bloggang.com mainmenu search


เพิ่มมรดกเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูกหลานง่ายๆ ด้วย
"ประกันชีวิตควบการลงทุน"


by TAXBugnoms,Dec 27, 2017 5:01 AM
writer of Taxbugnoms



ในช่วงหลังๆนี้ ผมสังเกตเห็นว่า วัยทำงานที่เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือวัยใกล้เกษียณหลายๆคน นอกจาก "วางแผนเกษียณ" ให้ตัวเองแล้ว... อีกหนึ่งในเรื่องที่คนเริ่มให้ความสนใจไม่แพ้กันก็คือ "การจัดการมรดก" ด้วยแนวคิดที่อยากจะส่งมอบสิ่งดีๆให้กับลูกหลานหรือคนที่เรารัก ลองคิดดูสิครับว่า

“ในยุคสมัยนี้ที่การหาเงินไม่ใช่เรื่องง่าย การมีมรดกที่ช่วยเหลือต่อยอดให้ชีวิตนั้นเดินต่อไปได้อย่างสะดวกขึ้นนั้นมันจะดีแค่ไหน”

แหม่... พูดแล้วอยากจะกลับไปทำดีกับเจ้าคุณปู่เสียจริงๆ แต่เสียดายที่ไม่ทันแล้ว ฮ่าๆ สิ่งที่ทำได้ในทุกวันนี้คือการวางแผนจัดการสิ่งที่เรามี เพื่อส่งต่อให้กับคนรุ่นหลังอย่างยั่งยืนมากกว่า

และหนึ่งในวิธีที่จัดการเพิ่มมรดกให้กับลูกหลานแบบง่ายๆ ที่ใครหลายคนนึกถึงก็คือ “การทำประกันชีวิต” นั่นเองครับ



ประกันชีวิต กับ มรดก เกี่ยวอะไรกัน?


มาถึงตรงนี้ ผมขอเริ่มต้นอธิบายให้ฟังก่อนว่า การทำประกันชีวิตนั้น ทำไมถึงมาเกี่ยวกับมรดกได้ ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องการป้องกันความเสี่ยง จะมาเกี่ยวอะไรกัน?

นอกจากการป้องกันความเสี่ยงแล้ว สิ่งที่เราได้รับจากประกันชีวิตนั้น มันจะมีเรื่องของ ทุนประกัน (จำนวนที่ได้รับตามสัญญา), เงินคืน (ผลตอบแทนรายปี) หรือ ผลตอบแทนอื่นๆที่ได้รับตามสัญญา

ข้อดีของการทำประกันเพื่อให้ได้รับเงินส่วนนี้ คือ การสร้าง “เป้าหมาย” การเงินที่แน่นอน ตามจำนวนที่ตกลงว่าจะส่งมอบตามอายุสัญญาในกรมธรรม์ ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่ามันเป็นหลักประกันตัวหนึ่งที่จะทำให้คนข้างหลังไม่ลำบาก

นอกจากนั้นข้อดีเพิ่มเติมของการทำประกันชีวิตยังมี เรื่องของการจัดการเงินได้อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องเสียภาษี เพราะเงินที่ประกันชีวิตจ่ายนั้น จะไม่ต้องไปนับรวมกับกองมรดก ซึ่งผู้รับผลประโยชน์จะได้เงินรวดเร็วกว่าวิธีอื่นๆที่ต้องผ่านการจัดการของผู้จัดการมรดกอีกด้วยครับ

ส่วนเรื่อง ภาษีนั้น กรณีที่เราทำประกันชีวิต และกำหนดให้บุตรหลานเป็นผู้รับผลประโยชน์ไว้ เมื่อผู้ทำประกันจากไป เงินที่ได้รับจากประกันนั้นจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ในมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากรอีกด้วยครับ

