สวัสดีค่ะ




วันนี้จะมาปล่อยรีวิวที่พักเล็กๆ ที่เชียงใหม่ 1 ที่ค่ะ ตอนแรกก็ลังเลอยู่เหมือนกันว่า จะใช้วอชเชอร์ที่พัก ROP เพื่อไปพักรร.แชงฯ ที่เชียงใหม่ดีมั้ยหนอไปๆ มาๆ เลยตัดสินใจ ลองไปพักที่นี่ตามรีวิวของคนที่เว็บนี้ดีกว่า

White Chalet Guesthouse @ Chiangmai
//www.hflight.net/forum/m-1216736012/


ส่วนวอชเชอร์ก็เลือกที่จะบินไปฮ่องกงไวขึ้นอีกหนึ่งวันแล้วใช้ที่นั่นแทนค่ะ
(น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกนะ แม้จะต้องลางานเพิ่มก็ตาม เหอๆ)





สำหรับการจอง ก็โทร.ไปค่ะ สามารถแจ้งหักผ่านบัตรเครดิตได้ด้วยนะคะ

รายละเอียดตามเว็บไซต์นี้
//www.chiangmaiwhitechalet.com/
(เว็บไซต์ดูดีทีเดียวค่ะ แหะๆ)


พล่ามมาซะยาว เข้าสู่รีวิว (ซะที) ดีกว่าค่ะ




สำหรับรูปแรกๆ นี่เป็นวันก่อนจะไปเช็คอิน 1 วันค่ะ ไปสำรวจลู่ทางก่อน (หลังจากไปร้านคุณเชิญแหละ) เพราะค่ำวันนั้นต้องไปปฏิบัติตัวเป็นแฟนที่ดีด้วยการไปกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ของคุณแฟน และค้างอ้างแรมที่บ้านท่านก็เลยแว้บไปดูที่พักซะก่อน พร้อมทั้งไปๆ มาๆ เลยแวะสั่งอะไรมากินกันซะงั้น





นี่เป็นบริเวณภายในร้านค่ะ ไม่ใหญ่โตนักนะคะ










นี่คือเคาน์เตอร์เล็กๆ พนักงานอัธยาศัยดี ตู้เค้ก และที่สำหรับสั่งเครื่องดื่มค่ะ










ยามที่ไปนั้นเป็นบ่ายแก่ๆ แล้ว

จึงไม่สามารถมานั่งทำชิลด้านนอกบริเวณนี้ เพื่อจะชมคูเมือง (ที่พักนี้อยู่ในเขตเมืองเก่านะคะ) และรถราที่วิ่งไปมาได้










สำหรับวันนั้นที่สั่งมา ของเราก็..ประจำค่ะ (จนคนไปด้วยค่อนขอดว่า สั่งอย่างอื่นไม่เป็นรึไง?)

บลูเบอรี่ชีสเค้ก ตัวเนื้อเค้กแน่นฉ่ำดีค่ะ แต่ตัวบลูเบอรี่ มัน..อ่า..ไม่โดนเท่าไหร่ค่ะ









เนื้อเค้กดีเช่นเคย แต่ตัวหน้า...

ถ้าใครสังเกตจะเห็นว่า ตัวเลมอนมันเหี่ยวแล้ว เหอๆ

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าไม่ค่อยอร่อยกับหน้าบลูเบอรี่ด้วย

คาดว่า คงเป็นเบเกอรี่ที่ไม่ใช่ของวันสองวันนี้แน่ๆ น่ะนะคะ แต่รสชาติไม่ได้เลวร้ายนักค่ะ












ไอ้ครั้นจะทานแต่ขนมอย่างเดียวก็กระไรเลย

เลยสั่งเครื่องดื่ม แต่ปรากฏว่า..น้ำแข็งวันนี้ไม่มาส่ง (เวรกรรม ) เลยสั่งชามา

ถ้าจำไม่ผิด สั่งเอิร์ลเกรย์มั้งคะ











หลังเสียอารมณ์ไปกับขนมและเครื่องดื่มเล็กน้อย

ก็ทำใจให้ชื่นบานขึ้นกับไวร์เลสฟรีค่ะ ถ้าเอาแล็ปท็อปไปเองก็เล่นได้เลย









เอ่อ..หลายคนเริ่มงง ตกลงแกจะมารีวิวอาหารหรือที่พัก แหะๆ


อันนี้คือส่วนหนึ่งของอาคารที่พักนะคะ (มีสองอาคาร ชั้นเดียวค่ะ)

