สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา




สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 หรือ เจ้าสามพระยา เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 3 ในสมเด็จพระอินทราชา (เจ้านครอินทร์) และเป็นพระราชบิดาของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อปี พ.ศ. 1967

ภายหลังจากเหตุการณ์การแย่งราชสมบัติของพระเชษฐา ทั้งสองจนสิ้นพระชนม์ไปทั้ง 2 พระองค์ โดยพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 7 แห่งกรุงศรีอยุธยา

พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถ ในการปกครอง และการรบ ดังจะเห็นได้จากกรณีการตีล้านนาและเมืองกัมพูชา นับเป็นการขยายพระราชอาณาเขตของ อาณาจักรอยุธยาตอนต้นอย่างเป็นรูปธรรม


พระราชประวัติ

สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 มีพระนามเดิมว่า เจ้าสามพระยา เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 3 ในสมเด็จพระอินทราชา ทรงมีพระเชษฐา 2 พระองค์ ได้แก่ เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยา

พระองค์ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ไปปกครองเมืองชัยนาท (พิษณุโลก) ซึ่งเป็นหัวเมืองสำคัญทางเหนือ และทรงอภิเษกสมรสกับพระราชธิดาของพระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไท) แห่งกรุงสุโขทัย ส่วนเจ้าอ้ายพระยาได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ปกครองเมืองสุพรรณบุรี และเจ้ายี่พระยาได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ปกครองเมือง สรรค์ (แพรกศรีราชา)

เมื่อสมเด็จพระนครินทราธิราชเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 1967 เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยา ต่างยกทัพเข้ากรุงศรีอยุธยาเพื่อชิงราชสมบัติ ทั้งสองพระองค์ได้กระทำยุทธหัตถีกัน ที่เชิงสะพานป่าถ่านจนสิ้นพระชนม์ทั้งสองพระองค์

เป็นเหตุให้เจ้าสามพระยาได้ครองราชย์สมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระบรมราชาธิราช (ที่ 2) โดยพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้ก่อพระเจดีย์ขึ้น 2 องค์ ณ บริเวณที่เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยาชนช้างกันจนสิ้นพระชนม์ทั้ง 2 พระองค์

พระองค์ทรงมีพระราชโอรส 2 พระองค์ ได้แก่

พระอินทรราชา หรือ พระนครอินทร์ เชื่อกันว่าประสูติจากมเหสีเดิมในสมัยที่เจ้าสามพระยาทรงครองเมืองชัยนาท ต่อมา พระอินทราชาได้รับการโปรดเกล้าให้ไปครองเมืองพระนครหลวง จนกระทั่งสิ้นพระชนม์

พระราเมศวร ประสูติแต่พระมารดาที่เป็นพระราชธิดาของพระมหาธรรมราชาที่ 3 แห่งกรุงสุโขทัย

สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 เสด็จสวรรคต เมื่อ พ.ศ. 1991 พระองค์ครองราชสมบัติรวม 24 ปี โดยสมเด็จพระราเมศวรพระราชโอรส ได้สืบราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ แห่งกรุงศรีอยุธยาต่อจากสมเด็จพระบรมราชาธิราช มีพระนามว่า สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ


พระราชกรณียกิจ

ด้านราชการสงคราม
การศึกกับเขมร

เมื่อ พ.ศ. 1974 พระเจ้าธรรมาโศก กษัตริย์อาณาจักรเขมร ได้ยกกำลังเข้ามากวาดต้อนผู้ตามหัวเมือง ชายแดนของกรุงศรีอยุธยาไป ทำให้สมเด็จพระบรมราชาธิราช ได้เสด็จยกทัพไปตีเมืองพระนครหลวง (นครธม) เมื่อ พ.ศ. 1975

พระองค์ตั้งทัพล้อมเมืองพระนครหลวงอยู่ 7 เดือน ก็สามารถตีเอาเมืองพระนครหลวงได้ ครั้งนั้นพระองค์ทรงให้พระอินทราชา พระโอรสปกครองเมืองนครหลวง ในฐานะเมืองประเทศราชขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา

แล้วให้นำ พระยาแก้ว พระยาไทย และรูปภาพ (เทวรูป สมบัติศิลปะของขอม) ทั้งปวงพร้อมทั้งกวาดต้อนผู้คนและสิ่งของสำคัญๆ มายังกรุงศรีอยุธยา ทำให้อิทธิพลของเขมรในด้านการปกครอง ประเพณี ตลอดจนงานศิลปะมาปรากฏชัดในอยุธยา

พระอินทราชานั้น ครองราชย์เมืองพระนครไม่นานก็สิ้นพระชนม์ เนื่องจากทนภาวะอากาศไม่ได้ กรุงศรีอยุธยาก็ไม่ได้แต่งตั้งผู้ใดขึ้นไปดูแลแทน

จึงทำให้ชาวเขมรนั้นไม่อาจกลับมายังที่เมืองพระนครได้ ปล่อยให้เมืองร้างลง ภายหลังเมื่อเขมรมีอำนาจคืนได้ จึงมีการย้ายราชธานีไปตั้งที่เมืองพนมเปญ ทำให้เมืองพระนครล่มสลายในที่สุด


การศึกกับล้านนา

ในปี พ.ศ. 1985 พระเจ้าติโลกราชแห่งเชียงใหม่ ได้รบกับท้าวช้อยผู้เป็นพระอนุชา ท้าวช้อยแพ้หนีไปอยู่เมืองเทิง (อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย) เจ้าเมืองเทิงได้มาขอสวามิภักดิ์กับกรุงศรีอยุธยา และขอให้ส่งกองทัพไปช่วยรบ

