ผลลัพธ์กับวิธีการ ![]() ภาพประกอบสวยๆ โดยความเอื้ออารีของคุณ SevenDaffodils ครับ มีแบบทดสอบทัศนคติของคนทำงานอันหนึ่ง เขาถามว่า การประเมินการทำงานของลูกน้องที่ดี ควรให้น้ำหนักกับอันไหนมากกว่า ระหว่าง 1. ผลลัพธ์ กับ 2. วิธีการ คุณผู้อ่านตอบข้อไหนกันครับ? : ) คนส่วนมากที่ผมเจอมาราวๆ 6 ใน 10 คน จะตอบข้อ 1. ผลลัพธ์ แต่ในคำเฉลย น่าสนใจครับ เขาบอกว่าควรใส่ใจกับวิธีการมากกว่าผลลัพธ์ ถ้าคุณตอบว่าผลลัพธ์ แล้วสงสัยว่าทำไมไม่ถูก ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง สมัยที่เด็กชายแอสตั้นยังเล็ก อายุน่าจะราวๆ 7-8 ขวบ เขาเป็นเด็กซนครับ เขายังอยู่กับอาม่าที่เชียงใหม่ ได้ไปวัด ได้ทำบุญ ได้ฟังธรรมและหลับในวัดบ่อย เด็กชายแอสตั้น เป็นคนจิตใจดี ขี้สงสาร ไม่ชอบทะเลาะกับใคร วัดที่เด็กชายแอสตั้นชอบไปมากวัดนึงชื่อวัดอุโมงค์ เป็นวัดสายสวนโมกข์ฯ เวลาอาม่าไปนั่งสนทนากับพระอาจารย์ เด็กชายแอสตั้นจะไปวิ่งเล่น วันหนึ่ง ขณะวิ่งเล่นในวัด เด็กชายแอสตั้นสังเกตเห็นแมลงหลายชนิด แมลงที่มีมากหลากหลายพันธุ์ ก็คือมดครับ ทั้งมดดำ (ไม่ใช่ที่เป็นดีเจนะ) มดแดง มดส้ม ตัวเล็กกลางใหญ่ มีสารพัดสารพัน แต่ละพันธุ์ เขาจะมีเส้นทางเดินจากรังไปหาอาหารของตัวเอง ไม่ทับกัน เด็กชายแอสตั้น สงสาร อยากให้อาหารมด ไม่รู้จะทำไง เลยบี้มดดำไปให้มดส้ม แล้วก็บี้มดส้มไปให้มดดำ สลับกัน ปรากฏว่าได้ผลครับ ถามว่า ได้ให้อาหารสัตว์จริงไหม จริงครับ ผลลัพธ์สำเร็จเสร็จสมประสงค์ แต่วิธีการนี่เหี้ยมโหด เกินบรรยาย มิน่า เวลานั่งสมาธิ ชอบรู้สึกเหมือนมีมดมาไต่ ![]() ในชีวิตจริง ถ้าเราใส่ใจผลลัพธ์มากกว่าวิธีการ ถ้าคิดแต่ว่ามีจุดหมายที่ดี เราก็จะสามารถยึดทำเนียบ ปิดสนามบินกินข้าวฟรีดนตรีเพราะ ปั่นม็อบ ปลุกระดม เผารถเมล์ หรือเฮกันไปทำอะไร โดยไม่นึกถึงผลที่ตามมา เราไม่สามารถเรียกหาความชอบธรรมด้วยวิธีการที่ไม่ชอบธรรมนะครับ เหมือนที่ครูบาอาจารย์สอนว่า เราไม่สามารถเอาชนะกิเลสได้ด้วยกิเลส ไม่พึงชนะความโกรธ ด้วยความโกรธ ไม่พึงชนะความชั่ว ด้วยความชั่ว หรืออย่างบางคนอยากรวย คิดว่าทุกอย่างในชีวิตสำเร็จได้ด้วยความรวย พอไม่คิดถึงวิธีการ ก็สามารถทำได้กระทั่งขายยา ค้ามนุษย์ โกงเงินวัด แต่ลืมไปว่า รวยด้วยวิธีการชั่วๆ มันก็ไม่ได้สุขจริงอิงกระแสธารา เพราะสุขแบบอิงกระแสเงินตรา มันมักจะพาเราลงเหวมากกว่าขึ้นที่สูง พูดแบบนี้ ไม่ได้เพื่อชวนให้ใครไปเพ่งโทษคนไหน สีไหน กลุ่มไหนทั้งนั้นนะ แต่เพื่อเอาไว้เตือนใจพวกเรา และตัวเอง เคยมีคำพูดว่า เวลามีใครทำอะไรแล้วเราไม่ชอบ วิธีหนึ่งที่ดีที่สุดในการตอบสนองคือ อย่าทำอย่างนั้นเสียเอง สุขสันต์วันที่เรายังมีม็อบไว้เตือนใจ และเป็นเครื่องดูจิตก็แล้วกันนะครับ ![]() เห็นความดีใจ ที่คุณมาเขียน blog ^^
แล้วมันก็ค่อยๆหายไปเมื่ออ่านจบ โดย: Ling IP: 118.173.40.180 วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:20:41:12 น.
เพิ่มเติมอีกนิด
วันนี้เพิ่งดูเรื่อง Lost in translation ไม่สนุกเหมือนที่คุณว่าไว้จริงๆ โดย: Ling IP: 118.173.40.180 วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:20:52:32 น.
Blog นี้ดีจริงๆ....thumbs up ka
กระชับ ได้ใจความ & can be washed over (: โดย: WaA~ IP: 115.67.37.88 วันที่: 28 มีนาคม 2553 เวลา:22:55:06 น.
