สมเด็จพระมหินทราธิราช สมเด็จพระมหินทราธิราช พระนามเดิม พระมหินทร์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 16 แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สอง ในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กับสมเด็จพระสุริโยทัย เสด็จพระราชสมภพ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2082 มีพระเชษฐาคือ พระราเมศวร ผู้เป็นพระมหาอุปราช มีพระเชษฐภคินีคือ พระบรมดิลก และพระขนิษฐาสองพระองค์คือ พระสวัสดิราช (พระวิสุทธิกษัตรีย์) กับพระเทพกษัตรี พระราชประวัติและราชการสงคราม หลังสงครามกับพม่าเมืองหงสาวดีที่เรียกว่าสงครามช้างเผือก ยุติลงในปี พ.ศ. 2107 พระมหินทร์ซึ่งเป็นพระมหาอุปราช ต่อจากพระราเมศวร ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ซึ่งเสด็จออกผนวช สมเด็จพระมหินทราธิราชทรงคลางแคลงพระทัย ในความจงรักภักดีของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชแห่งเมืองพิษณุโลก ที่ไปยอมอ่อนน้อมต่อหงสาวดี จึงสมคบกับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งล้านช้าง ร่วมกันตีพิษณุโลกแต่ไม่สำเร็จ ต่อมาในปี พ.ศ. 2111 สมเด็จพระมหินทราธิราชรั้งราชการไม่ไหว ได้ทูลขอให้สมเด็จพระมหาจักรพรรดิลาบวช แล้วขึ้นครองราชสมบัติอีกครั้งเพื่อเป็นจอมทัพเตรียมรับศึกหงสาวดี พระเจ้าบุเรงนอง ได้ยกกองทัพเจ็ดกองทัพ มาทำสงครามกับกรุงศรีอยุธยาโดยมีทัพพระมหาธรรมราชาร่วมด้วย กองทัพหงสาวดียกเข้ามาทางด่านแม่ละเมา แล้วเข้าตีหัวเมืองทางเหนือ เพื่อตัดกำลังไม่ให้ส่งกองทัพเข้ามาช่วยกรุงศรีอยุธยา จากนั้นจึงได้เข้าปิดล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ ในระหว่างการศึก สมเด็จพระมหาจักรพรรดิประชวรและเสด็จสวรรคตระหว่างถูกปิดล้อมกรุงอยู่ สมเด็จพระมหินทราธิราช จึงได้ขึ้นครองราชย์ต่อมา ทัพหงสาวดีล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่ได้ห้าเดือน ยังไม่สามารถตีหักเข้าไปได้ พระเจ้าบุเรงนองจึงออกอุบายเกลี้ยกล่อม ให้สมเด็จพระมหินทราธิราช ยอมเป็นไมตรี โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือขอตัวพระยาราม ผู้มีความสามารถรับผิดชอบการรักษาพระนครอย่างเข้มแข็ง สมเด็จพระมหินทราธิราช ทรงยินยอมมอบตัวพระยารามแก่พม่า แต่ทางพระเจ้าบุเรงนองกลับตระบัดสัตย์ ไม่ทำตามข้อตกลง และเร่งยกกำลังเข้าตีกรุงศรีอยุธยาหนักขึ้น ขณะนั้นใกล้ฤดูน้ำหลาก แต่พม่าก็ยังไม่สามารถตีกรุงศรีอยุธยาได้ จึงได้เกลี้ยกล่อมให้พระยาจักรี ซึ่งทางหงสาวดีขอตัวไปพร้อมกับ พระราเมศวรในสงครามกับพม่าครั้งก่อน เข้าเป็นไส้ศึกในกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหินทราธิราช ทรงเห็นว่าพระยาจักรีเคยเป็นแม่ทัพ ที่มีความสามารถในการศึกกับพม่าครั้งก่อน จึงทรงโปรดให้เป็นผู้จัดการป้องกันพระนคร ทัพพม่าจึงตีหักเข้าพระนครได้ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2112 หลังจากล้อมพระนครไว้ถึงเก้าเดือน พม่าเข้ายึดทรัพย์สิน และกวาดต้อนผู้คนกลับไปพม่าเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสมเด็จพระมหินทราธิราช พระบรมวงศานุวงศ์ และขุนนางน้อยใหญ่ ก็ได้นำไปกรุงหงสาวดีด้วย และพระเจ้าบุเรงนองได้ทรงตั้งให้สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชปกครองกรุงศรีอยุธยา ในฐานะประเทศราชของหงสาวดีต่อไป สมเด็จพระมหินทราธิราช ทรงพระประชวรและเสด็จสวรรคตระหว่างทาง เมื่อปี พ.ศ. 2112 พระชนมายุได้สามสิบพรรษา ครองราชย์ได้ 1 ปี (บางพงศาวดารกล่าวว่า ทรงกระทำการขุ่นเคืองแก่พระเจ้าบุเรงนอง จึงถูกสำเร็จโทษด้วยการถ่วงน้ำที่เมืองสระถุง) ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี สิริสวัสดิ์ภุมวาร สิริมานรมเยศค่ะ |
บทความทั้งหมด
|