Review : เชียงรายอินเลิฟภาคจบ ไร่ชาฉุยฟง พระตำหนักดอยตุง แม่สาย พม่า ชเวดากองจำลอง ถนนคนเดิน <3 มาถึงภาคจบของทริปเชียงรายอินเลิฟของเค้า ใครยังไม่ได้อ่านภาคแรกและภาครีวิวโรงแรมคลิกไปอ่านได้ตามลิงค์ด้านล่างจ้า Review : เชียงรายอินเลิฟภาคแรก หอนาฬิกา วัดร่องขุ่น ไร่บุญรอด และพิพิธภัณฑ์บ้านดำจ้า <3 Review : Le Meridien Chiang Rai Resort <3 ตกหลุมรักรีสอร์ทสวยริมแม่น้ำกก เริ่มต้นกันด้วยวันที่ 3 แพลนหลักของวันนี้คือ "แม่สาย" หลังจากหม่ำมื้อเช้าในโรงแรมเรียบร้อยก็บึ่งรถออกไป แต่ก่อนจะถึงแวะสายจะขอเที่ยวรายทางไปด้วยฮับ เริ่มจากที่แรกได้แก่ "ไร่ชาฉุยฟง" ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่บ้านพญาไพร ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง ผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย ส่งให้แบรนด์ที่เราคุ้นกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น โออิชิ ลิปตัน ยูนิฟ ฯลฯ พื้นที่ใหญ่อลังการเป็นพันไร่ รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปชมในเว็ปเค้าได้ที่ //www.chouifongtea.com จ้า สาเหตุที่ไร่ชาแห่งนี้โด่งดังขึ้นมาก็เพราะ เป็นโลเคชั่นที่ถ่ายทำละครเรื่อง "มัจจุราชสีน้ำผึ้ง" ไร่พ่อเลี้ยงปัทที่พารจนาไฉนมาทรมานทรกรรมนั่นเอง อิอิ แต่เดี๋ยวนะ! ภาพประกอบมันใช่ไหม 555 เค้าไปถึงประมาณสิบเอ็ดโมงกว่าๆแต่มีฝนพรำๆ อากาศบนนั้นเลยเย็นชื่นใจเลย แอบหนาวนิดนึง มองไปไกลๆ ภาพวิวเขียวๆมองแล้วสบายตาเนอะ รจนาไฉนพาใครมาเก็บใบชา 555 ว่าแต่ตัวไหนคือรจนาไฉนเนี่ย??? มุ่งสู่จุดหมายต่อไป "พระตำหนักดอยตุง" เส้นทางที่ไปคดเคี้ยวใช้ได้แต่โค้งไม่รุนแรงเท่าเชียงใหม่จ้า นั่งดูวิวข้างทางไปเพลินๆบรรยากาศหลังฝนพรำดูสดชื๊น สดชื่น ไร่ชากับพระตำหนักดอยตุงห่างกัน 22 กม. และห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 60 กม. จ้า จุดเด่นของที่นี่คือความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาว ช่วงที่เค้าไปยังไม่ใช่หน้าหนาวซะทีเดียวแต่ดอกไม้ก็งามน้า สงสัยเพราะฝนโปรยปรายได้น้ำ เค้าได้ขึ้นไปชมในส่วนของพระตำหนักดอยตุง ซึ่งคิดค่าเข้าชมพระตำหนักรวมกับสวนแม่ฟ้าหลวงตกอยู่คนละ 180 บาท ก่อนขึ้นชมพระตำหนักต้องแต่กายให้เรียบร้อยก่อน โดยที่ทางขึ้นจะมีชุดให้นุ่งทับไม่เสียเงินจ้า แต่งออกมาสไตล์อ.