bloggang.com mainmenu search
26 พฤศจิกายน 2553 : จุดผางประทีปถวายพุทธบูชา ที่วัดพันเตา จ.เชียงใหม่

ภาพถ่าย Set นี้ถ่ายภาพไว้เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553 ในช่วงก่อนจะพลบค่ำ ซึ่งค่ำคืนวันนั้นเป็นวันลอยกระทง ยี่เป็งเชียงใหม่ และจากที่มีคนเคยบอกไว้ว่า ค่ำคืนนี้ที่วัดพันเตา จะมี Unseen ของงานยี่เป็งเชียงใหม่ ที่ไม่ค่อยจะมีใครมาชมกันมากหน้าหลายตาเหมือนในจุดอื่นๆ ของการจัดงานยี่เป็งเชียงใหม่ และดูเหมือนจะไม่มีในตารางกิจกรรมในการจัดงานยี่เป็งของเชียงใหม่ซะด้วย ฟังแล้ว และดูแล้ว น่าจะ unseen จริงๆ

ได้แต่คิดว่ามาชม unseen ที่วัดพันเตา นี้ก่อน แล้วค่อยวิ่งตามไปถ่ายภาพขบวนกระทงเล็กที่น่าจะเริ่มเดินขบวนกันออกไปพร้อมๆ กับการจัดงานที่วัดพันเตาแห่งนี้

ช่วงก่อนที่ท้องฟ้าจะหมดแสง เลยมาดูให้เห็นกับตาก่อนว่าจะมี unseen อย่างที่มีคนแจ้งมา


พอมาชมตำแหน่งในส่วนของพื้นที่ของทางวัดพันเตาที่จะมีการจุดผางประทีปถวายเป็นพุทธบูชาในประเพณียี่เป็งที่วัดพันเตาแห่งนี้
พบว่าข้อมูลถูกต้องเลย เป็นอีกหนึ่ง Unseen in Chaingmai ในเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่นี้จริงๆ
แต่ที่ทำให้แปลกใจไปพอสมควร ทุกคนล้วนที่มายืนรอชม รอถ่ายภาพอยู่นั้น มีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และน่าจะเกือบทุกๆ คนที่พกขาตั้งกล้องมาพร้อม มาวางตำแหน่งที่จะรอถ่ายภาพกันอยู่หลายคนทีเดียว

เห็นผู้คนที่มารอกันอยู่แบบนี้แล้ว เลยยิ่งดูเหมือนผิดจากที่คิดไว้ วาดภาพไว้มากพอสมควรทีเดียว ยังคิดว่าอะไรที่ unseen จะมีคนไม่มากนัก และเหมือนจะมาชมกันแบบบังเอิญซะมากกว่า
แต่นี่ไม่ใช่แล้ว เพราะทุกคนที่มาจับจองที่ มีการเตรียมความพร้อมมามากทีเดียว ผิดกับตัวเองที่มักจะไม่ยอมพกขาตั้งกล้องออกมาใช้งาน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ งานนี้เลยดูเหมือนจะงานเข้าเลย เห็นคนอื่นๆ ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักมากหน้าหลายตา เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดีทีเดียว


เห็นแล้วต้องขับรถออกจากวัดพันเตา ออกไปตั้งสติสักพักหนึ่งก่อน
งานนี้ตรูจะถ่ายภาพได้เหรอ คนอื่นๆ เค้าเตรียมความพร้อมมาเป็นดิบดี
เลยคิดว่าจะไปดูหัวขบวนของการจัดงานขบวนกระทงเล็กก่อนดีกว่า อย่างน้อยน่าจะถ่ายภาพได้ง่ายๆ กว่างานนี้ แต่บังเอิญว่าวันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งมีการจัดถนนคนเดินอยู่ด้วย ถึงแม้หลายๆ จุดจะไม่มีการตั้งวางของขาย แต่ถนนเส้นหลักดูเหมือนจะมีการจัดตั้งขายของกัน และก็เป็นเส้นทางการเดินขบวนแห่ของกระทงเล็กซะด้วย.......วิ่งไปวิ่งมาวนรถซะรอบหนึ่ง ไม่ได้อะไร เลยกลับมาที่วัดพันเตาอีกที แล้วก็ได้แต่คิดว่า 7D คงน่าจะเอาอยู่ เพราะจากที่มีน้าช่างภาพคนหนึ่งเคยบอกไว้ว่า มี 7D อยู่กับตัวจะไปกลัวอะไรกับ noise บทอยากจะใช้ถ่ายภาพยามคับขัน ก็ดัน ISO ไปสูงๆ จะกลัวไปทำไม เพราะยังไงก็จะได้ภาพกลับมาอยู่ดี.....คิดได้แบบนี้เลยเดินกลับมาถ่ายภาพภายในวัดพันเตา กันอีกรอบ


