก มันคือความสมเหตุสมผลที่ไม่ควรมีใครต้องได้รับบาดแผลเพิ่มแม้แต่คนเดียว หรือที่จริงมันก็แค่การยอมรับความอยุติธรรมของโลกใบนี้ ที่มูฮยอกจะต้องรับผลของมันทั้งหมดแต่เกิดจนตาย ..ไปคนเดียว แล้วทางไหนมันจะโหดร้ายกว่ากัน

ไม่ใช่โม้นะ มันรู้สึกหายใจไม่เต็มท้องเลยจริงๆ ตอนที่ดูตอนสุดท้ายของซีรีย์เรื่องนี้น่ะ ยิ่งตอนที่มูฮยอกคุกเข่าลงกราบพื้นดินฉากนั้นนะ ดูแล้วอยากจะลงแดงเพราะแน่ใจแล้วว่ามันจะเป็นไปอย่างไร ซึ่งเป็นหนทางที่ไม่สมหวังดั่งใจจริงๆ พับผ่าสิ



แล้วมันก็จบแบบเลวร้ายต่อความรู้สึกที่สุด
แต่ใจตัวเองก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือการจบที่ดีที่สุด

.......

ตอนจบของพระเอก ในตอนแรกที่คิดว่าจบแล้วแค่นี้
มันเป็นการจบที่ดีที่สุดหากจะว่ากันด้วยเหตุและผล

แต่มันเป็นการจบแบบทำให้บาดเจ็บทางอารมณ์
(ต้องขอใช้คำเว่อร์ ๆ อย่างนี้กันเลยทีเดียว)

แต่ตอนจบของนางเอก ที่เป็นตอนจบจริงๆ ของเรื่อง
แม้ในแง่ของเหตุผล มันไม่สมควร ไม่ถูกต้องเอาซะเลย
ทว่ามันทำให้อาการบาดเจ็บทางอารมณ์ที่ว่านั้นได้รับการเยียวยา

เพราะอย่างน้อยใจที่หายไป เธอก็กอบกู้มันคืนมาได้ครึ่งหนึ่ง
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงรู้สึกอบอุ่นขึ้น



ชอบตอนที่ ๑ ของเรื่องมากที่สุด ถือเป็นตอนสำคัญเลยล่ะที่ทำให้ติดใจเรื่องนี้เป็นพิเศษทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องเศร้า ติดไม่ติดก็ดูซ้ำไป ๔ รอบ ซึ่งก็บอกไม่ถูกหรอกนะว่าชอบอะไรนักหนา คาแรคเตอร์พระเอกที่ให้ความรู้สึกขมขื่นอย่างน่าปวดใจ ส่วนนางเอกก็อกหักช้ำรัก ดูเคว้งคว้างอย่างน่าสงสาร ในเรื่องเธออายุ ๒๕ แต่รูปร่างหน้าตาอย่างกะเด็กสาวอายุ ๑๘ หน้าซื่อๆ ตัวเล็กๆ บางๆ อย่างนี้ล่ะมัง ที่ทำให้พระเอกตัดใจขายยัยเด็กน้อยทิ้งไปไม่ลง



ชอบฉากในค่ำคืนที่ออสเตรเลียเป็นพิเศษ ตั้งแต่ตอนที่อึนแชเดินตามมูฮยอกต้อยๆ แม้ว่าเขาจะไม่สนใจเธอเลย อันที่จริงดูเขาจะไม่แยแสกับทุกสิ่งรอบตัวนั่นแหละ เพราะเธอไม่มีที่จะไป ไม่มีใครที่ไหนจะให้พึ่ง การที่เขาช่วยเธอไว้ อาจสร้างความไว้ใจเล็กๆ ที่ทำให้เธอเกาะติดเขาแบบรักษาระยะห่างตั้งแต่หัววันยันค่ำมืด เขาเป็นคนแปลกหน้าที่เธอรู้เพียงอย่างเดียวว่าเป็นคนเกาหลี คนที่เหลือบตาขึ้นมองเธออย่างไม่เป็นมิตร เมื่อได้ยินคำถามว่า "คุณไม่มีบ้านหรือ?" คนที่ล้มตัวลงนอนกับพื้นว่างเปล่าไม่ต่างอะไรกับคนจรจัด และอึนแชก็ยากจะทำใจได้จึงยอมผละจากเขาไป แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นต้องวิ่งกลับมา แล้วยอมขดตัวลงนอนข้างๆ อย่างหวาดผวา ตอนที่มูฮยอกกอดอึนแช ในบรรดาฉากของพระเอกนางเอกทั้งหมดทั้งเรื่อง ชอบฉากนี้ที่สุด มันไม่ได้นำมาซึ่งความโรแมนติกในทางชู้สาว แต่มันแสดงถึงความเมตตาปราณีที่มูฮยอกมีให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่น่าเวทนาคนหนึ่ง กับคำพูดที่ฟังไม่เหมือนคำปลอบโยนสักเท่าไรแต่มันทำให้เธอสงบลง

"หลับซะ ถ้ายังไม่อยากตาย"



เหมือนกันเลยนะ ต่อมาที่เกาหลี ฉากที่อึนแชกอดมูฮยอกครั้งแรก มันก็ให้ความรู้สึกในทางเมตตาปราณีในลักษณะนี้เหมือนกัน มันยังไม่ใช่ความรัก แต่มันคือการได้มีใครคนหนึ่งในยามที่กำลังเคว้งคว้างและต้องการใครสักคนมากที่สุด

