ชวนไปเที่ยวจังหวัดเชียงราย ตอนที่ 2
 ชวนไปเที่ยวจังหวัดเชียงราย  ตอนที่ 2
       
  ชวนไปเที่ยวจังหวัดเชียงราย บล็อกนี้ ต่อจากตอนที่ 1 ค่ะ  เช้าวันนี้
พวกเราตื่นแต่เช้า เพื่อมาชมพระอาทิตย์ขึ้น
แต่น่าเสียดาย หลังคาบ้านบังแสงพระอาทิตย์  หมอกก็ไม่มี มีแต่เมฆ
เท่านั้น ค่ะ  



แสงอาทิตย์ช่วงเช้า ที่ดอย ผาฮี้  ค่ะ 

   เราอาบน้ำแต่งตัวเสร็จน่าจะประมาณ 7.00  น.  เราก็ไปที่ร้านอาหาร 
เพราะเขามีอาหารเช้าให้เราด้วย  มีกาแฟ
ให้เราชงเองด้วย  ฉันไม่ดื่มกาแฟ ความสนุกในการชงจึงมีเพียง แดง
ศิษย์เขย และมอมสนุกสนานในการชงและถ่ายรูป
ในตอนชงด้วย ฉันก็มีติดรูปชงการแฟกับเขาด้วยนะ  อาหารเช้านี้ เป็น
ข้าวต้มหมู มีไข่ด้วย  ตามภาพ ค่ะ กินข้าวเช้าแล้ว
เดินถ่ายรูปบ้างและรอรถที่เราให้มารับเพื่อไปเที่ยวสะพานไม้ ค่ะ 



อาหารมื้อเช้า ที่ดอยผาฮี้  ค่ะ 













กินเสร็จก็ยังมีเวลาถ่ายรููปในขณะรอรถไปเที่ยวสะพานไม้  ค่ะ 



 สะพานไม้ที่เราไป เป็นสะพานไม้ไผ่  ระหว่างทางมีร่มหลากสีสันปัก
ตามสะพาน  มีจุดให้ถ่ายรูป มีตัวหนังสือสื่อ
ให้เห็นว่าเป็นสะพานรัก  เป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวพอสมควร มีบ้านของ
ชาวบ้านตั้งอยู่รอบ ๆ ด้วย น่าจะเป็นรีสอร์ทที่พักด้วย ค่ะ
พวกเราเลือกมุมต่าง ๆ ที่เห็นว่าสวยงาม  ถ่ายรูปกัน น่าจะประมาณ
ชั่วโมงกว่า ๆ  มาชมภาพ ค่ะ 
  












ต้นนี้ คือ ต้นกาแฟ  ค่ะ 











รถรอรับกลับซึ่งไม่ไกลจากที่พักนัก  ค่ารถน่าจะคนละ 40 บาท ไป
กลับ ระหว่างทาง มีนักท่องเที่ยวขออาศัยรถเรากลับ
ที่พักด้วย  ส่วนพวกเราลงที่ร้าน พิซ่า ที่เล่าลือกันว่ามีคนกินมากหลาย
คนแล้ว  ร้านนี้เป็นพิซ่าแฮนด์เมค ค่ะ ชื่อว่าผาฮี้ วัลเล่ย์
 แดงกับมอมเป็นคนสั่ง  มีหลายอย่าง  แต่พิซ่ามาช้า  เราเลยขอให้เขา
ใส่ถุงให้เราเอากลับที่พัก  เขียดจะได้กินด้วย เพราะ
เขียดกลับที่พักก่อน  เพื่อไปทำธุระส่วนตัว ค่ะ  มาชมรูป ค่ะ 



อาหารที่เราสั่งมากินกัน ค่ะ 





มาถึงที่พัก เราก็เตรียมจัดกระเป๋า  เพื่อรอให้เตี้ยมารับไปเที่ยวดอยตุง 
เพิ่มค่าจ้างอีก 500 บาท  ค่ะ จัดเสร็จกินพิซ่า
ให้หมด มี 4 ชิ้น  คนละหนึ่งชิ้น รับผิดชอบกันไป อิอิ เตี้ยมารับพวกเรา
ตามเวลานัดหมาย น่าจะประมาณ 10.30 น.
  เขาเป็นคนตรงเวลาดี  ช่างพูด ช่างคุย ถ่อมตนดี  ราคาค่ารถก็ถูกกว่า
เจ้าอื่น  (แดง เป็นคนติดต่อ) อาชีพรับจ้างขับรถ
เป็นอาชีพเสริม  อาชีพจริง คือ ทำไร่ส้ม  กาแฟ  ญาติพี่น้องเขาอยู่แถว
ผาฮี้  ผาหมี แทบทั้งนั้น  เขาจบ ป.ว.ช. (น่าจะจำไม่ผิด) 
นับว่าเป็นชาวเผ่าอาข่าที่ขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพมากคนหนึ่ง  อัธยาศัยดี เป็นกันเองกับลูกค้าดีมาก  ค่ะ 
 พวกเรามาถึงดอยตุง  มาถึงที่นี่  ต้องซื้อบัตรเข้าชมสวนดอกไม้ คนละ
180 บาท  แต่อายุ 60 ปี ลดเหลือ 90 บาท
  ราคานี้  รวมถึงการเข้าไปชมพระตำหนักดอยตุงด้วยแต่ห้ามถ่ายรูป
ในพระตำหนัก  ในพระตำหนักจะแบ่งเป็นห้อง ๆ
จัดไว้อย่างงดงาม  เรียบร้อย  แสดงเรื่องราวต่าง ๆ รวมทั้งผลงาน  พระ
ราชประวัติของสมเด็จย่า  น่าเสียดาย
ที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป  ตอนเข้าไป  เขาจะให้หูฟังพร้อมเครื่องมือเปิด
เครื่องและมีคำบรรยายให้ความรู้ ในห้องต่าง ๆ
แต่เร็วมาก จดอะไรไม่ได้เลย ค่ะ  เวลาเราก็มีไม่มาก ส่วนใหญ่ถ่ายรูป
อยู่ในสวนดอกไม้ดอยตุง  ซึ่งสวยสดงดงามมาก  น่าจะกำลังเตรียมงานในเดือนธันวาคม ด้วย ค่ะ  ถ่ายรูปจนคุ้มกับค่าบัตรแล้ว 
ก็เดินไปยังพระตำหนัก ซึ่งไกลจากสวนดอกไม้มากพอสมควร เดิน
เหนื่อยมาก  เขียดนุ่งขาสั้น  เจ้าหน้าที่ให้เปลี่ยนเป็น
กางเกงขายาว ขากลับมาคืนเจ้าหน้าที่ มาชมภาพสวย ๆ ที่ฉันถ่ายมา





