มาเลเซีย ไม่ไปไม่รู้ ตอนที่ ๒ Putrajaya & Bingtang Rd. ใน KL
โปรแกรมของวันที่ ๒ ในมาเลเซียคือ ปุตราจายา ซึ่งเป็นศูนย์ราชการของมาเลเซียที่สร้างขึ้นมาใหม่ อยู่ห่างจาก KL ลงไปทางใต้ ๆ ราว ๆ ๒๕ กม. สามารถนั่งรถไฟสาย KLIA Transit จาก KL Sentral ไปที่เมืองนี้ได้ ใช้เวลาเดินทางราว ๆ ๒๐ นาที ค่าโดยสาร โดยรถไฟสายนี้จะไปสุดสายที่สนามบินนานาชาติ ๙.๕๐ ริงกิต หรือประมาณ ๑๐๐ บาท



สถานีรถไฟที่ปุตราจายานั้นไม่ได้อยู่ในเมือง แต่จะมีรถประจำทางวิ่งเข้าเมืองอยู่เรื่อย ๆ สามารถถามคนแถวนั้นได้ว่าจะต้องขึ้นสายไหน คำว่าตัวเมืองของที่นี่นั้น ไม่ได้หมายความว่ามีช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ หรือร้านค้าแต่อย่างใด แต่จะเป็นอาคารมากมายเช่น รัฐสภา ที่ทำการของกระทรวงต่าง ๆ รวมไปถึงมัสยิดสีชมพูอันเป็นที่รู้จักทั่วไป ถนนหนทางกว้างขวาง ผู้คนที่นี้ขับรถกันทั้งนั้น รถเมล์มีวิ่งเรื่อย ๆ แต่ไม่ค่อยมีคนขึ้น แล้วก็ไม่ค่อยจะจอดซะด้วย



เมืองที่นี่ไม่มีชีวิตชีวา ไม่มีร้านค้าบนท้องถนน ไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรไปมา มีห้างอยู่ ๑ ห้าง แต่ไม่ได้อยู่ในโซนที่นักท่องเที่ยวจะไปดู ถ้าจะทานอาหารต้องเข้าไปในอาคารสำนักงาน แล้วถามหาโรงอาหาร เป็นเมืองที่เช้าคนเข้ามาทำงาน เย็นกลับ ตอนกลางคืนคงเป็นเหมือนเมืองร้าง




มัสยิดแห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม สำหรับสุภาพสตรีที่แต่งกายไม่เรียบร้อย ก็มีผ้าคลุมสีชมผูให้ยืมใส่ฟรี





เราได้มีโอกาสไปทานอาหารกลางวันในโรงอาหารของอาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง สังเกตเห็นว่าผู้หญิ่งและผู้ชายเกือบทุกคนจะใส่ชุดประจำชาติ ไม่รู้ว่าเป็น dress code ของเค้าหรือเปล่า คนทำงานราชการมักเป็นคนมาเลย์แท้ ๆ คนจีนเชื้อสายมาเลย์มักไม่ค่อยทำงานราชการ เพราะทำไปก็ไม่รุ่ง รัฐบาลเค้าจะสนับสนุนคนมาเลย์เองมากกว่า คนจีนเลยทำธุรกิจส่วนตัวหรือไม่ก็ทำกับบริษัทเอกชน



การเดินทางภายในเมืองนี้ไม่สะดวกเลย เพราะแทบจะไม่มีรถแท็กซี่วิ่งผ่าน รถประจำทางที่มีมากมายก็ไม่ค่อยจะจอด โชคดีตอนขากลับได้มีรถประจำทางคันนึงจอดรับ ซึ่งเราก็เป็นผู้โดยสารเพียงสองคนบนรถ ค่ารถคนละ ๑ ริงกิตเท่านั้น

แนะนำว่าหากอยากมาเที่ยวที่นี่ ให้เช่าแท็กซี่ที่สถานีรถไฟโดยเหมาะสัก ๒-๓ ชั่วโมงก็น่าจะพอ ราว ๆ บ่าย ๒ โมงเราก็กลับ KL กันแล้วคะ ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย

กลับมาถึง KL แล้วก็เข้าโรงแรมาพักสักหน่อย กะจะว่ายน้ำ แต่สระว่ายน้ำที่โรงแรมก็ไม่น่าว่ายเอาซะเลย ก็เลยไปเดินเที่ยวถนนบินตัง ถนนนี้คงคล้ายกับย่านสยามแสควร์ - เซ็นทรัลเวิร์ดบ้านเรา เป็นถนนช้อปปิ้ง มีห้างหลายห้าง มีทั้งห้างหรูและห้างไม่หรู เท่าที่ดูห้างที่นี้มีของแบรนเนมเยอะกว่าบ้านเรา บ้างยี่ห้อบ้านเราไม่มีแต่เค้ามี

เรา ๒ คนไม่ใช่ขาช้อป ไปเดินช้อปก็กะไรอยู่ เลยพากันไปที่ Time Square เป็นห้างใหญ่ ค่อนข้างเก่า ที่พิเศษคือมี Indoor Theme Park ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซื้อตั๋วเข้าไปประมาณ ๓๐ กว่าริงกิต สำหรับวันธรรมดา มีเครื่องเล่นหวาดเสียวแจ๋ว ๆ อยู่ ๕-๖ อย่าง แล้วก็มีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ๆ อีกมากมาย ราคานี้ได้เลย ๔-๕ อย่างก็คุ้มแล้วคะ รถไฟเหาะตีลังกาก็มันใช้ได้ มีเครื่องเล่นที่หมุน ๓๖๐ องศาด้วย ก็ฆ่าเวลาได้ดีคะ สนุกด้วย



จบจากสวนสนุกเราก็แทบจะอาเจียน เดินแทบไม่ไหว เลยไปพักนวดเท้าซะหน่อย เพราะเดินมาทั้งวันด้วย ส่วนคุณชายก็ไปทำฟิชสปา ท่าทางจั๊กจี้เชียว ฟิชสปาที่นี่บูมมาก ไปที่ไหนก็เจอคะ คุณชายบอกว่าทำฟิชสปาแล้ว เท้าสะอาดและนุ่มดี ปลามันกินเอาเซลล์ที่ตายแล้ว คงเหมือนไปทำสครับ

มื้อเย็นนี้มีเพื่อนชาวมาเลย์ของคุณชายพาไปทานอาหารอินเดียเจ้าอร่อยคะ อิ่มสุด ๆ เลย หมดไป ๒ วันแล้ว วันต่อมาจะพาไปเที่ยวมะละกาคะ เป็นเมืองที่น่ารัก และมีประวัติศาสตร์น่าสนใจมาก ๆ



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2553 21:50:48 น.
Counter : 1547 Pageviews.

0 comments
Slow Life ในเมืองเลย Alex on the rock
(15 เม.ย. 2567 07:44:23 น.)
ระยองฮิสั้น จันทราน็อคเทิร์น
(12 เม.ย. 2567 15:33:48 น.)
ซ้งเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา พุทธมณฑลสาย 1 แมวเซาผู้น่าสงสาร
(11 เม.ย. 2567 10:45:53 น.)
Ta Moke Shwe Gu Gyi Temple สายหมอกและก้อนเมฆ
(8 เม.ย. 2567 18:52:20 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ohchan.BlogGang.com

divini
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด