|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
หมาข้างถนน
๑
ผมยืนรอรถประจำทางอยู่ตรงป้ายที่เคยขึ้นเป็นประจำ ท้องฟ้านั้นมืดสนิท บนท้องถนนก็ยังไม่ค่อยจะมีรถราวิ่งสักเท่าไร การมีบ้านอยู่ชานเมือง แต่มีที่ทำงานอยู่ภายในเมืองนั้นก็เป็นอย่างนี้เอง ผมจำเป็นต้องตื่นตั้งแต่ก่อนตีห้า เพื่อจะเดินทางฝ่ารถติดเข้าไปทำงานให้ทัน ผมเคยคิดว่าถ้าเก็บเงินได้สักก้อน จะไปหาคอนโดอยู่ในเมืองเสียเลย แต่จนแล้วจนรอดมันก็เป็นได้แค่เพียงความฝันเท่านั้น งานที่ผมทำอยู่ในตอนนี้พอจะมีความมั่นคงอยู่บ้าง แต่เงินเดือนที่ได้รับก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก เพียงพอแค่ให้ผมช่วยพ่อแม่จ่ายค่าผ่อนบ้าน กับใช้หาความสำราญให้ชีวิตได้อีกเล็กน้อย ครอบครัวของผมมีด้วยกันทั้งหมดสี่คน พ่อ แม่ พี่สาว กับตัวผม แต่เมื่อพี่สาวแต่งงานมีครอบครัว และต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด เธอก็แทบจะหายออกจากชีวิตของพวกเราไปเลย จะมีก็เพียงแค่โทรกลับมาหากันบ้างนานๆ ครั้ง พ่อแม่ของผมมีเชื้อสายจีน และแต่งงานกันตั้งแต่ในยุคสมัยที่ยังมีการใช้แม่สื่อแม่ชัก ทั้งสองไม่ได้เริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยความรัก แต่ก็อยู่ด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้ ผิดกับคู่รักทั้งหลายในปัจจุบัน ที่เริ่มต้นจากความรักที่ดูเหมือนร้อนแรงแสนดูดดื่ม แต่กลับต้องจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ผมเองก็ไม่เคยแน่ใจเหมือนกันว่า วันเวลาที่ต้องใช้ร่วมกันมาเนิ่นนานนั้น จะก่อให้เกิดเป็นความรักขึ้นมาได้หรือไม่ ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะช่วยกันเลี้ยงดูพวกเราสองพี่น้องมาได้เป็นอย่างดีก็ตาม ผมมองไปที่ไหล่ทาง มีหมากลุ่มหนึ่งกำลังนอนเล่นกันอยู่ ตัวที่มีขนสีขาวมอมนอนล้ำออกไปบนถนนพร้อมกับกระดิกหางอย่างสบายอารมณ์ มีรถหลายคันวิ่งผ่านไปด้วยความเร็วอย่างน่าหวาดเสียว แต่มันเพียงแค่กระดิกหู ยกหัวขึ้นมอง แล้วก็นอนต่อไปเช่นเดิม รถคันที่ผมรออยู่มาถึงแล้ว ล้อของมันเฉียดผ่านหมาสีขาวตัวนั้นไปเพียงนิดเดียว ครั้งนี้มันไม่สนใจแม้แต่จะยกหัวขึ้นมามองด้วยซ้ำ ผมก้าวขึ้นไปบนรถประจำทางเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
๒ ผมยืนรอรถประจำทางอยู่ตรงป้ายที่เคยขึ้นเป็นประจำ ท้องฟ้านั้นมืดสนิท บนท้องถนนก็ยังไม่ค่อยจะมีรถราวิ่งสักเท่าไร การมีบ้านอยู่ชานเมือง แต่มีที่ทำงานอยู่ภายในเมืองนั้นก็เป็นอย่างนี้เอง ผมจำเป็นต้องตื่นตั้งแต่ก่อนตีห้า เพื่อจะเดินทางฝ่ารถติดเข้าไปทำงานให้ทัน ผมใช้ชีวิตโสดไปวันๆ อยากเที่ยวกับใครก็เที่ยว อยากไปไหนกับใครก็ไป เป็นชีวิตอิสระที่สุดแสนจะมีความสุข ผมไม่ได้ต่อต้านการแต่งงาน เพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่เจอกับคนที่ใช่ และผมคิดว่าเรื่องนี้มันไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรด้วย
ผมชอบออกไปท่องราตรีกับเพื่อนที่ทำงานบ่อยๆ ร้านไหนดัง ร้านไหนคนแน่นพวกเราก็ไป การได้พบเจอกับสาวๆ แปลกหน้าบ้าง สร้างความคึกคักให้กับผมได้เสมอ ไม่ต้องคิดอะไรให้มาก เพราะเราคงได้เจอกันแค่เพียงครั้งเดียว หรืออย่างมากก็เจอกันเฉพาะในสถานที่แบบนี้เท่านั้น หมาสีขาวมอมตัวเดิมกับพวกเพื่อนๆ ของมันเดินผ่านเข้ามาใกล้ ครั้งนี้ผมมองเห็นบั้นท้ายของมันได้อย่างถนัด มันเป็นหมาตัวผู้ ผมนึกสนุกขึ้นมาจึงเอ่ยถามมันออกไปว่าเคยมีเมียแล้วหรือยัง เจ้ามอมเดินต่อไปโดยไม่หันมาใส่ใจผมเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะล้มตัวลงนอนพร้อมกับยื่นหัวออกไปในถนนเหมือนเช่นเคย ผมก้าวขึ้นไปบนรถประจำทางเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
๓ ผมยืนรอรถประจำทางอยู่ตรงป้ายที่เคยขึ้นเป็นประจำ ท้องฟ้านั้นมืดสนิท บนท้องถนนก็ยังไม่ค่อยจะมีรถราวิ่งสักเท่าไร การมีบ้านอยู่ชานเมือง แต่มีที่ทำงานอยู่ภายในเมืองนั้นก็เป็นอย่างนี้เอง ผมจำเป็นต้องตื่นตั้งแต่ก่อนตีห้า เพื่อจะเดินทางฝ่ารถติดเข้าไปทำงานให้ทัน เมื่อวานนี้ผมใช้เวลานั่งคุยกับเพื่อนๆ ผ่านโปรแกรมยอดฮิตทางอินเตอร์เน็ตเป็นเวลานาน เพื่อนที่ว่านี้ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นคนที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนแทบทั้งสิ้น แถมบางคนก็พึ่งจะรู้จักกันในวันนั้นนั่นเอง การสนทนาเริ่มต้นจากเรื่องราวต่างๆ ที่กำลังได้รับความสนใจในตอนนั้น รวมข่าวเด็ด ล้วงลึกดารา ล้วงตับนักร้อง สารพัดละคร แต่สุดท้ายกลับย้อนไปหาอดีตเก่าๆ เรื่องราวในวัยเด็ก ซึ่งแต่ละคนต่างมีช่วงเวลาดีๆ มาเล่าสู่กันฟังทั้งนั้น
ผมพยายามนึกทบทวนถึงเรื่องน่าประทับใจในอดีต น่าแปลกที่กลับนึกอะไรไม่ออกเลย ผมจดจำเรื่องเก่าๆ ในวัยเด็กของตัวเองแทบไม่ได้ เรื่องไม่กี่เรื่องที่ผุดขึ้นมานั้น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรนำออกมาเปิดเผยให้ใครได้รับรู้ สุดท้ายผมจึงแต่งเรื่องราวที่น่าประทับใจในวัยเด็กขึ้นมาเอง ตัวตนในโลกอินเตอร์เน็ตนั้นเต็มไปด้วยการบิดเบือนอยู่แล้ว เรื่องราวปลอมๆ เพียงเล็กน้อยของผมคงไม่ไปก่อความเดือดร้อนให้กับใคร และเรื่องที่คนอื่นๆ เล่าออกมานั้น ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่ติดอยู่ในใจของผมก็คือ เมื่อกลับมานั่งนึกทบทวนถึงอดีตที่ผ่านมา ผมกลับจำเรื่องราวย้อนหลังไปได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ชีวิตส่วนที่ไกลกว่านั้นดูเลือนลางไม่ชัดเจน ทั้งๆ ที่ผมเคยคิดว่าตัวเองได้ทำอะไรเอาไว้ตั้งมากมาย หรือว่าชีวิตที่ผ่านมาของผม มันจะไม่มีเรื่องอะไรที่น่าจดจำเอาเสียเลยจริงๆ หมาสีขาวตัวเดิมรีบลุกขึ้นเพื่อหลบรถที่กำลังวิ่งใกล้เข้ามา มันคงรู้แล้วว่าตำแหน่งการนอนของมันนั้น น่าจะก่อให้เกิดอันตรายกับตัวเอง แต่เปล่าเลยพอรถคันดังกล่าววิ่งผ่านไป มันก็เดินย้อนกลับไปนอนกระดิกหางอยู่ตรงที่เดิมนั่นเอง ผมก้าวขึ้นไปบนรถประจำทางเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
๔ ผมยืนรอรถประจำทางอยู่ตรงป้ายที่เคยขึ้นเป็นประจำ ท้องฟ้านั้นมืดสนิท บนท้องถนนก็ยังไม่ค่อยจะมีรถราวิ่งสักเท่าไร การมีบ้านอยู่ชานเมือง แต่มีที่ทำงานอยู่ภายในเมืองนั้นก็เป็นอย่างนี้เอง ผมจำเป็นต้องตื่นตั้งแต่ก่อนตีห้า เพื่อจะเดินทางฝ่ารถติดเข้าไปทำงานให้ทัน ตั้งแต่เรียนจบ และได้งานทำ เพื่อนๆ ที่เคยรู้จักกันในมหาวิทยาลัยก็ค่อยๆ หายหน้าหายตาไปทีละคนสองคน จนสุดท้ายแล้ว แม้แต่คนที่เคยคิดว่าเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดก็ยังขาดการติดต่อกันไปจนได้ แต่เพื่อนกลุ่มใหม่ที่ทำงานอยู่ด้วยกันในตอนนี้ บางคนก็ยังคงมีการติดต่อกับเพื่อนในสมัยเรียนอยู่เช่นเดิม ผมรู้สึกสงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าความสัมพันธ์ระหว่างของผม กับของเพื่อนเหล่านั้นแตกต่างกันที่ตรงไหน ทำไมพวกเขายังคงเกาะกลุ่มกันอยู่ได้ ในขณะที่ของผมกลับกระจัดกระจายต่อกันไม่ติดอีกเลย ยิ่งเมื่อหวนคิดไปถึงเพื่อนๆ ตั้งแต่สมัยที่อยู่ชั้นประถม และมัธยมแล้ว ก็ยิ่งไม่รู้เลยว่าป่านนี้จะไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง มันเลยทำให้ผมคิดต่อไปอีกว่า แล้วบรรดาเพื่อนๆ ในที่ทำงานเหล่านี้ ที่รู้สึกว่าสนิทสนมกันดีนั้น ในอนาคตข้างหน้าหากมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนงาน หรือแยกย้ายกันไปแล้ว จะกลายเป็นแบบเดียวกับพวกเพื่อนในสมัยเรียนด้วยหรือเปล่า ทั้งหมดอาจจะยังสามารถรวมตัวกัน และรักษาความสัมพันธ์อันดีนี้ต่อไปอีกก็เป็นได้ แต่อาจมีตัวผมเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่จะหายไปจากพวกเขา หมาสีขาวมอมตัวเดิมกับเพื่อนพ้องของมัน ยังคงพากันมานอนเล่นอยู่ริมถนน และรถหลายคันก็วิ่งฉิว เฉียดผ่านมันไปอย่างน่าหวาดเสียวเช่นเดิม พวกมันไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ทำกันอีกแล้วหรือไรนะ ผมก้าวขึ้นไปบนรถประจำทางเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
๕ ผมยืนรอรถประจำทางอยู่ตรงป้ายที่เคยขึ้นเป็นประจำ ท้องฟ้านั้นมืดสนิท บนท้องถนนก็ยังไม่ค่อยจะมีรถราวิ่งสักเท่าไร การมีบ้านอยู่ชานเมือง แต่มีที่ทำงานอยู่ภายในเมืองนั้นก็เป็นอย่างนี้เอง ผมจำเป็นต้องตื่นตั้งแต่ก่อนตีห้า เพื่อจะเดินทางฝ่ารถติดเข้าไปทำงานให้ทัน แล้วผมก็ได้รับรู้ความหมายของคำพูดที่ว่า ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนอย่างแท้จริงด้วยตัวเอง เมื่อไม่นานมานี้พ่อแม่ของผมเกิดล้มป่วยขึ้นมาพร้อมๆ กัน และผ่านไปเพียงไม่กี่วัน พวกท่านก็พากันจากไปโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนหน้านี้ที่พวกเราอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ผมกลับไม่ค่อยจะนึกถึงพวกท่านสักเท่าไร เราเจอหน้ากันแทบทุกวัน แต่ก็เหมือนกับว่าไม่เคยได้เจอะเจอกันอย่างแท้จริงเลย มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่อธิบายไม่ถูก
ผมกลับไปค้นรูปถ่ายเก่าๆ ในวัยเด็กออกมานั่งดู แล้วบอกกับตัวเองว่า ในช่วงเวลาเหล่านั้นความรู้สึกของผมที่มีต่อพวกท่าน ต้องไม่ใช่แบบเดียวกับที่เป็นอยู่ในตอนนี้แน่ แต่มันกลายมาเป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อใดนั้น ตัวผมเองก็ไม่อาจให้คำตอบได้ อีกเรื่องหนึ่งคือ ผมแทบจะไม่รู้จักกับญาติคนอื่นใดอีกเลย พวก อากง อาม่าของผมนั้นต่างเสียชีวิตกันไปหมดแล้ว ญาติเพียงคนเดียวที่ผมพอจะนึกออก ก็คือพี่สาวที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานแล้วนั่นเอง ไม่เพียงแค่นั้นแม้แต่เหล่าเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กัน ผมก็แทบจะไม่รู้จักเลยสักคน มันเหมือนกับมีกำแพงที่มองไม่เห็นปิดกั้นผมเอาไว้ และผมก็ไม่เคยรู้สึกถึงการมีอยู่ของมันมาก่อนเลยจนกระทั่งถึงตอนนี้ คนที่มางานศพของพวกท่าน ส่วนใหญ่จึงเป็นเพื่อนๆ ที่ทำงานของผม กับคนรู้จักของพี่สาวนั่นเอง และหลังจากเสร็จงาน พี่สาวเพียงคนเดียวก็หายไปจากชีวิตของผมอีกครั้ง คราวนี้แม้แต่โทรศัพท์ก็ไม่เคยมีกลับมาอีกเลย หมาสีขาวตัวเดิมเดินมาที่ริมถนน มันหันมามองหน้าผมนิดหนึ่ง ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนเช่นเคย แต่คราวนี้มันแทบจะนอนอยู่กลางถนนเลยทีเดียว รถคันที่ผมรออยู่กดแตรเสียงดังลั่น ทำให้มันสะดุ้งรีบวิ่งไปหลบอยู่กับเพื่อนๆ ของมันที่ข้างทาง ผมก้าวขึ้นไปบนรถประจำทางเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
๖ ผมยืนรอรถประจำทางอยู่ตรงป้ายที่เคยขึ้นเป็นประจำ ท้องฟ้านั้นมืดสนิท บนท้องถนนก็ยังไม่ค่อยจะมีรถราวิ่งสักเท่าไร การมีบ้านอยู่ชานเมือง แต่มีที่ทำงานอยู่ภายในเมืองนั้นก็เป็นอย่างนี้เอง ผมจำเป็นต้องตื่นตั้งแต่ก่อนตีห้า เพื่อจะเดินทางฝ่ารถติดเข้าไปทำงานให้ทัน ภาระค่าผ่อนบ้านที่เหลืออยู่ทั้งหมดกลายมาเป็นความรับผิดชอบของผมแต่เพียงผู้เดียว เพราะพี่สาวยอมยกให้ และไม่ต้องการมีส่วนร่วมในบ้านหลังนี้อีกต่อไป แต่ส่วนแบ่งที่ได้มาจากประกันชีวิตของพ่อแม่ก็ช่วยทำให้มันเบาลง จนผมพอจะสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก แต่บ้านว่างเปล่าที่รอคอยให้ผมกลับมาทุกวันนั้น มันช่างไม่น่าอยู่เอาเสียเลย