หมูพาทัวร์ทริปย้อนวัย[Part 1] @ Hong Kong Disneyland Trip [13-15 Nov 2014] สวัสดีค่าพบกับบล็อคหมูตะลอนทัวร์ ทริปนี้เป็นทริปสุดพิเศษที่เค้าได้รับคำเชิญชวน จากทางป้าไก่และลุงเด้งแห่งเว็ปไซต์ //www.hongkongfanclub.com/ ใครจะไปฮ่องกงต้องไม่พลาดที่จะเข้าไปค้นข้อมูลเด็ดๆแบบเจาะลึกจากเว็ปนี้แน่นอน ซึ่งเป้าหมายของทริปนี้ได้แก่.........Disneyland วู๊วววว!!! สถานที่ในฝันของเด็กๆรวมถึงแก่ๆแบบเรา แอร๊ยยย แม้จะเป็นการไปฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เป็นครั้งที่สามก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี แปลงร่างกายเป็นเด็กให้พร้อมแล้วไปลุยกันเลยจ้า ออกเดินทางกันวันที่ 13 พ.ย. ตั้งแต่เช้าเพื่อมิให้เสียเวลาเที่ยว อิอิ ทริปนี้ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยสายการบิน Air Asia ไฟลท์ FD508 เวลา 6.45 น. ณ สนามบินดอนเมือง สำหรับการไปฮ่องกงเค้าแนะนำจริงๆว่าถ้าจองล่วงหน้าราคาของ Air Asia นี่เริ่ดสุดๆ โดยเฉพาะการจองแบบพร้อมที่พักในเว็ป //thailand.airasiago.com/ ปีที่แล้วเค้าเพิ่งพาที่บ้านไปเที่ยวฮ่องกงกันมาช่วงเดือนพฤศจิเหมือนที่ไปรอบนี้เลย นอนโรงแรม The Cityview 3.5 ดาว ติดรถไฟใต้ดิน Yau Ma Tei เดินทางสะดวกสุดๆ (รถไฟใต้ดินที่นู่นเค้าเรียกว่า MTR แต่บ้านเราเรียก MRT เน่อ) ห้องใหญ่จัดเต็มไม่คับแคบแบบโรงแรมในฮ่องกงทั่วไป ราคาตั๋วเครื่องบินรวมที่พัก 3 คืน ตกคนละ 10,996.08 บาทเท่าน้านนนน ย้ำว่า 3 คืน ราคานี้เจ้ฟิน(เพราะเจ้จ่ายให้ทั้งบ้าน555) แต่ราคานี้ยังไม่รวมน้ำหนักกระเป๋าเน่อ ราคาเริ่มต้นที่ 20 ก.ก. 600 บาท ยิ่งซื้อน้ำหนักเยอะราคายิ่งถูกลงสามารถแชร์น้ำหนักกันได้ถ้าจองไปกรุ๊ปเดียวกัน แนะนำให้ซื้อน้ำหนักกระเป๋าไปล่วงหน้าจะถูกกว่าไปจ่ายที่สนามบินมากฮับ ความฟลุครอบที่แล้วคือจองไป 2 ห้องแต่อาจจะมีการผิดพลาดที่ระบบการจอง พอไปเช็คอินเข้าที่พักดันได้ห้องพัก 4 ห้องตามราคาที่จ่ายไป คืนห้องให้โรงแรมก็ไม่เอาเค้าบอกบุคมาแบบนี้ก็ให้ไปแบบนี้ห้องเหลือเฟือเลยจร้าาาา อาศัยเข้าไปส่องเรื่อยๆเจอราคาถูกให้กรี้ดตลอดๆไม่ต้องแย่งจองให้เหนื่อย ปกติไปฮ่องกงเค้าจะไปหาซื้อซิมเอาที่นู่น ราคาซิมสำหรับใช้ทั้งเน็ตและโทรสามวันจะอยู่ที่ประมาณ 500-800 บาท แต่ความลำบากคือเราต้องหาคนที่ Activate ซิมให้ ต้องไปตามช็อปมือถือ ยิ่งเค้าจะเอาซิมใส่ไอแพดแล้วยิ่งวุ่นวายใหญ่เพราะต้อง Activate ผ่านมือถือ สมัครโปรอินเตอร์เน็ตให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยย้ายซิมมาใส่ในไอแพด