ถ้าพูดถึงแกงปัจจารี หลายคนที่รู้จักแกงแขกจะนึกถึงแกงมะเขือยาวแบบแห้งของอินเดีย
แต่ปัจจารีที่เราทำวันนี้เป็นแกงสับปะรด ถามพ่อดูว่าต่างจากแกงมะเขือแบบอินเดียยังไง
ทำไมถึงเรียกเหมือนกัน พ่อก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าแกงสับปะรดหน้าตาแบบเนี้ยที่บ้านก็เรียกปัจจารี
.....ด้วยความสงสัยจึงไปหาข้อมูล แล้วเจอว่าปัจจารีที่บ้านมีเชื้อสายจาก Pajri Nenas
แกงกะหรี่สับปะรดของมาเลเซียหรือมลายู












เลือกสับปะรดอมเปรี้ยวอมหวานที่ไม่งอมเกินไป ไม่อย่างนั้นเวลาแกงแล้วเนื้อจะเละ และก็อย่าเลือกที่เนื้ออ่อนเกินไปด้วย นอกจากจะไม่ชุ่มฉ่ำเข้าเนื้อแล้วยังจะเปลืองแก๊ส เพราะต้องใช้เวลาเคี่ยวนานมากกว่าน้ำแกงจะเข้าเนื้อ (เคยมาแล้ว )














สับปะรดทั้งลูกผ่าตาออก หั่นเป็นแว่นเก็บแกนไว้ หั่นชิ้นหนานิดหน่อย เพราะจะต้องเคี่ยวจนน้ำแกงเข้าเนื้อ ไม่อย่างนั้นเนื้อสับปะรดจะเละซะก่อนแกงเสร็จ














สับปะรด 1 ลูกกลาง เราใช้น้ำพริกแกงกะหรี่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะพูน
ผัดเครื่องแกงกะหรี่กับน้ำมันเล็กน้อยจนเครื่องแกงสีสวย
ใส่แท่งอบเชยและลูกเฮ้นหรือกระวานเทศ 4-5 เม็ด
เติมหัวกะทิประมาณ 1/3 ถ้วย ค่อยๆ ตะล่อมผัดจนแตกมัน
....สัดส่วนของน้ำพริกแกงปรับลดปรับเพิ่มได้ตามชอบเลยค่ะ




ถ้าไม่มีเครื่องแกงกะหรี่ก็ให้ใช้เครื่องแกงเผ็ด ตำหอมแดง กระเทียม ขิง และผงกะหรี่เพิ่มลงไป ใช้แทนเครื่องแกงกะหรี่ได้



สัดส่วนสำหรับเครื่องแกงกะหรี่ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมประมาณ 7-8 กลีบ
หอมแดง 5-6 หัว
ขิงแก่ 3-4 แว่น
ผงกะหรี่ 1-2 ช้อนโต๊ะ ขึ้นอยู่กับความชอบ
......แต่ถ้าชอบเครื่องแกงร้อนแรงแบบแขกก็เพิ่มเม็ดผักชี ยี่หร่าคั่วตำใหม่ๆ ใส่เพิ่มลงไป














ใส่สับปะรดลงไปผัดกับเครื่องแกงที่ผัด
ค่อยๆ พลิกเนื้อสับปะรดให้โดนน้ำแกงให้ทั่วถึง
เติมน้ำให้ท่วม ปิดฝาเปิดไฟอ่อน
ทิ้งไว้จนกระทั่งเครื่องแกงเข้าเนื้อสับปะรด
สังเกตุดูได้จากเนื้อสับปะรดจะนิ่มและฉ่ำขึ้น
(น้ำแกงแห้งก็ค่อยเติมน้ำครั้งละพอท่วมสับปะรด)













พริกหยวกกินแกล้มกับสับปะรดอร่อยดีค่ะ ลูกเกดเหลืองล้างน้ำผึ่งให้แห้งประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ














น้ำแกงงวดก็ให้เติมน้ำให้พอท่วมสับปะรด
หย่อนพริกหยวกทั้งเม็ดและลูกเกดใส่ในหม้อ














ปิดฝาเปิดไฟอ่อนๆ พอพริกเริ่มนิ่ม
เติมกะทิประมาณครึ่งกล่อง-1 กล่อง ขึ้นอยู่กับชอบแกงเข้มข้นมากน้อย
ปรุงรสด้วยเกลือ ถ้าต้องการเพิ่มหวานก็ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ปเล็กน้อย
ถ้าต้องการเปรี้ยวปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก
ตั้งไฟให้น้ำแกงงวดอีกเล็กน้อย ปิดเตา












แกงนี้จะน้ำแกงจะขลุกขลิก รสชาติจะออกเปรี้ยวหวานของสับปะรดนำ มันกะทิ เผ็ดและหอมเครื่องแกงอ่อนๆ ส่วนใหญ่จะทำคู่กับข้าวหมกหรือข้าวบุหรี่ในงานบุญ รสเปรี้ยวของสับปะรดจะช่วยตัดรสกับข้าวทำให้หายเลี่ยน