สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 12 แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงมีพระนามเดิมว่า พระอาทิตยวงศ์ แต่มีพระนามที่เป็นที่รู้จักอีกพระนามหนึ่งว่า สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร ทรงเป็นพระโอรสของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงครองราชย์ได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น พระราชประวัติ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 มีพระนามเดิมว่า สมเด็จพระอาทิตยวงศ์ ทรงเป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 โดยเชื่อกันว่าประสูติแต่พระอัครมเหสี ที่มีเชื้อสายราชวงศ์พระร่วง แต่ไม่ปรากฏว่าเสด็จพระราชสมภพเมื่อปีอะไร พระองค์ได้รับการสถาปนาที่พระมหาอุปราชเมื่อปี พ.ศ. 2069 และได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ไปครองเมืองพิษณุโลก พระองค์ทรงดำรงพระอิสริยยศที่พระมหาอุปราชได้ 3 ปี สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เสด็จสวรรคต พระองค์จึงเสด็จจากเมืองพิษณุโลก มาครองราชสมบัติที่กรุงศรีอยุธยา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรทรงมีพระโอรส 1 พระองค์ คือ พระรัษฎาธิราช ที่เชื่อกันว่าประสูติจากพระมเหสี ที่มีเชื้อสายเวียงไชยนารายณ์ ต่อมา ในปี พ.ศ. 2076 สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรทรงพระประชวรด้วยไข้ทรพิษ ที่ระบาดในกรุงศรีอยุธยาแล้วเสด็จสวรรคต ทรงอยู่ในราชสมบัติเพียง 4 ปีเท่านั้น พระรัษฎาธิราชพระราชโอรสเสด็จขึ้นครองราชสมบัติด้วยพระชนมายุเพียง 5 พรรษา พระนามต่างๆ พระอาทิตยวงศ์ ที่มาของชื่อสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงวินิจฉัยว่า คงจะทรงเป็นเป็นเชื้อสายราชวงศ์พระร่วง "ศรีอินทราทิตย์" (หมายถึง พระอาทิตย์) จึงเข้าใจได้ว่าพระมารดาก็เห็นจะเป็นเชื้อสายราชวงศ์พระร่วงดุจเดียวกัน สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร ซึ่งมีคำว่า "หน่อพุทธางกูร" มีความหมายว่า "หน่อเนื้อเชื้อไขพระพุทธเจ้า" หรือ "พระโพธิสัตว์" คาดว่ามาจากกฎมณเฑียรบาล ซึ่งกำหนดราชกุมารศักดิ์ไว้ว่า พระราชกุมารอันเกิดแต่พระอัครมเหสีคือ สมเด็จหน่อพระพุทธเจ้า ส่วนพระนาม "พระบรมราชา" บัญญัติเมื่อเสด็จไปครองเมืองพิษณุโลก จึงเรียกว่าสมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร เพื่อไม่ให้ซ้ำกับสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 วาตะถ่อง เป็นพระนามในพงศาวดารพม่า "วาตะถ่อง" หมายความว่า "สำลีพันนึง" จึงเป็นที่มาของเส้นพระเกศาอันขาวโพลนในภาพยนตร์เรื่องสุริโยไท พระราชกรณีกิจ การสถาปนาพระมหาอุปราช สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรทรงให้พระไชยราชา พระอนุชาต่างพระมารดาเสด็จไปครองเมืองพิษณุโลก ในฐานะพระมหาอุปราชเพื่อคอยดูแลหัวเมืองฝ่ายเหนือ การพระศาสนา พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์องค์ที่สามในวัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดในพระบรมมหาราชวัง เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ผู้เป็นพระราชบิดา ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ภุมวารสิริวิบูลย์ รัศมิสูรย์ส่องจำรูญอะคร้าวค่ะ |
บทความทั้งหมด
|