เข้ามาอ่านบล็อกคุณแอสตั้นเสมอค่ะ เป็นแฟนประจำ ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีเสมอนะคะ
โดย: barai IP: 79.73.159.136 วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:14:19:48 น.
คุณ Aston ควรศึกษาเรื่องราวของพันธมิตรมากกว่านี้
โดย: sentra IP: 118.173.140.8 วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:15:56:43 น.
ข้อคิดวันนี้ "เคยมีคำพูดว่า เวลามีใครทำอะไรแล้วเราไม่ชอบ วิธีหนึ่งที่ดีที่สุดในการตอบสนองคือ อย่าทำอย่างนั้นเสียเอง"
เขียนสนุก เขียนดี ทำไม ไม่เขียนให้บ่อยกว่านี้คะ โดย: ป๊อป IP: 192.168.107.19, 61.19.127.147 วันที่: 29 มีนาคม 2553 เวลา:16:36:57 น.
สุโค่ย
วันนี้ก้อเขียนดี ฝีมือไม่ตกเลย แต่อยากให้เขียนบ่อยกว่านี้นะครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ โดย: ธนัช IP: 124.120.217.27 วันที่: 30 มีนาคม 2553 เวลา:20:00:03 น.
เดี๋ยวนี้คนใส่ใจกับผลลัพธ์เสียจนไม่คำนึงถึงวิธีการที่จะให้ได้มา
น่ากลัวใจ โดย: HoneyLemonSoda
![]() เย้ มาอัพเรื่องดีๆให้เตือนใจอีกแล้ว ขอบคุณค่ะ
วันนี้ก็มีเรื่องมาเตือนใจเราเรื่องนึงเหมือนกันค่ะ เช้านี้ดูรายการข่าวดารา ปรากฎว่าเมจิกับแนเลิกกันแล้ว ดูข่าวดาราเลิกกันทีไรตกใจทุกที เพราะดูเค้ารักกันดีมาก ไม่น่าจะเลิกกัน แต่ก็อดคิดไม่ได้อีกว่า ต้องไม่ลืมนะว่าคนเราต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจด้วยกันทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าจะพลัดพรากกันแบบไหน แบบจากเป็นหรือจากตาย เท่ากับวันนี้เลยมีเรื่องให้ได้ระลึก และเตือนสติไว้เป็นสองเรื่อง รวมเรื่องดีๆของคุณแอสตั้นไว้ด้วย ขอบคุณค่ะ ![]() โดย: anchesa
![]() เคยเข้ามาอ่านบ้างเป็นระยะๆ แต่วันนี้จะขอแสดงความเห็นเป็นครั้งแรกนะคะ ^ ^
ที่จริงก็เป็นคนหนึ่งที่เลือกตอบข้อ 1 ถ้าเลือกได้ข้อเดียว เพราะก็เคยมีประสบการณ์จากการเลือกข้อ 2 หลายครั้งเหมือนกัน คร่าวๆก็คือหลายคนคิดว่าวิธีการมีเพียงอย่างเดียว ถ้าไม่ใช่วิธีการที่เขาคิดไว้ แม้ผลจะออกมาเหมือนกันก็ถือว่าผิด เพราะสนใจแต่วิธีการทั้งๆที่วิธีการที่แตกต่างไม่ได้หมายถึงว่าจะผิดพลาดเสมอไป(ไม่เกี่ยวกับการเมืองนะคะ) ตราบเท่าที่ยังอยู่ในกรอบของศีลธรรม และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน แต่ในความจริงแล้ว คุณ Aston 27 คงต้องมีข้อ 3 ให้เลือกด้วยนะคะคือถูกทั้งข้อ 1 และ 2 เพราะคงต้องให้น้ำหนักทั้ง 2 อย่าง ไม่มีข้อใดเด่นหรือด้อยกว่ากันเลย ถึงจะทำให้การประเมินผลออกมาดีที่สุด และถ้าไม่มีอารมณ์ความรู้สึกของผู้ประเมินด้วยจะยิ่งดีเลยค่ะ ^ o ^ โดย: Aki no Momiji IP: 58.8.137.223 วันที่: 2 เมษายน 2553 เวลา:0:29:44 น.
ผมว่าแล้วแต่เรื่องนะครับ บางเรื่อง process อาจสำคัญกว่า product แต่บางเรื่อง ก็กลับกันจริงๆ สำคัญแต่อย่าผิดศีลละกันเนอะ สำหรับปุถุชนอย่างเราๆน่ะ ผมว่างั้นนะ
โดย: เกรท IP: 203.154.236.210 วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:9:54:25 น.
ชอบประโยค
เรียกหาความเป็นธรรมด้วยวิธีการที่ไม่เป็นธรรม หนูเห็นว่าตอนนี้บ้านเมืองเป็นอย่างนั้นอยู่ค่ะ สว่นตัวเอง ก็กำลังทำตัวไม่ดี พูดจาแย่ แล้วก็กลับเรียกร้องให้คนอื่นเขามาทำตัวดีๆ มาพูดจาดีๆ ด้วย เหอๆ คิดได้ดังนั้น เดี๋ยวทำตัวใหม่ก้ได้ค่ะ มองเห็นแล้วว่าตัวหนูเองทำอะไรลงไป แย่จริง -_-" โดย: I am just fine^^
![]() |
บทความทั้งหมด
|
หยุดที่คนอื่นไม่ได้ ก็หยุดที่ตัวเราเองนี่แหละ ดีที่สุด