ด้านนอกของพระตำหนักดอยตุง  ค่ะ





กล้วยไม้นานาพันธุ์ สีสันสวยงามมาก ค่ะ 













 



































บริเวณด้านนอกของพระตำหนักดอยตุง  ค่ะ 





ประตูด้านนอกของตำหนัก ดอยตุง ค่ะ 



อีกมุมหนึ่งของพระตำหนัก ดอยตุง ค่ะ 



 พวกเราเดินชมห้องต่าง ๆ ในพระตำหนักดอยตุง น่าจะครึ่งชั่วโมงกว่า 
แล้วออกจากพระตำหนัก  เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ถ่ายรูป
ด้านนอกตำหนักได้  ซึ่งมีปลูกดอกไม้สวย ๆ รอบ ๆ พระตำหนัก  มี
ทหารรักษาพระตำหนักอยู่ด้วย  ด้านนอก 
เห็นตัวตำหนักและอนุญาตให้ถ่ายรูปได้  ค่ะ 
       
เดินออกจากพระตำหนัก มาด้านนอก  ฉันเดินไปขอโบว์ชัวร์จาก
เจ้าหน้าที่  พักใหญ่ ๆ รถของเตี้ยก็มารับ 
เราข้ามถนนไปซื้อ อโวโคโล่  3 โล สองร้อยมาก  มอมก็ซื้อด้วย
ลูกใหญ่ดี 3 โล ได้เพียง 7-8 ลูกเท่านั้น
แต่ตอนขึ้นเครื่องกลับบ้าน  เฮ้อ ! ลืมคิดไป ห้าห้า 
 คุณเตี้ยพาพวกเรามาที่โรงแรมอัมรินทร์ที่เราจะมาพักคืนนี้  ซึ่งใช้
สิทธิ์  "เราเที่ยวด้วยกัน"  เราจ่าย 60% รัฐจ่ายให้เรา 40% 
 มีค่าอาหารให้อีก 600 บาท ใช้สิทธิ์ของฉัน ของคนอื่นใช้หมดเกลี้ยง
แล้ว  ขณะที่ลงจากรถ  น้องภูษี ภรรยาของคนในอดีต
ของฉันโทรเข้ามือถือฉัน  เราได้คุยกันด้วยเสียงโทรศัพท์เป็นครั้งแรก 
น้องถามว่า  "พี่อยู่ไหนแล้วคะ"  ฉันบอกว่า
เพิ่งมาถึงโรงแรมเดี๋ยวนี้เอง   น้องเลยบอกว่า  "ตอนนี้งานที่บ้านยังไม่
เสร็จ แต่จะเร่งให้เสร็จ และมาหาพี่ประมาณ  6โมงเย็น "
  ฉันบอกว่า  "ได้จ้ะ เพราะอยู่โรงแรมอยู่แล้ว"  หลังจากคุยและนัดกัน
เรียบร้อยแล้ว  ฉันรู้สึกดีใจนะ  ที่เขาต้องการ
มาเจอฉัน  ที่จริง  น้องเขาแอ้ดมาเป็นเพื่อนฉันเมื่อประมาณเดือน ก.พ.
ปีที่แล้ว ฉันก็รู้ว่า  ชื่อนี้ นามสกุลนี้ เป็นใคร ชั่งใจ
อยู่สองวัน จึงรับน้องเขาเป็นเพื่อนทางเฟสบุ๊ค  เพราะจากการเขียนคุย
กันในกล่องข้อความ  น้องเขาก็เป็นคนน่ารัก
มีสัมมาคารวะ อ่อนโยนดี  (ถึงจะไม่รู้จุดประสงค์ที่เขาแอ้ดมาเป็นเพื่อน
ก็ตาม )  น้องเขาถามว่า จะให้เขาเรียกฉันว่าอะไรดี
  ฉันตอบไปว่า  เรียกฉันว่า "พี่" ได้เลย เพราะอย่างไร เขาก็เป็นน้องฉัน
หลายปีอยู่ (ฉันรู้)  เขาก็ดีใจ เล่าว่า เขาไม่มีพี่สาว
น้องสาว มีแต่พี่ชายทั้งหมด  ได้ฉันเป็นพี่สาวเขาดีใจมาก  ฉันเองก็
บอกเขาว่า  ยินดีมาก เพราะฉันมีน้องสาวคนเดียว
แต่ก็จากฉันไปเสียแล้ว  ดีใจที่ได้เขามาเป็นน้องสาวคนใหม่จากการคุย
ในกล่องข้อความ เขาก็ได้คุยให้รู้ว่า สามีของเขา
(คนในอดีตของฉัน) ได้รับพระราชทานเกี่ยวกับการที่ได้เป็นผู้พิพากษา
สมทบ (เรื่องนี้ ฉันรู้มานานแล้ว)  ฉันก็แสดง
ความยินดีกับน้องเขา แต่ไม่ได้เอ่ยถึงสามีเขาเลย  เหมือนเป็นคนไม่
เคยรู้จัก  ฉันเองก็ไม่ทราบจุดประสงค์ว่า น้องเขา
ต้องการหยั่งความรู้สึกของฉันหรือเปล่า นะ อิอิ  เรื่องของใจคน
ยากนักที่จะหยั่งรู้ได้  เราคุยกันด้วยเรื่อง จิปะถะ
คุยกันด้วยไมตรีจิตที่ดีต่อกันมาโดยตลอดเป็นเวลา 1 ปีกว่า  จนกระทั่ง
ฉันมาเที่ยวเชียงรายครั้งนี้  พอน้องรู้  เขาก็แสดงความยินดี
อยากมาพบกับฉัน  (ด้วยเหตุผลใด ก็มิอาจทราบเนาะ ) ฉันก็ดีใจที่น้อง
เขามีน้ำใจ มีความจำได้ดี  เพราะหลังจาก
ที่น้องเขารู้ว่าฉันจะพักโรงแรมนี้ นานเป็นเดือน เราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย
แต่พอมาวันนี้ (29 ) เขาก็โทรมาหาฉัน นี่ก็เป็น
ข้อพิสูจน์ว่า  เขาตั้งใจจะมาพบฉันจริง ๆ เนาะ ขอบใจน้องเขา ค่ะ
     