กลับมารอบนี้ยังทันในช่วงที่เณรกำลังเริ่มจุดผางประทีป




ช่วงที่เณร และแขกผู้มีเกียรติของงาน กำลังช่วยกันจุดผางประทีปถวายเป็นพุทธบูชาอยู่ พระท่านหนึ่งหันมาบอกว่าให้เข้าไปช่วยกันจุดผางประทีปถวายพุทธบูชากันด้วย เลยได้รีบเข้าไปจุดผางประทีปกับเค้าด้วยเหมือนกัน


พอได้จุดผางประทีปถวายเป็นพุทธบูชาแล้ว และมีโอกาสได้เดินเข้ามาด้านในแล้ว เลยรีบส่งเทียนต่อให้กับแหม่มที่เดินตามมา ส่วนตัวเองเลยรีบถ่ายภาพจากมุมด้านในนี้มาด้วย









และก็มาขออภัยไว้ตรงนี้ หากว่าช่วงที่ตัวเองเข้าไปจุดผางประทีป และอยู่ด้านในถ่ายภาพออกมา อาจจะทำให้กลายเป็นจุดที่ไม่น่าสนใจในช่วงการถ่ายภาพขณะนั้นของช่างภาพคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านนอก ไว้ด้วยนะครับ




มาอยู่ถ่ายภาพด้านนอกแล้ว
(ที่จริงตอนที่อยู่ด้านใน ก็ไม่ได้เดินสวนออกมา ได้แต่เดินตามเณรที่เดินออกไปทางด้านหลัง)



















ภายในวัดยังมีการปล่อยโคมถวายเป็นพุทธบูชาอีกด้วย
ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่างก็ช่วยกันปล่อยโคมถวายเป็นพุทธบูชากันพร้อมหน้าทีเดียว




หนุ่มน้อยชาวต่างชาติคนนี้ก็มาร่วมปล่อยโคมที่สุดแสนประทับใจในค่ำคืนวันนั้นด้วย


จบไว้กับภาพนี้ครับ

และขอขอบคุณผู้ใจดีที่ส่งข่าวแจ้ง Unseen ที่วัดพันเตาด้วยครับ และได้มาร่วมกันจุดผางประทีปถวายเป็นพุทธบูชาในค่ำคืนที่อิ่มบุึญ อิ่มใจกัน กับเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ด้วยครับ

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายใน blog ด้วยนะครับ




****
คุยกันท้าย blog
ภาพ set นี้พอถ่ายภาพด้วยมือ เลยใช้ ISO สูงมากๆ และใช้ในหลายๆ ค่าดังนี้
ถ่ายภาพด้วย mode M
ISO 3200
Speed 1/25
F 4.5

ISO 6400
Speed 1/25
F 7.1

ISO 12800
Speed 1/40
F 6.3

ISO 12800
Speed 1/40
F 13


ISO 12800
Speed 1/60
F 11

เรียกว่าลองใช้หลายๆ ค่าการปรับตั้งเลย
บางช่วงลงไปใช้ speed ต่ำ ที่คิดว่าพอถือกล้องไม่ให้สั่นไหว เพราะอยากได้ f สูง หน้ากล้องเปิดแคบๆ เพื่อจะได้ความคมชัด

และบางครั้งก็มาเลือกใช้ใน speed ที่พอถือกล้องได้สบายๆ หน่อย แต่ f ก็ลดลงมา

ที่จริงดูเหมือน ISO ยังจะเหลืออีก 1 stop ขึ้นไปอีกที 25600 แต่ก็ไม่ได้ลอง
เพราะแค่ 12800 ก็พอช่วยให้ถ่ายภาพ set นี้มาได้แล้ว

*** ข่าวประชาสัมพันธ์ เดือนธันวาคม 2553
มีอีก 1 งาน น่าสนใจเช่นกันครับ
องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะจัดงานสวนพฤกษศาสตร์แฟร์ ครั้งที่่ 1
โดยภายในงานมีกิจกรรมทางด้านพฤกษศาสตร์ และร่วมชื่นชมพรรณไม้นานาพันธุ์ภายในสวนฯ
ขอเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา ประชาชนผู้สนใจร่วมงานในระหว่างวันที่ 4 - 12 ธันวาคม 2553
ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-5384-1234 ส่วนเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์

