สิบอย่าในบอร์ดหุ้น(2)
6) อย่าเชื่อตามที่เซียนบอก
อ้าวเมื่อกี้บอกว่าอย่าเชื่อคนโพสเยอะว่าเป็นเซียน นี่มาข้อนี้ก็ไม่ให้เชื่อเซียนอีกแล้วหรอ อันนี้สำหรับคนที่อยากจะหาปลากินเองได้ในอนาคตครับ ผมเห็นหลายคนที่เชื่อ ตามเซียนจนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ หากว่าเซียนเกไม่โพสต่อไปแล้ว ต่อไปเราจะหาหุ้นยังไง จะเอาอะไรมาพิจารณาว่าจะมองหุ้นตัวไหนดี มีบางเว็บที่คนกำไรกันมากมายเพียงคี่ซื้อตามเซียนแนะนำกัน แต่ถ้าต่อไปเซียนเลิกโพสกันแล้ว หรือว่าเว็บนั้นปิดไปแล้ว ต่อไปจะลงทุนกันยังไงหนอ

นอกเหนือจากนี้ ในหลายกรณีก่อนที่เซียนจะซื้อจะขาย เค้าจะกำหนดไว้แล้วว่าถ้าราคาขึ้นไปเท่านั้นเท่านี้จะขายหรือตกลงมาเท่าไหร่จะขาย หรือเมื่อซื้อแล้วเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เขาสามารถปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ ซึ่งแน่นอนว่าเค้าคงไม่มานั่งบอกทุกระยะว่าวันนี้ซื้อแล้วนะที่ราคานี้ พอเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงอีกก็มาบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้ผมจะขายแล้วนะที่ราคานั้น ดังนั้นหากเราไม่สามารถตัดสินใจในการซื้อขายที่ลอกเลียนคนอื่นมาได้ น่าจะหลีกเลี่ยงคำแนะนำเหล่านั้นซะ

คำแนะนำ : แทนที่จะซื้อขายตามสิ่งที่เซียนเล่าว่า เซียนล่องจุ๊นทั้งหลายควรให้ความสนใจมากกว่าว่าเซียนเหล่านั้นมีเกณฑ์อะไรในการพิจารณาว่าหุ้นตัวไหนดีไม่ดีอย่างไร แล้วเอาวิธีนั้นมาปรับใช้กับตัวเอง หรือเพื่อประกอบการพิจารณาความเห็นของเซียนเหยียบเมฆในครั้งต่อๆไป

7) อย่าเชิ่อโดยไม่คิด
การพินิจพิจารณาเป็นสิ่งที่จำเป็นโดยเฉพาะเวลาที่ผลของเรื่องนั้นๆมีค่ามาก ในการลงทุนการกระทำที่ไม่ผ่านสมองเอาซะเลยจะทำให้เราต้องน้ำตาตกได้ หลายคนอาจจะบอกว่าคิดแวก่อนตัดสินใจได้พิจารณาเป็นอย่างดีแล้ว คำถามคือ คิดจากอะไร หลายคนเชื่อที่”เขาเล่าว่า” “ได้ยินมาว่า” “มีคนบอกว่า” แต่ไม่เคยถามเลยว่า”เขาเหล่านั้นคือใคร” เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน การพิจารณาแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้นั้นมีความสำคัญมาก เราอาจจะเคยได้ยินว่า “รู้จักกับพนักงาน เค้าอกว่าหุ้นตัวนี้ไม่ดี” ซึ่งพนักงานคนนั้นทำตำแหน่งไหน คนขับรถรึพนักงานบัญชี แล้วเค้ามีทัศนคติยังไงกับบริษัท บางบริษัทมีกกที่เข้มงวดมากซึ่งดีสำหรับบริษัท แต่พนักงานอาจจะไม่ชอบก็ได้ ดังนั้นก่อนจะเชื่ออะไรสักอย่างพยายามมองหาหลักฐานและเหตุผลประกอบ รวมถึงพิจารณาแหล่งที่มาว่าน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน

คำแนะนำ : ฝึกให้น้ำหนักกับข้อมูลและหลักฐานว่าอะไรคือส่วนสำคัญ และคนที่ให้ข้อมูลมามีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่

8) อย่าโลกแคบ
หลายต่อหลายครั้งที่มีคำถามที่ว่า “อยากลงทุนเริ่มยังไงดี” จากนั้นจะมีเซียนล่องจุ๊นจำนวนมากเข้ามาแนะนำในสิ่งที่คิดว่าเจ๋งเป้งมากที่สุด แน่ล่ะคนเราย่อมอยากแสดงความคิดเห็นของตัวเอง คำถามคือ สิ่งที่ดีที่สุดของเซียนล่องจุ๊นนั้นเชื่อถือได้แค่ไหนกัน หลายครั้งที่ผมเห็นเซียนล่องจุ๊นแนะนำหนังสือว่าอ่านเล่มนั้นเล่มนี้แล้วลงทุนได้เลย เล่มนี้ดีมาก ดีที่สุดเท่าที่เคยอ่านมา ผมอยากถามเซียนล่องจุ๊นเหล่านั้นเหมือนกันว่าชีวิตนี้อ่านหนังสือการลงทุนมาแล้วกี่เล่ม อบรมมาแล้วกี่คอร์ส แล้วคนเขียนหนังสือเหล่านั้น หรือคนที่จัดอบรมนั้นเค้าทำกำไรในตลาดได้จริงๆหรือเปล่า หรือเขาเหล่านั้นรวยและมีชื่อเสียงจากการขายหนังสือและจัดอบรม