ห้องพักของเราในโรงแรม นี้ ค่ะ 

      เนื่องจากพวกเรามาถึงโรงแรมค่อนข้างเร็ว  มื้อเที่ยงก็ยังไม่ได้กิน 
จะรวบไปกินเอามื้อเย็น ก็หิวเกินไป  เลยสั่งอาหาร
คือ บะหมี่ ให้เดลิเวอรี่ (แพนดา)  มาส่งที่โรงแรม กินรองท้องไปก่อน
หลังจากอิ่มท้องแล้ว  ทุกคนก็นอนพักผ่อน
  เพราะเงิน 600 บาท จะใช้ได้ประมาณ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป ค่ะ  

        ประมาณ 16.30 น.  เราก็ออกจากโรงแรม โดยหาร้านที่เขารับ
"เราเที่ยวด้วยกัน"  ได้ร้านอาหาร ชื่อหลู้ลำ
เรายังมีเวลา เพราะน้องษี ส่งข้อความว่า จะมาถึงโรงแรมประมาณ
18.30 น.  รถผ่านไปที่วัดแก่นเสือเต้น  (วัดพระแก้ว)
  เป็นวัดที่สวยงามมากอีกวัดหนึ่ง  เขาว่าเป็นวัดน้องของ วัดร่องขุ่น
ลวดลาย เป็นลายไทย เหมือนกับวัดร่องขุ่น
ผิดกันแต่สี  เป็นสีเขียว  วัดร่องขุ่นเป็นสีขาว ค่ะ  เรามาทราบประวัติ
ของวัดสักเล็กน้อย ค่ะ 

ประวัติวัดร่องแก่งเสือเต้น 
     
   วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านร่องเสือเต้น ต.ริมกก อ.เมือง
จ.เชียงราย โดยตั้งอยู่แม่น้ำริมกก ฝั่งซ้าย
ด้านทิศตะวันออกชองเทศบาลนครเชียงราย ห่างจากสะพานแม่น้ำกก
300 เมตร เดินทางถนนสายแม่จัน-แม่สาย
เมื่อข้ามสะพานแม่น้ำกกแล้วถึงทางแยก เลี้ยวซ้ายประมาณ 250 เมตร
เข้าไปถนนสายแม่ยาวแล้วเลี้ยวซ้ายประมาณ
50 เมตร เข้าสู่วัดร่องเสือเต้นในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของ
วัดร้าง เมื่อ 80-100 ปีก่อน
         