ซึ่งในปัจจุบันมีประกันหลากหลายแบบให้เลือกใช้ บางคนอาจจะเลือกประกันชีวิตแบบทั่วไปที่ทำมาเพื่อใช้เป็นมรดกอย่างชัดเจนไปเลย แต่บางคนก็อาจจะเลือก ‘ประกันชีวิตควบการลงทุน’ เพื่อที่จะสามารถตอบโจทย์เป้าหมายชีวิตที่แตกต่างกันไป ซึ่งข้อดีของประกันชีวิตควบการลงทุนคือ ได้ทั้งประกันชีวิตและการลงทุน ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจ โดยเราสามารถเลือกกำหนดและปรับเปลี่ยนสัดส่วนความคุ้มครองชีวิต และสัดส่วนการลงทุนภายหลังได้ รวมทั้ง ยังสามารถเลือกและสับเปลี่ยนกองทุนได้ด้วยตัวเอง ซึ่งผลตอบแทนที่ได้สามารถนำมาช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายของประกันชีวิตในระยะยาวได้อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนเองควรดูเรื่องของการลงทุนประกอบกันด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ เช่น ประเภท และระดับความเสี่ยงของกองทุนรวมที่ให้ลงทุน ไปจนถึงค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะเกิดขึ้นจากการเลือกประกันชีวิตรูปแบบนี้ว่าคุ้มค่ากับที่ต้องการหรือเปล่า

แต่อย่าลืมว่า คนที่อยู่ในช่วงเริ่มมองการส่งต่อมรดกหรือความมั่งคั่งให้ลูกหลาน มักจะเป็น คนที่อยู่ในช่วงเตรียมตัวเกษียณ (50 ปีขึ้นไป) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ต้องเน้นความปลอดภัยของเงินที่สะสมมาตลอดทั้งชีวิตให้อยู่กับเราให้นานที่สุด เราจึงไม่ควรเลือกลงทุนที่ความเสี่ยงสูงไปหรือต่ำเกินไป เอาแค่ให้ชนะเงินเฟ้อก็เพียงพอ

หากมองถึงเรื่องของ “การวางแผนมรดก” ประกันแบบควบการลงทุนก็อาจช่วยได้ เพราะเมื่อเราจากไปก็จะมีเงินมรดกแบบปลอดภาษีให้ลูกหลานได้ทันที

ซึ่งใครที่กำลังมองหา ‘ประกันชีวิตควบการลงทุนเพื่อการวางแผนมรดก’ อยู่ ทาง TMB ก็ได้ออกประกันชีวิตควบการลงทุนตัวใหม่ที่ชื่อว่า “TMB Wealthy Link” มาตอบโจทย์ให้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าจากการลงทุนในกองทุนรวมคุณภาพที่คัดสรรแล้วจาก บลจ.ชั้นนำ

มั่นคงกับความคุ้มครองชีวิตที่สูงถึง 100 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลักต่อปี (สำหรับคนที่อายุไม่เกิน 35 ปี)

ปรับเปลี่ยนสัดส่วนทุกอย่างได้ตามใจ สามารถเลือกได้ตามสถานการณ์ของตลาด และยังปรับเปลี่ยนได้ทั้งเบี้ยประกันภัย ทุนประกันภัย สัดส่วนความคุ้มครองชีวิตและการลงทุน ไปจนถึงการสับเปลี่ยนกองทุนเพื่อเพิ่มโอกาสในผลตอบแทนที่สูงกว่า

สำหรับคนที่ต้องการส่งต่อมรดก ยังสามารถเพิ่มเบี้ยประกันภัยเพิ่มพิเศษ(สัดส่วน) ได้สูงสุดถึง 150 ล้านบาท

มีระบบอัตโนมัติช่วยบริหารการลงทุน เช่น การปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนอัตโนมัติ หรือการทยอยเข้าลงทุนอย่างสม่ำเสมออัตโนมัติ



เอาล่ะ เมื่อทำความรู้จัก "TMB Wealthy Link" ไปแล้ว งั้นเรามาลองดูตัวอย่างในการใช้เพื่อวางแผนภาษีมรดกกันดูดีกว่าครับ
สมมติว่า นายเอ อายุ 55 ปี ใกล้เกษียณเต็มที วางแผนจ่ายเบี้ยปีละ 100,000 บาท เพื่อส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูกหลานอย่างยั่งยืน โดยเบี้ยจำนวน 100,000 บาทนี้จะถูกแบ่งเป็น 2 ก้อน คือ

แบ่งก้อนที่ 1 25 % หรือ 25,000 บาท จ่ายในส่วนของความคุ้มครองชีวิต

แบ่งก้อนที่ 2 75% หรือ 75,000 บาท ลงทุนในกองทุนรวมดีๆที่คัดเลือกแล้ว

จากการคำนวณแล้ว วิธีการทำประกันแบบนี้ นายเอ จะมีทุนประกันภัยรวมเท่ากับ 1 ล้านบาท ถ้าโชคดีนายเอได้รับผลตอบแทนดีมากๆ จากการลงทุนอยู่ที่ 8% ต่อปี แปลว่าในปีที่ 8 นายเอจะได้รับผลตอบแทนจากเงินก้อนที่ 2 ณ จุดคุ้มทุน และหลังจากนี้คือกำไรล้วนๆครับ

