สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของที่นี่ไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด (พี่ชายฉันเป็นทนายนะจ๊ะ) มีขู่ด้วย
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
15 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
คนดีหลบใน

Ultra Modern

แสงแดดเริ่มสาดไล่มาตรงพื้นที่ผมยืนอยู่ซะแล้ว แถมยังแรงขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลดแสงลงแม้แต่น้อย มันยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีกแถมรถเมล์ที่ผมยืนคอยมันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาง่ายๆซะด้วยซ้ำ เมื่อดูนาฬิกาที่ข้อมือผมก็รู้ชะตากรรมตัวเองอยู่แล้วว่าผมต้องไปเรียนสายแน่ๆแต่ถ้าคิดในแง่ดีผมอาจจะไปทันตอนที่อาจารย์เช็คชื่อก็เป็นได้น่า
โถ่ถัง...เวรกรรมเอ๊ย วันนี้ผมไม่น่าตื่นสายเลยแถมผมยังต้องมานั่งเซทผมเผ้าให้เข้ารูปซะทุกเช้าอีกด้วย จะบ้าตาย....แถมเสื้อผ้าก็ยังต้องให้ดูอินเทรนถึงแม้ว่าอากาศเมืองไทยจะร้อนแค่ไหนจะให้ใส่เสื้อ 2 ชั้น 3 ชั้นผมก็ยอมทั้งนั้นแหละน่า ถ้ามันจะทำให้ผมหล่อขึ้นมา และเช้านี้ผมก็หมดแว๊กซ์ไปอีกครึ่งกระปุกเพื่อจะให้ทรงผมของผมถอดแบบออกมาจากในหนังสือแฟชั่น ก็จะให้ทำยังไงได้กับไอ้คนอย่างผมที่เกิดจะพึ่งมาหล่อเอาตอนนี้ก็กระแสนิยมหนุ่มตี๋แรงออกอย่างนี้ผมจะไม่หล่อยังไงไหว คนอย่างผมก็พึ่งจะมาเกิดเอาตอนนี้แหละหลังจากที่ต้องเป็นไอ้ตี๋หน้าจืดมาซะนานแสนนานจนแทบจะเรียนจบมหาลัยแล้วก็ยังไม่หญิงใดยอมมาเดินควงด้วย แต่เมื่อมาถึงวันนี้ผมแทบจะติดอันดับป๊อปปูล่าคณะเข้าไปแล้ว มองไปมองมาก็มีสาวๆมองมาที่ผมเข้าให้แล้วผมเลยต้องยิ่งยืนเกร็กหล่ออย่างภูมิใจให้มันมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก นี่ถ้าผมมีรถขับนะแค่รถญี่ปุ่นก็ได้ไม่ต้องหรูหราอย่างรถยุโรปหรอก ผมจะหล่อเข้าไปอีกขนาดไหนกันนะ
โอ้โห....ไม่อยากจะคิด
ผมยืนเก็กหล่อไปอย่างเพลินๆก็มองไปเห็นชายคนนึงลงมาจากรถเมล์ ท่าทางของเขาทำให้ผมต้องหันไปจ้องมองอย่างเสียมารยาทแต่เขาก็คงไม่รับรู้หรอก เพราะตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเขาตาบอดทั้ง 2 ข้างแถมท่าทางของเขาก็คล้ายๆกับตะเกียกตะกายลงจากรถเมล์โดยที่ไม่มีใครคิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเลยแม้แต่น้อย ก็ช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างนี้ใครๆเค้าก็ต้องเอาตัวรอดกันก่อนทั้งนั้นน่ะแหละนะ ช่วยเหลือตัวเองไปก่อนแล้วกันนะครับคุณลุง ที่มือคุณลุงยังถือถุงอะไรพะรุงพะรังเสริมเข้าไปอีก ผมมองไปที่หน้าตาที่ดูเหนื่อยล้าเหงื่อที่ไหลลงมาเป็นสายบนใบหน้าแค่ผมเห็นก็สยองแล้ว ถ้าตอนนี้สภาพผมเป็นอย่างนั้นบ้างผมคงกลับบ้านไปแล้วล่ะผมไม่ไปเรียนแน่นอนเรื่องอะไรจะให้สาวๆในคณะมาเห็นผมตอนที่ผมไม่หล่อกันล่ะ ผมก็เลยทำตัวกลมกลืนกับคนรอบข้างคือเฉยๆทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เอ๊อ....แต่สาวตาเจ้ากรรมของผมมันก็ยังไม่ยอมที่จะหยุดสอดส่ายไปซ้ำหูก็ยังได้ยินอีกว่า คุณลุงตาบอดคนนั้นถามหาสายรถเมล์อยู่