สาเหตุที่บูรณะวัดร้างแห่งนี้ขึ้นมาใหม่  เนื่องจาก ชาวบ้านร่องเสือเต้น
ไม่มีที่ทำบุญในหมู่บ้าน เวลาทำบุญในวันสำคัญ
ต้องไปทำบุญที่วัดอื่น ทำให้คนในหมู่บ้านกระจัดกระจายกันไป
 จึงได้ร่วมกันบูรณะวัดร้างแห่งนี้ เพื่อเป็นศูนย์รวม
จิตใจของชาวบ้านร่องเสือเต้น และเป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
ในวันสำคัญ  จุดเด่นของวัดร่องแก่งเสือเต้น
  อยู่ที่  "วิหารวัดร่องเสือเต้น"   สร้างและออกแบบโดยศิลปินพื้นบ้าน
ชาวเชียงราย ชื่อ  พุทธา กาบแก้ว หรือที่คนรู้จัก
ในนาม “สล่านก” ลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ที่ได้
มีโอกาสร่วมสร้างวัดร่องขุ่น จนเรียกได้ว่าเป็นศิษย์
ก้นกุฏิเลยก็ว่าได้  การสร้าง "วิหารวัดร่องเสือเต้น" สร้างขึ้นเมื่อ วันที่
27 ตุลาคม 2548 โดยมีขนาดกว้าง 13 เมตร ยาว 48 เมตร
สร้างเสร็จเมื่อ วันที่ 22 มกราคม 2559 ร่วมใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จถึง
11 ปี โทนสีที่ใช้เป็นโทนสีน้ำเงินฟ้าตัดกับ
สีทองเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับวิหาร โดยสีน้ำเงินฟ้าของวิหาร
แสดงถึงธรรมะขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้า
ที่แผ่ขยายไปทั่วโลก ซึ่งเป็นหลักคำสอนที่อยู่บนพื้นฐานเหตุและผล
เปรียบเสมือนท้องฟ้าที่สดใส เป็นศิลปะแนวพุทธศิลป์
ร่วมสมัยที่แฝงด้วยธรรมของพุทธองค์ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน
"พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ" สีขาวมุก
ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร บริเวณเศียรของพระพุทธรูป
องค์นี้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
 ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
และได้รับพระราชทานนามว่า "รัชมงคลบดีตรีโลกนาถ"
มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าทรงเป็นมงคลเจ้าในความเป็นราชา เป็น
ที่พึ่งในสามโลก”

     วัดร่องแก่งเสื้อเต้น  เป็นศิลปแนวพุทธศิลป์ร่วมสมัยที่แฝงด้วยธรรม
ของพุทธองค์ มีทั้งความสวยงามและแรงศรัทธา
ทำให้ปัจจุบัน “วัดร่องเสือเต้น”เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยว
และพุทธศาสนิกชนเดินทางมาเยี่ยมชม
และสักการะบูชากันอย่างเนืองแน่นตลอด โดยเฉพาะฤดูหนาวแบบนี้
ฟ้าสีครามเข้มกับโบสถ์สีน้ำเงิน ยิ่งทำให้วัดแห่งนี้
มีความ เข้มขลังด้วยพลังศรัทธาสีน้ำเงด้านหน้าพระวิหารนั้น จะมี
“พญานาค” ตัวใหญ่ 2 ตัว อยู่คู่กัน ซึ่งเป็นศิลปะที่
สล่านก ได้นำเอารูปแบบผลงานของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ผู้
สร้างบ้านดำ จ.เชียงราย นำมาประยุกต์
อาจารย์ถวัลย์นั้นขึ้นชื่อในเรื่องศิลปะเขา และงา จึงได้นำตรงนี้มา
ประยุกต์ใช้สร้างขึ้นโดยเฉพาะอวัยวะส่วนที่
เป็นฟันพญานาค จะเห็นได้ว่ามีความโค้งงอสวยงามและมีความแหลมคมพญานาคที่นี่จึงดูมีความสวยงาม พลิ้วไหว
และน่าเกรงขามไปในตัว
         
  พระประธานที่ชื่อว่า “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ" พระประธาน
สิงห์หนึ่งสีขาวมุก ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร
  โดยมีพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ 
และแก้วแหวนเงินทองหลายสิ่งถูกฝังอยู่ใต้พระพุทธรูปองค์นี้ รวมทั้ง
บริเวณพระเศียรก็ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
           
นอกจากนั้นด้านหลังวิหาร ยังมีอีกหนึ่งความงดงามฝีมือช่างสล่านกที่
ได้สร้าง พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่โดดเด่น
เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติประดิษฐานตรงด้านหลัง สูงเทียบเท่ากับ
วิหารตัดกับสีน้ำเงินฟ้าสลับทองทำให้ดูสวยงามยิ่ง
  ถัดไปไม่ไกลจะเห็น "พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์" มีความสูง
20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุได้บรรจุ
พระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกล
มหาสงฆปรินายก เป็นอีกจุดหนึ่งที่ใครมาเยือน
ไม่ควรพลาดที่ต้องมาสักการะพระธาตุแห่งนี้
         (รวบรวมและเรียบเรียงจาก อินเทอร์เน็ต )  มาชมภาพกันค่ะ 

















เนื่องจากวัดนี้  เราไม่ได้มีเวลามาก ไม่ได้เข้าไปเดินชมภายในวัด
มากนัก  ไปกราบพระประธานในวัดเท่านั้น ค่ะ 

 พวกเราชมความงามของวัดร่องเสือเต้น  ถ่ายรูป ไหว้พระประธาน  ไม่
ได้เดินชมรายละเอียดมากนัก  เพราะท้องเริ่มหิว
  เราเลือกร้าน ที่มีการรับ เที่ยวด้วยกัน  คือ ร้าน หลู้ลำอาหารร้านนี้
มีคนมากินเยอะเหมือนกัน  อาหาร แดง มอม และเขียด
เลือกมาหลายอย่าง  อาหารไม่ช้านัก  รสชาติก็พอกินได้ ไม่ได้อร่อย
มากมายนัก มาดูรูป ค่ะ



