bloggang.com mainmenu search


Title (romaji): Atami no Sousakan
Genre: Crime Episodes: 8
Screenwriter: Miki Satoshi
Director : Miki Satoshi
Broadcast network: TV Asahi
Broadcast period: 2010-Jul-30 to 2010-Sept-17 Friday 23.10

แม้จะติดลมอยู่กับการดูซีรีย์เกาหลี ก็ใช่ว่าจะเอาใจออกห่างจากซีรีย์ญี่ปุ่น เพียงแต่ช่วงนี้ฟากฝั่งเกาหลีมีแต่ซีรีย์น่าดูชม ก็เลยถอนตัวออกมายากสักหน่อย แล้วเขาคนนี้ก็ทำสำเร็จที่ดึงหน้าหันกลับมาชมซีรีย์ญี่ปุ่นได้ โจ โอดางิริ กับซีรีย์เรื่อง Atami no Sousakan ( Atami's investigation)



เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อรถตู้ของโรงเรียน Esternal Forest School ได้ขับเคลื่อนออกมาจากหอพักในเช้าวันหนึ่ง ระหว่างทางมาโรงเรียนบนถนนที่ลาดชัน ในเลนถนนฝั่งตรงข้ามมีร่างหนึ่งนอนฟุบแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น พนักงานขับรถจอดรถ ดึงเบรกเรียบร้อย ก้าวลงจากรถไปดู ช่วยพยุงร่างของชายแก่คนนั้นขึ้นมา แล้วรถตู้ก็ค่อยๆ เลื่อนลงเนิน ท่ามกลางกลุ่มหมอกหนา เด็กนักเรียนหญิงในรถตู้ออกันอยู่ท้ายรถ สองมือทุบกระจก พยายามร้องเรียก พนักงานขับรถเหลียวไปมอง เห็นรถเคลื่อนลงเนินไป เขาวิ่งตาม วิ่งสุดชีวิต แต่รถตู้คันนั้นก็เคลื่อนห่างออกไป ห่างออกไป และหายไปในที่สุด



ชินกุจิ เอริโตโมะ คือพนักงานที่ขับรถตู้คันนั้น

ชิโนโนเมะ เมอิ
ซาวารากิ มิโกะ
สึกิโยะ มินามิ
โมเอกิ อิซึมิ

คือเด็กนักเรียนหญิงทั้งสี่ที่หายไป

3 วันต่อมา หนึ่งในเด็กนักเรียนหญิงผู้สูญหาย ถูกพบที่ป้ายรถเมล์ใน Atami-shi ตอนดึกของคืนวันหนึ่ง เธอไม่ได้สติและถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลในอาการโคม่า ส่วนรถตู้และอีกสามนักเรียนที่สูญหายยังไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน

3 ปีต่อจากนั้น ชิโนโนเมะ เมอิ เด็กนักเรียนหญิงเพียงคนเดียวที่ถูกพบ ก็ยังไม่คืนสติกลับมา รถตู้ที่หายไปยังไม่มีใครค้นพบเช่นเดียวกับเด็กนักเรียนหญิงทั้งสาม คดียังคงเป็นเงื่อนงำปริศนาที่ทางตำรวจไม่สามารถแก้ไขหรือหาความคืบหน้าได้








ในระหว่าง 3 ปีที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการการแก้ไขปัญหาคดีอาชญากรรม โดยจัดตั้งองค์กร The wide area investigation agency ซึ่งเป็นหน่วยงานที่แยกจาก The national police agency (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) องค์กรนี้ก็คล้ายคลึงกับ FBI เรียกได้ว่าเป็น FBI สัญชาติญี่ปุ่น



โฮชิซากิ เคนโซ ( Joe Odagiri )
คิตาจิมะ ซาเอะ (Chiaki Kuriyama )

สองเจ้าหน้าที่องค์กร The wide area investigation Agency ได้รับมอบหมายให้มาสืบสวนคดีที่ยังคลี่คลายไม่ได้นี้ที่เมือง Atami-shi โดยร่วมมือกับ สามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของสถานี Atami

