bloggang.com mainmenu search




สวัสดีค่ะ





หลังจากที่รีวิวโรงแรมที่เซี่ยงไฮ้มาแล้วดังนี้


Four Points by Sheraton (คลิกเพื่ออ่าน)


ตามด้วย Ramada Hotel Wujiaochang (คลิกเพื่ออ่าน)


Ramada Hotel Wujiaochang (คลิกเพื่ออ่าน)


และโรงแรม Jinrong International เซี่ยงไฮ้ ตอนแรก ห้อง Superior+Deluxe (คลิกเพื่ออ่าน)








วันนี้จะพาไปดูโรงแรม Jinrong International Hotel เซี่ยงไฮ้ต่อ ซึ่งคราวนี้จะเป็นส่วนของห้อง Business Suite กับห้อง Executive Deluxe Suite ซึ่งห้องไทพ์หลังนี่จะอยู่ในส่วนของ Executive Floor ค่ะ


ไปดูห้องแรกก่อนนะคะ เป็นห้อง 607 ซึ่งเป็นห้อง Business Suite นะคะ

เปิดเข้าไปฝั่งซ้่ายจะมีแจกันประดับเล็กน้อยและเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นค่ะ























ซึ่งตรงด้านหลังที่มีแจกันเมื่อกี๊ ก็จะเป็นส่วนของเคาน์เตอร์เตรียมอาหารนะคะ

พวกชากาแฟกระติกน้ำร้อนก็อยู่ตรงนี้แหละค่ะ ตู้เย็นก็ด้วย

ชอบชุดกาน้ำชาถ้วยน้ำชามากเลยค่ะ เก๋ซ้า...























ให้ดูมุมห้องนั่งเล่นอีกรูปค่ะ





















ถัดจากทีวีของห้องนั่งเล่น จะเป็นประตูเปิดเข้าไปห้องนอนค่ะ





















เปิดเข้าไปก็จะเจอภาพห้องนอนอย่างนี้เลย

จะเห็นว่ามีส่วนนั่งเล่นลดระัดับลงไปอีกด้วยนะคะ





















เตียงนอนแบบเต็มๆ ค่ะ หัวเตียงแอบเป็นกระจกด้วย หุๆ (หัวเราะแบบมีเลศนัย)
























ปลายเตียงก็เป็นทีวีกับส่วนนั่งเล่นเล็กๆ ซึ่งมีโต๊ะทำงานด้วยนะคะ























ไปดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ ตู้เสื้อผ้าก็อยู่หน้าห้องน้ำนะคะ

ทางเข้าห้องน้ำจะต้องเข้าทางห้องนั่งเล่นนะคะ (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ แหะๆ)





















เข้าไปก็จะเจออ่างล้างหน้า ต่อด้วยโถสุขภัณฑ์แล้วถึงจะเป็นอ่างอาบน้ำค่ะ





















ของใช้ในห้องน้ำค่ะ





















มีไดร์เป่าผมและเครื่องชั่งน้ำหนักให้เหมือนกันนะคะ





















ส่วนในตู้เสื้อผ้าก็มีเสื้อคลุม เตารีด ที่รองรีดให้ครบเช่นกันค่ะ





















ต่อไปเราจะไปที่ชั้น 15 ซึ่งเป็นชั้น Executive Floor กันบ้างนะคะ

ออกจากลิฟท์มาก็จะเจอเหมือนเป็นที่นั่งนิดหน่อย แล้วมีบันไดวนขึ้นไปด้วยค่ะ

เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นทางขึ้นไปยัง Executive Lounge น่ะค่ะ










































ทางเดินไปห้องพักค่ะ ลายพรมจะไม่เหมือนชั้นอื่น และมีตัวโคมไฟเล็กๆ ระหว่างทางเดินเพิ่มนะคะ





















ห้องที่ไปดูคือห้อง 1501 ค่ะ เป็นห้อง Executive Deluxe Suite (คือ ขอเล่านิดหนึ่งว่า เจ้าหน้าที่พลาดด้วยหละค่ะ ที่จริงเราขอดูแค่ห้อง Executive Floor King ซึ่งเป็นห้องอีกไทพ์หนึ่งที่อยู่ในชั้นเอกเซกคิวทีฟ และราคาแพงน้อยที่สุด แต่เจ้าหน้าที่ดันพามาห้องนี้ เราไล่ไปไล่มาถึงได้รู้ว่า เขาพามาผิดห้อง แต่พอจะให้พาไปดูห้อง Executive Floor King กับ Executive Floor Suite เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่มีห้องว่างให้ดูค่ะ เสียดายเหมือนกัน เพราะจริงๆ ห้องไทพ์นี้ ไม่น่าจะได้ใช้อัพเกรดได้หรอกค่ะ เพราะราคาแพงเวอร์มากๆ)

ห้องแบบเอกเซกคิวทีฟ เดอลักซ์ สวีทนี่จะมี 2 ห้องนอนนะคะ

เปิดเข้าไปปุ๊บจะเจอส่วนของห้องนั่งเล่นตรงกลางก่อนค่ะ ซึ่งจะเห็นทีวีอยู่หน่อยๆ นะคะ





















พอเดินเข้าไปส่วนของห้องนั่งเล่น มองไปทางซ้ายมือ ก็จะมีโต๊ะพร้อมคอมพิวเตอร์ PC ให้ใช้ และมีประตูสำหรับเข้าห้องนอนแรกค่ะ
























เข้าไปในห้องนอนฝั่งซ้ายปุ๊บ ทางขวามือจะเป็นส่วนนั่งเล่นเล็กๆ และเคาน์เตอร์ชา-กาแฟ พร้อมทีวีอีกเครื่องค่ะ





















ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งของเตียงนอนดังรูปเลยค่ะ เพดานสูงในระดับหนึ่งนะคะ























ส่วนห้องนอนอีกห้อง ก็เป็นเตียงใหญ่เตียงเดี่ยวเหมือนกันค่ะ มีทีวีต่างหากอีกเช่นกัน





















ไปดูห้องน้ำที่หนึ่งกัน (มีห้องน้ำ 2 ห้องสำหรับแต่ละห้องนอนค่ะ)

เปิดเข้าไปจะเจอโถสุขภัณฑ์กับตู้ชาวเวอร์แบบนี้นะคะ





















ตัวอ่างล้างหน้าจะค่อนข้างแตกต่างจากห้องไทพ์อื่นๆ นะคะ




















ห้องน้ำอีกห้องค่ะ เปิดเข้าไปจะเจอโถปัสสาวะ โถสุขภัณฑ์และตู้ชาวเวอร์























แล้วก็อ่างอาบน้ำที่จะยกพื้นขึ้นไปตามรูปนะคะ อ่างล้างหน้าก็มีให้สองอ่างเรียบร้อย เครื่องชั่งน้ำหนักจะเป็นแบบใสๆ ค่ะ

























แต่ของใช้ในห้องน้ำ กลับเหมือนกับห้องอื่นๆ แฮะ




















โซฟาสำหรับนั่งเล่นในห้องนอนนี้ค่ะ





















ต่อไปเราก็ลงไปที่ชั้นสามเพื่อจะไปดูห้องประชุมค่ะ

ไปชั้นสามแล้วต้องเดินไปตรงทางเชื่อมอีกหน่อยหนึ่งถึงจะเจอส่วนห้องประชุมค่ะ

























แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พาเดินไปดูแค่ห้องประชุม แล้วก็ไม่มีกุญแจไขให้ดูห้องค่ะ เราก็..เอ่อ...

แต่เค้าก็ให้ข้อมูลว่า รับได้เต็มที่อยู่ที่ 80 คน





















ก็เลยลงไปที่ล็อบบี้ให้พาำไปดูอีกห้องที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า จุได้ 180 คนค่ะ

เจ้าหน้าที่ก็พาเดินขึ้นบันไดไปผ่านห้องอาหารนี้ก่อน
(ที่จริงเดินออกไปทางหน้าโรงแรมก็ได้นะคะ แต่เค้าพาเดินมาทางนี้ก็เลยต้องมาอะค่ะ )























ภายในห้องอาหารค่ะ ดูโอเคอยู่ค่ะ แต่ห้องอาหารนี้เจ้าหน้าที่บอกว่า บริการเฉพาะอาหารกลางวัน+เย็นค่ะ























หลังจากเดินลัดเลาะแป๊บหนึ่งก็ถึงห้องนี้แล้วค่ะ (อินเตอร์ตรงไหนฟระ มีแต่ชื่อภาษาจีนเนี่ย )





















ทว่า...เอ่อ..มันเป็นห้องที่มีเสาตรงกลางค่ะ (ห้องแบบนี้ไม่เหมาะกับการจัดเลี้ยงค่ะ เพราะเสามันจะบังหน้าโต๊ะบางโต๊ะอะค่ะ)























สำหรับตอนหน้าจะเป็นตอนแถม พาไปกินร้านอาหารบ้านๆ ที่อยู่ตรงกันข้ามโรงแรมนี้ค่ะ


















สรุปสำหรับโรงแรมนี้นะคะ


ความสะดวกในการเดินทาง A


เนื่องจากอยู่ค่อนข้างใกล้กับสถานีรถไฟ line 1 (ทางออกใกล้ๆ Era Show) ซึ่งห่างไปเพียงแค่ 1 บล็อกค่ะ รวมทั้งมีป้ายรถเมล์อยู่ก่อนทางลงรถไฟใต้ดินด้วย ก็เลยทำให้ค่อนข้างสะดวกสำหรับการเดินทางนะคะ (แต่ในเว็บไซต์ไม่บอกเรื่องการเดินทางใดๆ ทั้งสิ้นเลยค่ะ เง่อ...)