เฉลิมชัยเป๊ะ อิอิ ขอบอกว่าทางขึ้นพระตำหนักเป็นทางเดินขึ้นเนินประมาณ 300 เมตร ไม่ได้ออกกำลังกายมานานเดินขึ้นไปถึงเล่นเอาเหนื่อยพอตัวเลย กลับมาวันรุ่งขึ้นมีอาการปวดขาด้วย แหะๆ สมน้ำหน้าไม่ยอมออกกำลังกายดีนัก พระตำหนักแห่งนี้ สมเด็จย่าสร้างขึ้นโดยใช้พระราชทรัพย์ส่วน เน้นประโยชน์ใช้สอย ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น ด้านในเข้าชมได้แต่ห้ามถ่ายรูป จากห้องโถงด้านในมองเห็นวิวเขาที่ด้านหลังเป็นประเทศพม่าด้วยอากาศดีสวยงามมากค่า วิวด้านหน้าพระตำหนักเห็นตัวเมืองเชียงราย ลงจากพระตำหนักมาหมดแรงหิวพอดี แวะทานข้าวที่ห้องอาหารดอยตุง ลักษณะเหมือนโรงอาหาร ดูป้ายราคาก็ปกติดีแต่ไหงสั่งมาทานมื้อนี้แพงสุดในทริปนี้เลยน๊อ คือเทียบปริมาณอาหารกะราคาแล้วแอบตกใจ ตามที่เห็นด้านบนเลยมีน้ำพริกหนุ่ม ไข่ต้ม หมูหวาน ข้าวเปล่าสองจาน สไปรท์กะชาเย็น หมดไปเกือบสี่ร้อยบาท !!! หมูช็อค อิ่มท้องไปแบบงงๆก็เดินเข้ามาชมในส่วนของสวนแม่ฟ้าหลวง เพราะซื้อตั๋วเอาไว้แล้วตอนที่เข้าพระตำหนัก ตอนเค้าไปเหมือนกำลังลงดอกไม้เพิ่มอยู่เลยยังดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่จ้า หรอมแหรมๆ ดอกอะไรใหญ่เท่าหน้า! ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นกุหลาบพันปีนะฮะ ดอกใหญ่จนก้านรับน้ำหนักไม่ไหวหัวทิ่มลงต้องเอาไม้ดามเกือบทุกดอกเลยใหญ่จริงอะไรจริง แดดเริ่มมาฟ้าเริ่มใสเย้ๆ แดดมาแล้วดูสวยขึ้นเยอะ แต่ร้อนขึ้นแยะเลย แหะๆ ได้เวลามุ่งสู่แม่สายกัน ทริปนี้เป็นทริปอินเตอร์เนชั่นแนลเพราะเราจะไปเยือนต่างแดนกัน 555 ไปเยือนประเทศเพื่อนบ้านพม่านั่นเอง ก่อนจะข้ามแดนต้องไปทำหนังสือผ่านแดนซะก่อน ณ ที่ว่างการอำเภอแม่สาย ใช้เพียงบัตรประชาชนเท่านั้นพาสปอร์ตไม่ต้อง มีค่าทำหนังสือผ่านแดนคนละ 30 บาท จะได้เป็นเอกสารปรินท์ไซส์เอสี่คนละใบแบบนี้จ้า มองเห็นซุ้มด้านหน้าแล้วผ่านซุ้มเข้าไปก็คือเขตแดนของประเทศพม่า เราสามารถนำรถข้ามไปได้แต่จะต้องทำเรื่องมาก่อนตั้งแต่ตอนทำหนังสือผ่านแดน เค้าไม่กะเอารถข้ามไปเลยไปวนหาที่จอดแบบงงๆ ได้ที่จอดของเอกชน 40 บาท ในตลาดสายลมจอย ที่จอดตรงนี้มีห้องน้ำด้วยแต่ค่าเข้าคนละ 5 บาทจ้า เดินผ่านจุดตรวจบัตรผ่านแดนดูให้หน้าตาตรงกันเป็นอันโอเค แค่นี้ก็ข้ามไปสู่ต่างประเทศได้แล้ว ฮี่ๆ ก่อนเข้าประเทศพม่า มีจ่ายค่าเข้าอีกสิบบาทให้กับทางฝั่งพม่านะฮะ ผ่านเข้าไปปุ๊บสิ่งแรกเลยที่จะโดนคือการมาตื๊อให้นั่งรถเช่าสามล้อ ซึ่งด้านหน้าๆด่านตรวจจะตื๊อได้เวิ่นเวอน่ารำคาญมาก