เรื่องบอล เรื่องโลก เรื่องของเราที่ไม่ใช่ของเรา ![]() (ขอบคุณคุณ SevenDaffodils ที่เอื้อเฟื้อภาพประกอบครับ) ฟุตบอลโลกปีนี้ คุณผู้อ่านเชียร์ทีมไหนกันครับ ผมเดาเองว่าคนไทยราวๆครึ่งหนึ่งที่ดูฟุตบอลจะเชียร์อังกฤษ แต่สาวๆหลายท่านที่ผมรู้จักมักแอบเชียร์อิตาลี หรือสเปน ไม่ใช่เพราะความเก่งหรอกนะ แต่เพราะความหล่อของนักบอล - - อังกฤษปีนี้ อุตส่าห์โชว์ฟอร์มสวยหรูในรอบคัดเลือก ไม่แพ้ใครเลย แต่ครั้นมาถึงรอบสุดท้ายที่แอฟริกาจริงๆ กลับลืมเอาฟอร์มเก่งใส่กระเป๋ามาด้วย เลยโดนคู่ปรับตลอดกาลอย่างเยอรมันยิงซะพรุน กลับบ้านคอตกไปเลย คนอังกฤษเขาเซ็งกับเรื่องบอลตกรอบสองมากนะครับ เพื่อนชาวอังกฤษที่ทำงานติดต่อกันประจำคนหนึ่ง ถึงกับเขียนขึ้นต้นอีเมล์ในวันต่อมาว่า Now that the World cup was officially over ถ้ามองอย่างยุติธรรม อังกฤษก็มีผลงานไม่ขี้เหร่เมื่อเทียบกับอดีตแชมป์โลกอย่างอิตาลี หรือรองแชมป์เมื่อคราวก่อนอย่างฝรั่งเศส ที่คราวนี้ตกรอบแรกก่อนอังกฤษเสียอีก และในขณะที่นักเตะอังกฤษกลับบ้านท่ามกลางเสียงก่นด่า สาปแช่งของแฟนๆ นักเตะญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ที่ตกรอบพร้อมๆกับอังกฤษ กลับถึงบ้านอย่างฮีโร่ ถามว่า อะไรทำให้โลกนี้มันแตกต่างกันขนาดนั้น? ตอบว่า ความคาดหวังและยึดมั่นถือมั่นของคนอังกฤษเองแหละครับ คนอังกฤษยึดติดกับข้อมูลว่า พวกเขาคือต้นตำรับ ผู้สร้างเกมฟุตบอลขึ้นมาให้โลก และเคยเป็นอดีตแชมป์โลก มีลีกฟุตบอลที่มีคนตามดูมากที่สุดในโลก ฯลฯ สำหรับหลายคน ฟุตบอลเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ถ้ามองให้เป็นสาระ ฟุตบอลก็บอกอะไรเราเยอะนะครับ เช่นถ้ามองว่าฟุตบอลเหมือนชีวิตคน ก็มองได้ ทั้งในมุมที่ว่า มันมีความไม่แน่นอน บางทีมก่อนลงสนามเป็นต่อเยอะ ถึงเวลาก็เล่นไม่ออก แพ้ทีมที่ดูอ่อนกว่าเสียอย่างนั้น หรือชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ในสนามก็มีค่าเสมอกัน ถ้ามองมุมที่ว่า มันเป็นของชั่วคราว ต่อให้เป็นแชมป์เที่ยวนี้ ก็ไม่ได้การันตีว่าจะเป็นแชมป์ไปตลอด ชนะนัดนี้นัดหน้าก็ไม่แน่หรอก หรือกระทั่งเคยแพ้มา ก็ไม่ได้แปลว่าจะกลับมาชนะไม่ได้ อย่างเยอรมันทีมนี้ ก็เพิ่งจะเคยแพ้อังกฤษคาบ้านมา 5-1 เมื่อสักปีสองปีมานี้เอง ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ไม่ใช่แค่เฉพาะคนอังกฤษที่จะเป็นจะตายที่บอลแพ้ แต่คนไทยจำนวนมากก็โกรธแค้นฟอร์มห่วยๆของอังกฤษนัดแพ้เยอรมัน ราวกับเป็นทีมบ้านเกิดของตัวเอง คนเราสามารถยึดมั่นถือได้กระทั่งของที่เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย แล้วนับประสาอะไรกับของที่เราเกี่ยวข้องด้วยทุกวันเวลา อย่างกายใจตัวเอง คนเราถึงพ้นทุกข์ได้ยากก็ด้วยเหตุนี้ ถามว่า ความยึดมั่นไม่ยึดมั่นเกี่ยวอะไรกับทุกข์ไม่ทุกข์ ? ตอบว่า.. เรื่องทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะหนักเบาขนาดไหน มันจะหนักก็แต่เฉพาะผู้ยึดผู้ถือมันไว้เท่านั้นนะครับ สุขสันต์วันที่โลกหายใจเป็นฟุตบอลครับ แวะมาเยี่ยมในวันหยุด...สวัสดีครับ
555+ ทีมที่เราเชียร์ตกรอบไปหมดแล้ว ตอนนี้ปล่อยวางแล้วครับ โดย: **mp5**
![]() พี่มาเกือบบอลโลกจะชิงแล้ว แต่พออ่านแล้ว แหม มาช้ายังไง แต่มันก็ยังคงไว้ในความเป็นพี่ เข้ามาอ่านแล้วได้ข้อคิดดีดี มาบำรุงสมอง เข้ามาให้จิตได้คิดตาม ช้าๆ อย่างเข้าใจ ของไกลตัวยังคลั่งและมีผลต่อคนเราได้ขนาดนั้น ประสาอะไรกับจิตกับใจเรา พี่ช่างเข้าใจเปรียบเปรยได้ชัดเจน ขอบคุณค่ะ ![]() โดย: ละอองเวลา
![]() ตะกี้หนูนั่งทวนๆ ชีวิตๆ ตัวเองในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
เห็นความทุกข์เต็มหน้ากระดาษ บ่นนู่นบ่นนี่เต็มไปหมด แล้วก็ถามนู่นถามนี่ ตอนแรกก็พยายามหาคำตอบ สุดท้ายหนูก็เลยเขียนลงไดอารี่เกี่ยวกับคำตอบในบล็อกเก่าๆ ของพี่เอ๊ด ถึงความไม่ยึดมั่นในสิ่งต่างๆ ได้มาอ่านบล็อกนี้ ก็ถึงกับยิ้มค่ะ ขอบคุณที่โลกนี้มีฟุตบอลโลก ทำให้เห็นความไม่แน่นอนต่างๆ เห็นอาการยึดติด โดยเฉพาะเรื่องความชนะ ดูบอลแล้วย้อนดูตัว ก็สนุกดีค่ะ ^^ โดย: I am just fine^^
![]() ดูเหมือนกล่องเม้นต์ไม่เปิด ให้แก้ไขแบบนี้ครับ/
ให้เข้าไปที่จัดการบล็อก เลือก style ของบล็อกให้เป็นแบบ diary style เพราะที่ใช้อยู่เป๋ยแบบ blog style โดย: พี่หนุ่ย (nuyect
![]() |
บทความทั้งหมด
|
มันจะหนักก็แต่เฉพาะผู้ยึดผู้ถือมันไว้เท่านั้น"
จริงด้วยนะ
ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ งั้นทำใจแล้วกัน
ขอบคุณนะ