แต่รอบนี้ทาง AIS ใจดีให้ Sim2Fly เป็นซิมสำหรับเดินทางมาลองใช้ ในเรื่องของราคายอมรับว่าสูงกว่าเราไปซื้อในฮ่องกงซักหน่อย แต่บอกเลยว่าเรื่องความสะดวกนั้นกินขาด!!! ถึงฮ่องกงปุ๊บมีเน็ตใช้ปั๊บ Sim2Fly เป็นซิมโรมมิ่งแบบเติมเงิน สามารถหาซื้อได้ตาม AIS Shop ทั่วประเทศ รวมถึง 7-11 และ FamilyMart ราคารู้สึกจะ 199 บาท ก็ทำการเติมเงินแบบซิมทั่วไป ไม่ได้ขูดบัตรเติมเงินนานได้ฟิลจริงๆ555 บัตรเติมเงินสามารถเติมได้ทั้งที่ไทย หรือที่ประเทศที่เราไปก็ได้กดแบบเดียวกัน *120*ตามด้วยรหัสบัตรเติมเงินแล้วกด# ซิมนี้ใช้ได้หลายประเทศทั่วโลกโดยเมื่อเราจะนำไปใช้ที่ประเทศใด ก็เข้าไปเช็คโปรได้ที่ //www.ais.co.th/roaming/sim2fly/package1.html และทำการกดสมัครโปรโมชั่นตามประเทศนั้นๆ สำหรับฮ่องกงจะอยู่ที่ Unlimited Data Roaming เล่นเน็ตไม่อั้นวันละ 299 บาท ***แต่มี Vat อีก 7% ตกวันละ 319.93 บาท แนะนำให้เติมเงินเผื่อไปซักนิดฮะ ความสะดวกคือสามารถสมัครเล่นเน็ตเป็นวันๆไปได้วันไหนไม่ใช้ก็ไม่ต้องสมัครแฟร์ดีนะ การสมัครจะนับตั้งแต่ 0 นาฬิกา สิ้นสุดเวลา 23.59 น. ของเวลาประเทศที่เราไป ใครที่กังวลว่าต้องเปลี่ยนเบอร์โทรจากเบอร์ที่ใช้ประจำก็สามารถตั้งโอนสายมาได้ มีวิธีสอนการโอนสายอยู่ในคู่มือของ Sim2Fly ค่า อัตราค่าโทรออก/รับสายนาทีละ 15 บาท และโทรออกง่ายยิ่งขึ้นไม่ต้องกดรหัสประเทศให้วุ่นวายด้วยการโหลดแอพ AIS Sim2Fly App มีทั้งใน Apple และ Andriod จ้า ได้นั่ง Hot Seat [Premium Seat] แถวหน้าสุดด้วยยืดขาได้เต็มที่ แถวที่ยืดขาได้แบบนี้มีแถว 1 , 12 ,14 ฮะ จ่ายเพิ่มตอนที่จอง 400 บาท มื้อเช้าบนเครื่องคือเซ็ตแพนเค้ก กับ เซ็ตเดนนิชไส้กรอกไก่คอมโบ เสิร์ฟพร้อมน้ำแร่แก้วเล็ก สั่งอาหารล่วงหน้าพร้อมตั๋วเครื่องบิน แบบนี้ราคาเซ็ตละ 90 บาท ถ้าสั่งบนเครื่องราคาจะสูงกว่านี้แนะนำให้จองล่วงหน้าโลด เจ้คอนเฟิร์มว่าอาหารบนเครื่องแอร์เอเชียอร่อยล้ำจริงๆโดยเฉพาะอาหารไทย! เวลาผ่านไปไวยังกะโกหก 555 แป๊บเดียวเราก็มาถึงฮ่องกงกันแล้ว ไทย-ฮ่องกงใช้เวลาบินแค่ 3 ชั่วโมงนิดๆ ถึงฮ่องกงแล้วอย่าลืม ปรับเวลาให้เร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ด้วยนะฮะ อากาศช่วงที่เค้าไปกำลังสบายๆเลยประมาณ 20 องศานิดๆ ก่อนมาสามารถเช็คอุณภูมิล่วงหน้าเป็นรายเดือนได้เลยที่ โปรแกรมแรกคือนั่งรถบัสจากสนามบินมาที่พักกันก่อนเลย แน่นอนว่าเป็นทริปดิสนีย์แลนด์แบบจัดเต็มเราจึงพักกันที่ Disneys Hollywood Hotel เย้ๆ เป็นโรงแรมในโซนของดิสนีย์แลนด์เลย ตื่นเต้นนะนี่เพิ่งเคยมาพักที่นี่ครั้งแรก