สวน ต้นไม้ กับคนสวน ![]() รู้จักศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณกรรมที่ชื่อ 'รงค์ วงษ์สวรรค์ ไหมครับ? คุณลุง 'รงค์ เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ 'ที่นี่ประเทศไทย' ออกอากาศเมื่อปี 2547 ท่านพูดถึงสุภาษิตจีนอันหนึ่งว่า.. "ถ้าอยากมีความสุขสักสามชั่วโมงให้ไปซื้อเหล้ามากิน จะสุขไปได้สามชั่วโมงแล้วก็เมา ถ้าอยากมีความสุขสักสามวันให้ฆ่าหมู ถ้าอยากมีความสุขสักสามคืนให้มีเมีย จะสุขอยู่สามคืน ถ้าอยากมีความสุขตลอดชีวิตให้ปลูกต้นไม้ เพราะปลูกต้นไม้มันอายุยืนกว่าเราอีก" บ้านผมมีสวนขนาดย่อมๆ พอปลูกต้นไม้ยืนต้นได้สักสามต้น เป็นสวนที่มาพร้อมกับตัวบ้าน มีสนามหญ้าขนาดพอให้แมวดิ้นตายได้สักสี่ตัว ปีแรกที่มาอยู่ ผมจ้างคนสวนของหมู่บ้านให้มาดูแล รดน้ำพรวนดิน ตัดแต่งกิ่ง อยู่ๆไป จากที่เคยมาทุกวันก็เริ่มเป็นวันเว้นวัน วันเว้นสองวันบ้าง สามวันบ้าง ผมเริ่มรำคาญ ก็เลยโดดลงมาทำสวนเอง ผมพบว่า การทำสวน เป็นงานที่เพลินมากครับ แต่ต้องมีเวลาสม่ำเสมอ คนสวนที่ดี ต้องมีวินัย เพราะต้นไม้เขามีเวลาของเขา ว่าเมื่อไหร่เขาต้องการน้ำ เมื่อไหร่ต้องตัดผมให้เขา เมื่อไหร่ต้องให้ยาบำรุงเขา คนสวนแอสตั้น ดูแลสวนได้ในระดับห่วยปานกลางถึงพอใช้ ต้นไม้หลายต้นงอกเงยดี แต่บางส่วนก็เริ่มทะยอยเท่งทึงไป คราวละต้นสองต้น ประกอบกับคุณสุนัขบังเกิดเกล้าของผม ก็ช่วยวิ่งตะลุยย่ำบ้าง ขุดดินถอนรากบ้าง สวนที่เคยสวยงามขนาดน้องๆสวนนงนุช ก็เริ่มกลายเป็นสวนลุมแต่เป็นฝั่งไนท์บาซาร์นะ ถึงยังไงผมก็ยังชอบทำสวนอยู่ และที่ต้องทำประจำคือการกวาดใบไม้ บ้านผมมีต้นตีนเป็ดสองต้น และสัตบัน 1 ต้นใหญ่ แค่สามต้นนี้ก็กวาดกันเมื่อย เวลากวาดใบไม้ ผมจะพยายามทำตามที่หลวงพ่อปราโมทย์เคยเล่าว่า พระในวัดต่างๆ โดยเฉพาะวัดป่า จะชอบให้ลูกศิษย์ไปกวาดลานวัด เวลากวาดไม่ใช่สักแต่กวาดๆให้เสร็จ แต่กวาดเพื่อจะรู้สึกตัว เห็นร่างกายเคลื่อนไหว ใจเป็นคนดู เห็นว่ากายไม่ใช่ตัวตน เป็นสิ่งที่ถูกรู้ รู้กายเคลื่อนไหวอยู่ พอใจเคลื่อนแว้บไปคิด ก็รู้ทัน ถ้ากวาดใบไม้แล้วภาวนาได้แบบนี้ ล้างจาน ถูพื้น กวาดบ้าน ก็ภาวนาได้หมด หลักการเดียวกันนะครับ กายเคลื่อนไหว มีใจคอยรู้สึก ใจคอยเป็นคนดู วันก่อนผมตื่นเช้าไปกวาดใบไม้ แล้วก็นึกขำว่า เพิ่งกวาดจนเกลี้ยงไปเมื่อสองวันก่อน พอกวาดได้สักพัก จิตมันไปคิดถึงเรื่องที่ผมไปกราบครูบาอาจารย์ แล้วท่านเมตตาพาให้นั่งสมาธิ เรานั่งแล้วก็สงบ สบาย ใจเบา แต่พออีกวันไปทำงานกิเลสมันก็กลับเข้ามามะรุมมะตุ้มเหมือนเดิม จิตก็แว้บขึ้นมาว่า เออ.. ใจเรานี่มันก็ไม่ต่างอะไรกับสวนนี่แหละ มีกิเลส เหมือนใบไม้ ที่กวาดทิ้งเท่าไหร่ ก็ไม่เคยหมด ตราบใดที่ยังมีต้นไม้ ยังมีสวน ใบไม้ก็จะร่วงหล่นมาอีก ไม่ช้าก็เร็ว ถ้าสวนนี้ บ้านนี้ มันยังเป็น "ของเรา" เราก็คงยังจะต้องกวาดมันไปอีกนาน คล้ายๆโศลกของเว่ยหลางนะครับ ที่บอกว่า ถ้าไม่มีต้นโพธิ์ ไม่มีกระจกแล้วฝุ่นจะลงจับอะไร แต่ถามว่า คิดได้แบบนี้ เราทิ้งบ้านไปเลยดีไหม ตอบว่าไม่ดี เพราะยังผ่อนไม่หมด ทิ้งไปก็เท่ากับโกงธนาคารเขา และเรายังเป็นคนธรรมดา ยังไงก็ต้องพึ่งพาอาศัยบ้านช่องห้องหับ ไม่พึ่งหลังนี้ มันก็ต้องไปพึ่ง ไปอาศัยที่ไหนสักที่อยู่ดีนั่นแหละ ชีวิตคนเราก็เป็นอย่างนี้แหละครับ เรามีครูบาอาจารย์คอยบอกเราแล้วว่า กายนี้ใจนี้ไม่ใช่ของเรานะ เป็นของโลกแต่เราไปตู่เอามาเป็นของเรา แต่ฟังแล้ว จู่ๆจะวางเลยได้เองไหม ไม่ได้หรอก ก็ต้องอยู่ร่วมกับมัน อาศัยมันไป ในเมื่อยังต้องอยู่อาศัยพึ่งพากัน ก็ดูแลกันไว้ตามสมควร ไว้ภาวนาไป วันไหนจิตใจมันยอมรับธรรมะได้จริงๆ มันจะค่อยๆมีปัญญา แล้วปล่อยวางด้วยปัญญาเอง วันนั้นแหละ ใบไม้จะร่วงไม่ร่วงก็ไม่สำคัญ เพราะจิตมันถอดถอนความยึดมั่นไปแล้ว ว่านี่เป็น "สวนของเรา" เมื่อไม่ไม่มีความเป็นของเรา กิเลสก็ไม่มีที่ตั้ง เมื่อไม่มีกิเลส ทุกข์ก็ไม่มีที่ตั้งตามไปด้วย สุขสันต์วันที่ใบไม้ร่วงก็แล้วกันนะครับ ![]() แวะเข้ามาเยี่ยม เลยมี " เรื่อง " ใหม่ให้อ่าน
สะกิดให้ดูจิต ดูใจ ตัวเองที่สภาวะบ้านเมืองที่ร้อนไม่แพ้อากาศที่ระอุ โดย: oui IP: 124.121.15.33 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:21:18:14 น.