ความสวยงามของห้องพัก B

ถ้าเป็นห้องพื้นฐาน ที่ไม่ใช่เดอลักซ์เป็นต้นไป เราให้แค่บีค่ะ แต่ถ้าห้องเดอลักซ์จะอยู่ที่บีบวก ตัดคะแนนที่แคบไปนิด (แต่ก็ตามสไตล์เซี่ยงไฮ้แหละค่ะ)

อีกอย่าง ห้องไทพ์เดียวกัน ต่างกันแค่เตียงแต่กลับค่อนข้างแตกต่างกันเกินไปหน่อยอะค่ะ หรือห้องคนละไทพ์ ในห้องเหมือนกันหมดแต่ต่างกันตรงวิวนี่...เอ่อ..เราว่ามันแปลกๆ ไปมั้ยคะ?





อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องพัก B+


โอเคเลยค่ะ ค่อนข้างครบถ้วนสมบูรณ์ีดีนะคะ แต่ตัว toileteries นี่เราว่า..น่าจะปรับคุณภาพอีกนิดหนึ่งน่ะค่ะ



สิ่งอำนวยความสะดวกของที่ัพัก B

ไม่มีสระว่ายน้ำอะค่ะ แล้วก็ไม่เห็นบอกว่ามีสปาด้วยนะคะ แต่อย่างน้อยฝั่งตรงข้ามก็ยังมีมินิมาร์ทของออลเดย์และร้านอาหารอยู่บ้าง ก็เลยถือว่าพอจะได้อยู่ค่ะ



อาหารเช้า N/A


เนื่องจากไม่ได้กินค่ะ เลยยังให้คะแนนไม่ได้นะคะ




การบริการ B


ให้คะแนนจากเจ้าหน้าที่ที่พาเซอร์เวย์ค่ะ คือแทนที่จะให้เจ้าหน้าที่ที่มีความรู้เรื่องห้องอย่างถูกต้องและภาษาอังกฤษที่ดีกว่านี้ (อย่างโฟร์พอยท์บายเชอราตันทำ) พามาเซอร์เวย์ กับให้พนักงานเบลล์บอยพาไปเซอร์เวย์ ซึ่งแม้น้องจะกระตือรือร้นดี แต่ข้อมูลหลายๆ อย่าง น้องก็ให้ข้อมูลไม่ได้อะค่ะ




ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่าย ณ ขณะนั้น B+


เราเช็คจากเว็บอโกด้า ช่วงเดือนเมษายน ห้องซิงเกิลอยู่ที่ 2248 บาท ส่วนห้องทวินซูพีเรียร์อยู่ที่ 2669 บาท ซึ่งเราก็ว่าอยู่ในระดับโอเคค่ะ แต่ถ้าเอาราคาตาม tariff ของโรงแรมนี่ ห้องซิงเกิลอยู่ที่ 1000 หยวน (ห้าพันบาท) อันนั้นโหดไปหน่อยนะคะ เหอๆ













สรุปเรื่องข้อดี-เสียของโรงแรมอีกทีนะคะ


ข้อดี


ห้องค่อนข้างสวยในระดับหนึ่งค่ะ และมีห้องหลายไทพ์หลายราคาให้เลือก ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น ทำเลดีเพราะใกล้กับทั้งป้ายรถเมล์ และสถานีรถไฟใต้ดินสาย 1 แถมยังใกล้กับ Era Show ด้วยค่ะ แล้วราคาที่เช็คจากอโกด้าก็ไม่ได้แพงมากนักน่ะนะคะ






ข้อเสีย


การที่ห้องไทพ์เดียวกัน แต่กลับมีความแตกต่าง (กรณีห้องพักเดี่ยว) หรือห้องที่ภายในทุกอย่างเหมือนกันเด๊ะ แต่ต่างกันที่วิว (และชั้นซึ่งเป็นที่ตั้งของห้อง) แต่กลับถือเป็นห้องคนละไทพ์กัน สำหรับเราเราว่าไม่โอค่ะ ในส่วนของพนักงานที่พาเซอร์เวย์ แม้่ว่าจะเป็นเบลล์บอย ก็ควรพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่านี้ค่ะ หรืออย่างน้อย เจ้าหน้าที่ที่เลือกให้มาพาไปเซอร์เวย์ก็ควรพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่านี้ด้วยนะคะ













ก็หวังว่าคงพอจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่หาที่พักที่เซี่ยงไฮ้บ้างนะคะ



















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาบล็อกเราค่ะ

806231/6171/544



Create Date :20 ธันวาคม 2553 Last Update :20 ธันวาคม 2553 17:45:37 น. Counter : Pageviews. Comments :37