ที่จอดรถ ถ้าจอดในรั้วที่พักเลย ได้แค่ 2 คันนะคะ

แต่ถ้าจอดริมถนน (ซึ่งตอนเย็นถึงเช้ามืด จะมียามมานั่งเฝ้าให้) ก็ได้หลายคันอยู่ค่ะ












ภาพนับแต่นี้ ถ่ายอีกวันแล้วค่ะ ไปถึงก็ตอนเย็นแล้ว (เพราะดันไปแวะทานเวียงจูมออนก่อน แหะๆ)





สำหรับการเช็คอิน ก็ไปติดต่อที่เคาน์เตอร์เดียวกับที่ขายเบเกอรี่น่ะแหละนะคะ

ไปเช็คอินแล้วเค้าจะให้กุญแจมาดังนี้ พร้อมกับกระเป๋าพลาสติก บรรจุรีโมทแอร์และรีโมททีวีค่ะ














ห้องตรงหัวมุมที่เล็งไว้ (คือห้องเบอร์ 3 และ 4) ก็เลยถูกเค้าเช็คอินไปแล้ว

ยังดีที่เหลือห้องเบอร์ 10 อยู่ค่ะ เป็นห้องมุมห้องสุดท้ายที่เหลืออยู่











ภายในห้องพักนะคะ เตียง double 1 เตียงค่ะ มีทีวีจอแบน อยู่ปลายเตียงติดกับตู้กระจก ตู้เสื้อผ้าบิลท์อินนะคะ มีห้องน้ำส่วนตัวค่ะ





ห้องเล็กๆ นะคะ ถ้าดูรูปที่มีกระจกเครื่องแป้ง จะเห็นว่ามีน้ำเปล่าฟรีให้ด้วยนะคะ 2 ขวดค่ะ






ไปดูห้องน้ำกันนิดหนึ่ง เปิดประตูจะเจออ่างล้างหน้าและกระจกก่อนเลย

ฝั่งซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์ (ขออภัย ลืมปิดฝาอีกแล้วตรู) มีผ้าเช็ดตัวให้ค่ะ สองผืน











ฝั่งขวามือถัดไปเป็นส่วนเปียกค่ะ ที่นี่เป็นชาวเวอร์นะคะ










มีชาวเวอร์เจล ครีมนวดผมและแชมพูให้ด้วยค่ะ











ตัดไปตอนเช้ากันบ้างค่ะ สำหรับอาหารเช้า ก็ไปทานกันที่เดิม

เริ่มด้วยน้ำผลไม้ ขนมปัง เนย แยมค่ะ







ตามด้วยกาแฟ







ส่วนจานหลัก เอ่อ..เนื่องด้วยไปกินตอนเก้าโมงกว่าๆ ผลปรากฏว่า แฮม (หรือเบคอนหว่า?) หมด เลยได้แต่ไส้กรอกกับไข่ดาว (เศร้าจิตจริงๆ ตรู - แต่เขาเพิ่มไส้กรอกให้น่ะนะคะ)















ค่าห้องพักก็ 900 บาทค่ะ ถ้าหักบัตรเครดิตมีชาร์จด้วย (3 เปอร์เซนต์มั้ง ไม่แน่ใจ) ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกหนึ่งค่ะ ถามว่า จะไปพักอีกมั้ย ก็คงไม่ถึงกับไม่ไปแน่ๆ หรอกนะคะ (ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แหะๆ)

แต่คิดว่า..ก็คงลองพักที่อื่นดูบ้างน่ะค่ะ แต่ถ้าจะให้เป็นตัวเลือกหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่โอเคนะคะ ให้เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจแล้วกันค่ะ

อ้อๆ แต่ถ้าใครไม่มีแล็ปท็อปไป เค้ามีคอมพิวเตอร์ให้เล่นเน็ตนะคะ แต่เสีย ชั่วโมงละ 30 บาทมั้งคะ แหะๆ









ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมนะคะ

270113/3712/297