เค้าจะพยายามบอกเราว่าเดินไปก็ไม่มีอะไรนั่งรถไปดีกว่า ซึ่งราคาจะบอกเราอยู่ที่ 250-300 บาท มีการบอกว่านี่ราคาพิเศษด้วยนะ แต่แนะนำว่าให้เดินข้ามสะพานเข้าไปนิด ทางขวามือจะมีรถแบบเดียวกันจอดเรียงๆอยู่ ตรงนี้ไม่ตื๊อไม่วุ่นวายจ้าเดินไปถามราคาได้เลยแค่ 150 บาทเท่านั้น!!! นั่งชมเมืองสบายๆแวะแหล่งท่องเที่ยวพอเป็นพิธี คนที่นี่พูดไทยกันหมดฮะมีทั้งคนไทยทั้งคนพม่า เงินที่จ่ายก็ใช้เงินบาทเราได้เลย นั่งรถชมเมือง บ้านเมืองเค้าอาคารบ้านช่องก็เหมือนเรานี่หล่ะ จุดแรกที่แวะไปคือวัด......จำชื่อวัดมิได้ แหะๆ อ่านก็ไม่ออก วัดแบบพม่าจะเน้นหลังคาสีทองอร่าม เวลาแดดสาดลงมาดูสวยอลังการงานสร้างมากเลย แต่ด้านในจะดูเรียบง่ายกว่าวัดบ้านเราไม่มีจิตกรรมฝาผนัง ช่วงที่เค้าไปมีคนมาถือศีลอยู่วัดกันเยอะเลย คงเป็นวัดที่เน้นพาคนไทยมาเยี่ยมชมจริงๆ ตู้บริจาคเขียนภาษาไทยชัดเจนอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร จุดที่สองที่แวะไปเค้าประทับใจนะสวยเลยหล่ะคือ "เจดีย์ชเวดากองจำลอง" ไซส์เล็กกว่าของจริงที่ย่างกุ้งเยอะอยู่ถ้าเค้าจำไม่ผิดประมาณ 3 เท่า เจดีย์เล็กรอบๆองค์จริงมี 108 แต่จำลองมี 24 เจดีย์ เชื่อว่าของจริงคงต้องอลังการมาก เพราะของจริงนี่เป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองของพม่าที่ห่อหุ้มด้วยทองกว่า 23 ตัน!!! แดดมาได้ฟ้าสีฟ้าตัดกับองค์เจดีย์สีทองอร่ามงามเนอะ แต่ขอบอกว่าร้อนแสบใช้ได้เลยเพราะต้องถอดรองเท้าเดินเท้าเปล่าจ้า จะมีที่ให้ฝากรองเท้าซึ่งตอนออกเพิ่งรู้คิดเงินด้วย คู่ละ บาท รอบเจดีย์จะมีให้ไหว้พระตามวันเกิด เค้าเกิดวันจันทร์เหมือนกันเลยไว้องค์เดียวกัน สัตว์นำโชคลาภเป็นเสือตรงกับปีเกิดพอดีด้วยบังเอิญจริง แวะไหว้พระเค้าบอกว่าพระที่นี่ศักดิ์สิทธิ์ ที่เรียงอยู่สามองค์ด้านบนคือองค์เทพทันใจ ขออะไรก็ได้ 1 ข้อ ชาวพม่าเชื่อกันว่าอธิษฐานแล้วจะสมปรารถนา ซึ่งก่อนมาเที่ยวเห็นแม่บ่นว่าไม่สบายตัวอาการวัยทองกำเริบเวียนหัวทั้งวัน เลยอธิษฐานให้อาการของแม่ดีขึ้น ก่อนออกจากพม่าโทรหาแม่ถามว่าวันนี้เป็นไงมั่ง แม่บอกเนี่ยอาการเวียนหัวเพิ่งหายเลย ดีขึ้นละ อันนี้ก็ไม่รู้จริงไหมแต่แม่ดีขึ้นเค้าก็ดีใจ ภาพคู่ด้านบนถ่ายโดยฝีมือสาวพม่าที่เค้าจะมาเดินกางร่มให้เรา พร้อมเล่าประวัตินิดๆหน่อยๆเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ ซึ่งพอชมครบโดยรอบแล้วเค้าจะมีการเสนอขายของที่ระลึกให้เราช่วยอุดหนุน แต่เค้าให้เป็นเงินสองสาวนี่ไปแทนไม่ได้เอาของที่ระลึก