ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
 
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
21 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
ยาเสน่ห์

หญิงสาวปิดโทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วเก็บเข้ากระเป๋า และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็ต้องตกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่ามีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งมานั่งบนม้านั่งตัวเดียวกันกับเธอ เธอคงมัวแต่คุยโทรศัพท์จนไม่ทันรู้ตัวเมื่อเขาเข้ามานั่ง

เธอรู้สึกอายเพราะเมื่อครู่เธอกำลังทะเลาะกับแฟนอยู่ ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินหรือเปล่า

เขาหันมาทางเธอแล้วส่งยิ้มทักทาย ท่าทางเขาดูเป็นมิตร เธอสังเกตเห็นเขาแต่งกายเรียบร้อย ที่พื้นข้างหน้ามีกระเป๋าใบหนึ่งตั้งอยู่ ท่าทางเขาดูคล้ายๆ คนขายประกัน หรือไม่ก็พวกพนักงานขายของตามบ้าน แต่รอยยิ้มนั้นดูอบอุ่นและจริงใจดีจริงๆ เธอจึงเผลอยิ้มตอบกลับไป

“ขอโทษนะครับ ทะเลาะกับแฟนหรือครับ คือผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังหรอกนะครับ”

เธอหุบยิ้มทันที หน้าแดงด้วยความอาย และรู้สึกเสียใจที่ไปเผลอยิ้มตอบเขาเข้า

“คนรักกันชอบกันก็เป็นอย่างนี้แหละครับ เรื่องธรรมดา มาอยู่ใกล้กันมันก็ต้องกระทบกระทั่งกันบ้าง ต้องรู้จักยอม รู้จักอภัย มันถึงจะอยู่กันได้นาน คนรุ่นใหม่สมัยนี้เขาชอบยกเหตุผลมาแย้งกัน แล้วบอกฉันมีเหตุผลเธอไม่มีทะเลาะกันไปไม่จบต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง ก็เลยจบ คือจบกัน แยกกันไปเลย”

เธอเริ่มกระสับกระส่ายที่ถูกชวนคุย แต่รอบๆ บริเวณนี้มีผู้คนพลุกพล่าน เธอจึงไม่ค่อยกลัวนัก และจริงๆ แล้ว เขาก็พูดจาได้เข้าทีดีเหมือนกัน เขาเริ่มชวนเธอคุยอีกในเรื่องทั่วๆ ไปส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนพูดส่วนเธอก็ฟังอย่างเดียว มีการพยักหน้าเห็นด้วยเป็นบางครั้ง แล้วสุดท้ายเขาก็วกมาเข้าเรื่องนี้อีกครั้ง

“แต่เชื่อไหมครับ จริงๆ แล้วเรื่องความรักจะสมหวังหรือไม่ ได้ถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิดแล้วครับ ว่าจะเป็นคู่กันหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่แล้วละก็ถึงจะฝืนไปก็สมหวังยากครับ”

“ที่เขาเรียกว่าพรหมลิขิตใช่ไหมคะ”

“จะเรียกอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่จริงๆ แล้วมันถูกกำหนดอยู่ในหน่วยพันธุกรรม เป็นส่วนเล็กๆ ที่ไม่มีความสำคัญในยีนของแต่ละคน ถ้ามันเข้าคู่กันได้ก็จะไปกันได้ดี แต่ถ้าไม่ก็ต้องลำบากหน่อยละครับ”

เธอทำหน้างงอยู่พักหนึ่ง กว่าจะนึกออกว่าเขาพูดถึงอะไร เธอสงสัยว่าคงจะมาเจอกับนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องเข้าให้แล้ว

“แค่มีตัวอย่าง เล็บ หรือเส้นผมที่มีรากผมติดอยู่ นำมาผ่านกรรมวิธีนิดหน่อย ผมก็สามารถบอกได้แล้วครับว่าสองคนนั้นจะเป็นคู่กัน เหมาะสมกันหรือไม่”

“ถ้าไม่เหมาะก็ต้องเลิกกันเลยหรือคะ ไม่มีทางแก้ไขอะไรได้เลยหรือคะ”

เธอเริ่มสงสัยและกังวลเรื่องระหว่างเธอกับแฟน แรกๆ เธอกับเขาก็ไปกันได้ดีแต่มาพักนี้กลับมีเรื่องกันบ่อยๆ หรือว่าจะเป็นเพราะยีนไม่เข้ากัน

“ไม่ถึงขนาดนั้นครับ แต่จะทะเลาะกันบ่อย ไม่ค่อยเข้าใจกัน มีปัญหาเยอะ และก็มีโอกาสเลิกกันได้สูง และจริงๆ แล้วมันก็พอจะมีทางแก้ไขได้ครับ ผมสามารถแก้ไขยีนที่ไม่เข้าคู่กันให้เข้ากันได้ โดยมีผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”

“คุณสามารถตัดต่อยีนได้หรือคะ นั่นเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงเลยนะคะ”

เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะตอบว่า

“ไม่ครับ ไม่ถึงขนาดตัดต่อยีนหรอกครับ ผมเพียงแค่ใช้สารตัวกลางช่วยในการถ่ายเทองค์ประกอบที่ต้องการจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง เหนี่ยวนำยีนจำนวนเล็กน้อยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แล้วส่วนที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นกระบวนการของร่างกายแบบปฎิกิริยาลูกโซ่ครับ แต่การผลิตสารตัวกลางนี่ยุ่งยากมากครับเพราะต้องสกัดเอามาจากคน”

เขาหยุดแล้วมองไปรอบๆ ก่อนที่จะพูดต่อด้วยเสียงที่เบาลง

“ที่สำคัญคือจะสามารถพบสารที่ว่านี้เฉพาะในผู้หญิงที่ตายแล้ว ร่างกายกำลังเริ่มเน่าเปื่อยเท่านั้น และต้องมีกรรมวิธียุ่งยากมากกว่าจะสกัดสารที่ว่าออกมาได้”

พอเธอได้ยินคำว่าคนตายเข้าเท่านั้นก็ทำหน้าแหยงทันที และเริ่มนึกหาวิธีที่จะขอตัวจากไปอย่างสุภาพ

“ผมรู้ครับว่ามันฟังดูน่ากลัว แต่คุณลองคิดดูนะครับเดี๋ยวนี้การรับบริจาคอวัยวะ การปลูกถ่ายอวัยวะมีทำกันแพร่หลาย นั่นก็เป็นการเอาชิ้นส่วนของคนตายมาใช้นั่นแหละครับ นี่เราเพียงแค่สกัดสารที่ต้องการออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเองครับ มันไม่ได้น่ากลัวเลย

และวิธีการใช้งานก็ทำได้อย่างง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแค่นำสารมาหยดลงบนผิวหนังของเราให้มันจดจำยีนของเรา แล้วนำไปป้ายที่ผิวหนังของเป้าหมาย แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ ที่เหลือก็แค่รอเวลาให้ร่างกายของเขาค่อยๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงไปเอง”

ฟังมาถึงตอนนี้เธอก็เริ่มหันกลับมาสนใจอีกครั้ง มันฟังดูง่ายๆ ชวนให้น่าลอง แต่เธอก็ยังไม่ลืมที่จะถามถึง ผลข้างเคียงเล็กน้อยที่เขายังไม่ได้พูดถึง

“ผลข้างเคียงก็ต้องมีแน่ครับ ต้องอย่าลืมนะครับว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายเลยทีเดียว ก็จะมีอาการใบหน้าหมองคล้ำ ร่างกายอ่อนแอลง อาจจะมีอาการทางประสาทบ้าง ถ้ามีอาการมากอาจถึงขั้นล้มป่วยต้องนอนพักก็ได้ ก็คงพอๆ กับเวลาเป็นไข้หวัดหนักๆ นั่นแหละครับ

พอร่างกายเริ่มปรับตัวได้เข้าที่แล้วอาการเหล่านี้ก็จะค่อยๆ ทุเลาหายไปเองครับ อ้อผมลืมบอกไปอีกอย่างการใช้ยานี้ต้องระวังไม่ให้เป้าหมายรู้ตัวด้วยนะครับ เพราะถ้าจิตใจคิดต่อต้าน ผลข้างเคียงจะรุนแรงขึ้นมาก จิตใจกับระบบในร่างกายมันเชื่อมโยงถึงกันครับ”

“แล้วอาการแบบที่ร้ายแรงที่สุดที่เคยพบนี่เป็นยังไงคะ”

เขาทำหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที

“ก็มีกรณีที่เกิดอาการทางประสาทอย่างรุนแรงครับ คือร่างกายเกิดการต่อต้านการเหนี่ยวนำที่เกิดขึ้นจนมีอาการเพ้อ กลายเป็นคนเสียสติ แต่อาการรุนแรงแบบนี้พบน้อยมากครับไม่ถึง 1% กับอีกแบบก็คือใช้ไม่ได้ผลคือร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งมากจนสามารถต่อต้านการเหนี่ยวนำได้ กรณีนี้พบมากขึ้นมาหน่อยคือ ประมาณ 10% ครับ”

ฟังๆ ดูมันก็ไม่ได้เสี่ยงมากมายอะไรนัก หากเธอจะมีเจ้ายาตัวนี้เก็บเอาไว้ใช้ในยามที่เข้าตาจนจริงๆ หรือยังอาจจะเอาไว้ใช้ในกรณีที่เกิดไปเจอหนุ่มคนใหม่ที่ถูกใจกว่านี้ก็ยังได้ ปัญหาสำคัญตอนนี้จึงเหลือเพียงประการเดียว

“เจ้ายาที่ว่านี้มันแพงมากไหมคะ”

พอมาถึงตอนนี้เขาเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ที่พื้นขึ้นมาแล้วเปิดมันแง้มออกเล็กน้อย เขามองเข้าไปในกระเป๋าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า

“ตอนนี้ผมเหลือยาอยู่เพียง 5 ซี ซี เท่านั้นเองครับ และไม่รู้ว่าจะผลิตเพิ่มได้อีกเมื่อไรด้วย”

เขาบอกราคาที่ค่อนข้างสูงออกมา แต่เธอก็ไม่ย่อท้อเพราะเธอก็เป็นนักซื้อมืออาชีพเหมือนกันเธอคิดว่าจะสามารถต่อรองราคาลงมาได้อีก การเจรจาต่อรองดำเนินไปอยู่ครู่ใหญ่จนกระทั่งในที่สุดก็ได้ตัวเลขที่เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายจนได้

“ตกลงกันตามนี้นะครับ ผมจะขายให้คุณหมดทั้ง 5 ซี ซี เลย”

เขาเปิดกระเป๋าออกเพื่อจะหยิบยาให้เธอ และเมื่อเธอเห็นของที่อยู่ภายในกระเป๋ารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็สลายไปในทันที เธอหน้าแดงด้วยความโกรธปนความอาย แล้วรีบลุกขึ้นเดินหนีไปทันทีโดยไม่สนใจเสียงที่เขาตะโกนเรียกไล่หลังมา

ภายในกระเป๋าของเขามี ถุงเก่าๆ สีเหลืองที่ลายบนถุงเลือนจนดูไม่ออก ม้วนด้าย เทียนไขที่ถูกจุดแล้ว มีดรูปร่างแปลกๆ และขวดยาขนาด 5 ซี ซี ที่มีป้ายติดไว้อย่างเด่นชัด เขียนว่า “น้ำมันพราย”


Create Date : 21 มีนาคม 2552
Last Update : 18 มีนาคม 2553 12:47:34 น. 3 comments
Counter : 844 Pageviews.

 
น้ำมันพลายคือไรอ่า - -
เรื่องดูน่ากลัวจัง(ขนลุก)


โดย: บลาๆๆ IP: 125.25.22.76 วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:21:32:35 น.  

 
อย่าทำเด็ดขาด


โดย: ผู้หวังดี IP: 223.206.76.122 วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:15:42:09 น.  

 
ได้ผลจิงหรอ สมัยนี้ยังมีอยู่หรอ


โดย: kidty IP: 183.89.112.127 วันที่: 26 สิงหาคม 2555 เวลา:19:42:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.