***DCA DCA DCA***
เมื่อหลายวันก่อนได้คุยกับพี่Mudley ผมกำลังพูดถึงเรื่องที่ผู้บริหาร นักวิเคราะห์
ของทั้งบล และบลจทั้งหลายนิยมแนะนำการลงทุนในช่วงนี้
ซึ่งมีบางส่วนที่ผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆในห้องนี้ครับ
และได้ขออนุญาตพี่Mudleyเพื่อที่จะเอามาลงแล้ว

ชื่อทั้งหมดผมเปลี่ยนเป็นขอบฟ้า และ Mudleyแทนนะครับ
เริ่มจากผมพูดเรื่องที่นักวิแคะและผู้บริหารชอบให้มุมมองว่า

ขอบฟ้าบูรพาsays:
หุ้นถูกแล้ว น่าซื้อ ในอนาคต2-3ปีผลตอบแทนจะดีมาก

Mudleygroup:
:-O

ขอบฟ้าบูรพาsays:
หรือถ้าเป็นบลจก็แนะนำให้DCAตามระเบียบ

Mudleygroup:
ง่ะ

ขอบฟ้าบูรพาsays:
คือ ตามหลักการทั่วๆไปที่ชอบแนะนำกันเลยครับ

Mudleygroup:
^ ^

ขอบฟ้าบูรพาsays:
นี่ถ้าน้องๆเค้าออกมาเทรด โดนพี่ๆดักตีหัวแน่นอน

Mudleygroup:
อย่างไรก็อย่าใช้ DCA และลงทุนเกินตัวอ่ะครับปลอดภัยสุด อิอิ

ขอบฟ้าบูรพาsays:
ทำไมพี่ถึงไม่แนะนำDCAหรอครับ หรือว่าอย่าใช้เฉพาะช่วงนี้ แต่ตลาดก็กำลังลงนะครับ

Mudleygroup:
DCA จริงๆแล้วไม่เหมาะกับช่วงที่ราคาเล่นต่ำกว่า moving average อ่ะครับ คนทำ DCA จะขาดทุนหนักขึ้นเรื่อยๆ

ขอบฟ้าบูรพาsays:
นั่นคือจุดที่เค้าเอามาขายกันเลยนะครับนั่น

ขอบฟ้าบูรพาsays:
เวลาจะบอกว่าDCAดีๆ เค้าจะยกตัวอย่างให้ราคาหุ้นต่ำเวอร์ๆ แล้วค่อยสูงขึ้น

ขอบฟ้าบูรพาsays:
ซึ่งนั่นจะทำให้DCAได้กำไร และในตัวอย่างแทบจะทั้งโลก จะเป็นเช่นเดียวกัน

Mudleygroup:
ใช่ครับ กรณีนั้นคือ หุ้น สารถยืน บน moving ได้นั่นเอง

ขอบฟ้าบูรพาsays:
นั่นก็คือ พี่แนะนำว่าซื้อเฉลี่ยขาขึ้นดีกว่าใช่ไหมครับ

Mudleygroup:
จริงไม่ค่อยชอบวิธีการซื้อเฉลี่ย โดยไม่มีการทำกำไรเพื่อป้องกันความเสี่ยงน่ะครับ มันค่อนข้างอันตราย ไปหน่อย

ขอบฟ้าบูรพาsays:
แล้ววิธีการนี้ล่ะครับ

ขอบฟ้าบูรพาsays:
สมมติผมมีเงินสองแสนบาท ผมซื้อก่อนเลยหนึ่งแสน

ขอบฟ้าบูรพาsays:
ถ้าหุ้นขึ้นผมขายเท่าที่เกินแสน ถ้าหุ้นลงเท่าไหร่ซื้อเพิ่มจนครบแสน

ขอบฟ้าบูรพาsays:
เป็นการเฉลี่ยราคาเหมือนกัน

Mudleygroup:
แล้วตั้งขอบเขตของการลงไว้ถึงระดับกี่ % ของหุ้นครับ

ขอบฟ้าบูรพาsays:
ถ้าผมมองที่เงื่อนเวลา เช่นเดือนละครั้งล่ะครับ

Mudleygroup:
ถ้าอย่างนั้นต้องเลือกตัวหุ้นให้ดีจริงๆครับ :)

