YESTERDAY: วันวาน วันนี้ วันพรุ่ง


ผมเขียนบทความนี้ลงในนิตยสาร Mix ฉบับเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
เอามาอ่านทีไร ก็ยังชอบใจ เลยขอเอามาฝากไว้ในบล็อกให้อ่านเล่นๆ

เนื้อเพลงภาษาอังกฤษต้นฉบับไม่เอามาลงนะ
ใครอยากดูเทียบกับที่ผมแปลไปหาอ่านได้จากที่นี่ครับ

หวนคำนึงถึงวันวานที่ผ่านผัน โหยหาวันที่ห่างไกลไร้ปัญหา
มาวันนี้ยากนักหนักอุรา ไม่เหมือนคราก่อนเลยที่เคยเป็น

เคยภูมิใจในตัวตนคนแบบฉัน กลับกลายพลันเหลือไม่ถึงครึ่งที่เห็น
มีเงามืดครอบเป็นเปลือกยะเยือกเย็น สุดลำเค็ญเข็ญใจข่มตรมใจเรา

เคยถามไปไยน้องยาต้องลาจาก ไยลำบากพรากกันให้มันเหงา
เธอไม่ตอบหลบตาลาสองเรา ทิ้งรอยเศร้าไร้เงาหวานของวานวัน

หวนคำนึงถึงวันวานที่ผ่านพ้น เหมือนมีมนต์สะกดตรึงถึงภาพฝัน
อยากหลบอยู่ในฝันนั้นชั่วกัปกัลป์ ตื่นทุกวันยังมั่นอยู่กับวันวาน


นี่คือเพลงฮิตที่เชื่อกันว่าเป็นเพลงที่ถูกนำไปร้องใหม่มากครั้งที่สุดในโลก ถ้าไม่นับเพลงจิงเกิลเบลล์ หรือเพลงคริสมาสต์ทั้งหลายนะ จริงไม่จริงลองไปเปิดหนังสือกินเนสส์บุ๊คออฟเรคคอร์ดส์ดูได้

เพลงนี้ฉบับดั้งเดิมเป็นผลงานในอัลบั้มของเดอะบีทเทิลส์ วงดนตรีที่โด่งดังคับโลกในช่วงปี 1964-1970 ที่ออกในปี 1965 ชื่อว่า “ช่วยด้วย!” หรือ Help! นั่นเองครับ

นอกจากได้ชื่อว่าเป็นเพลงที่ถูกนำไปร้องใหม่มากครั้งที่สุดแล้ว Yesterday ยังถือเป็นเพลงแรกของเดอะบีทเทิลส์ ที่เป็นเพลง “ฉายเดี่ยว” คือร้องและเล่นอยู่คนเดียวโดย พอล แมคคาร์ทนีย์ อีกสามคนไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวรอดังแล้วแบ่งตังค์เท่า ถึงจะมีเสียงเครื่องสายมาอี๋อ๋อคลอเคลีย ก็หาใช่ฝีมือของอีกสามคนไม่

น้าพอล แม็คคาร์ทนีย์ คนแต่งเพลงนี่แหละ เล่าที่มาแสนน่ารักของเพลงนี้ว่า วันหนึ่งที่บ้านของกิ๊กเก่า น้าเขานอนเล่นๆอยู่ จู่ๆก็ฝันถึงทำนองเพลงหนึ่งขึ้นมา พอผวาตื่นก็เดินไปเคาะเปียนโนออกมาเป็นทำนองเพลงเก็บไว้ ไม่รู้จะตั้งชื่ออะไรก็เขียนชื่อตามอาหารมื้อเช้าว่า “Scramble Egg”

ด้วยวิญญาณพลเมืองดีมีหิริโอตัปปะ น้าพอลเกรงว่าทำนองเพลงอันไพเราะจับใจเหมือนรอยยิ้มของน้องจักจั่นเพลงนี้ มันจะเป็นเพลงของชาวบ้านที่เขาอาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาจากที่ไหนสักที่ ก็เลยเที่ยวเอาเพลงนี้ไปถามไถ่คนในวงการดนตรีอยู่เดือนนึง จนแน่ใจว่าไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน เขาจึงเริ่มลงมือเขียนเนื้อเพลง