รายการอาหารที่สั่งมื้อเย็นที่ ร้านหลู้ลำ

 
 พวกเรากินข้าวมื้อเย็นเสร็จแล้ว กลับถึงโรงแรม น่าจะประมาณ 
18.30  น.ตามที่น้องษีนัดไว้  แต่ปรากฏว่า
น้องยังมาไม่ถึง  พวกเราก็เข้าห้องพัก  น่าจะประมาณ 19.00 น.
สักพักใหญ่  น้องษีโทรเข้ามือถือว่า  มาถึงโรงแรมแล้ว
  ฉันจึงเดินออกจากห้องไปรับเขา  เราได้พบหน้ากันครั้งแรก  น้องเป็น
คนตัวโตกว่าฉันมากพอสมควร  ดูแข็งแรง ไม่อ้อนแอ้น
เอวบาง ใส่แว่นสีชา  แต่งตัวด้วยเสื้อไหม กางเกง  มือหิ้วของฝากมา
ให้ฉัน  เธอมาคนเดียว  เก่งมากที่ขับรถมาจาก
เชียงแสนคนเดียว  ระยะทาง ได้ข่าวว่า ยี่สิบกว่ากิโล  ชักเป็นห่วง
น้องเขา  ถามว่า  นี่ก็มืดแล้ว  เดี๋ยวยังต้องขับกลับ
ไปมืด ๆ ค่ำ ๆ อีก เป็นห่วงนะ   น้องบอกว่า ไม่ได้ขับกลับหรอก   จะไป
พักอยู่ที่คอนโดในเมืองที่ซื้อไว้  รุ่งเช้าจึงจะขับรถกลับ
อ้อ ! ถ้าเป็นอย่างนี้  ก็หายห่วงได้ 



น้องภูษีมาเยี่ยมฉันที่โรงแรม ค่ะ พร้อมของฝาก ค่ะ 

เรานั่งคุยกันด้วยเรื่อง จิปะถะ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องงานรับซื้อพืชผลที่
ชาวไร่นำมาขายให้  ตอนนี้เป็นช่วงพืชไร่ เช่น ข้าวโพด
มันสำปะหลัง  ชาวไร่จะนำมาขายช่วงนี้ (ฉันเคยรู้จากคนในอดีต เขา
เล่าให้ฟัง และจำได้ว่า  เขาจะสอนฉันในเรื่องการรับซื้อ
พืชไร่หลังแต่งงานไปอยู่เชียงราย อิอิ)  นอกจากคุยกันเรื่องการทำมา
หากินแล้ว ก็คุยกันเรื่องลูกสาวทั้งสี่
ซึ่งเรียนเก่ง แต่ดูเหมือน ไม่มีใครสนใจงานที่พ่อแม่ทำ  ทุกคน มี
อาชีพส่วนตัวกันทั้งนั้น  เฮ้อ! คนที่สองดู
เหมือนกำลังทำปริญญาเอก อยู่ที่อินเดีย  คนโตก็เปิดบริษัทรับนักเรียน
ไปเรียนต่อต่างประเทศ  มีน้อง ๆ ช่วยกันด้วย
  ฉันเสนอแนะว่า  ควรหาเวลาไปท่องเที่ยว อย่ามัวแต่ทำงานอย่าง
เดียว  อายุมากขึ้น จะเที่ยวไม่สนุก อิอิ
เธอก็บอกว่า  คิดอยู่เหมือนกัน  ลูกสาวก็บอกเช่นนั้น  เดี๋ยวให้ผ่านช่วง
รับซื้อพืชไร่ไป  คงได้หาโปรแกรมเที่ยวกัน 
เราคุยกันได้น่าจะประมาณหนึ่งชั่วโมง  ให้น้องมอม ถ่ายรูปคู่ให้เราด้วย
  ฉันเดินไปส่งเธอที่รถ แล้วอำลาจากกัน
ด้วยความรู้สึกดี ๆ กับน้องคนนี้  น้องร่วมโลกที่น่ารัก  ค่ะ 

 เธอซื้อแหนมมา ซื้อข้าวซอยแห้งมาฝาก  มีบัวลอยมาฝาก 4 ถุงเพราะ
เธอรู้ว่า เรามาเที่ยวกัน 4 คน  เผื่อแผ่มาถึงลูกศิษย์ฉันด้วย
  น่ารักและรู้จักมารยาททางสังคมด้วย 

หลังจากที่เธอกลับไปแล้ว  ฉันก็ต้องเตรียมจัดกระเป๋า เพราะพรุ่งนี้จะ
ต้องเดินทางไปเที่ยวต่ออีก 

การชวนเที่ยว จังหวัดเชียงราย ตอนที่ 2 ขอเล่าถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่
ได้ไปเที่ยว ไปไหว้พระและพบน้องภูษี ไวัเพียงเท่านี้
โปรดติดตามตอนที่ 3 ต่อไปในโอกาสหน้า ซึ่งเป็นตอนปิดทริป
เชียงราย  ค่ะ  สวัสดี ค่ะ 




 



Create Date : 07 เมษายน 2565
Last Update : 9 เมษายน 2565 12:48:36 น.
Counter : 712 Pageviews.

33 comments
พาเที่ยวสะพานมังกร หาดพยุง ศาลหลวงเตี่ยบ้านพยูน ระยอง นายแว่นขยันเที่ยว
(22 เม.ย. 2567 00:52:05 น.)
พาหาของกิน ตลาดเก่าบางใหญ่ อาหารอร่อยหลากหลายราคาไม่แพง นายแว่นขยันเที่ยว
(19 เม.ย. 2567 00:21:59 น.)
เลี้ยงรุ่น 15/ 04 / 2024 tanjira
(19 เม.ย. 2567 17:52:18 น.)
ข้าวหมูแดงสุณี ตลาดพลู & ข้าวหมูแดงศิริพร โภชนา เสาชิงช้า & ขนมครกไข่ เจริญกรุง103 peaceplay
(24 เม.ย. 2567 06:22:08 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเริงฤดีนะ, คุณtuk-tuk@korat, คุณร่มไม้เย็น, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณทนายอ้วน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกิ่งฟ้า, คุณKavanich96, คุณหอมกร, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณmultiple, คุณSweet_pills, คุณชีริว, คุณอุ้มสี

  
เจิมๆๆ
ดอยผาฮี้ น่าจะเป็นจุดสํงสุดของขุนเขานางนอนนะคะ
แสงพระอาทิตย์ขึ้นงดงามมากไป
จองที่ไว้ก่อนค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 เมษายน 2565 เวลา:13:07:36 น.
  
