เรื่องรักไม่ธรรมดา ระหว่าง เทส แครอล ...หญิงสาวผู้ฝันจะทำสถิติล่องเรือคนเดียวไปรอบโลก เพื่อใช้ชีวิตตามคติพจน์ dive for dreams ที่พ่อผู้ล่วงลับไปแล้วสอนไว้ ถ้ามีลมพายุกำลังพัดเข้าทางตะวันออก เธอจะไม่หลบไปตะวันตก แต่จะมุ่งสู่ตะวันออกเพื่อสู้กับโชคชะตากับ ชาร์ลี เซนต์คลาวด์ ...ผู้ดูแลสุสานที่แทบไม่เคยย่างเท้าออกนอกเมือง เพราะต้องรักษาสัญญากับแซม..น้องชายที่เสียไปเมื่อ 13 ปีก่อน ในวันที่เขาเกิดนึกสนุกอยาก racing the moon ขึ้นมา แซมเสียชีวิตในอุบัติเหตุจากความประมาทของพี่ชาย ชาวบ้านซุบซิบกันว่าชาร์ลีไม่เคยทำใจลืมตราบาปนี้ได้เลย แต่ความจริงคือชาร์ลีไม่ต้องลืม เพราะเขากับแซมยังคงอยู่ด้วยกัน..ภายใต้เงื่อนไขบางประการ ความรักระหว่างพี่น้องโยงใยหนึ่งคนหนึ่งวิญญาณไว้ในโลกเมื่อชาร์ลีพบเทส ความรักเบ่งบานในโลก In Between ซึ่งชาร์ลีสามารถมองเห็นและพูดคุยกับวิญญาณในเขตสุสานได้ แต่อุปสรรคตามมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเทสไม่สามารถอยู่กับชาร์ลีได้ ชาร์ลีพบว่าเขาไม่อาจพอใจกับโลกที่มีแค่เขากับวิญญาณน้องชายได้เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป มีแต่ True Wind เท่านั้นถึงจะขจัดความเศร้าและความยึดติดทั้งหลายให้หมดไปจากใจ และพัดพาความสุขอันแท้จริงเข้ามาสู่ชีวิตของทุกคนแนะนำสำหรับผู้ต้องการทำใจ และก้าวต่อไปข้างหน้าค่ะนิยายแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ดังนี้: Introduction, (เกริ่นเรื่อง)Racing the Moon, (อดีตความเป็นมาของชาร์ลี)Dive for Dreams, (อดีตความเป็นมาของเทส + เริ่มเข้าประเด็น)In Between, (ปัจจุบันของทุกคน)True Wind (ไคลแมกซ์)และ Afterword... ความรู้สึกหลังอ่าน ...คิดว่าเป็นนิยายที่เดินเรื่องได้น่าติดตาม ชวนซึ้งและถูกใจที่สุดในบรรดานิยายแนวรันทดหดหู่ที่หยิบมาอ่านอยู่ช่วงหนึ่ง สรุปได้คำเดียวว่า ลงตัว ดี เนื้อเรื่องไม่เนิบนาบอ้อยอิ่ง--อ่านแล้วเศร้าเกินไป (แถมหลับอีกต่างหาก) ไม่ยืดเยื้อจับโน่นผสมนี่--ชวนให้สงสัยว่านี่แนวอะไร สำนวนอ่านแล้วก็รื่นใช้ได้ สอดแทรกแง่คิดเรื่อง life after death ได้ดีในระดับหนึ่ง ข้อเสียคือเดาพล็อตออกได้ง่าย แทบไม่มีอะไรให้ประหลาดใจเพราะคำโปรยที่ปกหลังเผยไต๋ความพิเศษของตัวเอกไปเรียบร้อยแล้ว (อ้างอิงจากเวอร์ชั่นปกอ่อนอเมริกา) หากแต่ลีลาการเดินเรื่องช่วยให้รู้สึกลุ้นอยากอ่านได้ตั้งแต่บทเกริ่น ถึงจะเดาพล็อตได้ตรงกลางเรื่องก็ยังอ่านต่อไปได้โดยไม่เบื่อ อาจเป็นเพราะเดินเรื่องได้อ่านง่ายดี แถมไม่ค่อยยาวนัก เลยอ่านจบก่อนที่จะรู้สึกอยากตัดคะแนนเห็นข้อมูลบอกว่ามีการซื้อสิทธิ์ไปทำเป็นหนังแล้ว ...ใครไม่อยากอ่าน รอดูหนังเลยก็ได้ค่ะ คิดว่าน่าจะได้อารมณ์ไม่ต่างกัน