4 - 12 ธ.ค. 53 ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม

งานนี้ไปถ่ายภาพดอกไม้ สวยๆ พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดกันได้ฟรี นะครับ




***
งานของเดือนธันวาคม และต่อเนื่องไปจนถึงมกราคม 54 เพิ่งทราบมาครับ
งานเทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์

(Flora Fest’ @ Royal Park Rajapruek)



อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ได้จัดงานชมสวนราชพฤกษ์มาแล้วในปี 2552 และจะจัดเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี โดยอุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงสวนต่างๆ ให้สวยงามอยู่เสมอและพร้อมที่จะจัด “งานเทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Flora Fest’ @ Royal Park Rajapruek) ขึ้นอีกครั้งในระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2553 – 31 มกราคม 2554 รวม 62 วัน ซึ่งในครั้งนี้อุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้เตรียมการจัดและตกแต่งสวนให้สวยงามด้วยดอกไม้เมืองหนาวและพรรณไม้นานาชนิดจากมูลนิธิโครงการหลวงที่เน้นความสวยงามแปลกตา เพื่อดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้เข้ามาเที่ยวชมงานเพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย

การจัดงานครั้งนี้จะมีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่และตระการตาในวันที่ 1 ธันวาคม 2553 เวลา 17.30 น. โดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ณ บริเวณลานราชพฤกษ์ ซึ่งจะประกอบด้วย พิธีเปิดที่ตระการตา ชมต่างแสดงต่างๆ อาทิ การแสดงSymphony Orchestraบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ 9เพลงจากนักร้องรับเชิญกิตติมศักดิ์ การแสดงชุดชมอุทยานหลวงราชพฤกษ์จากออย ธนา, ลิเดีย คู่พระนางจากละครเรื่องระบำดวงดาว และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน ตุ้ย AF3

ภายในงานมีการจัดกิจกรรมการแสดงการละเล่นพื้นบ้านและการแสดงดนตรีในสวน (Music in the Garden) จากศิลปินที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยมาแสดงฟรีคอนเสิร์ต ทุกวันเสาร์และวันหยุดสำคัญ อาทิ นันทิดา แก้วบัวสาย/แอม เสาวลักษณ์/ETC./Best Sellor/Now and Then/เบน ชลาทิศ/แสตมป์/ลุลา/แคลอรี่ บลาบลา/โก้ Sax man/ป้อม ออร์โต้บาห์น/มิ้นท์ มาลีวัลย์/LADY BZ /The wind/ Caption Loma เป็นต้น

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ได้มีการจัดการส่งเสริมการเรียนรู้หลักสูตรต่างๆ เช่น ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พืชสวนและความหลากหลายทางชีวภาพ การตกแต่งสวนและภูมิทัศน์ และพืชสวนสมุนไพร รวมทั้งเป็นแหล่งความรู้ในการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพืชสวนรวมทั้งในด้านพรรณไม้และ ความหลากหลายทางชีวภาพ

ขอเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่าน ร่วมสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการเกษตรที่สำคัญของประเทศไทย ใน “งานเทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Flora Fest’ @ Royal Park Rajapruek) ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2553 – 6 กุมภาพันธ์ 2554 พร้อมร่วมชมพิธีเปิดงานแบบสวยงามและอลังการ ในวันที่ 1 ธันวาคม 2553 ณ ลานราชพฤกษ์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 053-114110 สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดงานได้ที่

//www.royalparkrajapruek.com


*** และอีก 1 ไฮไลท์ของคนชอบชม และถ่ายภาพพลุ

จัดประกวดสุดยอดพลุระดับโลกที่เชียงใหม่รับปี 2554 (31 ธ.ค. 53)



ชาวเชียงใหม่โชคดี กระทรวงกลาโหมเลือกเป็นสถานที่จัดแสดงพลุใหญ่ที่สุดในโลก เฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา พร้อมกับต้อนรับศกใหม่ จัดแสดง และประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ มีพลุลูกมหึมาเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 12 นิ้ว พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึง 600 เมตร แสดงเป็นไฮไลท์