งดงามมากๆ*
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 เมษายน 2565 เวลา:13:08:12 น.
  
มาส่งกำลังใจก่อนครับ โหวตหมดแล้วครับวันนี้ พรุ่งนี้มาใหม่นะครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 9 เมษายน 2565 เวลา:13:56:18 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์
คนเชียงรายน่ารักนะคะ
วัดร่องเสือเต้นเคยไปตอนกำลังสร้าง เพราะเพื่อนที่เชียงรายเล่าว่าเขากำลังสร้างพระ เลยไปเที่ยว ก็คือวัดนี้เอง
แล้วเขาก็ได้ชักชวนเพื่อนมัธยมไปทอดผ้าป่ากันค่ะ
หนูตุ๊ก
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 9 เมษายน 2565 เวลา:14:02:43 น.
  
แวะมาเที่ยวด้วยค่ะอาจารย์
โดย: sawkitty วันที่: 9 เมษายน 2565 เวลา:15:36:50 น.
  
เช้าๆตื่นนอน
ชมดอย ชมหมอก ดูพระอาทิตย์ขึ้น
ผมว่าเป็นกำไรชีวิตเลยนะครับอาจารย์

ดอยตุงผมไม่ได้ขึ้นไปนานมากแล้ว
แต่ดูจากรูปที่อาจารย์ถ่ายมา
ก็ยังคงความสวยงามอยู่เลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 เมษายน 2565 เวลา:18:18:01 น.
  
ชมดวงอาทิตย์ขึ้นยามเช้า มันรู้สึกเหมือนว่าชีวิตยังมีหวังเลยล่ะครับ วัดที่ไปสีแปลกดีครับ สวยดี

ดอกไม้เยอะแยะเลยสวยดีครับ
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 9 เมษายน 2565 เวลา:19:43:22 น.
  
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2565 เวลา:6:19:09 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์


นิตยสารฉบับสุดท้ายที่ผมตามซื้ออ่านคือ มติชนฯ
สุดท้ายร้านแถวบ้านก็ไม่มีขายแล้วครับ
ก็เลยจำต้องเลิกอ่านไปโดยปริยาย

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 เมษายน 2565 เวลา:14:41:10 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์ ตามมาเที่ยวเชียงรายด้วยค่ะ เห็นสพานไม้แล้วน่าไปถ่ายภาพนะคะ ที่ตำหนักดอยตุง ดอกไม้สวยงามมากค่ะ กิ่งเคยไปนานแล้วแต่รูปแบบก็ยังคงเดิมไว้มีเปลี่ยนแปลงตรงต้นไม้ดอกไม้

คราวก่อนไปเชียงรายกับเพื่อนๆเสียดายไม่ได้ไปวัดแก่งเสือเต้น
ดูสวยงามนะคะ โดยเฉพาะพญานาคสวยจริงๆค่ะศิลปะในการก่อสร้างทำได้สวยงามอ่อนไหวอ่อนช้อยงดงามมากค่ะ

โหวตท่องเที่ยวให้นะคะ

หลับฝันดีค่ะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 10 เมษายน 2565 เวลา:21:40:48 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 11 เมษายน 2565 เวลา:5:06:49 น.
  

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2565 เวลา:7:16:03 น.
  
รูปเที่ยวของอาจารย์ภาพไม่ค่อยคมชัดค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 11 เมษายน 2565 เวลา:9:33:01 น.
  
แวะทักทายก่อนปีใหม่ไทยค่ะ อจ.สุวิมล

ร้านกาแฟที่ดอยผาหมี ดีงามมากๆนะคะ
เป็นจุด check in ที่น่าและควรค่าการแวะ

ชื่นชมต้นกาแฟ
และสะพานไม้ผาฮี้
ร้านพิซซ่าก็อยู่ในโปรแกรม Must visitting
อ้อไม่ได้แวะค่ะ เพราะคนใกล้ตัวไม่ทานพิซซ่า
(อ้อเดินทาง 2 คน กับคนใกล้ตัว วางทริปเอง)
ดอกไม้ดอยตุงงดงาม
เดินชมได้ด้วยความเพลิดเพลิน ถ่ายภาพได้ทุกที่ทุกทาง


กราบ กราบ กราบ วัดพระแก้ว
เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลแก่ชีวิต

โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 เมษายน 2565 เวลา:9:42:24 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ช่วงนั้นไมไ่ด้ทำอะไรเลยครับอาจารย์
ออกนอกบ้านก็ไม่ได้
ผมไม่ชอบดูอะไรจากมือถือนานๆด้วย
ก็เลยอ่านๆๆๆๆๆๆ อ่านและเขียนทั้งวันเลยครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2565 เวลา:14:57:36 น.
  