บางครั้งสิ่งที่ดีที่สุดของเราอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดของคนอื่น เพราะคนเราเกิดมาแตกต่างกัน บางคนชอบเล่นสั้นบางคนชอบถือยาว บางคนชอบเทคนิคบางคนซื้อเพราะพื้นฐาน แต่เซียนล่องจุ๊นยังคงแนะนำตามกรอยความคิดของตัวเองต่อไป โดยไม่ได้สนใจเลยว่าคนเราแต่ะคนนั้นแตกต่างกัน

คำแนะนำ : เปิดโลกทัศน์ให้กว้างมากขึ้น บางทีสิ่งที่เราคิดว่าสุดยอดแล้วอาจจะเป็นเรื่องไร้สาระไปเลยเมื่อเจอความรู้ใหม่ๆเข้ามา และสำหรับมือใหม่ทั้งหลายควรจะอ่านหนังสือการลงทุนหลายๆแนว แล้วเลือกศึกษาทางที่เราคิดว่าชอบ แล้วค่อยมาถามว่า “สนใจการลงทุนทางเทคนิคครับ มีหนังสือหรือคอร์สแนะนำไหม” จำไว้ครับไม่มีใครรู้จักเรามากเท่าตัวเราเอง

9) อย่าตามหาเครื่องมือลับสุดยอด
ในการศึกษาเรื่องการงทุนของผม ผมพบว่าสิ่งที่นักลงทุนทั้งหลายมักจะชอบกันก็คือ การตามหาวิธีใดๆก็ตามที่การันตีว่าจะประสบความสำเร็จ “อย่างมากมายในระยะเวลาสั้นๆ” ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐาน เทคนิค หรือกลยุทธ์การลงทุนทั้งหลาย โดยที่สิ่งเหล่านั้นจะต้องมีเรื่องราวอันสะท้านโลกาว่าใครใช้แล้ว รวย รวย รวยล้นฟ้าขนาดไหนบ้าง แล้วพอมาใช้จริงทั้งๆที่อาจจะยังไม่เข้าใจวิธีการนั้นอย่างถ่องแท้ เมื่อขาดทุนก็จะโทษว่าความรู้นั้นๆ หรือคนที่เอามาเผยแพร่ โดยไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเอง อยากจะให้การลงทุนของตัวเองกำไรมากๆทุกครั้งไป ทั้งๆที่ในความเป็นริงแล้วเซียนเหยียบเมฆที่ใช้วิธีนั้นๆก็อาจจะมีการขาดทุนบ้าง แต่เขาเหล่านั้นมีวิธีที่จะจัดการกับสิ่งไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น รวมทั้งยังยึดมั่นในรูปแบการลงทุนที่เขาเหล่านั้นถนัดต่อไป ตรงกันข้ามกับเซียนล่องจุ๊น ที่เมื่อมีอะไรใหม่ๆเข้ามาก็ทำตามๆกันไปโดยไม่ศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ พอเกิดความผิดพลาดขึ้นมาแทนที่จะรับผิดชอบและค้นหาสาเหตุ ก็ไปโทษคนอื่นและแสวงหาหนทางใหม่ๆต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

คำแนะนำ : ลองค้นหาดูสิว่าเซียนคนไหนที่เรานิยมชมชอบ เขาเหล่านั้นเคยขาดทุนหรือไม่ เมื่อเกิดข้อผิดพล่าดขึ้นในการลงทุนเขาทำอย่างไร และการพัฒนาความรู้ใหม่ๆมากน้อยแค่ไหน ลองเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราทำ เราเป็น ค้นหาความแตกต่างแล้วพยายามลดช่องว่างตรงนั้น


10) อย่าโพสเรื่องการเมืองในห้องหุ้น
รู้นะว่ามาโพสล่อเป้า ตรูเบื่อ เลิกอ้างว่าการงทุนมันเกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม การเมือง นั่นมันถูกต้อง แต่ที่คุณๆโพสน่ะ มันไม่ได้เอามาโยงกับหุ้นเลยเฟร้ย!!!



Create Date : 11 พฤษภาคม 2553
Last Update : 11 พฤษภาคม 2553 0:38:22 น.
Counter : 684 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Longkiddoo.BlogGang.com

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]

บทความทั้งหมด