พอลกับจอห์น เลนนอนใช้เวลาอยู่นานหลายเดือนเนื้อเพลงนี้ก็ยังไม่ลงตัว จนมาวันหนึ่ง พอลก็ไปทำคลอดเนื้อเพลงนี้ได้ที่โปรตุเกส ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนที่ลิสบอน จากเพลง Scramble Egg จึงกลายมาเป็น Yesterday ด้วยประการฉะนี้

เนื้อเพลงนี้พูดถึงความรู้สึกพิร่ำคร่ำครวญของชายคนหนึ่งซึ่งถูกสาวคนรักบอกลา จึงโหยหาคืนวันเก่าๆที่เคยหวานซึ้งกันดีอยู่ นี่เป็นอาการร่วมกันของคนอกหักทั่วโลก อนุมานได้ว่า อาการคร่ำครวญชวนสังเวชนี้ย่อมเกิดกับคนอกหักถ้วนหน้าโดยไม่เกี่ยงภาษา ศาสนา หรือชาติพันธุ์

เคยมีเพลงที่บรรยายความรู้สึกอกหักรักสลายไว้มากมาย เป็นเครื่องหมายแสดงว่า ความรักกับการอกหักเป็นของคู่กันธรรมดาเหมือนโซดากับเหล้า แต่สังเกตไหมครับว่า คนที่อกหักไม่ว่าจะเรื่องรัก เรื่องเรียน เรื่องงาน หรือพิสดารอะไรก็แล้วแต่ ไม่เคยมีใครตายเลย มีแต่คนที่ “ยอมรับไม่ได้” กับการอกหักต่างหาก ที่ยอมแพ้แล้วตายไป

ถ้าเรารู้จักการ “แพ้ให้เป็น” ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็จะสามารถผ่านอุปสรรคความสูญเสียในชีวิตไปได้ไม่ยาก ว่ากันตามหลักทางพุทธ ชีวิตคนเราเกิดแล้วดับ เกิดแล้วดับ อยู่ทุกขณะจิต มันสั้นขนาดนั้นเลยนะ ไม่ใช่ยาวเป็นชั่วโมง หรือเป็นวัน แต่ชั่วขณะจิตเดียว จิตก็เกิดดับไปแล้ว เพียงแต่จิตของมนุษย์ธรรมดายังมองไม่เห็น

เหมือนอย่างเดียวกับที่เราเห็นหลอดไฟฟ้าเปล่งแสงสว่างเสมอกันตลอดเวลา ทั้งที่ในความเป็นจริง มันกระพริบๆๆๆ ด้วยความเร็วที่ตาเปล่าเรามองไม่ทัน เช่นเดียวกับการที่เราเห็นภาพเคลื่อนไหวบนจอภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง โดยไม่รู้เลยว่า นั่นคือภาพนิ่งที่ฉายต่อกันทีละเฟรม ทีละเฟรม ด้วยความเร็ว 24 เฟรมต่อหนึ่งวินาที

วิธีหนึ่งที่เราสามารถฝึกรู้เท่าทันจิตตัวเองได้คือ หัดคอยรู้สึกตัวมีสติอยู่กับปัจจุบัน ตามความเป็นจริง เรื่องอะไรที่มันแล้วไปแล้ว ก็ให้มันแล้วไป อะไรที่มันเป็นเรื่องของวันวาน ก็อย่าให้มันกลายเป็นวันนี้ อะไรที่มันเป็นเรื่องของพรุ่งนี้ ก็อย่าเพิ่งกังวลจนไม่เป็นอันใช้ชีวิตของวันนี้

จะหมดปี 2552 ในอีกไม่กี่วันแล้ว ลองนั่งนึกๆดูหน่อยไหมครับ ว่าปีที่กำลังจะหมดไป เราเสียใจกับอะไรไปบ้าง มีเรื่องเก่าๆแย่ๆ ความแค้น ความอาฆาตพยาบาทอะไรที่เราเก็บเราลากมันมาเป็นภาระหนักอกหนักใจอยู่บ้าง แล้วทิ้งๆมันไว้ให้เป็นเรื่องของเมื่อวานดีไหมครับ อย่าลากมันข้ามไปปีใหม่อีกเลย จะได้บอกตัวเองและใครๆได้เต็มปากว่า

ลาทีปีเก่า สวัสดีปีใหม่ครับ




Create Date : 31 มีนาคม 2553
Last Update : 31 มีนาคม 2553 13:18:01 น.
Counter : 3978 Pageviews.

15 comments
ความสุขดุจทองคำ สมาชิกหมายเลข 7582876
(9 ม.ค. 2568 12:19:26 น.)
ไฮไลท์ บุนเดสลีก้า มึนเช่นกลัดบัค - บาเยิร์น มิวนิค nokeja
(12 ม.ค. 2568 11:41:09 น.)
สลัดโรลไส้กรอก - ปูอัด (10.1.2568) ฟ้าใสวันใหม่
(10 ม.ค. 2568 09:16:18 น.)
Volkswagen Beetle GSR Zamak (Majorette) kid^_^
(2 ม.ค. 2568 14:47:32 น.)
  
ชอบคำว่า "แพ้ให้เป็น" มากค่ะ เพราะปกติ แค่คิดว่าจะแพ้ ต้องแพ้เป็นแน่แท้ ก็ไม่มีใครอยากแพ้แล้วอะค่ะ
โดย: daisyntulip IP: 98.149.121.203 วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:13:53:55 น.
  
อ่านแล้วเหมือนได้นั่งคุยเลยค่ะ ขอยิ้มกับบทความด้วยนะคะ เพราะไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วยเรื่องอะไร พี่จะมีวิธีแนะนำให้เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอเลย

"เรื่องอะไรที่มันแล้วไปแล้ว ก็ให้มันแล้วไป อะไรที่มันเป็นเรื่องของวันวาน ก็อย่าให้มันกลายเป็นวันนี้ อะไรที่มันเป็นเรื่องของพรุ่งนี้ ก็อย่าเพิ่งกังวลจนไม่เป็นอันใช้ชีวิตของวันนี้"

อันเนี้ย โดนจริงๆ

อยากให้พี่เขียนทุกวันเลย
555++ อยากแบบนี้ไม่ทุกข์นะพี่
โดย: ขมเตย วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:14:16:14 น.
  
โดย: thanitsita วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:17:34:55 น.
  
แวะมาชมเจ้า

มาบอกว่า น้องก็มีบล็อคนะ

><
โดย: pamaano วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:18:07:39 น.
  
อ่านแล้วรู้สึกชอบ อีกเช่นเคย
ได้อ่านบ่อยๆ ทำให้รูสึกมีเพื่อนคุยถูกคอครับ
ขอบคุณมากๆนะครับ
โดย: ธนัช IP: 124.120.231.48 วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:20:30:30 น.
  
งดงามค่ะ :)

ขอบคุณนะคะพี่เอ๊ด ^/\\^
โดย: ต้นอ้อ -^_^- IP: 58.8.248.180 วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:23:28:26 น.
  
คิดว่าคนเก่งๆ หรือคนที่มีทุกอย่างเพียบพร้อม มักจะลืมว่า ต้องหัดแพ้ให้เป็น นะคะ
จำได้ว่าคุณแอสตันเคยพูดถึงการอยู่อย่างคนแพ้ให้มีความสุขมาแล้ว

ชอบเนื้อเพลงแปลค่ะ สละสลวย ราบรื่นดีจัง
โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 31 มีนาคม 2553 เวลา:23:53:52 น.
  