เฮ้ย ....นั่นเป็นสายเดียวกับที่ผมรอนี่นา แต่ช่างเหอะไม่เกี่ยวอะไรกับผมนี่ แล้วนั่นรถเมล์สายนั้นมันก็กำลังจะมาถึงแล้วจอดติดไฟแดงอยู่ลิบๆพอที่จะมองเห็นได้แล้วด้วย แต่วูบหนึ่งที่อยู่ในใจของผมก็นึกถึงตอนที่ผมหลงทางไปบ้านเพื่อนขึ้นมาจนได้ ตอนนั้นผมก็งุ่มง่ามอย่างนี้เองนี่นาผมเดินถามใครต่อใครซะจนวุ่นวายไปหมด บางคนก็เต็มใจตอบบางคนก็ส่ายหน้าให้ผมด้วยท่าทางรำคานไอ้ตี๋หน้าจืดอย่างผมซะเต็มประดาจนผมอยากจะร้องไห้ต่อน้ำใจของคนรอบข้างอยู่รอมล่อ แต่แล้วปราฎิหารย์ก็บังเกิดผมมายิ้มได้ก็เมื่อมาเจออคนใจดียื่นน้ำใจมาให้ผมชวนผมขึ้นรถเมล์ไปด้วย ทั้งๆที่เขาลงก่อนผมแต่ไมตรีที่เขามีให้กับผมมันยังไม่จบแค่นั้นเขายังฝากฝังให้กระเป๋าบอกป้ายที่ผมจะลงให้ด้วย วันนั้นผมจึงได้ไปถึงบ้านเพื่อนอย่างปลอดภัยไร้กังวล แต่ถ้าตอนนี้ผมจะทำตัวเป็นคนดีมีน้ำใจอย่างนั้นเข้าบ้างล่ะ เฮ้ย....ผมก็ต้องช่วยจูงขึ้นรถอีกนี่นา เนื้อแนบเนื้อแขนแนบแขนกันนี่นะ
อ่ะโห...แล้วดูเหงื่อของเขาที่มันระดมไหลออกมาซิถ้ามันหยดลงมาที่ผมล่ะ บรื๋อ...แค่คิดก็สยองแล้ว
รถเมล์เข้ามาจอดที่ป้ายแล้ว ผมขึ้นมาบนรถเมล์คันนี้ก็มีคนลุกขึ้นเสียสละที่นั่งให้ แต่เขาไม่ได้ลุกขึ้นเพื่อให้ไอ้ตี๋หน้าจืดอย่างผมนั่งหรอกครับ เขาลุกขึ้นเพื่อเสียสละให้คุณลุงต่างหากท่ามกลางผู้ชายที่นั่งกันอยู่บนรถคันนี้ครอบครองที่นั่งเกือบจะครึ่งคัน แต่คนที่เสียสละที่นั้นกลับเป็นผู้หญิงแต่งตัวเชยๆตัวดำๆคนหนึ่ง แต่ผมว่าตอนนี้เธอสวยที่สุดในรถเลยซ้ำยังสวยออกมาจากข้างในด้วย อะโห....นางงามรถเมล์ของผม
ผมจูงคุณลุงลงที่ป้ายหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ผมจะว่าจะเข้าไปส่งคุณลุงแต่คุณลุงก็ไม่ยอมดึงดันที่จะเข้าไปเอง คุณลุงบอกว่าคุณลุงเคยมาแล้วสามารถไปเองได้ถูกให้ผมส่งคุณลุงแค่ข้างหน้าก็พอ แม้ว่าผมจะพูดยังไงคุณลุงก็ไม่ยอม ผมมองภาพคุณลุงถือไม้เท้าขาว (สัพท์เรียกไม้เท้าของคนตาบอด)ที่เดินหายลับมุมตึกไปทั้งๆที่ยังหิ้วถุงพะรุงพะรังอย่างนั้น ข้าวของพวกนั้นคุณลุงบอกว่าจะเอาไปเยี่ยมน้องสาวของคุณลุงที่เป็นมะเร็งตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ตอนนี้อยู่ไอซียูยังไม่รู้เลยว่าจะกินได้รึเปล่า ผมภาวณาให้ 2 พี่น้องนี้ได้พบได้พูดคุยกันแม้ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี
ผมเดินเหงื่อท่วมตัวออกไปรอรถที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงพยาบาลใหม่อีกรอบ (มันแน่นซะยิ่งกว่าเดิม) เมื่อผมไปถึงห้องเรียนอาจารย์ก็สอนไปนานแล้วผมโดนตะคอกถามมาว่าทำไมถึงมาสาย
“มัวแต่แต่งตัวเป็นจิ๊กโก๋ฮ่องกงรึไง ถึงได้เสด็จมาซะป่านนี้” ยังไม่วายที่จะกัดผม
“ผมช่วยส่งคนตาบอดไปโรงพยาบาลมาครับ” ผมตอบอย่างหนักแน่นและภาคภูมิใจ เพื่อนในห้องส่งเสียงโห่กันออกมาดังลั่นทุ่ง
“โห.......พระเอกๆๆๆ ตบมือให้พระเอกหน่อยเร๊ว หล่อย่างเดียวไม่ว่า หน้าตาดีมีน้ำใจด้วยเว๊ย”
ส่วนอาจารย์ก็มองมาที่ผมเบ้ปากใส่พร้อมกับส่ายหน้าเหมือนกับว่าผมพึ่งจะโกหกคำโตออกไป ผมหันหน้าไปโค้งให้เพื่อนรับเสียงโห่ก่อนที่จะเดินไปหาที่นั่ง
“วันนี้ผมเป็นจิ๊กโก๋ทำดีมาครับ” ผมตะโกนเสียงดังอยู่ในใจแต่มีผมคนเดียวเท่านั้นนะที่ได้ยิน



Create Date : 15 มิถุนายน 2550
Last Update : 15 มิถุนายน 2550 2:40:39 น. 0 comments
Counter : 425 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมวยเคี้ยง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ตลอดค่ะ
สวยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เสมอ
Friends' blogs
[Add หมวยเคี้ยง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.