สองรอบแรกที่มาเองเค้าพักข้างนอก โรงแรมที่นี่จะมีสองแห่ง อีกแห่งนึงคือ Disneyland Hotel สไตล์จะฟรุ้งฟริ้งเจ้าหญิงๆกว่านี้ จากสนามบินมาโรงแรมใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึงโรงแรมประมาณเที่ยงครึ่ง ยังไม่ได้เวลาเช็คอินแต่โชคดีห้องว่างพอดีเลยได้ขึ้นห้องเลย เปิดห้องพักมาจ๊ะเอ๋กับพี่มิกกี้ ห้องที่เค้าพักคือห้อง Deluxe Room แบบ Sea View เป็นห้องใหญ่ 2 เตียงควีนไซส์พักได้ 4 คนเลยแต่นอนกะพี่ตูนน์สองคนแผ่อาณาจักรกันได้เต็มที่ ราคาห้องพักที่นี่จะประมาณคืนละ 2,500-3,000 HKD (10,000-12,000 บาท) ซึ่งอีกโรงแรมจะราคาสูงกว่านี้หน่อยและจองเต็มยาวข้ามปี ใครอยากพักที่นี่แพลนจองล่วงหน้านานหน่อยเน่อ สามารถเข้าไปเช็คห้องว่างและราคา ได้ตามลิงค์นี้เลยจ้า>>> //park.hongkongdisneyland.com/hkdl บรรยากาศในห้องกว้างขวางมีอ่างอาบน้ำด้วย ชอบเครื่องใช้ในห้องน้ำมากกกกโดยเฉพาะขวดแชมพูกะสบู่อาบน้ำ ฝาเป็นหัวมิกกี้แถมยังเป็นของแบรนด์ H2O ด้วยนะฮร้า ของใช้เหล่านี้สามารถขนกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกได้น้า สำหรับหัวปลั๊กฮ่องกงขาจะคนละแบบกับบ้านเราแต่มิต้องกังวล ทางโรงแรมเค้ามีหัว Universal Plug ให้ห้องละอัน ถ้าไม่พอสามารถโทรศัพท์ที่ห้องกด 0 ขอเพิ่มได้ฮะ อย่าลงไปขอที่เคาท์เตอร์ด้านล่างนะเพราะเค้าทำแล้วต้องโทรขอเอาเท่านั้น 555 มื้อเที่ยงขึ้นรถย้ายมาหม่ำที่ Disneyland Hotel ที่อยู่ติดกัน ณ ห้องอาหารจีน Crystal Lotus อาหารคาวสไตล์จีนมีข้าวผัด ผัดผัก ต้มหัวไชเท้ารูปมิกกิ้ใส่หอยเชลล์ ที่เค้าเลิฟสุดคือหมูแดง มาฮ่องกงทุกครั้งฟินทุกครั้งหมูแดงเค้าจะฉ่ำๆนิ่มๆไม่แห้งแบบบ้านเรา สิ่งที่เราจะต้องเจอทุกมื้อเมื่ออยู่ที่นี่คือหน้ามิกกี้และผองเพื่อน อิอิ ซาลาเปาไส้ต่างๆจะมาในรูปแบบตัวการ์ตูน แป้งอาจจะแข็งไปนิดแต่หน้าตาชนะเลิศ ส่วนของหวานที่รู้สึกว่าเก๋คือลูกแพรจีนต้มน้ำเชื่อมมาทั้งลูกเค้าบอกบำรุงผิวดีนักแล แอบเดินชมเดินย่อยใน Disneyland Hotel สักนิด อูยยยสวยอลังการสไตล์เจ้าหญิงจริงๆ หม่ำเรียบร้อยพลังงานเต็มขีดพร้อมลุยดิสนีย์แลนด์ละจ้า ทีมเราทีมใหญ่มีทั้ง พี่ๆจากนิตยสารชั้นนำ , พี่เอจาก AirAsia , Family Blogger , Fashion Blogger , Travel Blogger , สองสาว Beauty Blogger หมูและพี่ตูนน์ และขาดไม่ได้ป้าไก่และลุงเด้ง บอกเลยว่าเป็นทริปที่สนุกมากเพราะทุกคนในทริปอัธยาศัยดีเป็นกันเองสุดๆ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนและมีความสุขมากๆที่ได้มาร่วมทริปกันในครั้งนี้นะค้า --------------------------------------------------------------------------- ราคาบัตรเข้าสวนสนุก Hong Kong Disneyland บัตรเข้าสวนสนุกแบบ 1 วัน รวมเครื่องเล่นทุกอย่าง บัตรสำหรับผู้ใหญ่ 1,881 บาท บัตรสำหรับเด็ก (อายุ 3-11 ปี) 1,319 บาท บัตรผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 418 บาท บัตรเข้าสวนสนุกแบบ 2 วัน รวมเครื่องเล่นทุกอย่าง บัตรสำหรับผู้ใหญ่ 2,446 บาท บัตรสำหรับเด็ก (อายุ 3-11 ปี) 1,735 บาท บัตรผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 711 บาท --------------------------------------------------------------------------- บัตรเข้าสวนสนุกจะเป็นรูปหน้าคาแรกเตอร์การ์ตูนต่างๆ อย่าลืมเอามาถือถ่ายรูปกันน้าน่ารักดี วางตำแหน่งให้พอดีกับหน้าเรา แชะ! เข้ามาถึงได้จังหวะพอดิบพอดีกับ Flight of Fantasy Parade ณ ลานถนนตรงกลาง Main Street USA พาเหรดจะแสดงตอน 15.15 - 16.00 น. แนะนำให้มาจับจองหาที่นั่งกันก่อนเวลาสักนิดจะได้ชมแบบชัดๆเต็มๆตาฮะ เปิดฉากมาด้วยดัมโบ้ช้างน้อยหูบิ๊กเบิ้ม ขบวนพี่มิกกี้สีสันคัลเลอร์ฟูลมาก ขบวนเจ้าหญิง.........สวยมว๊ากกกกกกกกอินเนอร์มาเต็มทุกคน ทีมหมีพูห์และทีมทอยสตรอรี่ชอบตุ๊กตาทหารมากพี่เค้าเล่นสมจริงฝุดๆ ไฮไลท์อยู่ตรงนี้! มีโชว์โอลาฟจาก Frozen เย้ยยยมิช่าย เด็กน้อยแต่งตัวเป็นโอลาฟน่ารักโฮกกกกกเข้าไปขอถ่ายรูปมาฝากกัน อิอิ ดูพาเหรดจบได้เวลาไปบุกปราสาทกันเย้! ปราสาทที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์จำลองมาจากปราสาทออโรร่าหรือเจ้าหญิงนิทราฮับ ไฮไลท์ของทริปนี้คือการมาพบกับราชินีเอลซ่าและเจ้าหญิงแอนนา แห่ง Frozen ซึ่งเค้าเพิ่งมาที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์วันแรกที่เค้าไป 13 พฤศจิ ต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์ที่กำลังจามาถึงนั่นเอง เด็กๆกรี้ดกร้าดกันมากต่อแถว Meet & Greet กันยาวเฟื้อยเลย อยากจิไปถ่ายบ้างแต่วันนี้ต้องยอมคนเยอะมากจริงจังพรุ่งนี้จะรีบบึ่งมามิให้พลาดเลย! ไม่ได้ถ่ายคู่ไม่เป็นไรมากินเอลซ่าและแอนนาแทนละกัน 555 ที่โซนร้านอาหาร Royal Banquet Hall ตรงข้ามกะม้าหมุนหลังปราสาทเลย เป็นเมนูพิเศษในธีม Frozen ที่รับประกันว่าต้องสั่งมาเพื่อถ่ายรูปก่อนกิน อิอิ คัพเค้กเอลซ่า & แอนนา (188บาท) และขนมโอลาฟลามิงตั้น รสเปรี้ยวๆแบบชีสเค้ก(188บาท) ในมือป้าไก่และลุงเด้งคือ ขนมโอลาฟ ลามิเก้อ (134บาท) เค้าว่าเป็นเมอร์แรงก์หวานๆ กินหมดอันได้นี่อิ่มเลยทีเดียว