ส่วนในกรณีที่หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็จะได้รับเงินเท่ากับทุนประกันภัย 1 ล้านบาท บวกกับผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนจากเงินก้อนที่ 2 ที่เกิดจากการลงทุน แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับกรณีนี้ อยู่ที่ทุนประกันภัย และระยะเวลาคืนทุน ขึ้นอยู่กับค่าเบี้ยที่จ่ายและช่วงอายุของแต่ละคนด้วยครับ



ตัวอย่างความคุ้มครองคิดเป็นจำนวนเท่าของเบี้ยประกันภัยหลัก
เพิ่มมรดกเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูกหลานง่ายๆ ด้วย "ประกันชีวิตควบการลงทุน"

นอกจากนี้สำหรับคนที่ใช้บริการกับ "TMB Wealthy Link" ยังสามารถเลือกซื้อกองทุนคุณภาพที่คัดสรรแล้วจากหลากหลาย บลจ. ชั้นนำ ได้อีกด้วย
กองทุนเปิด ยูโอบี อินคัม เดลี (UOBID : UOB Income Daily)
กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล (TMBBF : TMB Bond Fund)
กองทุนเปิด อเบอร์ดีนแวลู (ABV : Aberdeen Value Fund)
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกรท (ABG : Aberdeen Growth Fund)
กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอลแค็พ (ABSM : Aberdeen Small Cap)
กองทุนเปิดทหารไทย SET 50 (TMB50 : TMB SET50)
กองทุนเปิดทหารไทย Global Quality Growth (TMBGQG : TMB Global Quality Growth)
กองทุนเปิดทหารไทย Asian Growth Leaders (TMBAGLF : TMB Asian Growth Leaders Fund)
กองทุนเปิดทหารไทย Global Income (TMBGINCOME : TMB Global Income Fund)
อ้อ... อย่าลืมนะครับว่า การลงทุนมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ถ้าหากผลตอบแทนจากการลงทุนไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ เช่นต่ำกว่า 8% ต่อปี จุดคุ้มทุนก็จะขยายออกไปไกลกว่านี้ได้นะครับ ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่รับได้จากการลงทุน และวิธีการจัดพอร์ตกองทุนรวมประกอบกันครับ

สำหรับคนที่สนใจวางแผนมรดกด้วยประกันชีวิตควบการลงทุน ‘TMB Wealthy Link’ ก็สามารถขอคำแนะนำและปรึกษาได้ฟรีที่ TMB ทุกสาขา หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ tmbbank.com/twl/tax



เพิ่มมรดกเพื่อส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูกหลานง่ายๆ ด้วย "ประกันชีวิตควบการลงทุน"

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ‘ประกันชีวิตควบการลงทุน’ จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าพิจารณาในการส่งต่อให้กับคนรุ่นหลังครับ ยิ่งถ้าหากเป็นคนที่มีการทำประกันอยู่แล้ว และลงทุนในกองทุนรวมเป็นประจำ ที่ต้องการทุนประกันสูงจากความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน เพื่อวางแผนเป็นมรดกก้อนใหญ่ให้กับคนที่เรารัก โดยมีเบี้ยส่วนที่จ่ายไปเป็นการลงทุนที่ทำให้มรดกก้อนนั้นมีโอกาสงอกเงยได้อีกด้วยครับ

สุดท้ายแล้วพรี่หนอมขอเตือนไว้ครับว่า...

สิ่งเหล่านี้คือ "เครื่องมือการเงิน" ที่มาช่วยให้เราจัดการความมั่งคั่งของตัวเอง และสามารถส่งต่อความมั่งคั่งให้กับคนอื่นได้อย่างภาคภูมิใจ

ดังนั้นอย่าลืมเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการด้วยนะครับ

บทความนี้เป็น Advertorial

ควรใช้วิจารรณาญานในการตัดสินใจ

ขอขอบข้อมูลจาก
https://goo.gl/RxPr4U

newyorknurse


Create Date :08 มกราคม 2561 Last Update :8 มกราคม 2561 6:58:54 น. Counter : 1798 Pageviews. Comments :1