จูซากะซัง (Yutaka Matsushige as Jusaka)
อินุซุกะซัง (Yusuke Shoji as Inuzuka)
เคอิโตะซัง (Eri Fuse as Keito)







3 ปีที่ผ่านมาใช่ว่าคดีถูกละเลย รถตู้ถูกค้นหา อาจกล่าวได้ว่า ทั้งน้ำ ทั้งฟ้า ทั้งกล้องวงจรปิดในสถานที่ต่างๆ ที่รถอาจวิ่งผ่าน แต่ก็ไม่พบอะไร ไม่มีใครบอกได้ว่ารถตู้คันนั้นอยู่ที่ไหนเด็กนักเรียนหญิงทั้งสามยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่

โชคยังดีที่ในที่สุด ชิโนโนเมะ เมอิ ( Ayaka Miyoshi ) ก็ฟื้นขึ้นมา แต่ความหวังก็มีไม่มากนัก เพราะความทรงจำของเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นทั้งหมดขาดหายไป

โฮชิซากิซัง คิตาจิมะซัง สองเจ้าหน้าที่ Wide Area Investigation ต้องทำงานหนักเพื่อสืบสวนคดี โดยมีสามเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานี Atami จูซากะซัง อินุซุกะซัง เคอิโตะซัง คอยให้ความร่วมมือช่วยเหลืออย่างเต็มที่

เหมือนคดีต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด



ณ จุดเกิดเหตุ พื้นหลังชีวิตส่วนตัวของนักเรียนหญิงทั้งสี่ที่หายสาปสูญ ผู้คนที่เกี่ยวข้อง สภาพการณ์แวดล้อม ที่ดูเหมือนแต่ละคนจะรู้อะไรบางอย่างอยู่ลึกๆ แต่ก็ไม่รู้จริงชัดพอจะบอกอะไรที่มีประโยชน์ต่อรูปคดีได้

ชายแก่ที่นอนฟุบอยู่บนถนนวันนั้น พนักงานขับรถชินกุจิ คุณครูคนสวยชิกิชิมะ นายกเทศมนตรี นักเรียนหญิงขี้อิจฉาเรมิ ชินยะเด็กนักเรียนชายผู้มีอารมณ์ด้านมืดและเคยเป็นแบบให้เด็กสาวทั้งสี่(ที่หายไป)วาดภาพนู้ด ภาพวาดที่ถูกเผาทิ้ง ฮิราซากิตัวแทนของกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติ NPO การสร้าง embankment (ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเขื่อน แต่ในที่นี่ น่าจะหมายถึง ตลิ่งคอนกรีตที่เห็นอยู่ในเรื่อง) เซรามิคคลับ ที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังกับการค้าประเวณี ลัทธิลึกลับในหมู่นักเรียน ปลาพันธุ์ยักที่มีชื่อว่า People Puller (คือใหญ่จนสามารถลากคนลงทะเลได้และในหมู่นักตกปลาก็ไม่อยากเสี่ยง) ซากรถตู้ที่ค้นพบ เทปคาสเซ็ทที่ถูกซุกซ่อน สูตรคณิตศาสตร์ที่แม้สุดยอดนักคณิตศาสตร์ก็ไม่อาจแก้ไข สายไฟฟ้าของเมืองที่มีเส้นสายผิดปกติ สายไฟนั้นเชื่อมโยงมาจากไหน และจบลงมุดดินที่แห่งหนใด คีย์เวิร์ดคือเลข 2 และคำว่า Line



อะไรคือนัมเบอร์ 2 และ Do not cross the line "อย่าล้ำเส้น"

การตายของใครคนหนึ่ง แท้จริงคืออุบัติเหตุง่ายๆ หรือตายเพื่อสังเวยต่อเงื่อนงำของคดี

เป็นซีรีย์ที่จริงจังและค่อนข้างซีเรียสทีเดียว หากไม่ได้คาแร็คเตอร์แบบขำเล็กๆ ของตัวละครมาช่วยผ่อนอารมณ์ก็คงจะเป็นซีรีย์มืดๆ ที่ดูแล้วเครียดจัด