ช่วงค่ำปล่อยฟรีไทม์ก่อนจะไปหม่ำมื้อเย็นด้วยกัน เค้ากับพี่ตูนน์เลยขอแว่บเข้าไปในเมืองแป๊บนึง นั่งรถไฟ MTR จากสถานี Disneyland ไปสองสถานีลง Tung Chung Station ราคาขาละ 14HKD (60บาท)เพื่อไป City Gate Outlet ตรงที่ขึ้นกระเช้านอนปิงนั่นแล อันนี้ขอเล่าความง่าวของตัวเองนิดนึงเพื่อเป็นอุทาหรณ์ 555 คือที่บึ่งกันออกมาเพราะจะไปหาซื้อปลั๊กรางเนื่องจากขนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาเพียบ แต่ลืมเอาปลั๊กรางมากช่องเสียบชาร์จไม่เพียงพอแน่นอน แวะดูในสนามบินดอนเมืองแล้วก็ไม่มี เลยตกลงกันว่ามาหาเอาที่ฮ่องกงละกันเนอะ สรุปพอไปถึงห้างเห็นปลั๊กรางปุ๊บผมที่จี๊ดเลยครับ!!! ก็ปลั๊กรางฮ่องกงช่องปลั๊กมันก็ต้องเป็นแบบฮ่องกงเด๊อินาง ถ้าจะเอาปลั๊กรางก็ต้องสอยหัวแปลงอีก ฮ่วย! คือลืมคิดไปสนิทเบย นี่แหละหนาไม่เจอกะตัวคิดไม่ถึงจริงๆ 555 เตือนไว้เลยนะจ๊ะไปเที่ยวไหน อย่าลืมพกปลั๊กรางเด็ดขาด!!! สรุปก็สลับชาร์จเอามันก็พออยู่นะเพราะในห้องมีรูปลั๊กอยู่ประมาณสี่รู แบ่งกะพี่ตูนน์คนละสองเค้าซื้อหัวแปลงปลั๊กเพิ่มหนึ่งสลับๆชาร์จเอา แหะๆ แต่ออกมาก็มิเสียเที่ยวนะฮร้าลงไปช้อปขนมที่ชั้นล่าง City Gate อย่างเมามันส์ ได้เวลานัดตอนสองทุ่มนิดๆก็บึ่งกลับมาที่โรงแรมที่เราพัก เพื่อหม่ำมื้อเย็นที่ห้องอาหาร Chef Mickey เดินเข้าโรงแรมมาเลี้ยวขวาไปทางร้านขายของที่ระลึกฮะ จากสถานี MTR ตรงดิสนีย์แลนด์จะมีรถ Shuttle Bus เข้าโรงแรมฟรี รถจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที คือระยะทางพอเดินไหวแต่ขึ้นรถสบายกว่าแหะๆ ราคาอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ของห้องอาหาร ราคาจะแตกต่างกันตามแต่ละมื้อและแต่ละวัน หน่วยเงิน HKD / HK$ หรือ Hong Kong Dollar เวลาคิดเป็นเงินไทยจะคูณ 4 นิดๆ ตอนที่เค้าไปคือเรท 4.24 เค้าทานวันธรรมดารอบ 20:00-22:00 น. ราคาอยู่ที่คนละ 358HKD = 1,518 บาท จ้า เทียบราคาหัวละพันห้าถามว่าคุ้มไหม เค้าว่าโอเคเลยนะคือมีอาหารให้เลือกเยอะมากกกกก มีอาหารหลายสัญชาติ จีน ญี่ปุ่น แขก ฝรั่ง ฯลฯ นี่ฟาดปลาดิบอย่างเดียวก็ฟินละต้องรีบตักหน่อยแซลมอนนี่เติมหายๆ จุดขายมันอยู่ตรงเน้ๆปูวววววววก้ามโตหญ๊ายหญ่ายยย จำไม่ได้ว่าซัดไปเท่าไหร่แต่มั่นใจว่าขากุดไปหลายตัว 555 นี่ถ้ามารอบหน้าพูดเลยว่าเจ้จะพกน้ำจิ้มซีฟู้ดมางานนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม! วันที่เค้าไปปูเนื้อแน่นดีแต่ปูแบบนี้เนื้อจะหยาบกว่าปูบ้านเรา เค้าว่าอร่อยไปคนละแบบแล้วแต่คนชอบ แต่ซีฟู้ดเค้ากินแบบเย็นๆไม่อุ่นมาแบบบ้านเราเน่อ ปิดท้ายด้วยของหวาน.....