คืนหนึ่งผมเดินฝ่าความหนาวเย็นออกมายืนมองดูมันอยู่นาน จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้ ผมจะขายมันแล้วเอาเงินไปซื้อคอนโดอยู่ในเมืองดีกว่า หมาสีขาวมอมตัวเดิมเดินมาราวกับว่ามันมีนัดหมายสำคัญกับผมทุกเช้า มันมองหน้าผมก่อนจะยืดขาหน้าออกแล้วกดตัวลงต่ำ เหมือนกับเป็นการบิดขี้เกียจ หลังจากนั้นจึงเดินออกไปยังที่ประจำของมัน ผมมองไปตามถนน รถแท็กซี่สีส้มคันหนึ่งวิ่งมาอย่างรวดเร็ว เสียง ตึง ดังขึ้น รถคันนั้นวิ่งผ่านไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้ามอมไม่ได้ส่งเสียงร้องใดๆ ออกมาเลย มันนอนตะแคงอยู่ริมถนนพร้อมลมหายใจที่รวยริน ขนสีขาวมอมที่หัวของมันถูกย้อมด้วยสีแดงเข้ม และเศษฝุ่นสีดำ ผมยืนตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก รถคันที่กำลังรออยู่ขับเข้ามายังป้ายรถประจำทางอย่างช้าๆ หมาตัวอื่นๆ ยังคงนอนเล่นกันต่อไป ไม่มีตัวใดจะใส่ใจกับเหตุการณ์ร้ายแรงที่พึ่งเกิดขึ้นกับเพื่อนของมันเลยแม้แต่น้อย แล้วในชั่วแวบหนึ่งนั้น ผมก็มองเห็นภาพของตัวเองซ้อนทับกับเจ้ามอม ความรู้สึกเมื่อตอนที่พึ่งสูญเสียพ่อแม่ไปย้อนกลับมาหาผมอีกครั้ง ผมกำลังติดอยู่ในกำแพง หรือความจริงแล้วตัวผมเองนั่นแหละที่เป็นคนก่อกำแพงขึ้นมาขังตัวเองเอาไว้ ผมตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมจึงกลายมาเป็นคนแบบนี้ไปได้
บางทีอาจจะเหมือนกับการที่เจ้ามอมต้องมานอนท้ารถอยู่ริมถนนทุกเช้าก็เป็นได้ ตัวมันเองก็อาจไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปเพื่ออะไร และถ้าหากผมต้องตายไปในตอนนี้ ก็คงไม่มีอะไรแตกต่างจากมันเลยแม้แต่น้อย ผมเองก็คงต้องตายอย่างเดียวดาย และไร้ความหมายเช่นกัน ผมก้าวขึ้นไปบนรถประจำทางเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับลงมา ทั้งกระเป๋ารถ และคนขับต่างหันมามองอย่างไม่เข้าใจ ผมโบกมือบอกให้พวกเขาออกรถไป ก่อนจะก้าวเข้าหาร่างที่กำลังนอนหายใจอย่างรวยริน ผมคุกเข่าลง ลองยกมือไปแตะ ก่อนจะลูบที่ตัวมันเบาๆ ตาของมันเบิกค้าง ไม่แสดงถึงความรับรู้ใดๆ ทั้งสิ้น ผมยังคงลูบตัวมันอยู่อย่างนั้น ร่างของเจ้ามอมกระตุกสองสามครั้งก่อนที่มันจะหยุดหายใจไปในที่สุด น้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง ไม่รู้ว่าผมร้องไห้ให้กับชีวิตของหมาข้างถนนตัวหนึ่ง หรือให้กับชีวิตของตัวเองกันแน่
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
1 comments |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2554 8:20:30 น. |
Counter : 800 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ IP: 111.84.63.108 1 กุมภาพันธ์ 2554 8:53:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ดังนั้นตอนนี้อยากจะทำอะไรให้รีบทำนะคะ
อย่ารีรอนะคะ