เจ๊เอริ ฟุเสะ (Eri Fuse) ผู้รับบทตำรวจหญิง เคอิโตะซัง เคยร่วมงานกับโจ โอดางิริ มาแล้วในซีรีย์ป่วยๆ เรื่อง Smiley Jikou Keisatsu ทั้ง 2 seasons บทบาทของเธอในเรื่องนี้เป็นการสร้างความขำเล็กๆ ให้มีอยู่ตลอดเรื่อง (ขำเล็กๆ คือ ไม่ได้ฮาก๊ากหรือฮาแตกแตน แต่ก็ทำให้ยิ้มได้ตลอด) เธอในเรื่องนี้มีความประทับใจแรกไม่ดีนักต่อ โฮชิซากิซัง เจ้าหน้าที่ Wide Area Investigation จากนั้นจึงหาเรื่องกลั่นแกล้งตลอดทุกครั้งที่พบหน้า ไม่ใช่เป็นความเกลียดชัง แต่เป็นการชิงไหวพริบประลองเชิงกันนิดหน่อย ซึ่งการแกล้งโจก็จะสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างตามแต่กรณีและระดับความระมัดระวังตัว เป็นความขำเล็กๆ ที่ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศตึงเครียดของคดี



ลุงยูทากะ กับบทหัวหน้าตำรวจ จูซากะซัง ลุงไม่ถึงกับเป็นคนฮา แต่ว่ามีลุงอยู่ในเรื่องช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายด้วยเช่นกัน ลุงอาจจะทำเข้มหน้าตายแต่เห็นหน้าแล้วอดยิ้มไม่ได้ ยิ่งถ้าเป็นตอนที่ต้องเอ่ยประโยคติดปาก I'm so useless " ฉันมันช่างไร้ประโยชน์จริงๆ" จะทำให้ยิ้มกว้างเป็นพิเศษ

ชิอากิ คุริยามะ นางเอกคนนี้เคยคุ้นหน้า แต่นึกไม่ออกว่าเคยแสดงเรื่องไหน ตอนแรกคิดว่าเธอไม่เหมาะกับโจเท่าไหร่ แต่ซีรีย์เรื่องนี้ไม่มีเน้นความรักของคู่หนุ่มสาว เป็นเพียงคู่พระนางที่ทำงานร่วมกัน ความห่วงใยใส่ใจต่ออีกฝ่ายย่อมมีอยู่แล้วโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในฐานะคนรักกัน ความสัมพันธ์ไม่ชี้ชัดเช่นซีรีย์เรื่องอื่นทั่วไปที่เน้นงานไม่เน้นรัก



สำหรับ โจ โอดางิริ ดูแล้วยังคงคอนเฟิร์มคอนเซ็ปต์เดิมของตัวเองที่เคยเขียนไว้ในบล็อกซีรีย์เรื่อง Smiley Boku no Imoto (เรื่องเล่าจากพี่ชาย ขอความสุขจงมีแด่เธอผู้แสวงหา)


"จากประสบการณ์ส่วนตัวเมื่อดูหนังที่โจแสดง มีความรู้สึก 2 แบบ

1. ดูยาก และไม่เข้าใจเลย
2. ดูเข้าใจ แต่ยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดให้ชัดๆ ได้"

การเขียนถึงซีรีย์เรื่องนี้ และคาแรคเตอร์ของโจ จึงเป็นเรื่องยากเช่นกัน จะว่าไปแล้วมีส่วนคล้ายบทของนายตำรวจ คิริยามะ ชูอิจิโร่ ใน Jikou Keisatsu อยู่มาก แต่ก็ไม่ได้เอ๋อขนาดนั้น ดูเข้มกว่า หลักแหลมกว่า และมีมุมที่จริงจังอยู่ค่อนข้างเยอะ และมุมนี้เองที่ทำให้โจ หล่อมาก ซึ่งแม้ขณะที่เขาทำตัวบ้าบอ ทำหน้าตาเสียหล่อรับไม่ได้ ทำความหล่อเสียหายไปอย่างมาก โจก็ยังหล่ออยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงตอนที่ทำหน้าทำตาเป็นคนมาดนิ่งสงบ หรือมาดเข้มขณะเพิ่งพินิจสงสัยในเงื่อนงำต่างๆ ของคดีเลย หล่อโดนแนวอย่างยิ่ง โจหล่อจริง ...และโจหล่อจัง