สัวสดีครับอาจารย์

ภาพเปิดมาก็สวยแล้วครับ อยากจะว้าปไปเชียงรายบ้างเลย
ผมก็เป็นคนที่ปกติไม่ได้ดื่มกาแฟเท่าไหร่ เข้มมากไม่ได้ น่าจะเหมือนๆ อาจารย์ครับ ความสนุกมีด้วยการนั่งดูคนที่เค้าดริฟกาแฟเป็นทำ รู้สึกว่าคนที่ทำเก่งๆ มันดูแล้วเพลินดี หอมด้วยครับ
แต่การดื่มกาแฟร้อนๆ กับวิวหลักล้านแบบนี้ เรียกว่าคุ้มค่า บรรยากาศดีมาก ๆ ครับ

ดอยตุงน่าเที่ยวมากครับ สวยงาม ร่มรื่น มีความหมายหลายอย่างมาก ๆ
ผมไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังชอบไปอยู่ทุกครั้ง ซื้ออะไรไม่รู้สึกเสียดายเงิน เพราะรู้สึกว่าเป็นโครงการที่ชุมชน ชาวบ้านได้รับมันจริงๆ

คนที่เจอกันแล้วคุยกันถูกคอ ถือเป็นเรื่องดีๆ เลยครับ

วัดร่องเสือเต้น สวยมากเลยครับ เหมือนใน กทม จะมีวัดปากน้ำภาษีเจริญที่เป็นวัดสีน้ำเงินเหมือนกัน แต่ไม่ได้กว้างหรือเยอะเท่าวันร่องเสือเต้น ตัดกับพระพุทธรูปสีขาว ดูอ่อนช้อยมาก ๆ ครับ สมแล้วที่เป็นแห่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ ถ้าชาวต่างชาติมาได้เค้าต้องชอบแน่ๆ คงถ่ายไปลง IG กันเยอะเลย

รักษาสุขภาพด้วยครับอาจารย์ ^^
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 11 เมษายน 2565 เวลา:17:22:10 น.
  
โอ้ sunrise ที่ดอยผาฮี้นี่งดงามมากเลยนะครับ
ยิ่งบรรยากาศ ร้านกาแฟบนนั้นนี่ วิวร้อยล้านเลยจริงๆ
ได้นั่งจิบกาแฟ ชมบรรยากาศไปด้วยก็คุ้มแล้วละครับ

ส่วนสะพานไม้ไผ่ไร่ผาฮี้นี่ดูจะหวาดเสียวนิดๆ
เพราะบางช่วงนี่ เหมือนไม้ขัดแตะ
ถ้าเจอรุ่นเฮพวี่เวท แบบ อ.เต๊ะ ไปวิ่งเล่นนี่
น่าจะโยกเยกเอา ไม่ใช่น้อยเลยนะครับ555

พระตำหนักดอยตุง นี่ต้องบอกว่า Landscape
การจัดสวนงดงามมากๆ ต้นไม้ดอกไม้ หลายหลายพันธุ์แยะจริงๆ
บางชนิด อ.เต๊ะ ก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะครับ
ตัวพระตำหนัก ก็design เข้ากับสภาพแวดล้อม กลมกลืนกันมาก
มีโอกาส ต้องไปชมซักครั้งครับ

วัดร่องแก่งเสือเต้น นี่ถ้าไม่บอกมาก่อน อ.เต๊ะ เดาว่า
ต้องเป็นศิษย์ สำนักเดียวกับวัดร่องขุ่นแน่นอน
แต่ลวดลาย ก็ต่อยอดแตกแขนงออกไป งามไปอีกแบบ
แล้วก็การให้สีนี่ ดูแปลกตามาก เพราะวัดส่วนใหญ่ โดยมากจะใช้คู่สี ทอง+แดง วัดนี้เล่นสี ทอง+น้ำเงิน ก็สวยไปอีกแบบนะครับ

ส่วนเรื่อง คนในอดีตนี่ อ.เต๊ะ ต้องนับถือในความเข้มแข็ง หนักแน่น ของ อาจารย์มาก ถ้าเป็น อ.เต๊ะ นี่ ทำใจไปเจอไม่ได้แน่นอนละครับ แต่เรื่องแบบนี้ ถ้าเราผ่านมาได้ ก็เหมือนวัคซีน จะทำให้เรามีภูมิต้านทานแข็งแกร่งขึ้นนะครับ

ส่วนเรื่องซ่อมแอร์นี่ จริงๆน้ำยาแอร์ถูกมากๆเลยนะครับ
1000ml หรือลิตรนึงนี่ ไม่เกิน 200บาท แต่ช่างต้องบวกค่าแรง ค่าวิชาเข้าไปเลยกลายเป็นแพง เครื่องมือนี่ อ.เต๊ะก็ซื้อไว้ใช้ได้อีก คราวหน้าก็ซื้อแต่น้ำยาเองครับ
ขอบคุณที่อาจารย์แวะไป+กำลังใจด้วยนะครับ


โดย: multiple วันที่: 11 เมษายน 2565 เวลา:20:03:17 น.
  
up blog ใหม่แล้วค่ะ อจ.
ทักทายก่อนนอน
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 11 เมษายน 2565 เวลา:21:35:52 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์

วิวยามเช้าไม่มีหมอกแต่เมฆก็สวยมากนะคะ
เป็นมื้ออาหารเช้าที่น่าสดชื่นสบายตาดีจังค่ะ

เดินสะพานไม้ไผ่ชมต้นกาแฟน่าเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปสวยๆ
การสร้างสะพานด้วยไม้ไผ่ดูกลมกลืนกับบรรยากาศ ชอบจังค่ะ

พระตำหนักดอยตุงต๋าไปนานมากแล้วยังสวยสดชื่นมากนะคะ
วัดร่องแก่งเสือเต้นมีโอกาสอยากไปอีกครั้งค่ะอาจารย์

เป็นอีกทริปที่น่าสนุกและมีความสุขค่ะ
ขอบคุณอาจารย์ที่พาเที่ยวนะคะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 12 เมษายน 2565 เวลา:1:03:18 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 เมษายน 2565 เวลา:6:37:34 น.
  