อ่านบทความนี้แล้วนึกถึง บทความนึงที่เคยอ่านคับ
//saijai.wordpress.com/
โดย: ต้น IP: 140.233.138.220 วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:9:38:08 น.
  
ชอบเพลงนี้มากครับ เอามาร้องบ่อยๆ

แต่เพิ่งรู้ที่มาของเพลงจากที่นี่ Thx

อ้อ...เห็นพูดถึงว่า "แพ้ไม่เป็น" นึกถึงสมัยเรียนมัธยม พอทีมบอลเราแพ้จะเกิดปฏิกิริยาทันที

"บอลแพ้ คนไม่แพ้....ราวี! ราวี!" มองย้อนกลับตอนนี้ น่าละอาย+ทุเรศ

นั่นมันเรื่องของเด็ก มาเห็นผู้ใหญ่เดี๋ยวนี้เลียนแบบเด็ก...เอาไปเลย ดับเบิ้ลทุเรศ
โดย: Dingtech วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:16:26:59 น.
  
ชอบบลอคพี่ก็ตรงที่ได้อะไรดีๆออกไปทุกครั้งที่เข้ามาค่ะ
..

ถ้าเลือกจะยึดติดก็ต้องแบกต้องลากมันไปด้วยตลอดชีวิต มีแต่เพิ่มขึ้น หนักขึ้น เราเลือกของเราเองทั้งนั้นอย่าไปโทษใคร




สุขสันต์วันร้อนๆค่ะ
โดย: azamiya วันที่: 4 เมษายน 2553 เวลา:12:46:20 น.
  
จะวันไหนไหน...ตราบที่เรายังหายใจ ต้องคิดบวก


ถึงแม้ว่าตอนนี้ใจมันอยากจะ


ฮึ่มฮึ่มฮึ่ม - - - เหมือนแตะเบรคมอไซ เฮ๊อ...


คุณเอ็ดรักษาสุขภาพเน่อ ร้อนๆๆเย็นบ้างเวลาลมพัด
โดย: พี่แหม๋ว IP: 58.8.213.49 วันที่: 4 เมษายน 2553 เวลา:13:14:23 น.
  
" เคยภูมิใจในตัวตนคนแบบฉัน
กลับกลายพลันเหลือไม่ถึงครึ่งที่เห็น
มีเงามืดครอบเป็นเปลือกยะเยือกเย็น
สุดลำเค็ญเข็ญใจข่มตรมใจเรา "

โดนเข้าอย่างจัง เลยค่ะ
ขอยืมไปใช้เป็นหัวข้อของการพิจารณา
ตัวเองนะค่ะ

เหมือนกำลังขาด "แรงบันดาลใจ" ให้เกิด " สติ"


อยากได้ " สติ " กับคืนมาอีกครั้ง
เหมือนกับทุกครั้ง ที่เกิดปัญหา แล้ว
" ผ่าน " ไปได้อย่างสวยงาม

ขอบคุณค่ะ
โดย: p'me satun วันที่: 5 เมษายน 2553 เวลา:11:38:18 น.
  
ชอบตรงที่พี่เขียนว่า "แพ้ให้เป็น" ค่ะ
ถ้ามาอ่านเรื่องนี้เมื่อสักสามปีก่อน คงโดนสุดๆ
เวลาผ่านไปสามปี อะไรที่เคยแบกไว้ ลดหายไปเยอะ
เวลาที่เหลือในชีวิต ก็จะพยายามอยู่กับความผิดหวังหรือความสมหวังให้เป็นค่ะ
โดย: อย่างไรก็ดี IP: 202.149.25.235 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:0:48:42 น.
  
พี่แอสตันแปลเพลง Yesterday ไว้ได้เพราะดีจัง
โดย: โบ IP: 125.25.104.35 วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:42:30 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aston27.BlogGang.com

aston27
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 215 คน [?]

บทความทั้งหมด