ให้ไปร้อยนึงเพราะสองสาวน่ารักดีพูดจาน่ารักไม่ฮาร์ดเซลล์ อิอิ วัดต่อมาหน้าตาไม่เหมือนกับที่เราคุ้นเคย ด้านหน้าวัดเขียนว่า "Union Of Myanmar Township Dhammayon Tachileik" ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระหยกขาว และพระสามมิติ องค์เล็กๆด้านล่าง ซึ่งไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหนสายตาของพระพุทธรูป จะเหมือนมองตามเราไปด้วย แต่เค้าไม่ได้เข้าไปชมใกล้ๆ เกรงใจชาวบ้านที่มาสวดมนต์กันอยู่เลยได้แค่ไหว้ห่างๆอยู่ด้านหลัง จริงๆโปรแกรมสุดท้ายจะมีการพาไปชมบ้านกระเหรี่ยงคอยาวด้วย ซึ่งต้องเสียค่าเข้าชม แต่เค้าไปช่วงเย็นใกล้ปิดละเลยไม่ได้แวะไป นั่งรถเที่ยวเพลินๆใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณ 50 นาทีจ้า ปิดท้ายด้วยการเดินชอปปิ้งในตลาดท่าขี้เหล็ก ซึ่งก็คือตลาดฝั่งพม่า ถ้าฝั่งไทยก็คือตลาดแม่สายจ้า เห็นเค้าว่าของฝั่งนี้ถูกกว่าฝั่งแม่สายนิดหน่อย จริงเปล่าไม่รู้เพราะของที่ขายส่วนใหญ่เป็นของก๊อปแบรนด์ ซึ่งเค้าไม่ใช่แนวเค้าเลยมิได้สำรวจตลาดเดินเล่นเอาให้รู้ว่าเป็นไงอ่าฮับ เกือบห้าโมงได้เวลากลับฝั่งไทยแล้วบ๊าย บาย เมียนมาร์ จากแม่สายกลับไปตัวเมืองเชียงรายประมาณ 60 กิโล เลยแวะซื้อผลไม้ตรงแม่สายพร้อมเกาลัดคั่วใหม่ๆไว้หม่ำระหว่างทาง ผลไม้ที่นี่ราคาโอเคเลยมีทั้ง พีช พลับ ลูกไหน พุทราของโปรดคุณแฟนทั้งนั้น ส่วนเกาลัดเค้าว่าราคาถูกดีหอมอร่อยลูกใหญ่ด้วยโลละร้อยเดียว กลับมาถึงเชียงรายหัวค่ำๆพอดีได้เวลามื้อเย็น เย็นนี้ทานดินเนอร์กันที่ "ร้านข้าวต้มมีนา" ตั้งอยู่บนถนนบรรพปราการ ขับจากหอนาฬิกามาทางวัดศรีเกิดค่ะ ร้านนี้ไม่มีเมนูต้องเดินไปสั่งที่หน้าร้านก่อนแล้วค่อยเดินไปเลือกหาที่นั่ง เค้าสั่งมาทั้งหมดสี่อย่าง คือ ยอดมะระผัดน้ำมันหอย หมูแดงเต้าหู้ เห็ดหูหนูผัดไข่กะพริกหนุ่ม และต้มจืดปลาเค็มเต้าหู้หมูสับ ขอบอกว่ารสชาติดีกลมกล่อมทุกสิ่งอย่าง รสชาติหมูแดงกะเต้าหู้คล้ายๆขาหมู ส่วนเห็ดหูหนูผัดกินเพลินๆไว้จะลองทำบ้าง ฮี่ๆ คิดเงินมามีข้าวสวยสองโค้กอีกหนึ่งรวมแล้วแค่ 265 บาทเท่านั้นราคาน่าคบมั่กๆ เป็นร้านข้าวต้มเก๋ๆที่มี wifi ให้เล่นฟรีด้วย 555 ปิดท้ายดินเนอร์ด้วยการหาของหวานล้างปาก ขับมาทานร้านนี้ตรงห้าแยกพ่อขุนเพราะขับผ่านเมื่อวันก่อน เห็นมีเขียนว่าทับทิมกรอบของโปรดเค้าเลยอยากลอง อิอิ สั่งไอติมกะทิทับทิมกรอบ ทับทิมดันหมด ฮือออออ เลยเอาเป็นไอติมกะทิรวมมิตรมาแทน ตัวไอติมเข้มข้นหวานมันเลยเนื้อแบบไอติมโบราณละลายไวหน่อย ส่วนเครื่องก็เป็นของเชื่อมทั่วไปถ้าได้ทับทิมกรอบคงฟินกว่านี้ ราคาถ้วยละ 20 บาทจ้า อิ่มอร่อยกลับโรงแรมนอนได้ วันสุดท้ายในเชียงรายเริ่มต้นแบบชิลๆด้วยการทำสปาในโรงแรม รายละเอียดการทำสปาของเค้าอ่านได้ในลิงค์ด้านล่างนี้ฮับ Review : Le Meridien Chiang Rai Resort <3 ตกหลุมรักรีสอร์ทสวยริมแม่น้ำกก ชิลกะสปาเกือบถึงบ่ายสี่ก็จรลีออกจากโรงแรมมาหามื้อก้ำกึ่งทานกัน 555 จะมื้อเที่ยงก็ไม่ใช่ จะมื้อเย็นก็ไม่เชิง โดยทานกันที่ร้านอาหารพื้นเมือง "สลุงคำ" จ้า ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินติดกับโรงเรียนสันติวิทยาคมไม่ไกลจากห้าแยกพ่อขุน สั่งมาลองทั้งหมด 4 เมนู ได้แก่ วุ้นเส้นผัดไข่เค็มดิบกุ้งสด<<<เด็ดมากกกลมกล่อมเค้าปลื้ม แกงเผ็ดไก่บ้านยอดมะพร้าว<<<อันนี้เหมือนแกงกะทิปกติไม่เผ็ดง่าแต่ก็อร่อยดี น้ำพริกเผากุ้งไข่ต้ม<<<รสชาติดีค่ะแต่น้ำมันพริกเยอะไปนิดจะเอือมง่ายหม่ำๆกะผัก สุดท้ายคืออกเป็ดรมควัน<<<เฉยๆแฮะไม่มีน้ำจิ้มเค้าเลยขอน้ำจิ้มแจ่วมาจิ้มค่อยมีรสชาติหน่อย สรุปอาหารรวมๆรสชาติดีเลยราคารวมข้าวและน้ำมื้อนี้ 615 บาทจ้า ถือว่าไม่แพงเทียบกับรสชาติถูกปากและปริมาณต่อจานที่ให้เยอะจริงเล่นเอาจุกเลย อิอิ เหลือเวลาอีกพักใหญ่ก่อนขึ้นเครื่องกลับเลยแวะไปถนนคนเดินเชียงราย ณ ถนนธนาลัย หรือ "กาดเจียงฮายรำลึก" ซึ่งจะมีทุกวันเสาร์ตั้งแต่ห้าโมงเย็นยันเที่ยงคืน เค้าไปตอนห้าโมงครึ่งด้วยความที่ฝนเพิ่งตกไปร้านรวงเลยเพิ่งเริ่มตั้งโหรงเหรงเลย เสียดายมากเพราะได้ยินแต่คนชมว่าถนนคนเดินที่นี่แจ่มยิ่งกว่าเชียงใหม่ ของที่ขายเป็นของพื้นเมืองจริงๆ หลากหลายกว่า ไว้โอกาสหน้าจะมาแอ่วใหม่นะเจ้า เดินวนไปวนมาได้ของหวานล้างปากเป็นไอติมจิ๋วป้าต๋อยเจ็ดยอด จิ๋วจริงๆ 6 อัน 20 บาท น่ารักรสชาติอร่อยด้วยจัดมาเลย 6 รส ง่ำๆ ไม่มีที่ไปเลยตกลงใจไปสนามบินนั่งรอสบายๆละกัน พร้อมกับเสบียงที่ได้มาจากกาดเจียงฮายรำลึกอีกหนึ่งอย่าง คือ "ข้าวหลาม" ขอชมเลยว่าคนเชียงรายนึ่งข้าวเหนียวอร่อยมว๊ากกกก คือข้าวนุ่มหนึบกำลังดี ติดใจตั้งแต่ตอนซื้อข้าวเหนียวหมูทานที่หน้าวัดร่องขุ่น ข้าวหลามของที่นี่อร่อยเค้าชอบรสชาติกลมกล่อมหวานน้อยๆ ไม่มันกะทิมากไปไม่มันเยิ้ม เลิฟเลย ทานระหว่างรอเครื่องมาสวยๆ 555 สมชื่อบล็อคหมูน้อยมากๆปิดท้ายทริปนี้ด้วยภาพของกิน กับของว่างบนเครื่องการบินไทย น้ำผลไม้รวมของโปรด