เดินวนกะผลไม้ฟองดูช็อคโกแล็ตซะหลายรอบอาหย่อย เค้กก็มีให้เลือกหลากหลายดี จบด้วยไอติมซอฟต์เสิร์ฟในโคนวาฟเฟิล โปะเครื่องได้เองตามอัธยาศัย เด็กๆแลจะสนุกกับโซนของหวานกันน่าดู อิ่มแปร้แล่กันไปเลยทีเดียวเป็นมื้อเย็นที่จัดเต็มฝุดๆ ไม่อยากจะบอกว่าอยู่จนเค้าปิด555 หมดพลังกันไปสำหรับวันแรก ขึ้นห้องพักเปิดทีวีดูการ์ตูน แต่ยังไม่ทิ้งความเป็นบิวตี้นะฮร้า นั่งมาส์กหน้าแช่เช้าในน้ำอุ่น เฮร่อออฟิน เคล็ด(ไม่)ลับนี้อยากแชร์ต่อมาก เวลามาเที่ยวแนะนำให้พกมาส์กแผ่นๆมาด้วย สามารถมาส์กต่อเนื่องได้ทุกวันที่เที่ยวเลยเพราะผิวเราจะเหนื่อย ทั้งจากการเดินทางและสภาพอากาศที่เปลี่ยน การมาส์กจะช่วยให้ผิวเฟรชไวขึ้น ส่วนปัญหามาเที่ยวเดินเยอะๆแล้วเมื่อยล้าการแช่น้ำอุ่นจะช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนดีขึ้น อาการเมื่อยล้าจะทุเลาลงแบบชัดเจนทำให้วันต่อไปสามารถเดินตะลุยต่อได้อย่างเต็มที่ฮับ ม๊อร์นิ่ง....อรุณสวัสดิ์เช้าที่สอง ณ ดิสนีย์แลนด์จ้า เช้านี้นั่งรถไปหม่ำข้าวกันที่ Disneyland Hotel ณ ห้องอาหาร Enchanted Garden เป็นแบบบุฟเฟต์นานาชาติ อาหารเยอะดี บรรยากาศห้องอาหารจัดน่ารักมั่กๆ เช้านี้ขอจัดแบบอาหารฝรั่ง....เอาจริงๆนี่แค่จานแรก จานอื่นก็ซัดไปอีกหลายสัญชาติโดยเฉพาะสุกี้ยากี้เนื้อสไตล์ญี่ปุ่น เติมหลายรอบเลย อิอิ ปิดท้ายด้วยแพนเค้กมิกกี้ บอกแล้วอยู่นี่ได้กินมิกกี้ทุกมื้อ ไฮไลท์เด็ดที่สุดของห้องอาหารนี้ที่ห้ามพลาด ก็คือการถ่ายรูปกับคาแรกเตอร์แกงค์พี่มิกกี้ วู๊วววว ระหว่างนั่งหม่ำเพลินๆพี่มิกกี้จะเดินมาทักทายตามโต๊ะ เราก็สามารถแชะภาพเป็นที่ระลึกได้เลย ขอลายเซ็นต์ได้ด้วยน้า ได้ถ่ายครบแกงค์ มิกกี้ มินนี่ กู๊ฟฟี่ พลูโต จริงๆจะมีโดนัลด์กะเดซี่ด้วย แต่เค้าจะสลับวันกันฮับ นี่อาจเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้เรากินอาหารเช้าได้น้อยลง เพราะจะมัวแต่รอให้คาแรกเตอร์เดินมาที่โต๊ะเรา555 ใกล้ๆห้องอาหารจะมีร้านแต่งตัวแบบเจ้าหญิง "Bibbidi Bobbidi Boutique" ให้เด็กน้อยได้แปลงกายเป็นเจ้าหญิงที่ชอบ เสียดายไม่มีไซส์ผู้ใหญ่ไม่งั้นจัดละเนี่ย กรั่กๆ ด้านนอกโรงแรมคือสวน THE REAL ENCHANTED GARDEN & MAZED GARDEN เป็นสวนที่จัดแบบเขาวงกตให้เด็กๆออกมาวิ่งเล่นถ่ายรูปกันได้สนุกสนาน สวนอยู่ติดริมทะเลด้วยวิวดีอากาศเย็นสบายเดินเล่นเพลินเลย ล็อบบี้ด้านในตกแต่งด้วยต้นคริสมาสต์ต้นบะเริ่มได้บรรยากาศหน้าหนาวดีจัง วันนี้ได้บัตรลายน้องหมาสลิงกี้จากเรื่องทอยสตอรี่ ถือถ่ายกลายเป็นหมูหน้าหมา เอ๊ะ!