นอกจากนี้ยังมี Tanaka Tetsushi (พ่อของพระเอกเรื่อง Bloody Monday) ร่วมแสดงด้วย เป็นอีกหนึ่งตัวละครผ่อนคลายบรรยากาศ เป็นเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ บุคลิกเหมือนพวกไฮเปอร์จะออกอาการบวมนิดๆ แต่มีบทในเรื่องไม่มากนัก ออกมาเป็นพักๆ เพื่อชันสูตรหรือพิสูจน์หลักฐาน

มี อีกสองตัวละครที่เคยร่วมงานกับโจ ใน Smiley Jikou Keisatsu ด้วยเช่นกัน ลุง Iwamatsu Ryo รับบทเจ้าของโรงแรม ที่โจกับชิอากิ สองเจ้าหน้าที่ Wide Area Investigation ต้องพักอาศัยตลอดช่วงระยะเวลาที่สืบคดีอยู่ในเมือง Atami และเป็นพี่ชายของตำรวจหญิงเคอิโตะด้วย อีกคนคือ Hida Yasuhito แสดงเป็นลูกน้องยากูซ่า ที่มีความเกี่ยวข้องกับนายกเทศมนตรีของเมือง




คดีของเรื่องมีความน่าสนใจเป็นอย่างดี เพราะไม่คุ้นเคยกับซีรีย์แนวสืบสวนสอบสวนนักไม่ว่าจะชาติญี่ปุ่นหรือชาติฝรั่ง จึงบอกไม่ได้ว่ามันดีมากน้อยแค่ไหน ( CSI , The ex files ก็จำไม่ได้ว่าเคยดูผ่านตาบ้างหรือไม่) แต่ถ้าให้เปรียบกับ unfair รูปคดีที่พิศวงกับการสืบเสาะหาต้นเหตุดูดีมีเหตุผลน่าทำใจเชื่อกว่ากันเยอะ อย่างน้อยก็ดูไม่มั่วอิตั้ว) การสืบคดีค่อยๆ ศึกษา รวบรวมสิ่งที่น่าสงสัย (ซึ่งบางครั้งก็ได้มาด้วยวิธีการประหลาดที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก แต่มันดันเชื่อถือได้ ) ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจเชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าด้วยกันเพื่อแก้คดีได้ดั่งใจ ซีรีย์มีแปดตอน แม้ย่างเข้าตอนที่หกที่เจ็ดก็ยังบอกอะไรได้ไม่แน่ชัด ต่อให้คดีถูกคลีคลายไปในตอนที่แปด ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หลายสิ่งอย่างยังดูกำกวมและเป็นปริศนา ซึ่งก็บอกได้ยากอีกแหละว่า นั่นคือการทิ้งไว้เพื่อทำต่อ season 2 หรือแท้จริงแล้ว มันคือคดีที่ไม่อาจทำความเข้าใจได้ทั้งหมดและจะยังเป็นปริศนาอันน่าพิศวงกันต่อไป



แต่สิ่งหนึ่งที่ชอบมากสำหรับซีรีย์เรื่องนี้ คือ สถานที่ถ่ายทำสำหรับการเป็นเมือง Atami ถนนหนทาง ทะเล ป่า ทุ่งหญ้า กังหันลม เป็นสถานที่ดูโปร่ง โล่ง สวยงาม สีสันของเรื่องเป็นบรรยากาศสีทึมๆ เหมาะกับความอึมครึมของเรื่อง และธีมดนตรีที่ฟังแล้วชวนรู้สึกกังวลว่าอะไรคือความลับและอะไรคือคำตอบของปริศนาอาชญากรรมคดีนี้












































ขอบคุณ

mysojo.com
wat.tv
Dailymotion
Create Date :12 มิถุนายน 2554 Last Update :22 กุมภาพันธ์ 2558 8:55:31 น. Counter : Pageviews. Comments :9