คู่กับพายไส้หมูหรือไก่ยอนี่หล่ะเค้าไม่แน่ใจอร่อยดีฮับ ------------------------------------------------------------------------- จบทริปเชียงรายอินเลิฟอย่างสวยงาม อิ่มแปร้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจ แนะนำเลยว่าให้ไปเที่ยวเชียงรายกันสักครั้ง แล้วจะติดใจในความเรียบง่าย การดำเนินชีวิตแบบเนิบๆ ที่อาจจะเนิบไปนิดสำหรับการขับรถบนท้องถนน 555 แต่เค้าว่าก็เป็นเสน่ห์ที่น่ารักดีควรมาสัมผัสซักครั้ง ขอบคุณทุกคนที่ตามมาเที่ยวด้วยกัน แล้วเจอกันทริปหน้า บ๊าย บายค่า อ่านครบสามตอนแล้วก็อยากไปเที่ยวเดี๋ยวนี้เลย
โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 7 ตุลาคม 2556 เวลา:14:24:55 น.
มาคราวหน้าไม่ควรพลาดไอติมลุงชมนะคะ
โดย: chompu IP: 118.172.84.157 วันที่: 7 ตุลาคม 2556 เวลา:14:46:42 น.
อยากไปเที่ยวไร่ชาฉุยฟงบ้างค่าาา สวยมากๆๆ:))
โดย: kikujungna_Minkky9 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2556 เวลา:22:09:29 น.
สัมผัสธรรมชาติ กับ บรรยากาศเมืองเหนือ อันบริสุทธิ์ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
วันหยุดสุดพิเศษ กับ คนพิเศษของคุณ เชียงรายตอบโจทย์ความต้องการของวันพักผ่อนสบายๆ ได้เป็นอย่างดี แวะชมความงามของสถาปัตยกรรมพระอุโบสถปูนปั้นขาวของวัดร่องขุนที่เลื่องชื่อ ดูด้วยตาสัมผัสด้วยมือของท่านเองกับศิลปะชิ้นเอกของเมืองไทย จากวัดร่องขุน เดินทางต่ออีกนิดเก็บภาพบรรยากาศดีๆ กับธรรมชาติที่ลงตัว กับ ไร่บุญรอด ก่อนเข้าแม่สาย แวะชมเก็บภาพบรรยากาศ กับ ไร่ชาฉุยฟงผู้ผลิตใบชาที่ใหญ่ที่สุดในเชียงราย ได้ภาพสวยๆ แล้วแวะเที่ยวชมพระตำหนักดอยตุง พบกับความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาวที่สวยสด ตระการตา ถึงเวลาที่รอคอยก่อนถึงจุดผ่านแดนประเทศพม่า แวะนมัสการพระธาตุดอยเวา (พระธาตุเลื่องชื่อ อ.แม่สาย) เอาใจนักช็อปกับตลาดแม่สาย จ.เชียงราย แค่นั้นไม่พอ นักช็อปเดินทางไม่ถึง 5 นาที สามารถช็อปได้จุใจ กับตลาดท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า พบกับสินค้าแบรนด์เนม มากมายหลายแบบ ข้ามฝั่งมาพม่าทั้งที อย่าพลาดที่จะแวะนมัสการ เจดีย์ชเวดากอง (องค์จำลอง) เจดีย์ที่ชาวพม่าเคารพนับถือ รู้สึกเหนื่อยเมื่อยล่า กับการมาแม่สายครั้งนี้ ให้เราดุแลคุณ Golden Triangle โรงแรมระดับ 4 ดาวที่พร้อมบริการคุณกับสิ่งอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชม. เต็มอิ่ม