ยังไง 555 ระหว่างวันจะมีโชว์เล็กๆเรื่อยๆนี่เดินมาถึงเจอวงโยฯ ที่มีเด็กน้อยยืนเป็นไวทยากร น่าร๊ากกกกก และภารกิจแรกของวันนี้ที่ไม่มีทางพลาดนั่นก็คือการถ่ายรูปกับเอลซ่าและแอนนา Mission Completed !!! เย้ๆ ไปเริ่มต่อคิวกันตอนประมาณ 10:45 น. รอเป็นคิวแรกๆเลยได้ถ่ายตอน 11.20 น. วันนี้ราชินีเอลซ่าคนละคนกะเมื่อวานนะ อิอิ จุดถ่ายรูปจะอยู่ตรงข้างร้านของฝากเดินผ่านซุ้มปราสาทเข้ามาเจอเลยจ้า จบภารกิจหลักก็เป็นช่วงฟรีไทม์ก่อนนัดหม่ำมื้อเที่ยง เค้าเลยชวนกันกับพี่ตูนน์ไปลุย Toy Story Land ซึ่งเป็นโซนที่เปิดเพิ่มทีหลังเมื่อปี 2011 ใครชอบถ่ายรูปจะลั้นลาสุดๆเพราะโซนนี้สีสันคัลเลอร์ฟูลสุดๆ เหมือนเราได้ถูกย่อส่วนมาอยู่ในสนามหลังบ้านของแอนดี้ เทียบกะของเล่นเราเหลือตัวกระจิ๊ดเดียว ของเล่นในโซนนี้มี "Slinky Dog Spin" อันนี้เค้ามิได้เล่นเพราะเป็นสไตล์เด็กน้อย ไม่อยากไปแย่งเด็กเล่น 555 เด็กๆชอบนะอันนี้แถวยาวเลย "RC Racer" ตัวนี้ตัวจี๊ดดดดเป็นเครื่องเล่นที่เค้าว่ามันส์เสียวไส้ที่ซู้ดของที่นี่ ลักษณะจะคล้ายเรือไวกิ้งแต่เป็นราง ส่วนที่สูงที่สุดจะตั้งฉาก 90 องศากันเลยทีเดียว แต่วิ่งไปกลับแค่ 4 รอบก็จบเกมส์แร้น เสียวแป๊บเดียวใครชอบความมันส์มิควรพลาด! มาครั้งนี้เล่นเครื่องนี้ซะคุ้มจัดไปสามรอบเต็มๆ แนะนำให้นั่งแถวหลังสุด เพราะเวลาขึ้นไปสุดแล้วพุ่งลงมามันได้ฟิลมว๊ากกกกก ดูหน้าอิเจ้จะรู้ได้ว่าเริงรื่นแค่ไหน เล่นรอบหลังๆไม่มีแล้วความกลัวมีแต่ความสะจายยย555 เครื่องเล่นสุดท้ายในโซนนี้คือ Toy Soldier Parachute Drop เค้าเล่นไปสองรอบชิลๆอันนี้เหมือนขึ้นไปชมวิวเพลินๆ เด็กๆเล่นได้ขึ้นไปหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก แต่ใครกลัวความสูงอันนี้อาจจะไม่โอเคเน่อ ก่อนออกจากโซนนี้อย่าลืมแวะช้อปในร้าน Andy's Toy Box ของโซนนี้น่ารักมากมายดูดเงินในกระเป๋าดีนักแล ไม่ได้มีแค่จากเรื่องทอยสตรอรี่เท่านั้น ของที่ระลึกจากเรื่องอื่นก็มีอีกเยอะเลย โดยเฉพาะ Monster University จะมีขายในโซนนี้เยอะสุดฮะ ------------------------------------------------------------------ บล็อคยาวมาแล้วเดี๋ยวจะโหลดกันมิรอด ***ภาพทั้งหมดในทริปนี้ถ่ายด้วยกล้อง Sony A5100 เลนส์คิท 16-50 ค่า thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 8 ธันวาคม 2557 เวลา:3:23:48 น.
ตามมาเที่ยวด้วยคนจ้ะ น่าสนุกและน่าไปเที่ยวมากเลยอ่า
โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ IP: 171.98.71.103 วันที่: 9 ธันวาคม 2557 เวลา:21:49:23 น.
|
บทความทั้งหมด
|