สมเด็จพระบรมราชาธิราช จึงทรงยกกองทัพไปตีเมืองเชียงใหม่ของอาณาจักรล้านนา แต่ก็ตีไม่สำเร็จ ประกอบกับทรงพระประชวร จึงทรงยกกองทัพกลับกรุงศรีอยุธยา

พระองค์ทรงยกกองทัพไปตีเชียงใหม่อีกครั้ง เมื่อ พ.ศ. 1987 ทรงตั้งทัพหลวงที่ตำบลปะทายเขษม ครั้งนี้ได้หัวเมืองชายแดนของเชียงใหม่กับเชลยอิก 120,000 คน จึงยกทัพหลวงกลับพระนคร


ด้านการพระศาสนา

มื่อสมเด็จพระบรมราชาธิราชเสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงโปรดให้สถาปนาเจดีย์ใหญ่ สองพระองค์ ไว้ตรงบริเวณที่เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยา พระเชษฐาชนช้างสู้รบกัน ถึงสิ้นพระชนม์ทั้งคู่ ณ ตำบลป่าถ่าน พร้อมกับได้โปรดให้สถาปนาวัดราชบูรณะ ประกอบด้วยพระธาตุ และพระวิหาร

โดยสร้างไว้ ณ บริเวณที่ถวายพระเพลิงศพ เจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยา และสร้างพระปรางค์ใหญ่ขึ้นเพื่อบำเพ็ญพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนครินทราชาธิราช พระราชบิดาในวาระนั้นด้วย

พ.ศ. 1981 สมเด็จพระบรมราชาธิราชได้ทรงสร้างวัดมเหยงคณ์


ด้านการปกครอง

ทรงตรากฎหมายลักษณะอาญาศึก (อยู่ในลักษณะกบฏศึก) ขึ้น


การรวมสุโขทัยกับอยุธยา

พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา เป็นผู้นำที่เข้มแข็งในการสงคราม ได้พยายามที่จะขยายอาณาเขต ของเมืองเชียงใหม่ลงมาทางใต้ สมเด็จพระบรมราชาธิราชทรงเห็นว่า

หากปล่อยให้เชื้อสายราชวงศ์พระร่วง ปกครองสุโขทัยในฐานะเมืองประเทศราชอยู่เช่นนั้นแล้ว จะทำให้ผู้คนในหัวเมืองพากันไปเข้ากับล้านนา หรือไม่ก็ถูกล้านนาลงมารุกราน ด้วยสุโขทัยนั้นอ่อนแอลงไม่เข้มแข็งพอ ที่จะดูแลหัวเมืองต่าง ๆ นั้นได้

เพื่อให้หัวเมืองฝ่ายเหนือหรืออาณาจักรสุโขทัย ในการดูแลของเมืองพิษณุโลก อยู่ในอำนาจของกรุงศรีอยุธยาโดยสมบูรณ์ ดังนั้นใน พ.ศ. 1981 เมื่อพระมหาธรรมราชาที่ 4 กษัตริย์แห่งสุโขทัยซึ่งครองเมืองพิษณุโลกอยู่ได้สวรรคตลง

สมเด็จพระบรมราชาธิราช จึงทรงให้รวบรวมหัวเมืองเหนือ ที่เคยแยกการปกครองเป็นสองเขตนั้น รวมเป็นเขตเดียวกัน แล้วแต่งตั้งให้พระโอรสพระราเมศวร ซึ่งมีพระมารดาเป็นพระราชธิดาของพระมหาธรรมราชาที่ 3 เป็นพระมหาอุปราช ขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลกเพื่อกำกับดูแลหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมด

โดยให้เมืองพิษณุโลกเป็นเมืองมหาอุปราช จึงเป็นการทำให้ราชวงศ์พระร่วงหมดอำนาจในปกครองสุโขทัย อาณาจักรสุโขทัยจึงค่อยๆถูกรวมกับกรุงศรีอยุธยา


เหตุการณ์สำคัญ

พ.ศ. 1981 เมื่อพระราเมศวรซึ่งเป็นพระราชโอรสได้เสด็จไปครองเมืองพิษณุโลก ทรงเห็นน้ำพระเนตรของพระพุทธชินราช ตกออกมาเป็นโลหิต

พ.ศ. 1983 เกิดเพลิงไหม้พระราชมนเฑียร

พ.ศ. 1984 เกิดเพลิงไหม้พระที่นั่งตรีมุข ในพระราชวังกรุงศรีอยุธยา


ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


สิริสวัสดิ์ภุมวาร สิริมานภิรมย์ปรีดิ์ค่ะ



Create Date : 20 กันยายน 2553
Last Update : 21 กันยายน 2553 17:09:13 น.
Counter : 4391 Pageviews.

0 comments
การ์ตูนจากกล่องอาหาร สมาชิกหมายเลข 4313444
(14 เม.ย. 2567 04:14:16 น.)
สุริยุปราคา อเมริกา /นิวยอร์ก อินเดียน่า เทกซัส newyorknurse
(9 เม.ย. 2567 04:13:31 น.)
วิธีถามราคาสินค้าเป็นภาษาอังกฤษ khatha0808
(2 เม.ย. 2567 00:05:26 น.)
เกี่ยวกับข้อมูลภาษี Google Adsence กว่าจะอนุมัติ Ep.1 SN_monchan
(16 มี.ค. 2567 07:48:15 น.)

Vinitsiri.BlogGang.com

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]

บทความทั้งหมด