กับ อาหารอร่อย ที่ Good view ร้านอาหารที่มีจุดชมวิวที่สวยที่สุด ในยามค่ำคืน เอาใจนักเล่น กับ คาสิโนรูปแบบครบวงจรกับ 888pointcasinoclub ที่เปิดให้คุณเล่นตลอด 24 ชม. สนใจสำรองห้องพัก ได้ที่ ID:88point หรือ //www.888point.com ให้เราดุแลคุณในวันพิเศษของคุณ โดย: 888point IP: 61.19.32.180 วันที่: 2 เมษายน 2558 เวลา:14:36:20 น.
มนต์เสนห์ของอำเภอเมืองท่าขี้เหล็กติดกับอำเภอแม่สายเหนือสุดยอดแดนสยาม โดยมีแม่น้ำสายเป็นพรมแดน มีสะพานเชื่อมเมืองทั้งสองเข้าด้วยกัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวตลอดท่าล้อ ที่มีสินค้าแบรนด์แนม ราคาสบายกระเป๋าให้เลือกช๊อปมากมาย และสามารถเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคล อาทิ เจดีย์ชเวดากอง (องค์จำลองจากย่างกุ้ง)บนยอดสุดของพระเจดีย์มีเพชรอยู่5,448 เม็ด เพชรม็ดใหญ่ 76 กระรัตและทับทิม 2,317เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอท่าขี้เหล็ก , เข้าสักการะวัดพระธาตุแมลงป่อง (ดอยเวา)ที่มีความเก่าแก่เป็นรองวัดพระธาตุดอยตุง ,และเข้าสักการะ วัดพระหยกที่ด้านในมี พระพุทธรูปสามมิติและพระหยกขาว และสถานที่ท่องเทียว ตามรอยละครดัง ไร่ชาฉุยฟง ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่, ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมันโดยการก่อตั้ง ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเป็นแหล่งความรู้และผลิตน้ำมันจากเมล็ดชาและ อุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนที่มีสระน้ำเป็นสีมรกตและสถานที่ท่องที่ยวอีกมากมายขออำเภอท่าขี้เหล็ก และที่พลาดไม่ได้สถานที่พักผ่อน สำรับคนอยากรวย //www.888point.com (88 Point Club & Casino) ที่ตั้งโดดเด่นที่สุดในอำเภอท่าขี้เหล็กมี สิ่งอำนวยความสดวกครบครัน อาหาร,เครื่องดื่ม และ รถรับส่ง ฟรี พร้อมด้วยคลับคาสิโนครบวงจร อาทิ บาคาร่า , รูเล็ต ,ไฮโล, เครื่องเล่นเกมส์สล็อต และความสนุกอื่นๆอีกมากมาย พร้อมกับร้านอาหารGood View ที่สามรถชมวิวทิวทัศน์ของ สองประเทศและเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของอำเภอเมืองท่าขี้เหล็กรอให้คุณมาสัมผัสแล้ววันนี้ที่ อำเภอท่าขี้เหล็ก.
โดย: ฉุยฟง IP: 61.19.32.180 วันที่: 2 เมษายน 2558 เวลา:15:34:55 น.
|
บทความทั้งหมด
|
อิ่มทั้งภาพธรรมชาติ อาหาร วัฒนธรรม
พร้อมภาพสวยงามของเจ้าของบล๊อคค่ะ