นางเอกอิมซูจอง ไม่ใช่คนสวยมาก แต่น่ารักดี พระเอกโซจีซบตอนมีหนวดหัวฟูอยู่ออสเตรเลียเค้าหล่อในทางนั้นมาก พอกลับมาเกาหลีดูจืดลงไปนิด แต่ก็ยังหล่อแบบพระเอกเกาหลีหล่อๆ ทั่วไป (ซึ่งหล่อไม่น้อย) และสองคนนี้มีเสน่ห์ดึงดูดต่อสายตาเป็นพิเศษ คือดวงตาของเขา กับริมฝีปากของเธอ สายตาของโซจีซบมันได้อารมณ์จริงๆ ส่วนริมฝีปากของอิมซูจอง งอนหยักแปลกตาดูน่าจุ๊บ (นี่เป็นความเห็นของผู้หญิงด้วยกันนะ 55)



จองคยองโฮ รับบทชอยยุน เรื่องนี้เพิ่งเป็นผลงานละครเรื่องที่สองหลังเข้าวงการ ยังดูเด็กๆ อยู่เลย นิสัยในเรื่องก็ลูกแหง่และเป็นหนุ่มขี้งอนเอาแต่ใจด้วย แต่ตอนนี้เขาเป็นพระเอกเกาหลีที่ชอบมากคนหนึ่ง (Smile you , Princess Jamyung Go) แต่เรื่องนี้ต้องเข้าใจว่า รุ่นพี่โซจีซบเขาแรงจริง ใครก็ไม่อาจจะโขมยซีนไปจากเขาได้



อยากจะขอบคุณใครคนหนึ่งที่ส่งข้อความหลังไมค์มาช่วงที่เขียนบล็อก Princess Jamyung Go และแนะนำให้ดูซีรีย์เรื่องนี้ พร้อมกับบอกว่าจะรออ่านบล็อก ซึ่งในตอนนั้นได้ตอบไปว่า อย่ารอเลย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ดู ดูแล้วไม่รู้จะชอบหรือเปล่าด้วย เพราะได้ยินว่าเป็นละครที่เศร้ามากกกกก แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นคำแนะนำที่น่าสนใจบวกกับตอนเขียนบล็อก Innocent Man ทำให้ทราบว่านักเขียนบทท่านนี้ เขียนเรื่อง Thank You ด้วย แรงผลักจึงมาแรงเลย ลองเปิดดูตอนแรกสักนิดนึง ลองแล้วจึงติดใจและกลัวจะไม่อินพอจึงต้องสั่งซื้อแผ่นมาเพื่อจะดูกับทีวี (จอใหญ่กว่าคอมฯ)และต้องดูเสียซาวแทร็คซับไทยเท่าน้าน

นอกจากพระเอกนางเอกแล้ว บทบาทที่ชอบเป็นพิเศษ คือ เด็กชายคัลชิผู้มีแม่เป็นหญิงสาวปัญญาอ่อน เด็กน้อยที่รู้สึกอบอุ่นขึ้นเมื่อมีลุงมูฮยอกฝาแฝดของแม่มาอยู่กับเขา เพียงแต่คัลชิไม่รู้ว่าความอบอุ่นที่มีลุงเป็นที่พึ่งนั้นมันจะมีอยู่เพียงไม่นาน แล้วก็ครอบครัวที่บ๊องส์ๆ ของนางเอก แม่จอมขี้บ่น พี่สาวจอมขี้เกียจ และน้องสาววัยนักเรียนที่ตลกน่ารัก เวลาอยู่ด้วยกันแล้วค่อนข้างจะวุ่นวายแต่ดูอบอุ่นดี ส่วนบทบาทของแม่ "โอดอลฮี" นักแสดงท่านนี้ Lee Hye-Young ก็มีฝีมือแก่ขลังสมวัยอาวุโส แต่ถ้าเทียบกับบทบาทใน Can You Hear My heart เรื่องนี้ถือว่ายังไม่โดดเด่นเท่าไร ก็อย่างว่าล่ะนั่นคงเป็นเพราะบทลูกชายมูฮยอกกินเด่นคนเดียวตลอดเรื่อง แล้วไหนจะมีลูกชายชอยยุนอีกคน




ตอนดูข้อมูลนักแสดงเพิ่งรู้ว่า โซจีซบ เป็นหนึ่งในนักแสดงนำเรื่อง Something Happened In Bali (รักสุดใจฝากไว้ที่บาหลี) แต่คงจะไม่ตามไปดูหรอกนะคุณพี่ เพราะกิตติศัพท์ตอนจบของเรื่องนี้น่ะ น่าขยาดกว่า I am sorry ซะอีก

โดยนิสัยจะตั้งป้อมปฏิเสธละครเศร้าไว้ก่อนเสมอ แต่ไม่รู้ทำไม เรื่องไหนที่ได้ยินกิตติศัพท์ความเศร้าและตั้งป้อมต่อต้านเอาไว้ เป็นได้ดูเรื่องนั้นทุกที

อย่าง I am sorry I love you ขอโทษครับ ผมรักคุณ..เรื่องนี้
ในที่สุดก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งละครเศร้าในความทรงจำ




































ขอบคุณ แหล่งข้อมูล

Dramawiki , Asianwiki , //korea.tlcthai.com
Create Date :12 มกราคม 2556 Last Update :12 มกราคม 2556 23:10:59 น. Counter : 28957 Pageviews. Comments :24