Mudleygroup:
ถ้าเป้นขาลงหุ้นจะหมุนเวียนสับเปล่ยนกันขึ้น ไม่ขึ้นทั่วทุกตัว ดังนั้นการฟื้นจะไม่กลับมาระดับเดิม ถึงแม้อินเด็กจะกลับมาระดับเดิม ครับ

ขอบฟ้าบูรพาsays:
คือพี่มองว่าถ้าเป็นขาลงแบบนี้ โอกาสที่เราจะได้ทะยอยขายมีน้อยใช่ไหมครับ

ขอบฟ้าบูรพาsays:
แต่ถ้าปรับพอร์ทตาม% ถ้ามากๆเช่น10%โอกาสก็ยากเหมือนกันนะครับ

Mudleygroup:
ครับก็อาจจะใช้ได้ครับ แต่มีกองทุนหนึ่งชื่อ phamarinvest ใช้วิธีการลงทุนคล้ายสไตล์นี้ ตอนนี้ ใกล้จะปิดตัวแล้วครับ เราต้องระวัง unexpected event น่ะครับ แต่ถ้า normal event มันก็โอเคครับไม่มีปัญหาอะไร แต่เป็นธรรมดาครับ มุมมองในฟิว ผม กับ อีกฟิวหนึ่งมันค่อนอข้างต่างกันพอสมควร ก็เลือกๆเอาแต่ที่มีประโยชน์เหมาะกับน้องขอบฟ้าบูรพาแล้วกันครับ อิอิ

ขอบฟ้าบูรพาsays:
ผมไม่ได้ใช้หรอกครับ อิอิ

ขอบฟ้าบูรพาsays:
แต่พอดีวันก่อนอ่านมา เลยคิดว่าอย่างน้อยน่าจะเหมาะกว่าDCAแบบปกติ

Mudleygroup:
งืมแต่ก็ดีกว่า DCA มากๆแน่นอนครับ


ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนนะครับ ผมเอามาลงเพื่อเปิดมุมมองใหม่ๆให้เพื่อนๆ
ถ้าถามว่าแล้วการลงDCAแบบดั้งเดิมเลยนั้นเลวร้ายเลยไหม ผมว่าก็ไม่นะ
แต่อาจจะต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อให้ต้นทุนเฉลี่ยต่ำกว่าราคาตลาด(ในกรณีที่หุ้นเป็นขาลง ย้าว ยาว)
สำหรับการทำกำไรออกมาในระหว่างการลงทุน เป็นการลดความเสี่ยงอีกวิธีนึงครับ

และที่น่ามองในอีกประเด็นก็คือ การทำDCAทั้งแบบต้นตำรับและแบบนี้
ในหุ้นและกองทุนรวมน่าจะแตกต่างกันนะครับ
เพราะหากเราเลือกที่จะทำในหุ้นรายตัว อยางที่พี่mudleyว่าไว้
ว่ามันอาจไม่ขึ้นมาให้ขายเลยก็ได้
แต่ถ้าทำกับกองทุนจะมีโอกาสมากกว่าหรือเปล่า เพราะกองทุนจะเฉลี่ยความเสี่ยง
และค่าbetaของกองทุนก็มักจะมากกว่าของตลาด

น่าคิดมิน้อยนะครับ แล้วเพื่อนๆคิดว่ายังไงกันบ้างครับ

อิอิ



Create Date : 03 ธันวาคม 2551
Last Update : 3 ธันวาคม 2551 23:42:02 น.
Counter : 1273 Pageviews.

5 comments
  
ขอแย้งบางประเด็นสำรับ DCA จะได้เข้าใจอย่างถูกต้องครับ
การทำ DCA ทำให้ต้นทุนต่ำกว่าต้นทุนตลาด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ขาดทุนครับ ยิ่งราคาผันผวนมาก DCA ยิ่งช่วยได้มาก และการทำ DCA ควรทำไม่ต่ำกว่า 3-5 ปีลงทุน พอเห็นราคาไม่ดีทำ DCA แล้วขาดทุนก็เลิก อย่างนี้ไม่เรียกว่าลงทุนแบบ DCA ครับ ขอให้เข้าใจให้ถูกต้องจะได้ไม่ทำให้ผู้ที่ไม่รู้อื่นๆ เข้าใจผิด
โดย: art ตัวพ่อ IP: 124.121.212.107 วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:14:34:11 น.
  
ขอบคุณมากครับ ผมนึกว่าจะไม่มีคนแชร์ไอเดียซะแล้ว
แน่นอนว่าตามทฤษฏีแล้ว หากตลาดผันผวนอาจมีการขาดทุนเกิดขึ้น
ซึ่งถ้าหากเราใช้ระยะเวลาที่ยาวพอ เราจะทำให้ต้นทุนต่ำกว่าตลาดได้ครับ
ซึ่งผมก็ได้เขียนบอกไว้ในตอนท้ายด้วย

แต่ที่มองกันก็คือ ทำยังไงถึงจะลด"ความเสี่ยง"ของการลงทุนลงไปได้อีก
ถ้าหากว่าเราลดความเสี่ยง และสามารถขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น มันจะดีกว่าหรือไม่

ผมไม่ได้เข้าใจอะไรผิดหรอกครับ แต่กำลัง"เสนอ"แนวความคิด ที่จะ"เล่น"กับมันมากขึ้น
แล้วความคิดนี้ก็คือ"DCAที่ถูกพัฒนามาอีกขึ้นนึงนั่นเอง" (ผมไม่ได้พูดเองนะ นักการเงินเค้าบอกมา)

เพราะว่าตามปกติแล้ว ผมจะเน้นเสมอว่า หากไม่สามารถจับจังหวะการลงทุนได้
ไม่ว่าจะโดยแนวคิดพื้นฐาน หรือเทคนิค
ผมจะแนะนำให้นักลงทุนใช้DCA เพราะวิธีนี้เวลายิ่งยาว เรายิ่งได้เปรียบ
เลยหาอะไรมาให้ได้แชร์ และเกิดความคิดใหม่ๆกันครับ

อยากให้คุณart ตัวพ่อ มาแชร์ แลกเปลี่ยนกันอีกครับ
จะได้จับจุด และพัฒนาได้อีก
โดย: ขอบฟ้าบูรพา วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:2:38:48 น.
  
ตอนนี้ดิฉันออมเงินผ่านกองทุน SCBDV ใช้วิธีการคือซื้อทุกวันจันทร์ครั้งละ 1000 เริ่ม 29/03/2553
ดิฉันตั้งใจจะออมครบปี แล้วทิ้งไว้เลย แล้วจะไปซื้อกองทุน AYFSDIV

รบกวนขอคำแนะนำค่ะ ดิฉันควรลงกองทุนเดิม หรือซื้อกองทุนใหม่




โดย: Ausary IP: 115.87.70.145 วันที่: 25 ธันวาคม 2553 เวลา:18:18:12 น.
  
งงกับคำถามครับ ทิ้งไว้เลย แล้วจะไปซื้อกองทุนAYFSDIV

จะเลือกแบบไหนดีหรือว่ายังไงครับ
แล้วกองเดิม กองใหม่ลงเพื่อวัตถุประสงค์อะไรหรือครับ
โดย: ขอบฟ้าบูรพา วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:16:59:30 น.
  
จุดประสงค์ของดิฉันคือออมเงินไปเรื่อยๆค่ะ
กองทุน SCBDV พอครบปี ก็ทิ้งไว้ คอยรับปันผล
แล้วเริ่มต้นออมใหม่กับ AYFSDIV
ดิฉันไม่แน่ใจว่าค่ะว่าควรจะจัดการอย่างไร เพราะทั้งสองทุน ประวัติปันผลดีทั้งคู่
โดย: Ausary IP: 124.122.144.19 วันที่: 29 ธันวาคม 2553 เวลา:13:31:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Longkiddoo.BlogGang.com

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]

บทความทั้งหมด