โดย: Scorchio
![]() การภาวนานี่หลุดประจำค่ะ
ยิ่งเหตุการณ์วุ่นวายแบบนี้ การรู้เท่าทันสถาวะที่เป็นไป เป็นสิ่งที่ต้องหมั่นทำ ดีที่อารมณ์ไม่ชอบแบบนี้เห็นได้ง่ายนะคะ เมื่อวานปล่อยและวางได้ มาวันนี้ไม่ชอบใจก็อดหงุดหงิดกับเหตุการณ์ไม่ได้ ฝุ่นในใจก็มาเกาะ ไม่ต่างกับใบไม้ที่พี่กวาดเลยค่ะ เข้ามาอ่านเพื่อได้ระลึกและเตือนตัวเองอีกครั้งค่ะ ![]() โดย: ขมเตย
![]() เข้ามาอ่านเรื่องดีๆ ค่ะ
ที่ระเบียงบ้านไม่มีใบไม้ให้กวาด แค่ได้ทำสวน ก็เป็นสุขแล้ว โดย: gluhp
![]() อ่านเพลิน เจริญใจเสมอๆค่า สาธุ
บุญรักษาให้กวาดใบไม้อย่างสุขใจนะคะ ชุลีเยอรมันนี โดย: ชุลี (anchulee
![]() จิตร่วงเหมือนใบไม้ทุกวัน...
แล้วก้องอกใหม่เหมือนใบไม้ทุกวัน... ให้รู้สึกตัวทุกขณะจิตใช่ไหมค๊ะคุณเอ็ด ![]() ![]() โดย: พี่แหม๋ว (ฟ้าคงสั่งมา
![]() อ๊าง! ผมเพิ่งรู้ว่าพี่เอ๊ดก็อ่านเว่ยหล่างด้วยเหมือนกัน ผมเคยลงทุนตั้งใจอ่านแบบช้าๆอยู่ 2 รอบ ก็ยังรู้สึกว่าได้แต่เข้าใจไปตามตัวหนังสือแหละ แต่ยังเข้าไม่ถึง และไม่แม้แต่จะเฉียดเข้าไปใกล้คำว่าจิตเดิมแท้ ได้เลย
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่านอย่างสม่ำเสมอนะครับ โดย: เอ๋ IP: 61.7.145.166 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:16:01:11 น.
เมื่อเช้าไม่ได้รดน้ำต้นไม้
-_-" กลับไปจะไปรดค่ะ แล้วก็จะพยายามกวาดลานหน้าบ้านด้วย จะได้ดูจิตดูใจตัวเองบ้าง ช่วงนี้หนูเอาใจไปผูกไว้กับคนอื่น ใบไม้ร่วงในใจทุกวัน ไม่ดีเลยค่ะ โดย: am^^ IP: 58.8.130.213 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:17:48:49 น.
สวัสดีค่ะEd....- _ -
หายไปนานมากๆเลยค่ะ...วันนี้ขอกลับมาสัมผัสความรู้สึกเย็นๆแบบเดิม...ทุกครั้งที่ได้อ่านค่ะ..ยังดูจิตอยู่ค่ะ..รู้สึกตัวแบบเบาๆแต่บ่อยขึ้นนะ...ช่วงนี้โทสะเยอะทุกครั้งที่ดูข่าว..เลยหลบมาอ่านblogดีกว่า...ขอบคุณสำหรับคู่มือการทำสวน...จะเอากลับไปทำสวน(ในใจ)บ้างนะคะ...THanks โดย: บ๊วยเอง IP: 124.122.4.11 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:18:02:43 น.
ขอบคุณมาก สำหรับบทความดีๆ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าอภิรมย์เลย อ่านแล้วสบายใจดีครับ
โดย: ธนัช IP: 124.120.220.45 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:18:58:47 น.
วันนั้นแหละ ใบไม้จะร่วงไม่ร่วงก็ไม่สำคัญ
เพราะจิตมันถอดถอนความยึดมั่นไปแล้ว ว่านี่เป็น "สวนของเรา" .........แต่ว่าเราก็ยังต้องกวาดมันอยู่ ด้วยจิตที่ว่างใช่ไหมครับ โดย: BEAR IP: 202.29.106.222 วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:16:17:44 น.
|
บทความทั้งหมด
|
คนแรก
หายไปนานเลยนะคะ รออ่านทุกวันค่ะ
อย่าเพิ่งทิ้งกันนะคะ