ช่วงนี้ผมเข้าบล็อกน้อยมากๆเลย อาจพลาดไปหลายบล็อกหน่อยนะครับ ว่าแล้วก็ขอเริ่มเที่ยวเชียงรายจากตอน 2 เลยแล้วกัน
เป็นจังหวัดที่ผมชอบที่สุดเลยครับเชียงราย ทั้งธรรมชาติ ทั้งประวัติศาสตร์ จังหวัดนี้คือที่สุดมากๆ
จุดที่ยังไม่เคยไปก็เยอะมากๆ อย่างดอยผาฮี้นี่ไม่เคยไปครับ

ตำหนักดอยตุง-สวนแม่ฟ้าหลวง ไม่ได้ไปเกือบ 20 ปีแล้ว เป็นสวนดอกไม้แรกๆที่ไปเลยครับ ตอนเด็กๆประทับใจมาก

อโวโคโล่ >> อาโวคาโด หรือเปล่าครับ ชอบซื้อแบบที่เขาปั่นกับนมสด แต่ไม่เคยซื้อสดๆ มากินเองเลยครับ กลัวเลือกไม่เป็นแล้วขม
วัดร่องเสือเต้นก็งดงามมากครับ น้องๆวัดร่องขุ่นเลย ผู้สร้างเป็นลูกศิษย์อาจารย์เฉลิมชัย
ตอนที่ผมไปคนจีนเยอะมากจนแทบไม่มีมุมถ่ายรูป แต่ถ้าไปตอนนี้คงสงบแล้วมั้ง
โดย: ชีริว วันที่: 12 เมษายน 2565 เวลา:19:01:36 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ลายบนถ้วยเป็นรูปภูเขา
เป็นดอยเชียงดาว
แต่คล้ายกับภูเขาที่ผมชอบที่เมืองจีนเลยครับ
ถือว่าถูกใจมากๆเลย


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 เมษายน 2565 เวลา:19:22:46 น.
  
เข้าวันที่ 13 แล้ว
กราบสวัสดีวันสงกรานต์นะคะอาจารย์

ขอบคุณอาจารย์สำหรับกำลังใจที่บล็อกต๋านะคะ
อาจารย์นอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 13 เมษายน 2565 เวลา:0:24:10 น.
  

สวัสดียามเช้าครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 เมษายน 2565 เวลา:6:44:07 น.
  
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับอาจารย์

งานชุดนี้พอถึงมือ
น้องปุณนำไปเข้ากรอบอย่างดีทั้ง 10 ภาพเลยครับ
เจ้าตัวชอบมาก
จนปั้นถ้วยชาอีกใบให้ผมเป็นของขัวญ
ผมกำลังลุ้นอยู่ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
เพราะถ้วยใบใหม่นี้กำลังอยู่ในเตาเผาครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 เมษายน 2565 เวลา:14:10:42 น.
  

กราบรดน้ำดำหัวอาจาร์ยาสุวิมล
เนื่องในวันสงกรานต์ค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 13 เมษายน 2565 เวลา:18:52:29 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 เมษายน 2565 เวลา:4:14:07 น.
  
สวัสดีค่ะอาจารย์

ต๋าขอน้อมรับพรปีใหม่ไทยทุกประการจากอาจารย์นะคะ

ขอให้อาจารย์ประสบแต่ความสุข มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง
และสัมฤทธิ์ผลในทุกสิ่งอันพึงปรารถนาค่ะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 14 เมษายน 2565 เวลา:16:02:16 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

ผมแก้คำผิดเรียบร้อยแล้วครับ
ขอบคุณครับอาจารย์
ผมก็ชินกับการใช้ ต.เต่า สะกดมาตลอดเลย

อาจารย์ทันสมัยกว่าผมครับ
ผมไม่ค่อยเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ 555
ผมจะล้าหลังกว่าเขาเพื่อน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอม มือถือ
ยิ่งเดี๋ยวนี้มีรุ่นใหม่ๆตลอด
ผมตามไม่ทันเลยครับ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 เมษายน 2565 เวลา:21:06:35 น.
  
ตามมาเที่ยวกับครูค่ะ
โดย: อุ้มสี วันที่: 15 เมษายน 2565 เวลา:2:59:32 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 เมษายน 2565 เวลา:6:12:27 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับอาจารย์

คุณวินทร์ เลียววาริณได้เป็นศิลปินแห่งชาติด้วยครับ
ผมตามอ่านตั้งแต่ผลงานเล่มแรกๆเลย
เพียงแต่พอเป็นนิยายผมไม่ค่อยอ่านครับ
ชอบงานเขียนชุดสร้างเสริมกำลังใจมากกว่า

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 เมษายน 2565 เวลา:15:44:19 น.
  

อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 เมษายน 2565 เวลา:5:56:18 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Suvimol.BlogGang.com

อาจารย์สุวิมล
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 46 คน [?]

บทความทั้งหมด