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 53 ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมงานจัดการแสดง และประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ “ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน” ครั้งที่ 3 โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนเข้าร่วมประชุมและให้ความคิดเห็น เพื่อให้งานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยิ่งใหญ่ ซึ่งรายละเอียดของงานดังกล่าว พล.อ.มล.ประสบชัย เกษมสันต์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า กระทรวงกลาโหม ได้จัดการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติมาแล้ว 2 ครั้ง ๆ แรกที่เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ครั้งที่ 2 ที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีแนวคิดจัดครั้งที่ 3 ขึ้นในวันที่ 31 ธ.ค.53 ถึงวันที่ 1 ม.ค.54 ต้อนรับศกใหม่ ณ บริเวณสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่จัดงาน

การจัดครั้งนี้ เพื่อเฉลิมฉลอง และเทิดพระบารมี เป็นการแสดงความจงรักภักดีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ถือเป็นงานแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกโดยใช้งบประมาณพอสมควร นับว่าเป็นความโชคดีของเชียงใหม่ที่กระทรวงกลาโหมเลือกเป็นสถานที่จัดงาน พลุที่จะนำมาแสดง มีตั้งแต่ขนาด 8-12 นิ้วจุดได้สูงกว่าการแสดงครั้งที่ผ่าน ๆ มาจากทั่วโลก และจะจุดให้ยาวนานที่สุดในโลกจนนับไม่ถ้วนว่ามีกี่ลูก บางลูกจะมีความสูงถึง 600 เมตร โดยแสดงเป็นรูปหัวใจหลาย ๆ ดวงเต็มท้องฟ้า และบางรูปเป็นหน้าคนยิ้ม โดยจะหยุดการแสดงเป็นห้วง ๆ เพื่อให้มีการแสดงคอนเสิร์ตสลับให้ชมจากศิลปิน วี.อาร์.วัน ทั้งนี้กิจกรรมมีขึ้นในห้วงที่จังหวัดเชียงใหม่จัดงานฤดูหนาวและกาชาดประจำปี ประชาชนที่มาเที่ยวชมในงานฤดูหนาวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

สำหรับ ภายในสนามฯ คณะกรรมการจะจัดที่นั่งบนอัฒจรรย์ด้านไม่มีหลังคาให้รับชม ส่วนด้านหลังอัฒจรรย์ที่เป็นลานจะจัดเก้าอี้ 2,000 ตัวให้ได้นั่งชมพลุ และมีจอโปรเจคเตอร์ถ่ายทอดการแสดงภายในสนามฟุตบอล โดยเปิดให้ชมฟรีตลอดงาน คาดว่าจะสามารถจุคนดูได้ประมาณ 80,000 ถึง 100,000 คน
สำหรับตำแหน่งวางพลุ ตั้งไว้หลายจุดดังนี้
- ภายในสนามฟุตบอล
- บนอัฒจรรย์มีหลังคา
- ด้านหลังอัฒจรรย์ทิศตะวันตก
และบนสันเขื่อนอีกหนึ่งจุด

ด้านทิศตะวันออกทางเข้างาน มีเต็นท์ศูนย์อาหาร และโอทอปในเชียงใหม่ร่วมแสดง และจำหน่ายด้วย นอกจากประเทศไทยจัดแสดงพลุครั้งนี้แล้ว ยังมีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดนมาร์ค ออสเตรีเลีย และสหรัฐอเมริกา ก็จัดส่งสุดยอดพลุเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ด้วย.

เลือกภาพพลุ จากวันปีใหม่ ปี 2008 ที่เชียงใหม่
และนี่ก็คงจะเป็นการถ่ายภาพพลุในปีแรกๆ ที่หัดถ่ายภาพ
นำมาให้ชมรวมๆ กัน 1 ภาพด้วยครับ

งานนี้เชื่อว่า คงมีคนรักการถ่ายภาพพลุ มางานนี้กันอย่างคับคั่งทีเดียว
สงสัยต้องไปตากแดด แอบจองที่กันล่วงหน้าทีเดียวละครับ
และก็คงได้หยิบเลนส์ไวด์มาใช้ถ่ายภาพงานนี้อีกครั้งล่ะครับ
....นานๆ ใช้ที เกือบขายไปซะแล้ว 5555

*****************
Create Date :26 พฤศจิกายน 2553 Last Update :27 พฤศจิกายน 2553 8:40:12 น. Counter : Pageviews. Comments :12